ผู้เขียน หัวข้อ: บรรดาฮิกมะฮ์และปรัชญาต่าง ๆ แห่งบทบัญญัติอิสลาม  (อ่าน 38564 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ - ครูจริงใจ-

  • อยากเป็นคนดีที่อัลลอฮฺรัก
  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 817
  • เพศ: หญิง
  • ทุกวินาทีของเราไม่เคยรอดพ้นจากบันทึกของรอกิบ-อาติด
  • Respect: +96
    • ดูรายละเอียด
ฮิกมะฮในการบัญญัติอากีเกาะห์


ในการบัญญัติอะกีเกาะห์นั้น มีเคล็ดลับ และผลดีมากมาย สรุปได้ดังต่อไปนี้ :

1.เป็นการแสดงออกซึ่งความยินดีที่ได้รับความเมตตาจากอัลลอฮฺ ตาอาลา ในแง่ที่ให้การคลอดเป็นไปอย่างง่ายดาย  หรือในแง่ที่พ่อแม่ได้ลูกอันเป็นที่รัก ที่ควรแก่การขอบคุณผู้ให้
อัลลอฮฺ ตาอาลา ตรัสว่า  ;
 
“  ถ้าหากพวกท่านขอบคุณ  พระองค์จะทำให้มันเป็นที่พอใจแก่พวกท่าน .”  ( อัซซุมัร : 7 )

“  สาบานว่า ถ้าหากพวกท่านขอบคุณ   เราจะต้องเพิ่มพูนให้แก่พวกท่านอย่างแน่นอน .” ( อิบรอฮีม : 7 )

“  ทรัพย์และลูกหลาน เป็นเครื่องประดับแห่งดุนยา  .”   (  อัลกะห์ฟิ  :  46 )

“ การรักที่จะสนองความใคร่ จากผู้หญิงและลูกหลาน  จะทำให้มนุษย์เห็นความดีงาม ”( อาลิอิมรอน : 14)


2.ควรแพร่ข่าวการได้บุตร  เพื่อเป็นการประกาศว่าเป็นบุตรที่เกิดขึ้นอย่างถูกต้องตามบัญญัติศาสนา เพื่อป้องกันการซุบซิบนินทา ดังนั้นอากีเกาะห์จึงเป็นวิธีการเปิดเผยที่ดีที่สุด

3.ส่งเสริมให้เกิดความใจบุญ และโอบอ้อมอารีย์ และต่อต้านความตระหนี่เหนียวแน่น
อัลลอฮ์ ตาอาลา ตรัสว่า ;
   
“ มนุษย์นั้นมักมีนิสัยตระหนี่เหนียวแน่น .” ( อันนิซาอฺ : 128 )


“ ผู้ใดที่ถูกคุ้มครองให้พ้นจากความตระหนี่เหนียวแน่น พวกเขาเป็นพวกที่ประสบชัยชนะ .” ( อัลฮัชร์ : 9 )


4. ทำให้คนในครอบครัว ญาติมิตร และคนยากไร้เกิดความปิติยินดี โดยการแจกจ่ายอาหารพบปะกันอันเป็นเหตุให้เกิดความรัก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.พ. 25, 2008, 08:32 PM โดย al-azhary »

ท่าน ฮะซัน อัลบัศรีย์ (ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ) กล่าวว่า :
 
วัลลอฮฺ คนที่เป็นมุอฺมินจริงๆนั้น ท่านจะเห็นว่าเขาจะไม่ตำหนิใครเลยนอกจากตัวเองไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด
จะคิดว่าตนคือผู้บกพร่องเสมอจะเสียใจ และโทษตนเอง ...แต่ คน ฟาญิร (ไม่ดี) จะกระทำโดยไม่สนใจสิ่งใดและไม่เคยโทษตนเอง..

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: ฮิกมะฮ์และปรัชญาแห่งบทบัญญัติอิสลาม
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: ก.พ. 25, 2008, 09:36 PM »
0
ฮิกมะฮ์การบัญญัติละหมาดญุมอะฮ์


ฮิกมะฮ์ในการบัญญัติละหมาดญุมอะฮ์นั้น  มีเคล็ดลับและผลประโยชน์ต่าง ๆ มากมาย  ซึ่งไม่อาจนำมากล่าวไว้ในที่นี้ได้ครบถ้วน  ส่วนหนึ่งก็คือ  การที่พี่น้องมุสลิมทุกระดับชั้นในเมืองได้มาพบปะกันในสภานที่แห่งเดียวกัน  คือ มัสยิดที่ทำญุมะห์สัปดาห์ละหนึ่งครั้ง  พวกเขาจะได้รับคำแนะนำและคำตักเตือนให้มีความสมัครสมานสามัคคีร่วมมือกัน  เช่นเดียวกับความสนิทสนมรักใคร่ก็จะเพิ่มพูนขึ้น  จะทำให้พวกเขาได้เอาใจใส่และตื่นตัวกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละรอบสัปดาห์  ซึ่งผู้นำของพวกเขาจะนำมาถ่ายทอดขณะแสดงธรรมคุตบะห์  ญุมอะห์เป็นการประชุมประจำสัปดาห์ที่มุสลิมจะมาร่วมชุมนุมกันอยู่ข้างหลังผู้นำของพวกเขา  ด้วยเหตุนี้เอง  ผู้บัญญัติศาสนาจึงส่งเสริมให้มุสลิมมาญุมอะฮ์ และกำชับไม่ให้ละทิ้งและเห็นญุมอะฮ์เป็นสิ่งที่ไม่สำคัญ   ท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าว "ผู้ใดทิ้งสามละหมาดญุมอะฮ์อย่างไม่ให้ความสำคัญ  อัลเลาะฮ์จะปิดผนึกเหนือหัวใจของเขา" (อัลฟิกห์ 1/182)
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ฺื
ฮิกมะฮ์ผู้ทำการตอวาฟหันข้างซ้ายไปยังกะบะฮ์


บรรดาผู้ทำฮัจญ์ที่ทำการตอวาฟรอบบัยตุลลอฮ์นั้น  พวกเขาจะหันข้างซ้ายเข้าหาบัยตุลลอฮ์   ซึ่งหนึ่งในฮิกมะฮ์นั้น  ก็คือ  หัวใจของคนเราอยู่ข้างซ้าย  การที่ผู้ทำฮัจญ์หันข้างซ้ายเข้าหาบัยตุลลอฮ์แล้วทำการเวียนรอบนั้น  เพื่อให้บรรดาหัวใจของพวกเขาผูกสัมพันธ์เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ฮิกมะฮ์ที่ท่านนบีเป็นอิมามแต่ไม่ทำการอะซาน


ฮิกมะฮ์ดังกล่าวเพราะว่า  หากท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้ทำการอะซาน  แน่นอนว่าผู้ที่ไม่ทำการตอบรับอะซานของท่านนบีก็จะกลายเป็นผู้ปฏิเสธ(กุฟุร)  และหากท่านนบีทำการอะซานและกล่าวว่า "อัชฮะดุอันนะมุฮัมมะดัรร่อซูลุลลอฮ์" (ขอปฏิญาณว่าแท้จริงนบีมุฮัมมัดเป็นศาสนทูตของอัลเลาะฮ์)  ก็จะทำให้คิดไปว่ายังมีนบีคนอื่นอีกคนหนึ่ง  หรือเพราะว่าการอะซานนั้นมีซอฮาบะฮ์ท่านอื่นได้ฝันเห็น(เกี่ยวกับการอะซาน)  ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  จึงทำการมอบหมายให้ผู้อื่นทำการอะซาน   
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
อะไรคือฮิกมะฮ์ที่สตรีไม่ปิดหน้าในละหมาด


ฮิกมะฮ์ดังกล่าว  ก็เพื่อให้ส่วนใบหน้าได้สัมผัสบนพื้นและทำการสุหยูด  เพราะการสุหยูดนั้นต้องมีความนอบน้อม  ส่วนอวัยวะทั้งชายและหญิงที่มีเกียรติสุดคือส่วนของใบหน้า  ดังนั้นเมื่อมันได้วางบนพื้น  ย่อมชี้ถึงความนอบน้อม  ฉะนั้นการวางหน้าผากบนพื้นขณะสุหยูดย่อมเป็นอิบาดะฮ์ที่ประเสริฐยิ่ง
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: ฮิกมะฮ์และปรัชญาแห่งบทบัญญัติอิสลาม
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: ก.พ. 26, 2008, 01:24 PM »
0
ฮิกมะฮ์การห้ามถอนขนที่ใบหน้า


1400 ปีมาแล้ว  ที่พวกเขาเพิ่งตรวจพบถึงฮิกมะฮ์การห้ามถอนขนที่ใบหน้า  จากการทดลองพบว่า เส้นขนคิ้วทุก ๆ เส้นนั้นจะเชื่อต่อกับเซลล์ที่มาจากส่วนของศีรษะ  การถอนขนหรือถอนขนบนใบหน้านั้น  จะนำไปพาไปสู่การถอนเซลล์ออกไปจากร่างกาย
ส่วนอีกฮิกมะฮ์หนึ่งก็คือ  เป็นการเปลี่ยนแปลงการสรรสร้างของอัลเลาะฮ์ตะอาลา 

และสตรีผู้ถอนขนที่ใบหน้าหรือขอให้ทำการถอนขนนั้นจะถูกทำให้ห่างไกลจากความเมตตาของอัลเลาะฮ์ตะอาลา  และภายใต้ขนคิ้วนั้นจะไม่เซลล์ที่อาจจะก่อมะเร็ง   ทุกครั้งที่ทำการถอนขนคิ้ว  ก็จะนำไปสู่การกระตุ้นเซลล์ดังกล่าว  วัลลอฮุอะลัม
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ - ครูจริงใจ-

  • อยากเป็นคนดีที่อัลลอฮฺรัก
  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 817
  • เพศ: หญิง
  • ทุกวินาทีของเราไม่เคยรอดพ้นจากบันทึกของรอกิบ-อาติด
  • Respect: +96
    • ดูรายละเอียด
^
^
อัลฮัมดูลิลละห์

ท่าน ฮะซัน อัลบัศรีย์ (ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ) กล่าวว่า :
 
วัลลอฮฺ คนที่เป็นมุอฺมินจริงๆนั้น ท่านจะเห็นว่าเขาจะไม่ตำหนิใครเลยนอกจากตัวเองไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด
จะคิดว่าตนคือผู้บกพร่องเสมอจะเสียใจ และโทษตนเอง ...แต่ คน ฟาญิร (ไม่ดี) จะกระทำโดยไม่สนใจสิ่งใดและไม่เคยโทษตนเอง..

ออฟไลน์ - ครูจริงใจ-

  • อยากเป็นคนดีที่อัลลอฮฺรัก
  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 817
  • เพศ: หญิง
  • ทุกวินาทีของเราไม่เคยรอดพ้นจากบันทึกของรอกิบ-อาติด
  • Respect: +96
    • ดูรายละเอียด
เคล็ดลับในการห้ามผู้ชายใช้ผ้าไหม


   สำหรับเรื่องนี้นอกจากเป็นการปฏิบัติตามคำสั่งที่เรียกว่า ตะอับบุด แล้วก็คงได้แก่ การสวมใส่ผ้าไหมนั้นทำให้เกิดการโอ้อวด ทระนงตน เป็นการเลียนแบบผู้หญิงและทำให้ขาดลักษณะความเป็นชายชาตรี เพราะผู้ชายนั้นโดยธรรมชาติจะไม่ชอบการแต่งตัว ประดับประดา และไม่ชอบที่จะแสดงออกถึงความนุ่มนวลอ่อนช้อย มีจริตเหมือนผู้หญิง และย่นย่อ ต่อภารกิจอันยิ่งใหญ่  แต่โดยธรรมชาติผู้ชายนั้นถูกกำเนิดขึ้นมาเพื่อการต่อสู้เอาชนะอุปสรรคต่างๆในการดำเนินชีวิต ซึ่งจำเป็นต้องแสดงออกถึงความเข้มแข็ง และการเป็นนักต่อสู้ และห่างไกลจากความเป็นคนสำอาง สุรุ่ยสุร่ายและจับจรด


ท่าน ฮะซัน อัลบัศรีย์ (ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ) กล่าวว่า :
 
วัลลอฮฺ คนที่เป็นมุอฺมินจริงๆนั้น ท่านจะเห็นว่าเขาจะไม่ตำหนิใครเลยนอกจากตัวเองไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด
จะคิดว่าตนคือผู้บกพร่องเสมอจะเสียใจ และโทษตนเอง ...แต่ คน ฟาญิร (ไม่ดี) จะกระทำโดยไม่สนใจสิ่งใดและไม่เคยโทษตนเอง..

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
อะไรคือฮิกมะฮ์ในการอาบน้ำละหมาด?


"ความสะอาดเป็นสาเหตุสำคัญท่จะทำให้มนุษย์ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บเนื่องจากโรคภัยไข้เจ็บส่วนใหญ่  ที่แพร่กระจายไปในหมู่ผู้คนนั้น  ก็เนื่องจากความสกปรกเป็นต้นเหตุ  ดังนั้นการอาบน้ำละหมาด  ด้วยการล้างหน้า  มือทั้งสองข้าง  จมูก  เท้าทั้งสองข้าง  ทุกวัน ๆ ละหลายครั้ง  ย่อมทำให้ร่างกายปราศจากโรคต่าง ๆ

ขอโทษครับ ผมเป็นคนขี้เกียจเอาน้ำละหมาด เพราะขี้เกียจถอดถุงเท้า+รองเท้า เลยเก็บน้ำละหมาดไว้ตั้งแต่ไปเรียนตอนเช้าถึงเลิกเรียน ระหว่สางนั้นถ้ามีการละหมาดก็ขี้เกียจถอดถุงเท้า ผมจะได้ฮิกมะจากการเอาน้ำละหมาดมั๊ยครับ
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ - ครูจริงใจ-

  • อยากเป็นคนดีที่อัลลอฮฺรัก
  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 817
  • เพศ: หญิง
  • ทุกวินาทีของเราไม่เคยรอดพ้นจากบันทึกของรอกิบ-อาติด
  • Respect: +96
    • ดูรายละเอียด
รอฟังคำตอบเป็นเพื่อน น้องอิลฮาม        loveit:

ท่าน ฮะซัน อัลบัศรีย์ (ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ) กล่าวว่า :
 
วัลลอฮฺ คนที่เป็นมุอฺมินจริงๆนั้น ท่านจะเห็นว่าเขาจะไม่ตำหนิใครเลยนอกจากตัวเองไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด
จะคิดว่าตนคือผู้บกพร่องเสมอจะเสียใจ และโทษตนเอง ...แต่ คน ฟาญิร (ไม่ดี) จะกระทำโดยไม่สนใจสิ่งใดและไม่เคยโทษตนเอง..

ออฟไลน์ - ครูจริงใจ-

  • อยากเป็นคนดีที่อัลลอฮฺรัก
  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 817
  • เพศ: หญิง
  • ทุกวินาทีของเราไม่เคยรอดพ้นจากบันทึกของรอกิบ-อาติด
  • Respect: +96
    • ดูรายละเอียด
ฮิกมะห์ในการห้ามย้อมผมดำ[/b
]



   เคล็ดลับในการห้ามย้อมผมดำนั้นอาจเป็นไปได้ว่า เป็นการบิดเบือนความจริงและหลอกลวง เพราะการย้อมผมดำจะทำให้คนแก่ดูเป็นหนุ่ม คนมีอายุมากดูเป็นคนมีอายุน้อย ในสายตาของคนทั่วๆ ไป  ซึ่งจะทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง
   ส่วนการย้อมผมเป็นสีอื่นจะไม่มีการบิดเบือนความจริง  ( ย้อมด้วยเฮนน่า ) และหลอกลวงได้ถึงขั้นที่ย้อมดำเพราะดูผิดไปจากธรรมชาติมาก
   คงจะกล่าวได้หลังจากนี้ว่า  เรื่องต่างๆ เหล่านี้มีข้อยืนหยัดที่ยืนอยู่บนหลัก ตะอับบุด คือ ปฏิบัติตามคำบัญชาของศาสนาโดยไม่ลังเลสงสัย

วัลลอฮูอะลัม

ท่าน ฮะซัน อัลบัศรีย์ (ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ) กล่าวว่า :
 
วัลลอฮฺ คนที่เป็นมุอฺมินจริงๆนั้น ท่านจะเห็นว่าเขาจะไม่ตำหนิใครเลยนอกจากตัวเองไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด
จะคิดว่าตนคือผู้บกพร่องเสมอจะเสียใจ และโทษตนเอง ...แต่ คน ฟาญิร (ไม่ดี) จะกระทำโดยไม่สนใจสิ่งใดและไม่เคยโทษตนเอง..

ออฟไลน์ - ครูจริงใจ-

  • อยากเป็นคนดีที่อัลลอฮฺรัก
  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 817
  • เพศ: หญิง
  • ทุกวินาทีของเราไม่เคยรอดพ้นจากบันทึกของรอกิบ-อาติด
  • Respect: +96
    • ดูรายละเอียด
ฮิกมะห์ที่ต้องเชือดสัตว์



ดังที่ได้ทราบมาแล้วว่า การเชือดสัตว์เพื่อให้ได้รับประทานได้อย่างถูกต้องตามบัญญัติศาสนานั้น อยู่ในหลักการที่เรียกว่า  ตะอับบุดียะห์   คือ เป็นการปฏิบัติตามที่ศาสนาใช้ แต่ยังมีเคล็ดลับอีกหลายประการที่นอกเหนือไปจากเป็นเพียงการปฏิบัติตามศาสนาใช้เท่านั้น ที่เกี่ยวข้องกับเงื่อนไขของการเชือดดังต่อไปนี้
         1.ศาสนาและลัทธิต่างๆทั้งหมดถือว่า ซากสัตว์ที่ตายเป็นสิ่งต้องห้าม และตัดสินว่าเป็นสิ่งโสโครก และจำเป็น และจำเป็นต้องแยกระหว่างสัตว์ตายที่เป็นน่ายิส เพราะสาเหตุที่มันตายกับสัตว์ที่ตายโดยไม่เป็นน่ายิส ดังนั้นการเชือดตามหลักศาสนาจึงเป็นสาเหตุหลักที่จะแยกระหว่างสัตว์ทั้งสองนั้น
         2.ศาสนาอิสลามได้บัญญัติว่า เลือดเป็นน่ายิส จำเป็นต้องออกห่าง เพราะเป็นสิ่งที่มีอันตราย และการเชือดจะทำให้สัตว์สะอาดจากพิษของเลือด  - สัตว์ที่ตายโดยการรัดคอ เป็นต้นจะทำให้เลือดในตัวสัตว์นั้นเป็นพิษ

วัลลอฮูอะลัม

ท่าน ฮะซัน อัลบัศรีย์ (ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ) กล่าวว่า :
 
วัลลอฮฺ คนที่เป็นมุอฺมินจริงๆนั้น ท่านจะเห็นว่าเขาจะไม่ตำหนิใครเลยนอกจากตัวเองไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด
จะคิดว่าตนคือผู้บกพร่องเสมอจะเสียใจ และโทษตนเอง ...แต่ คน ฟาญิร (ไม่ดี) จะกระทำโดยไม่สนใจสิ่งใดและไม่เคยโทษตนเอง..

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: ฮิกมะฮ์และปรัชญาแห่งบทบัญญัติอิสลาม
« ตอบกลับ #42 เมื่อ: ก.พ. 28, 2008, 08:03 AM »
0
อะไรคือฮิกมะฮ์ที่มารดาชอบอุ้มบุตรด้วยมือซ้าย?


ในขณะที่เด็กทารกกำลังส่งเสียงร้องไห้จอแจอย่างจ้าละหวั่น  เชื่อผมไหมครับว่าพวกเราจะได้เห็นผู้หญิงคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นเสมอๆ  เธอคนนี้มาพร้อมกับวิธีการโอบอุ้มทารกน้อยอย่างทะนุถนอมยากจะหาใครเปรียบได้  และคอยตระกองกอดเจ้าตัวเล็กไว้ที่อ้อมอกจนกระทั่งเสียงนั้นสงบลง  แล้วคุณผู้อ่านเชื่ออีกไหมครับว่าเจ้าตัวเล็กทั้งหลายจะหยุดงอแงทุกครั้งเมื่อได้อยู่ในอ้อมกอดของเธอคนนี้  แน่นอนครับว่าผู้หญิงที่มีความสามารถพิเศษที่ผมพูดถึงอยู่นั้น  คงไม่ใช่ใครอื่นไกลนอกจากผู้เป็น”มารดา”นั่นเอง
แล้วคุณผู้อ่านเคยสังเกตไหมครับว่า  ผู้เป็นมารดาจะอุ้มบุตรของตนให้แนบอยู่บนหน้าอกซีกซ้าย คุณเคยสังเกตเห็นฮิกมะฮ์ในสิ่งดังกล่าวหรือไม่ครับ ?

นั่นล่ะครับ.. เพราะว่าแท้จริงแล้ว  มารดาจะอุ้มบุตรของตนโดยวิธีการวางบุตรให้อยู่ใกล้กับหัวใจของนาง  ว่าแต่...คุณผู้อ่านมีความคิดเห็นอย่างไรครับ  เกี่ยวกับความเป็นความจำเป็นในการกระทำสิ่งดังกล่าว ?

ผมจะนำเสนอบรรดาข้อบ่งชี้ดังต่อไปนี้  ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงความเป็นไปได้ที่ว่า “เสียงเต้นของหัวใจมารดา คือเสียงแรกที่ทารกได้ยินก่อนคลอดออกมา”
ตลอดระยะเวลาที่มารดาตั้งครรภ์  ทารกนั้นจะอยู่ในครรภ์มดลูกซึ่งอยู่ใกล้กับการเต้นของหัวใจผู้เป็นมารดา  ดังนั้นน้ำคร่ำที่อยู่รอบๆ ตัวทารกในมดลูกนั้น จะเป็นสิ่งที่ทำให้ทารกมีระบบการเต้นของหัวใจ  จากจุดนี้เองได้ทำให้เราทราบว่าสถานภาพที่ทารกมีชีวิตอยู่ในครรภ์นั้น  เขาจะได้ยินระบบการเต้นของหัวใจผู้เป็นมารดา

ทารกจะได้รับสารอาหารมาหล่อเลี้ยง  โดยไม่รู้สึกหิวและกระหาย  ไม่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและสภาพอากาศหนาวร้อนภายนอกครรภ์  หลังจากทารกถึงคราวคลอดนั้น  ทารกจะมีความรู้สึกหนาวและร้อนเกิดขึ้น  มีความรู้สึกหิวกระหาย  และสำคัญที่สุดคือทารกจะขาดจากการได้ยินเสียงระบบการเต้นของหัวใจมารดาเช่นในระยะเวลาที่เขาเคยอยู่อย่างสุขสบายในครรภ์

ตามหลักการดังกล่าวนี้  ความเกี่ยวพันจากการที่ทารกเคยได้ยินเสียงจังหวะการเต้นของหัวใจผู้เป็นมารดา  พร้อมกับความรู้สึกสบายก่อนหน้านั้น  ทำให้ทารกรู้สึกคิดถึงคะนึงหาเสียงเต้นของหัวใจมารดาในช่วงระยะเวลาดังกล่าว

เช่นนี้ผู้เป็นมารดาสมควรตระหนักถึงฮิกมะฮ์ข้างต้น  ในขณะที่ได้โอบอุ้ม  ตระกองกอดบุตรของตน  และนี่แหละคือความน่าอัศจรรย์ใจอย่างแท้จริง  ความผูกพันจากจังหวะการเต้นของหัวใจ  จากแม่สู่ลูก..
มาถึงตรงนี้  คุณผู้อ่านรู้ไหมครับว่าผมกำลังคิดอะไร  ? ผมเฉลยให้ก็ได้ครับ  เพราะว่าคุณคงเดากันไม่ถูกหรอก  ตอนนี้ผมกำลังคิดถึงผู้หญิงคนหนึ่งอยู่  ผู้หญิงคนที่ผมรักมากๆในชีวิต  นั่นแน่ะ...อย่าตกใจไปนะครับว่าสาวที่ไหนกัน  ก็ ........  “แม่”  ของผม
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ขอโทษครับ ผมเป็นคนขี้เกียจเอาน้ำละหมาด เพราะขี้เกียจถอดถุงเท้า+รองเท้า เลยเก็บน้ำละหมาดไว้ตั้งแต่ไปเรียนตอนเช้าถึงเลิกเรียน ระหว่สางนั้นถ้ามีการละหมาดก็ขี้เกียจถอดถุงเท้า ผมจะได้ฮิกมะจากการเอาน้ำละหมาดมั๊ยครับ

ฮิกมะฮ์อาบน้ำละหมาด  น้องจะไำด้ัรับขนาดที่น้องได้ทำการอาบน้ำละหมาดครับ  ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้กล่าวกับท่านหญิงอาอิชะฮ์  ร่อฏิยัลลอฮุอันฮา  ว่า  "ผลการตอบแทนของเธอ  อยู่บนขนาดความบากบั่นของเธอ"
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: ฮิกมะฮ์และปรัชญาแห่งบทบัญญัติอิสลาม
« ตอบกลับ #44 เมื่อ: ก.พ. 29, 2008, 08:22 AM »
0
ฮิกมะฮ์การนำเสนออะมัลของมุมินในวันจันทร์และวันพฤหัสบดี


ซุนนะฮ์ให้มุมินทำการถือศีลอดในวันจันทร์และวันพฤหัสบดี  และจะมีการนำเสนออะมัลของเขาต่ออัลเลาะฮ์  จุดมุ่งหมาย  คือ  การนำเสนออะมัลต่ออัลเลาะฮ์ ตาอาลา  โดยมะลาอิกะฮ์จะทำการยกนำเสนอในช่วงกลางคืนหนึ่งครั้งและช่วงกลางวันหนึ่งครั้ง  (มุฆนีลมั๊วะห์ตาจญ์ 2/195)

บรรดามะลาอิกะฮ์ที่ปฏิบัติหน้าที่ในยามค่ำคืนและยามกลางวันนั้น  จะรวมตัวกันในช่วงละหมาดอัสริ  หลังจากนั้น  บรรดามะลาอิกะฮ์ที่ปฏิบัติหน้าที่ยามกลางวันจะขึ้นไปนำเสนออะมัลของบรรดามุสลิมีน  โดยคงเหลือมะลาอิกะฮ์ที่ปฏิบัติงานยามกลางคืน  เมื่อถือเวลาละหมาดซุบฮิ  พวกเขาก็จะขึ้นไปนำเสนอบรรดาอะมัลโดยคงเหลือมะลาอิกะฮ์ยามกลางวัน  และนี้ก็คือความหมายของฮะดิษนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมที่ว่า "ในหมู่บรรดาผู้ศรัทธานั้น  บรรดามะลาอิกะฮ์ในยามค่ำคืนและกลางวันจะพลัดกันทำการแยกย้าย(เพื่อขึ้นไปนำเสนออะมัล) โดยที่พวกเขาได้ทำการรวมตัวกันในช่วงเวลาละหมาดซุบฮิและละหมาดอัสริ" รายงานโดยบุคอรี   แม้ว่าอัลเลาะฮ์ตาอาลา  ทรงรอบรู้เกี่ยวกับอะมัลของบรรดามัคโลคเป็นอย่างดี  แต่การนำเสนออะมัลของบรรดาผู้ศรัทธานั้น  ก็เพื่อ  ให้เกียรติแก่บรรดาผู้ฏออัตต่ออัลเลาะฮ์นั่นเอง ( ดู หนังสือบุรออัลกะรีม 2/82)
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

 

GoogleTagged