السلام عليكم ورحمة الله وبركاته
เคล็ดลับ ( ฮิกมะฮฺ ) ในการบัญญัติละหมาดญามาอะฮฺ
[/size]
หลักการอิสลามส่งเสริมให้มุสลิมรู้จักกัน เป็นพี่น้องกัน และร่วมมือกันเพื่อส่งเสริมสัจธรรมและขจัดสิ่งโป้ปดมดเท็จ การส่งเสริมให้เกิดภราดรภาพและความร่มมือกันนั้น ไม่มีแหล่งใดที่จะสร้างบรรยากาศได้ดีกว่ามัสยิด ขณะที่มุสลิมพบปะกันที่มัสยิด เมื่อมาร่วมละหมาด ฟัรดูห้าเวลา
ไม่ว่ามีผลประโยชน์ที่ขัดกันอย่างไร และมีความอาฆาตแค้นที่ฝังแน่นในใจอย่างไร การได้มีโอกาสพบปะกันอยู่เสมอในการละหมาดญามาอะฮฺก็จะสามารถทำลายกำแพงแห่งความเหินห่าง และสลายความอาฆาตแค้นให้หมดสิ้นไป ( อินชาอัลลอฮฺ ) ถ้าหากเขาผู้นั้นเป็นผุ้ศรัทธาต่ออัลลอฮฺอย่างแท้จริง และไม่ใช่คนเสแสร้งในสิ่งที่เขาแสดงออกทั้งในการละหมาด ในการอิบาดัต และความพยายามไปมัสยิด
ขอเสริมฮิมะฮ์ ในการมาละหมาดญามาอะฮ์
ทำให้เราตรงต่อเวลาเมื่อมาละหมาดญามาอะฮ์
ทำให้เรามีระเบียบเมื่อเราจัดแถวญามาอะฮ์
ในละหมาดญามาอะฮ์มีความเป็นเผด็จการอยู่คือต้องทำตามอิหม่ามคนเดียว ในขณะเดียวกันก็มีประชาธิปไตย์อยู่เมื่ออิหม่าทำผิดเราสามารถเตือนได้ หรือ เนียตออกจากการตามอิหม่ามได้เช่นกัน
ฮิกมะฮ์ผู้ทำการตอวาฟหันข้างซ้ายไปยังกะบะฮ์
บรรดาผู้ทำฮัจญ์ที่ทำการตอวาฟรอบบัยตุลลอฮ์นั้น พวกเขาจะหันข้างซ้ายเข้าหาบัยตุลลอฮ์ ซึ่งหนึ่งในฮิกมะฮ์นั้น ก็คือ หัวใจของคนเราอยู่ข้างซ้าย การที่ผู้ทำฮัจญ์หันข้างซ้ายเข้าหาบัยตุลลอฮ์แล้วทำการเวียนรอบนั้น เพื่อให้บรรดาหัวใจของพวกเขาผูกสัมพันธ์เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
ขอเสริม
การตอวาฟรอบบัยตุ้ลลอฮ์นั้น เมื่อมองจากภาพมุมบน จะเห็นว่า การตอวาฟนี้เป็นการเดินทวนเข็มนาฬิกา เป็นการสวนกระแสของโลกที่ต้องหมุนตามเข็มนาฬิกา...
ฮิกมะฮ์การบัญญัติละหมาดญุมอะฮ์
ฮิกมะฮ์ในการบัญญัติละหมาดญุมอะฮ์นั้น มีเคล็ดลับและผลประโยชน์ต่าง ๆ มากมาย ซึ่งไม่อาจนำมากล่าวไว้ในที่นี้ได้ครบถ้วน ส่วนหนึ่งก็คือ การที่พี่น้องมุสลิมทุกระดับชั้นในเมืองได้มาพบปะกันในสภานที่แห่งเดียวกัน คือ มัสยิดที่ทำญุมะห์สัปดาห์ละหนึ่งครั้ง พวกเขาจะได้รับคำแนะนำและคำตักเตือนให้มีความสมัครสมานสามัคคีร่วมมือกัน เช่นเดียวกับความสนิทสนมรักใคร่ก็จะเพิ่มพูนขึ้น จะทำให้พวกเขาได้เอาใจใส่และตื่นตัวกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละรอบสัปดาห์ ซึ่งผู้นำของพวกเขาจะนำมาถ่ายทอดขณะแสดงธรรมคุตบะห์ ญุมอะห์เป็นการประชุมประจำสัปดาห์ที่มุสลิมจะมาร่วมชุมนุมกันอยู่ข้างหลังผู้นำของพวกเขา ด้วยเหตุนี้เอง ผู้บัญญัติศาสนาจึงส่งเสริมให้มุสลิมมาญุมอะฮ์ และกำชับไม่ให้ละทิ้งและเห็นญุมอะฮ์เป็นสิ่งที่ไม่สำคัญ ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าว "ผู้ใดทิ้งสามละหมาดญุมอะฮ์อย่างไม่ให้ความสำคัญ อัลเลาะฮ์จะปิดผนึกเหนือหัวใจของเขา" (อัลฟิกห์ 1/182)
ขอเสริมฮิกมะฮ์ของการร่วมละหมาดญุมอะฮ์ อีกประการหนึ่งก็คือ
ทำให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพราะบะแล หรือสถานที่ละหมาดห้าเวลานั้น มีมากกว่าหนึ่งแห่งได้ แต่ละหมาดวันศุกร์ต้องมารวมกันที่มัสยิดใหญ่ในชุมชน
และไม่ให้มีมัสยิดทำการละหมาดวันศุกร์ในชุมชนเดียวกันมากกว่าหนึ่งแห่งหากไม่มีความจำเป็นเรื่องสถานที่หรือความจำเป็นอื่น
เพราะหากสมมุติว่ามีมัสยิดสองแห่งข้อมูลข่าวสารที่ได้รับอาจไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งอาจนำไปสู่ความขัดแย้งได้ เมื่อขัดแย้งกันก็อาจแตกแยกกัน เมื่อแตกแยกกันก็ทำให้สังมุสลิมอ่อนแอลง เมื่ออ่อนแอลงก็ย่อมนำไปสู่ความพ่ายแพ้...
มัสยิดในกรุงเทพปัจจุบันนี้ ใกล้กันขนาดอยู่ตรงข้างฝั่งถนนกันก็มีแล้ว...
และหากเราจะเลือกระหว่างสองมัสยิด สลัฟบอกว่าให้เลือมัสยิดที่เก่าแก่ และมีคนมาละหมาดมากกว่า...
ผิดถูกอะไรก็โปรดชี้แนะด้วย...กระทู้นี้ดีจริงๆ

อัลฮัมดุลิ้ลลาฮ์