بسم الله الرحمن الرحيم
الحمد لله رب العالمين و الصلاة والسلام على سيدنا محمد وعلي اله وصحبه أجمعين
ท่านอิบนุกุดามะฮ์กล่าวอีกว่า
وروى عمرو بن شعيب , عن أبيه , عن جده , { أن رسول الله صلى الله عليه وسلم قال لعمرو بن العاص : لو كان أبوك مسلما , فأعتقتم عنه , أو تصدقتم عنه , أو حججتم عنه , بلغه ذلك } . وهذا عام في حج التطوع وغيره , ولأنه عمل بر وطاعة , فوصل نفعه وثوابه , كالصدقة والصيام والحج الواجب
"รายงาน โดยอัมร์ บิน ชุอัยบ์ จากบิดาของเขา จากปู่ของเขา ว่า แท้จริงท่านรอซูลุลเลาะฮ์(ซ.ล.) ได้กล่าวแก่ อัมร์ บิน อัลอาซ ว่า หากบิดาของท่านเป็นมุสลิม แล้วพวกท่านทำการปล่อยทาสแทนให้กับเขา หรือทำทานซอดาเกาะฮ์ให้แก่เขา หรือทำฮัจญฺแทนจากเขา แน่นอนว่า ดังกล่าวย่อมไปถึงเขา" หลักฐานนี้ ย่อมครอบคลุมถึงเรื่องทำฮัจญฺสุนัตและอื่น ๆ และเพราะว่า มันเป็นการปฏิบัติในเรื่องความดีงาม และการภักดี ดังนั้น ผลบุญและผลประโยชน์ย่อมไปถึงมัยยิด เช่นการทำทาน การถือศีลอด การทำฮัจญฺวายิบ" ดู หนังสือ มุฆนีย์ เล่ม3 หน้า372
จากฮะดิษของท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม นี้ ท่านได้ใช้ให้ อัมร์ บิน อัลอาซ ทำการปล่อยทาส การทำซอดาเกาะห์บริจาคทาน ทำฮัจญ์ให้แก่บิดาของเขาที่เสียชีวิตได้ ดังนั้น ท่านอัมร์ บิน อาซ จึงอยู่ในฐานะทายาทของผู้ตาย เพราะฉะนั้นทายาทจึงสามารถ ทำทานซอดาเกาะฮ์เพื่อเป็นผลบุญให้แก่บิดาและมารดาหลังเสียชีวิตไปแล้วได้ด้วยคำสั่งใช้และการยอมรับจากท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
ท่านอิบนุก๊อยยิม กล่าวว่า
وفي صحيح مسلم عن أبى هريرة رضى الله عنه أن رجلا قال للنبي ان أبى مات وترك مالا ولم يوص فهل يكفى عنه أن أتصدق عنه قال نعم
"ในซอฮิห์มุสลิม ซึ่งรายงานจากท่านอบูฮุร๊อยเราะฮ์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ ว่า มีชายคนหนึ่งได้กล่าวแก่ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมว่า แท้จริง บิดาของฉันได้เสียชีวิต โดยทิ้งมรดกทรัพย์ไว้โดยที่เขามิได้ทำการสั่งเสีย ดังนั้น ถือว่าเพียงพอหรือไม่กับการที่ฉันจะทำการซอดาเกาะฮ์แทนให้กับบิดา ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ตอบว่า ได้ซิ" หนังสือ อัรรั๊วะห์ 1/120
จากฮะดิษนี้ ชี้ให้ทราบว่า ทายาทผู้เป็นลูก อนุญาตให้เอามรดกทรัพย์ที่ผู้เป็นบิดาทิ้งไว้ให้ ทำการซอดาเกาะฮ์เป็นทานให้แก่ผู้เป็นบิดาได้ ด้วยการยอมรับจากท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
ท่านอิบนุตัยมียะฮ์กล่าวอีกว่า
وأما الأكل من الطعام ، فان كان قد صنعه الوارث من ماله لم يحرم الأكل منه. وإن كان صنع من تركة الميت وعليه ديون لم توف وله ورثة صغار فى ذلك من حقوقهم لم يؤكل منه
“ สำหรับการรับประทานอาหารนั้น หากว่าทายาทได้กระทำ(ปรุง)มันขึ้นมาจากทรัพย์สินของพวกเขา ก็ไม่เป็นสิ่งต้องห้ามที่จะรับประทานจากมันและหาก(ทำทาน)สิ่งที่ถูกทำขึ้น จากมรดกของผู้ตาย โดยที่มัยยิดเองยังมีหนี้สินอยู่ที่ยังไม่ได้ชดใช้และผู้ตายก็มีทายาทที่เป็นเด็ก ซึ่งในสิ่งดังกล่าวเป็นสิทธิของพวกเขา ก็ถือว่ารับประทานไม่ได้“ ริซาละฮ์ อิฮฺดาอ์ อัษษะวาบ ลิลนะบีย์(ซ.ล.) และมะอาฮา มะซาอิล ฟีอิหฺดาอ์ อัลกุรุบาต ลิลอัมวาต ของท่านอิบนุตัยมียะฮ์ หน้า143 ตีพิมพ์ที่ อัฏวาอ์ อัสสะลัฟ
والله أعلى وأعلم