การเยี่ยมเยียนซึ่งกันและกันของบรรดาผู้ล่วงลับในสุสาน
ถาม ถูกต้องหรือไม่ที่ว่าชนผู้ล่วงลับจะตระเวณเยี่ยมเยียนซึ่งกันและกันในสุสาน
ตอบ ได้มีพระวจนะจากท่านศาสดามูฮัมหมัด (ศ็อลฯ) รายงานมาใน "ซอเฮี๊ยะ" ของท่านอีหม่ามมุสลิม
إذا كفن أحدكم أخاه فليحسن كفنه
ความว่า "เมื่อบุคคลหนึ่ง บุคคลใดในหมู่พวกท่านทำการห่อศพพี่น้องของเขา จงทำให้สวยงามแก่ผ้าห่อศพของเขา"
นักวิชาการบางท่านกล่าวว่า เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะบรรดาผู้ล่วงลับจะเยี่ยมเยียนซึ่งกันและกัน และต่างประกวด ประชันความสวยงามของผ้าห่อหุ้มศพ ดังเช่นที่มีฮาดีษหลายบทได้ระบุไว้ อาทิเช่น ฮาดีษที่ท่านอีหม่ามติรมีซีย์ และท่านอีหม่ามอิบนิมายะห์ และท่านอีหม่ามบัยฮากีย์ รายงานมาว่า
(( إذا ولى أحدكم فليحسن كفنه ، فإنهم يتزاورون في قبورهم ))
ความว่า "เมื่อบุคคลหนึ่งบุคคลใดในหมู่พวกท่านถึงแก่อสัญกรรม จงห่อหุ้มศพอย่างสวยงามมิดชิด เพราะว่าพวกเขาเหล่านั้นจะเยี่ยมเยียนซึ่งกันและกันในสุสานของพวกเขา"
ท่านอีหม่ามอิบนุตัยมียะห์ได้กล่าวในคำชี้ขาดปัญหาศาสนา (ฟาตาวา) ว่าชนผู้ล่วงลับจะออกเยี่ยมเยียนซึ่งกันและกันไม่ว่าถิ่นฐานบ้านเกิดในภพนี้ (โลกดุนยานี้) จะอยู่ใกล้กัน หรือไกลกันก็ตาม บรรดานักนิติศาสตร์อิสลามกล่าวว่า การห่อหุ้มศพให้สวยงามก็ด้วยเหตุผลตรงนี้นี่เอง ท่านอีหม่ามซายูตีย์ ได้เขียนหนังสือเล่มหนึ่งในทำนองดังกล่าวโดยให้ชื่อว่า "บทอรรถาธิบายเกี่ยวกับดวงวิญญาณ" หรือ "ชัรฮุ อัซซุดุร"
ท่านอีหม่ามอิบนุกอยยิม ได้กล่าวไว้ในหนังสือเกี่ยวกับดวงวิญญาณหรือ "กินาบุรรูฮฺ" ว่า "แท้จริงคนเป็นจะเห็นคนตายได้ในขณะที่ฝัน เขาก็จะขอให้คนตายบอกสิ่งบางอย่างกับเขา คนตายก็จะเปิดเผยในสิ่งที่คนเป็นไม่เคยรับรู้มาก่อนเลย ภายหลังจากนั้นคำบอกเล่าของคนตายก็เกิดขึ้นเหมือนกับที่เขาเคยบอกทั้งในอดีตกาลและอนาคตกาล"
เรื่องดังกล่าวถือเป็นสิ่งเร้นลับ ดังนั้นการปักใจเชื่ออย่างแน่นอนจะต้องอาศัยหลักฐานที่เชื่อถือได้ พร้อมกันนี้เรื่องดังกล่าวถือเป็นสิ่งที่อาจเป็นไปได้ทั้งสองอย่าง (คือการเป็นไปได้ หรือเป็นไปไม่ได้) จึงอนุญาตให้เชื่อถือตามนั้นได้ ในขณะเดียวกัน การปฏิเสธก็ไม่เป็นเหตุนำพาไปสู่การเป็นกูฟุร
โดย...ท่าน เชคอะฏียะห์ ซ๊อกร์
การเยี่ยมเยียนซึ่งกันและกันของบรรดาผู้ล่วงลับในสุสาน