ผู้เขียน หัวข้อ: ประวัติย่อของท่านบะดีอุซซะมาน ซะอีด อัลนุรซีย์  (อ่าน 6437 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ItQan

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 177
  • Reflection
  • Respect: +50
    • ดูรายละเอียด

 salam

ชีวประวัติของท่านอิหม่ามซะอีด อัลนูรซีย์

บทนำ
บะดีอุซซะมาน ซะอีด อัลนูรซีย์ มีชีวิตอยู่ในยุคของสุลตาน อับดุลฮะมี้ดที่สอง ช่วงปลายของอณาจักรอุษมานียะฮฺที่กำลังจะล่มสลาย และท่านก็มีชีวิตอยู่ในช่วงที่ศัตรูแห่งอิสลามกำลังรวมหัวและร่วมมือกันจัดการกับอณาจักรอุษมานียะฮฺ หลังจากที่สุลตานได้สละอำนาจ พวกอิตติฮาดียยูน (รัฐบาลกลาง หลังจากล้มเลิกการปกครองแบบรัฐอิสลาม) ก็ได้มาพร้อมกับสุลตาน มุหัมหมัด รอชาด และได้นำอณาจักรอุษมานียะฮฺเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ในท้ายที่สุดแล้ว ก็ได้นำพาไปสู่การฉีกอณาจักรอิสลามออกเป็นชิ้นๆ ผู้นำของพวก อิตติฮาดิยยูน  ก็หลบหนีออกนอกประเทศทิ้งให้อุมมะฮฺทนทุกข์ทรมานกับผลแห่งสงครามอันทำลายล้างซึ่งทำให้รัฐตกอยู่ภายใต้การรุกรานของคนต่างชาติ และสุลตานมุฮัมหมัด วะฮีด อัลดีน ก็ได้มาในขณะที่อณาจักรแพ้สงครามและอังกฤษ กรีก อิตาลี อาร์มีเนีย ก็ยึดครองแว่นแคว้นต่างๆของตุรกี แม้กระทั่งอิสตันบูลเองก็อยู่ในการครอบครองของอังกฤษ หรือก็คือสุลตานนั้นในความเป็นจริงแล้วเป็นเชลยในเงื้อมมือของอังกฤษ

ประชาชนชาวตุรกีนั้นไม่ได้ครอบครองสิ่งใดเลยนอกจากความศรัทธาที่หยั่งรากลึกท้าทายพายุที่โหมกระหน่ำ และด้วยอีหม่านนั่นเองที่พวกเขาได้รับการปกป้องจากแผนการของศัตรูและสงครามของพวกล่าอณานิคม และพวกเขาได้ผนึกกำลังเท่าที่ยังคงเหลืออยู่ของพวกเขา และเตรียมการที่จะทำสงครามเพื่อการปลดปล่อย ที่เรียกว่า "อัลฮัรบฺ อัลอิสติกฺลาล"

แต่ทว่า.. ยังไม่ทันที่จะได้ดำเนินการใดๆ การรุกรานต่ออิสลามก็ได้เริ่มขึ้น มีความพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะถอดถอนอิหม่านอันหนักแน่นมั่นคงอยู่ในหัวใจของประชาชาติอิสลามออกไป

ณ เวลานี้เอง อันเป็นทางโค้งที่อันตรายในชีวิตของอุมมะฮฺ และเป็นช่วงเวลาที่น่าหวาดกลัวและเขย่าขวัญของชีวิตแห่งสังคมทั้งหมด บะดีอุซซะมานก็ได้ปรากฏตัวขึ้นเพื่อแบกรับความทุกข์ระทมของประชาชาติ และเพื่อนำพาสาส์น "การปกป้องอิหม่านให้ปลอดภัย" (إنقاذ الإيمان) ซึ่งท่านได้ทำการนะซัรด้วยตัวของท่านเอง ในขณะที่ชีวิตของท่านห่างไกลจากสนามการเมือง และท่านได้เริ่มเขียน "สาส์นแห่งรัศมี" (رسائل النور) และได้เผยแพร่สู่ชนชั้นต่างๆ ของอุมมะฮฺภายใต้สถานการณ์ที่ละเอียดอ่อนและยากลำบากอย่างสุดขีด เพื่อเตรียมสังคมแห่งอิสลามที่สมบูรณ์แบบอันเป็นแหล่งกำเนิดของชีวิตและความศรัทธา
أللهم اخرجنا من ظلمات الوهم وأكرمنا بنور الفهم ... آمين يارب العالمين
โอ้อัลเลาะฮ์ ขอพระองค์ทรงให้เราออกห่างจากความมืดมนแห่งความคิดคลุมเครือ  และให้เกียรติเราได้วยรัศมีแห่งความเข้าใจ... อามีน ยาร็อบ

ออฟไลน์ ItQan

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 177
  • Reflection
  • Respect: +50
    • ดูรายละเอียด
การถือกำเนิดของท่าน
ในตอนต้นของฮิจเราะฮฺศตวรรษที่ผ่านมา 1293 (ค.ศ. 1876) ณ ตำบล นูรส์ ตั้งอยู่ทางตอนตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศตุรกีในปัจจุบัน ทารกคนหนึ่งได้ถือกำเนิดมาจากพ่อแม่ที่เป็นที่รู้จักในตำบลถึงความเป็นแบบอย่างในการเคร่งครัด ทารกนั้นนามว่า ซะอีด

การศึกษา
ซะอีดยังคงเข้าร่วมกับกลุ่มของนักปราชญ์และมิตรสหายที่มีความรู้ที่มีอยู่ตำบล นูรซ์ ท่านมีความรอบรู้ในทุกสาขาวิชาที่ได้เล่าเรียน จนกระทั่งไม่ว่าสถาบันใดที่ท่านได้เดินทางไป ท่านก็ไม่อาจพบสิ่งที่จะสามารถตอบสนองความกระหายในวิชาความรู้ของท่านได้อีก ดังนั้นการที่ท่านยังคงอยู่ในสถาบันเหล่านั้นก็เป็นไปตามสภาพการณ์เท่านั้น เพราะท่านกระหายที่จะเพิ่มพูนวิชาความรู้ที่เป็น อัลฮักก์ และท่านก็ยังคงย้ายสถาบันแล้วสถาบันเล่า และอาลิมคนแล้วคนเล่า

เมื่อท่านไม่พบว่าสิ่งที่จะให้ประโยชน์กับท่าน ณ ที่บรรดาคณาจารย์ของท่านอีก ท่านก็ได้เริ่มศึกษาด้วยความเพียรพยายามของท่านเอง และท่านก็ได้ดื่มด่ำกับสิ่งที่มีอยู่ในหนังสือแม่บทต่างๆที่มีอยู่มากมายในเวลานั้น ไม่ว่าจะเป็นตัฟซีร หะดีษ นะฮฺว์ อิลมุลกะลาม ฟิกฮฺ และมันติก...  ท่านเป็นผู้ที่มีความสามารถยอดเยี่ยมในการท่องจำหาตัวจับได้ยาก เมื่อสายตาของท่านได้ทอดไปตามวิชาการเหล่านั้นท่านก็ท่องจำมันจนขึ้นใจ จนกระทั่งว่า ท่านท่องจำหนังสือที่เป็นแม่บทต่างๆ เกือบเก้าสิบเล่ม

และด้วยความยอดเยี่ยมในวิชาการอันกว้างขวางซึ่งท่านได้พากเพียรขวนขวายแต่วัยเยาว์ ท่านก็ได้เข้าร่วมการเสวนาทางวิชาการกับบรรดาอุละมาอฮฺ และก็ได้มีมัจลิสมากมายที่ถูกตั้งขึ้นเพื่อให้ท่านได้เสวนากับบรรดาเชคและอุละมาอฺต่างๆ ในย่านนั้น จนกระทั่งชื่อเสียงของท่านเป็นที่เลื่องลือไปทั่ว

และในปี ฮ.ศ. 1314 หรือ ค.ศ. 1897 ท่านได้เดินทางไปยังมือ แวน (Van) ณ ที่นั้น ท่านได้ตั้งใจแน่วแน่ที่จะทำการศึกษาให้ลึกซึ้งทางด้านคณิตศาสตร์ ดาราศาสตร์ เคมี ฟิสิกส์ ธรณีวิทยา ปรัชญา และประวัติศาสตร์ จนกระทั่งท่านเชี่ยวชาญในสาขาวิชาเหล่านั้นถึงระดับที่สามารถแต่งหนังสือได้ ดังนั้น ท่านจึงถูกตั้งฉายาว่า บะดีอุซซะมาน (....) ซึ่งได้รับการยอมรับจากนักวิชาการในอัจฉริยะและความรอบรู้อันมากมายและกว้างขวางของท่าน
أللهم اخرجنا من ظلمات الوهم وأكرمنا بنور الفهم ... آمين يارب العالمين
โอ้อัลเลาะฮ์ ขอพระองค์ทรงให้เราออกห่างจากความมืดมนแห่งความคิดคลุมเครือ  และให้เกียรติเราได้วยรัศมีแห่งความเข้าใจ... อามีน ยาร็อบ

ออฟไลน์ ItQan

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 177
  • Reflection
  • Respect: +50
    • ดูรายละเอียด
ข่าวที่แทงใจท่าน
ในช่วงนี้เองได้มีการตีแผ่ในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นว่า นายกรัฐมนตรีของพวกนักล่าอณานิคมชาวอังกฤษ Gladstone ได้กล่าวอย่างชัดเจนในสภาของอังกฤษในขณะให้โอวาทกับผู้แทนราษฎรว่า "ตราบใดที่อัลกุรอานยังอยู่ในมือของบรรดามุสลิม ดังนั้นเราก็ไม่มีวันที่จะปกครองพวกเขาได้ เพราะฉะนั้นเราก็ไม่มีทางอื่นนอกจากจะต้องทำให้อัลกุรอานหมดไปจากการมีอยู่ หรือไม่ก็ตัดความเชื่อมโยงของบรรดามุสลิมที่มีต่ออัลกุรอาน" ข่าวดังกล่าวนี้ทำให้ร่างของท่านสั่นสะท้านด้วยความโกรธ ท่านขบกรามแน่น และประกาศกับคนรอบข้างท่านว่า "แน่แท้ฉันจะต้องพิสูจน์ให้โลกรู้ว่า อัลกุรอ่านนั้นคือดวงตะวันแห่งนามธรรม (มะอฺนะวียะฮฺ) ที่แสงของมันไม่มีวันดับลง และเป็นไปไม่ได้ที่จะดับรัศมีของมันได้" หลังจากนั้นท่านก็ได้รีบรุดไปยังอิสตันบูลในปี ค.ศ. 1907 และได้เสนอโครงการต่อท่านสุลต่านอับดุลฮะมี้ดที่สอง (ขออัลลอฮฺเมตตาท่าน) เพื่อจัดตั้งมหาวิทยาลัยในทางทิศตะวันออกของอนาโตเลีย โดยท่านให้ชื่อมหาลัยแห่งนั้นว่า "มัดร่อซะฮฺ อัซซะฮฺรออฺ" –ตามชื่อมหาลัย อัซฮัร อันทรงเกียรติ-  เพื่อทำหน้าที่ในการเผยแพร่ความสัจจริงต่างๆ แห่งอิสลาม สอดประสานกันระหว่างการเรียนศาสนาและวิชาการสมัยใหม่ ตามคำที่ท่านได้กล่าวว่า

"ความสว่างไสวแห่งหัวใจ คือวิชาการแห่งศาสนา รัศมีแห่งปัญญาคือวิชาการสมัยใหม่ ดังนั้นด้วยกับการรวมมันทั้งสองเข้าด้วยกันฮะกีกัตก็จะประจักษ์แจ้ง พลังแห่งนักศึกษาก็จะถูกสร้างขึ้นมาและสูงส่งด้วยปีกทั้งสองข้าง  และด้วยการแยกมันทั้งสองออกจากกันการตะอัศศุบก็จะเกิดขึ้นในสิ่งแรก (ความสว่างไสวแห่งหัวใจ) และการล่อลวงและความคลุมเครือก็จะเกิดขึ้นในสิ่งที่สอง (รัศมีแห่งปัญญา)"

ในปี 1911 ท่านได้เดินทางไปยังประเทศชาม และได้พบกับผู้คนและอุละมาอฺที่นั่น และเนื่องจากพวกเขาสัมผัสจากความรู้และบุคลิกภาพของท่าน พวกเขาเหล่านั้นจึงได้สดับฟังคุตบะฮฺของท่าน ณ มัสยิดญามิอฺ อัลอุมะวีย์ อัชชะฮีร โดยมีผู้ละหมาดหลายพันคน เป็นคุตบะฮฺที่ได้มีการบันทึกไว้จนมาถึงพวกเรา และเป็นที่เลื่องลือในผลงานของท่านว่า "คุตบะฮฺชามียะฮฺ" คุตบะฮฺดังกล่าวนั้นได้รวมไว้ซึ่งเนื้อหาทางการเมืองและทางสังคมอย่างสมบูรณ์แบบ
أللهم اخرجنا من ظلمات الوهم وأكرمنا بنور الفهم ... آمين يارب العالمين
โอ้อัลเลาะฮ์ ขอพระองค์ทรงให้เราออกห่างจากความมืดมนแห่งความคิดคลุมเครือ  และให้เกียรติเราได้วยรัศมีแห่งความเข้าใจ... อามีน ยาร็อบ

ออฟไลน์ ItQan

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 177
  • Reflection
  • Respect: +50
    • ดูรายละเอียด
การต่อสู้อย่างกล้าหาญต่อหน้าศาลทหาร
ท่านบะดีอุซซะมาน ซะอีด อัลนุรซีย์เป็นคนหนึ่งจากบรรดาผู้ที่ได้เผชิญหน้ากับที่แขวนคอประหารชีวิต ภายหลังจากเหตุการณ์วันที่ 31 เมษายน ทั้งที่บทบาทของท่านในเหตุการณ์ครั้งนี้ท่านเป็นผู้ที่ต้องการความสงบ เพราะท่านได้ส่งให้ทหารกลับไปยังกองประจำการของพวกเขา และให้ให้เกียรติต่อคำสั่งของผู้บังคับบัญชา .. ท่านได้พูดกับกองทหารพวกนี้หลายครั้งในนัยยะดังกล่าว...

ท่านได้กล่าวในศาลทหารในระหว่างเหตุการณ์วันที่ 31 เมษาว่า

"แท้จริงฉันเป็นผู้เรียกร้องชะรีอะฮฺ ด้วยเหตุนี้ฉันจึงชั่งทุกอย่างด้วยตราชั่งแห่งชะรีอะฮฺ ดังนั้นอิสลามเพียงประการเดียวเท่านั้นที่เป็นแนวทางของฉัน เนื่องจากสิ่งดังกล่าวนี้ฉันจึงต้องทำทุกอย่างให้เที่ยงตรงและพิจารณาสิ่งนั้นๆ ด้วยกรอบแห่งอิสลาม

และแท้จริง ฉันกำลังยืนอยู่ใกล้กับโลกแห่งบัรซัค ที่พวกท่านทั้งหลายได้เรียกมันว่า คุก รอคอย ณ สถานีแห่งการประหาร รถไฟที่จะพาฉันไปสู่อาคิเราะฮฺ ฉันทุกข์ระทมและวิพากษ์สิ่งที่ได้ดำเนินไปในสังคมมนุษย์จากสภาพการณ์ที่อธรรมและการทรยศ ดังนั้นคำพูดของฉันไม่ได้มุ่งหมายไปยังพวกท่านเพียงเท่านั้น แต่ทว่าฉันมุ่งหมายคำพูดของฉันไปยังมนุษย์ทุกคนในยุคนี้ บรรดาฮะกีกัตได้ถูกแผ่ออกมาจากสุสานแห่งหัวใจ ไร้พันธนาการ เพียงแค่ความเร้นลับแห่งอายะฮฺอันมีเกียรติ " يَوْمَ تُبْلَى السَّرَائِرُ" (วันที่สิ่งเร้นลับทั้งหลายจะถูกเปิดเผย" ใครก็ตามที่เป็นผู้แปลกหน้าที่ไม่ได้เป็นมะฮฺรอม ดังนั้นเขาก็จะไม่มองไปยังมัน (ความเร้นลับนั้น)  แท้จริงแล้ว ฉันเตรียมตัวที่จะไปสู่อาคิเราะฮฺด้วยความคะนึงหา และพร้อมแล้วที่จะเดินทางไปสู่มันพร้อมกับบรรดาผู้ที่ถูกแขวนคอทั้งหลาย

รัฐบาลนี้ได้ทะเลาะวิวาทกับสติปัญญาในวันเวลาแห่งการกดขี่ แต่บัดนี้มันได้เป็นศัตรูต่อชีวิตโดยสมบูรณ์ หากรัฐบาลที่มีรูปแบบและตรรกะเช่นนี้ ก็ปล่อยให้คนบ้า ให้ความตายมีชีวิตอยู่ไปเถิด และญะฮันนัมก็จะมีชีวิตอยู่เพื่อเป็นที่พำนักของบรรดาผู้อธรรม

ฉันเคยหวังที่จะตระเตรียมสถานที่ให้กับตัวเองเพื่ออธิบายความคิดของฉัน และนี่แหละศาลทหารแห่งนี้ก็ได้กลายเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดที่ฉันจะเผยแพร่ความคิดของฉัน

ในช่วงวันแรกๆ ของการตรวจสอบ พวกเขาถามฉันเหมือนกับที่พวกเขาได้ถามคนอื่นๆ ว่า

ท่านก็เช่นกันหรือ ที่เรียกร้องชะรีอะฮฺ?

ฉันกล่าวว่า: หากแม้ว่าฉันมีสักหนึ่งพันวิญญาณ แน่นอนฉันก็จักตระเตรียมมันเพื่อพลีในหนทางแห่งฮะกีกัตเพียงประการเดียวจากบรรดาฮะกีกัตต่างๆ ของชะรีอะฮฺ เพราะชะรีอะฮฺคือสาเหตุแห่งความผาสุก และเป็นความยุติธรรมโดยแท้ และเป็นความประเสริฐยิ่ง  ฉันหมายถึงว่า: ชะรีอะฮฺที่เที่ยงแท้ ไม่ใช่อย่างที่พวกดื้อรั้นได้พากันแสวงหา"

และคำตัดสินได้ออกมาให้ความบริสุทธิ์ต่อท่านบะดีอุซซะมาน ซะอีด นุรซีย์ จากศาลทหารอันน่าหวาดกลัวซึ่งหลายสิบคนได้ถูกแขวนคอไป

أللهم اخرجنا من ظلمات الوهم وأكرمنا بنور الفهم ... آمين يارب العالمين
โอ้อัลเลาะฮ์ ขอพระองค์ทรงให้เราออกห่างจากความมืดมนแห่งความคิดคลุมเครือ  และให้เกียรติเราได้วยรัศมีแห่งความเข้าใจ... อามีน ยาร็อบ

ออฟไลน์ ItQan

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 177
  • Reflection
  • Respect: +50
    • ดูรายละเอียด
อัลนุรซีย์ในฐานะผู้นำและมุฟัซซิร
และด้วยการระเบิดขึ้นของสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ก็เป็นธรรมดาอยู่เองที่บะดีอุซซะมาน ซะอีด อัลนุรซีย์จะรีบรุดเป็นแถวหน้าของบรรดามุญาฮิดีน ดังนั้นท่านได้จัดตั้งกลุ่มพลีชีพจากบรรดาลูกศิษย์ของท่าน และท่านได้พลีชีพพร้อมกับพวกเขาในการปกป้องดินแดนในตอนหน้าของกัฟกาส (Kavkaz)  ท่านได้รับบาดเจ็บในการต่อสู้กับรัสเซีย และถูกจับเป็นเชลย ท่านได้ถูกนำตัวในสภาพเสมือนศพไปยัง قوصتورما   จากแคว้นของรัสเซีย โดยท่านใช้เวลาสองปีกับสี่เดือนที่นั่น และระหว่างการปฏิวัติ بلشفية  อัลลอฮฺได้ตระเตรียมการหลบหนีให้กับท่าน ท่านจึงได้กลับไปยังประเทศของตนเอง (เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 เดือน รอมะฎอน ปี 1336 หรือ 8/71918) ท่านได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากทางเคาะลีฟะฮฺ ชัยคุลอิสลาม ผู้นำทั่วไป และนักศึกษาวิชาการชะรีอะฮฺ ท่านได้รับเหรียญเกียรติยศแห่งสงคราม และรัฐอุษมานียะฮฺก็ได้เสนอตำแหน่งหน้าที่ให้ท่านดูแลรับผิดชอบ แต่ท่านปฏิเสธปฏิเสธมันทั้งหมด นอกจากสิ่งที่ผู้นำทหารให้เจาะจงให้ท่านจากการเป็นสมาชิกใน "ดารุลฮิกมะฮฺอัลอิสลามีะฮฺ" ซึ่งที่ตำแหน่งดังกล่าวจะถูกเสนอให้เฉพาะอุละมาอฺที่ยิ่งใหญ่เท่านั้น ดังนั้นในช่วงเวลานี้เองที่หนังสือของท่านที่เป็นภาษาอาหรับได้รับการเผยแพร่ ส่วนหนึ่งจากงานเขียนเหล่านั้นคือ ตัฟซีรที่ทรงคุณค่า "อิชารอต อัลอิอฺญาซ ฟี มะซฺอนิ อัลอียาซ" ซึ่งท่านได้เขียนมันในช่วงสมรภูมิต่างๆ และอีกชิ้นหนึ่งคือ "อัลมัษนะวีย์ อัลอะร่อบีย์ อัลนูรีย์"
أللهم اخرجنا من ظلمات الوهم وأكرمنا بنور الفهم ... آمين يارب العالمين
โอ้อัลเลาะฮ์ ขอพระองค์ทรงให้เราออกห่างจากความมืดมนแห่งความคิดคลุมเครือ  และให้เกียรติเราได้วยรัศมีแห่งความเข้าใจ... อามีน ยาร็อบ

ออฟไลน์ ItQan

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 177
  • Reflection
  • Respect: +50
    • ดูรายละเอียด
การโจมตีจากภายใน
และหลังจากที่ได้มีการบุกรุกเข้ามายังอิสตันบูล โดยในวันที่13/11/1991 เรือรบนาวิกโยธินของฝ่ายพันธมิตรจำนวน 55 ลำ ได้เข้ามาประชิดอัสตัสบูล ทั้งนี้เป็นไปตามสัญญาการพักรบ "مندروس"  ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อ 30/10/1918 "...22 ลำเป็นของอังกฤษ... 12 ลำ จากฝรั่งเศส 17ลำจากอิตาลี 4 ลำจากกรีก...มุ่งหน้ามาที่วังของเคาะลีฟะฮฺซึ่งอยู่ในสภาพเหมือนเชลยในวัง และอังกฤษก็ได้เข้ายึดครองอิสตันบูลในวันที่ 18 เมษา 1920 จากเหตุการณ์นี้เองทำให้ท่านอัลนุรซีย์รู้สึกได้ถึงการโจมตีอันใหญ่หลวงที่กำลังเข้ามาสู่โลกอิสลาม ดังนั้นก็เป็นเรื่องที่แน่นอนว่าท่านได้ยืนอยู่ในแนวหน้าของบรรดาผู้ที่เผชิญหน้าต่อการต่อสู้อย่างห้าวหาญ ท่านได้รีบออกหนังสือเล่มเล็กที่มีชื่อว่า "ขั้นตอนทั้งหก" เพื่อปลุกจิตวิญญาณของผู้คนในมาตุภูมของท่าน และท่านได้วางวิสัยทัศน์ของท่านเพื่อขจัดความต่ำต้อยและปัจจัยต่าๆ ที่ก่อให้เกิดการตกต่ำซึ่งความพ่ายแพ้ได้ทำให้มันเกิดขึ้นกับเดาละฮฺอุษมานียะฮฺและบรรดามุสลิมีนทั้งหมด
أللهم اخرجنا من ظلمات الوهم وأكرمنا بنور الفهم ... آمين يارب العالمين
โอ้อัลเลาะฮ์ ขอพระองค์ทรงให้เราออกห่างจากความมืดมนแห่งความคิดคลุมเครือ  และให้เกียรติเราได้วยรัศมีแห่งความเข้าใจ... อามีน ยาร็อบ

ออฟไลน์ ItQan

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 177
  • Reflection
  • Respect: +50
    • ดูรายละเอียด
ทางโค้งที่อันตราย
ในช่วงนี้เองที่ (คือเริ่มตั้งแต่ปี 1922) กฎหมายต่างๆ ได้ถูกตราขึ้นและมีการลงมติกันเพื่อการถอนรากถอนโคนอิสลามและทำให้ประกายไฟแห่งอิหม่านในหัวใจของอุมมะฮฺดับมอดลง ดังกล่าวนี้หลังจากที่ธงแห่งอิสลามได้โบกสะบัดเป็นระยะเวลานานถึงหกศตวรรษ อำนาจการปกครองแห่งรัฐอุษมานียะฮฺได้ถูกยกเลิกในวันที่ 1/11/1922 และตามมาด้วยกับการยกเลิกเคาะลีฟะฮฺในวันที่ 3/3/1924 การเรียนการสอนศาสนาในโรงเรียนได้ถูกห้ามโดยทั้งหมด ตัวเลขและตัวอักษรอาหรับที่ใช้ในการเขียนได้ถูกเปลี่ยนเป็นอักษรลาติน การอะซานตามบทบัญญัติอิสลามและการอิกอมะฮฺเป็นภาษาอาหรับได้ถูกห้าม และได้มีความพยายามในการอนุมัติ (ทำให้ฮะลาล) ให้การแปลอัลกุรอานอัลกะรีมถูกใช้ในการอิบาดัตต่างๆ การเคลื่อนไหวหรือกิจกรรมใดๆ ที่เป็นผลประโยชน์ของอิสลามถูกห้ามทั้งหมด ดังนั้นการตีพิมพ์ตำราอิสลามก็ถูกห้ามไปด้วย ประชาชนถูกบังคับให้เปลี่ยนจาก ซัยย์ (ز) เป็น ซี (Z) แบบยุโรป บรรดาบุรุษถูกบังคับให้ใส่หมวกปีก (hat) และบรรดาสตรีถูกบังคับให้เปิดเผยใบหน้าและโชว์ส่วนต่างๆ
 
ศาลต่างๆ ได้ข่มขู่และสร้างความหวาดกลัวไปทั่วทุกหนทุกแห่งของประเทศ มีการยัดเยียดการแขวนคอประหารชิดให้การบรรดาอุละมาอฺผู้มีเกียรติ และให้กับทุกคนที่พูดกับตัวเองว่าจะหันหลังให้กับอำนาจการปกครอง บรรยากาศแห่งความสับสนอลหม่านและความหวาดกลัวได้เกิดขึ้นทั่วทั้งประเทศ จนกระทั่งผู้คนต้องซ่อนอัลกุรอานอัลกะรีมให้พ้นจากสายตาของเจ้าพนักงานรัฐ หนังสือพิมพ์ได้เริ่มเคลื่อนไหวในการเผยแพร่ความหยาบคายและดูถูกศาสนา หนังสือของพวกปฏิเสธการมีอยู่ของพระเจ้าก็เริ่มแพร่ออกมา
أللهم اخرجنا من ظلمات الوهم وأكرمنا بنور الفهم ... آمين يارب العالمين
โอ้อัลเลาะฮ์ ขอพระองค์ทรงให้เราออกห่างจากความมืดมนแห่งความคิดคลุมเครือ  และให้เกียรติเราได้วยรัศมีแห่งความเข้าใจ... อามีน ยาร็อบ

ออฟไลน์ คะลัคคะลุย

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 670
  • เรื่อยไป
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
 salam

ญะซากัลลอฮ์จริง ๆ ครับท่าน  :ameen:
اللهم صل علي سيدنا محمد وعلي آل محمد وصحبه وسلم

ออฟไลน์ ItQan

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 177
  • Reflection
  • Respect: +50
    • ดูรายละเอียด
 salam

มีต่ออีกนิดหน่อย

การเสียชีวิต
อุซตาซฺ อัลนุรซีย์ได้กลับไปสู่ความเมตตาของอัลลอฮฺในวันที่ 25 เดือนรอมาฎอน ปี ฮ.ศ. 1379 หรือ วันที่ 23 มีนาคม 1960 ศพของท่านถูกฝัง ณ เมือง อุรฟะฮฺ.... แต่ทว่า พวกผู้นำทหารที่ปกครองอยู่ในขณะนั้นไม่ปล่อยให้ร่างของท่านได้พักแม้แต่ในกุโบร์ของท่าน เพราะหลังจากการฝังร่างของท่านได้ 4 เดือน พวกเขาได้ทำการขุดกุโบร์ของท่านและได้ย้ายร่างของท่านโดยนำขึ้นเครื่องบินไปยังสถานที่ที่หนึ่งซึ่งไม่มีใครรู้ ดังนั้นกุโบร์ของท่านจึงไม่มีใครรู้ว่าอยู่ที่ใดจนกระทั่งทุกวันนี้
أللهم اخرجنا من ظلمات الوهم وأكرمنا بنور الفهم ... آمين يارب العالمين
โอ้อัลเลาะฮ์ ขอพระองค์ทรงให้เราออกห่างจากความมืดมนแห่งความคิดคลุมเครือ  และให้เกียรติเราได้วยรัศมีแห่งความเข้าใจ... อามีน ยาร็อบ

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ท่านบะดีอุซซะมาน ซะอีด อัลนุรซีย์  เป็นนักปราชญ์ตะเซาวุฟ  เป็นนักมุญาฮิด(นักต่อสู้) เป็นปราชญ์ท่านหนึ่งของอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ครับ
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ ItQan

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 177
  • Reflection
  • Respect: +50
    • ดูรายละเอียด
 salam

เอกภาพแห่งกิบละฮฺในอัลกุรอาน

อุซตาชฺ อัลนุรซีย์ ได้บรรยายสภาพของจิตใจและการเปลี่ยนแปลงทางความคิดของท่านดังต่อไปนี้

"เมื่อสามสิบปีก่อน (หมายถึงช่วงอายุยี่สิบต้นๆ ของท่าน) การตบหน้าอย่างรุนแรงได้เกิดขึ้นกับนุรซีย์คนเก่าผู้หลงลืม ดังนั้น เขาจึงได้คิดถึงเรื่องที่ว่า ความตายนั้นสัจจริง และเขาได้พบตัวเองจมอยู่ในโคลนตม... ร้องขอความช่วยเหลือ เขาได้ค้นหาแนวทาง และสืบเสาะหาผู้ที่จะช่วยชีวิตดึงมือเขาขึ้นไป... เขาเห็นหนทางมากมายที่แตกต่างกันอยู่ตรงหน้า... เขาได้วกกลับมาที่เดิม และได้หยิบหนังสือ "ฟุตูฮฺ อัลฆ็อยบ์" (การเปิดสู่ความเร้นลับ) ของเชคอับดุลกอเดร อัลญัยลานีย์ (ร่อฎิยัลลอฮฺ อันฮฺ) และได้เปิดอ่านด้วยทัศนคติที่ดี ดังนั้นเขาได้พบข้อความต่อไปนี้ต่อหน้าเขา

...ท่านอยู่ใน ดารุลฮิกมะฮฺ ดังนั้นก็จงแสวงหาหมอเพื่อเยียวยาหัวใจของท่านเถิด... (ดู มัจลิสที่ 62 จากหนังสืออัลฟัตหฺ อัรร็อบบานีย์)  ช่างหน้าประหลาดใจเหลือเกิน  แน่นอนที่สุดว่า ในขณะนั้น ฉันเป็นสมาชิกคนหนึ่งในดารุลฮิกมะฮฺอัลอิสลามียะฮฺ และเสมือนกับว่าฉันไปที่นั่นเพื่อเยียวบาดแผลแห่งประชาชาติอิสลาม แต่แท้ที่จริงแล้วตัวฉันเองป่วยหนักและต้องการการเยียวยามากกว่าคนอื่นเสียอีก... ดังนั้นที่ดีที่สุดสำหรับคนป่วยคือเขาต้องรักษาตัวเองก่อนที่จะรักษาคนอื่น

นี่แหละ เชคได้พูดกับฉัน...  ท่านเป็นผู้ป่วย ก็จงหาหมอเพื่อการเยียวยาเถิด

ฉันกล่าวว่า... โอ้เชค ท่านนั่นแหละจงเป็นหมอให้กับฉัน

และฉันก็ได้เริ่มอ่านหนังสือเล่มนั้นเสมือนกับว่า เชคได้พูดกับฉันจริงๆ... เชคอัลดุลกอเดรใช้ภาษาที่ดุดัน ซึ่งมันได้ทลายความยโสโอหังของฉัน ดังนั้นกระบวนการผ่าตัดเพื่อการเยียวยาได้ดำเนินไปในหัวใจของฉัน... ฉันไม่อาจทานทนได้... เพราะฉันถือว่าเชคมุ่งหมายข้อความเหล่านั้นมาที่ฉัน

ฉันอ่านหนังสืออยู่อย่างนั้นจนกระทั่งเกือบถึงครึ่งเล่ม... ฉันไม่สามารถอ่านให้จบรวดเดียวได้... ฉันวางหนังสือเล่มนั้นลงในที่ของมัน หลังจากนั้นไม่นาน ฉันก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดของบาดแผลนั้นได้หมดไป และถูกแทนที่ด้วยความปีติสุขแห่งจิตวิญญาณอันน่าประหลาดใจ... และฉันได้อ่านหนังสือของอาจารย์คนแรกของฉันจนจบ ฉันได้รับประโยชน์อันใหญ่หลวง และได้ใช้เวลานานหลายชั่วโมงเพื่อสดับฟังวิริดต่างๆ ที่ดีงามต่างๆ และถ้อยคำวิงวอน (มุนาญาฮฺ) อันไพเราะของท่าน

... มีต่อ...
أللهم اخرجنا من ظلمات الوهم وأكرمنا بنور الفهم ... آمين يارب العالمين
โอ้อัลเลาะฮ์ ขอพระองค์ทรงให้เราออกห่างจากความมืดมนแห่งความคิดคลุมเครือ  และให้เกียรติเราได้วยรัศมีแห่งความเข้าใจ... อามีน ยาร็อบ

ออฟไลน์ ItQan

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 177
  • Reflection
  • Respect: +50
    • ดูรายละเอียด
หลังจากนั้น ฉันก็พบหนังสือ “มักตูบ้าต” ของท่านอิหม่ามอะฮฺหมัด อัลฟารูกีย์ อัซซิรฮินดีย์ ผู้นำการปฏิวัติแห่งศตวรรษที่ 20 ฉันมองว่าหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่ดีอย่างแท้จริง ดังนั้นฉันก็ได้พบกับความประหลาดใจในหนังสือเล่มนี้... โดยที่ได้ถูกระบุไว้ในจดหมายทั้งสองฉบับถึงคำว่า “มิรซา บะดีอุซซะมาน” ดังนั้น ฉันจึงรู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังพูดกับชื่อของฉัน เนื่องจากชื่อของบิดาของฉันคือ มิรซา และจดหมายทั้งสองนั้นก็เขียนถึงมิรซา บะดีอุซซะมาน...

ฉันกล่าวว่า... ซุบฮานัลลอฮฺ นี่เขาพูดกับฉัน ตัวฉันจริงๆ เพราะว่า ฉายาของซะอี้ยคนเก่าก็คือ บะดีอุซซะมาน และฉันก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีใครที่เป็นที่รู้จักด้วยฉายาดังกล่าวนอกจาก อัลฮะมะดานีย์ ซึ่งมีชีวิตอยู่ในช่วงศตวรรษที่ 4 แห่งฮิจเราะฮฺศักราช ดังนั้น จะต้องมีใครอีกคนหนึ่งนอกจากเขา (อัลฮะมะดานีย์) ที่มีชีวิตอยู่ในสมัยเดียวกับอิหม่ามอัลร็อบบานีย์ อัซซิรฮันดีย์ และได้ถูกขานเรียกด้วยฉายานี้  และเขาคนนั้นจะต้องมีสภาพคล้ายกับฉัน จนกระทั่งฉันพบยาขนานเอกในจดหมายดังกล่าว... ท่านอิหม่ามอัรร็อบบานีย์นั้นได้สั่งเสียในจดหมายดังกล่าวและจดหมายอื่นๆ อย่างหนักแน่นว่า .. จงทำให้เกิดเอกภาพแห่งกิบละฮฺ*... ก็คือจงตามอิหม่ามและมุรชิดเพียงคนเดียว และอย่าได้ยุ่งอยู่กับคนอื่น. (* ดูอัลมักตูบที่ 75 จากหนังสือ มักตูบ้าตของอัลอิหม่ามอัรร็อบบานีย์ แปลโดย มุฮัมหมัด มุร็อด)

คำสั่งเสียดังกล่าวไม่สอดคล้องกับความพร้อมและสภาพทางจิตวิญญาณของฉัน  –ในขณะนั้น-  ...  และฉันก็ได้เริ่มคิดใคร่ครวญว่า... ฉันควรจะเดินตามคนนี้ดี (อัลอิหม่ามอัซซิรฮินดีย์) หรือว่า คนนั้นดี (เชคอับดุลกอเดร อัลญัยลานีย์)? ฉันข้องใจเป็นอย่างมาก และความสับสนของฉันก็รุนแรงเหลือเกิน เนื่องจากแต่ละคนก็มีความพิเศษและแรงดึงดูดที่เฉพาะ เพราะเหตุนี้ฉันจึงไม่สามารถหยุดอยู่แค่เพียงคนใดคนหนึ่งจากทั้งสองนี้


และในขณะที่ฉันได้ครุ่นคิดถึงสิ่งที่สงสัยอยู่... ฉันรู้สึกถึงความคิดหนึ่งที่อัลลอฮฺให้มันเกิดขึ้นกับฉัน (คอฏิร เราะฮฺมานีย์) และพูดกับฉันว่า

อันที่จริงแล้ว จุดเริ่มต้นของ ตอรีเกาะฮฺ ทั้งหมดนั้น ก็คือ อัลกุรอานอัลกะรีมนั่นเอง... ดังนั้นการทำให้เกิดเอกภาพแห่งกิบละฮฺที่แท้จริงจึงไม่เกิดขึ้น นอกจากในอัลกุรอานเท่านั้น... เพราะอัลกุรอานคือมุรชิด(ผู้ชี้แนะ) ที่สูงสุด... และเป็นอุซตาซที่ศักสิทธิ์ที่สุด... และตั้งแต่วันนั้นฉันก็หันหน้าเข้าหาอัลกุรอาน และฉันก็ยึดมั่นด้วยกับอัลกุรอานและก็ได้ตักตวงจากอัลกุรอาน...

... แน่นอนว่าความสามารถที่ฉันมีนั้นมันจำกัดเกินกว่าที่จะซึมซาบเอาวิชาการความเร้นลับที่พรั่งพรู (ฟัยฎฺ) มาจากมุรชิดที่แท้จริงนี้ได้ (อัลกุรอาน) ซึ่งเปรียบเสมือนกับการพุ่งของซัลซะบีลที่พรั่งพรูออกมาสู่ชีวิต แต่ทว่าด้วยความประเสริฐของความเร้นลับและวิชาการต่างๆ ที่พรั่งพรูออกมาดังกล่าวเองนั่นแหละที่ทำให้เราสามารถที่จะเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งถึงตัวของมันเอง  และซัลซะบีลดังกล่าวนี้ก็มีไว้สำหรับบรรดาผู้คนแห่งหัวใจและพวกพ้องแห่งสภาพการณ์ต่างๆ (ชาวตอรีเกาะฮฺ) ทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับระดับขั้นของเขา ดังนั้น ถ้อยคำ และรัศมีต่างๆ ที่ได้รับจากอัลกุรอาน (หมายถึง ร่อซาอิลุลนูร) จึงไม่ใช่เรื่องของวิชาการที่ต้องใช้สติปัญญาอย่างเดียว แต่ทว่า มันคือเรื่องของหัวใจ จิตวิญญาณ และสภาพการณ์ต่างๆ แห่งอีหม่าน... เพราะมันก็เปรียบเสมือนกับวิชาการต่างๆ แห่งพระเจ้าอันล้ำค่าและเป็นความรู้ที่มาจากพระผู้อภิบาลอันสูงส่ง

..จบ..
أللهم اخرجنا من ظلمات الوهم وأكرمنا بنور الفهم ... آمين يارب العالمين
โอ้อัลเลาะฮ์ ขอพระองค์ทรงให้เราออกห่างจากความมืดมนแห่งความคิดคลุมเครือ  และให้เกียรติเราได้วยรัศมีแห่งความเข้าใจ... อามีน ยาร็อบ

ออฟไลน์ قطوف من أزاهير النور

  • ดุนยา..มาเพื่อไป
  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1582
  • อยากเป็นเด็กดีของอัลลอฮฺ
  • Respect: +9
    • ดูรายละเอียด
    • แวะไปเม้นหน่อยน่า ^^
 salam

ชื่อชา " قطوف من أزاهير النور  " ก็มาจากชื่อหนังสือของท่านนุรซีย์นี่ล่ะค่ะ
แปลตามตัวได้ว่า "ที่เด็ดมาจากมวลดอกไม้แห่งแสง"
ซึ่งหมายถึง "ความหมายที่หยิบยกมาจากตัฟซีรอันนูร"


(ก๊อบมาเต็ม ๆ จากที่คนตั้งแปลให้)
ที่สงสัยต่อคือ .. ตัฟซีรอันนูร คืออะไร ถ้าไม่ใช่ ตัฟซีรจากซูเราะฮฺอันนูร

ถามต่อ .. เจ้าตัวก็บอกว่า .. ไปค้นต่อเอง
( - -.) เฮ่อ   << ใครช่วยสงเคราะห์ชาได้มั่ง

ปล. เเปะเวบและแหล่งค้นต่อไว้ก่อน เด๋วหาย
http://www.saidnur.com/
http://www.youtube.com/watch?v=i5HM2aZcAOQ&feature=related
และหนังสือขบวนการฟื้นฟูอิสลาม (แปลโดย อ. บรรจง บินกาซัน)

ส่วนข้างบน สัญญาว่าเด๋วมาอ่าน อินชาอัลลอฮฺ  yippy:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มี.ค. 15, 2008, 11:03 AM โดย قطوف من أزاهير النور »
يَا بُنَيَّ إِنْ قَدَرْتَ أَنْ تُصْبِحَ وَتُمْسِيَ لَيْسَ فِي قَلْبِكَ غِشٌّ لِأَحَدٍ فَافْعَلْ
 ثُمَّ قَالَ لِي يَا بُنَيَّ وَذَلِكَ مِنْ سُنَّتِي وَمَنْ أَحْيَا سُنَّتِي فَقَدْ أَحَبَّنِي وَمَنْ أَحَبَّنِي كَانَ مَعِي فِي الْجَنَّةِ

"โอ้ลูกรัก ถ้าหากเจ้าสามารถที่จะตื่นขึ้นมาในเวลาเช้าจนถึงเวลาเย็น โดยที่เจ้าไม่คิดร้ายต่อผู้ใด เจ้าจงกระทำเถิด
หลังจากนั้นท่านได้กล่าวแก่ฉันอีกว่า โอ้ลูกรัก และนั่นแหละเป็นแนวทางของฉัน
ผู้ใดฟื้นฟูแนวทางของฉันแสดงว่าเขารักฉัน และผู้ใดรักฉัน เขาได้อยู่กับฉันในสวรรค์"
(บันทึกโดย อัตติรมีซี)

ออฟไลน์ قطوف من أزاهير النور

  • ดุนยา..มาเพื่อไป
  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1582
  • อยากเป็นเด็กดีของอัลลอฮฺ
  • Respect: +9
    • ดูรายละเอียด
    • แวะไปเม้นหน่อยน่า ^^
يَا بُنَيَّ إِنْ قَدَرْتَ أَنْ تُصْبِحَ وَتُمْسِيَ لَيْسَ فِي قَلْبِكَ غِشٌّ لِأَحَدٍ فَافْعَلْ
 ثُمَّ قَالَ لِي يَا بُنَيَّ وَذَلِكَ مِنْ سُنَّتِي وَمَنْ أَحْيَا سُنَّتِي فَقَدْ أَحَبَّنِي وَمَنْ أَحَبَّنِي كَانَ مَعِي فِي الْجَنَّةِ

"โอ้ลูกรัก ถ้าหากเจ้าสามารถที่จะตื่นขึ้นมาในเวลาเช้าจนถึงเวลาเย็น โดยที่เจ้าไม่คิดร้ายต่อผู้ใด เจ้าจงกระทำเถิด
หลังจากนั้นท่านได้กล่าวแก่ฉันอีกว่า โอ้ลูกรัก และนั่นแหละเป็นแนวทางของฉัน
ผู้ใดฟื้นฟูแนวทางของฉันแสดงว่าเขารักฉัน และผู้ใดรักฉัน เขาได้อยู่กับฉันในสวรรค์"
(บันทึกโดย อัตติรมีซี)

ออฟไลน์ ItQan

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 177
  • Reflection
  • Respect: +50
    • ดูรายละเอียด
ก๊อบมาเต็ม ๆ จากที่คนตั้งแปลให้)
ที่สงสัยต่อคือ .. ตัฟซีรอันนูร คืออะไร ถ้าไม่ใช่ ตัฟซีรจากซูเราะฮฺอันนูร

ถามต่อ .. เจ้าตัวก็บอกว่า .. ไปค้นต่อเอง
( - -.) เฮ่อ   << ใครช่วยสงเคราะห์ชาได้มั่ง
........
 salam
อินชาอัลลอฮฺ เดี๋ยวเราจะนำเสนอต่อนะ แต่ว่า อ่านประวัติของนุรซีย์ย่อของนุรซีย์ให้จบก่อน เพราะมันจะทำให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นว่า ตัฟซีรอันนูร คืออะไร  wink:
أللهم اخرجنا من ظلمات الوهم وأكرمنا بنور الفهم ... آمين يارب العالمين
โอ้อัลเลาะฮ์ ขอพระองค์ทรงให้เราออกห่างจากความมืดมนแห่งความคิดคลุมเครือ  และให้เกียรติเราได้วยรัศมีแห่งความเข้าใจ... อามีน ยาร็อบ

 

GoogleTagged