بسم الله الرحمن الرحيم
الحمد لله رب العالمين و الصلاة والسلام على سيدنا محمد وعلي اله وصحبه أجمعين
รายงานจาก ท่านหญิงอาอิชะฮ์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮา จาก นางญุดามะฮ์ บุตร วะฮฺบ์ นางกล่าวว่า
حَضَرْتُ رَسُولَ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فِي أُنَاسٍ وَهُوَ يَقُولُ لَقَدْ هَمَمْتُ أَنْ أَنْهَى عَنْ الْغِيلَةِ فَنَظَرْتُ فِي الرُّومِ وَفَارِسَ فَإِذَا هُمْ يُغِيلُونَ أَوْلَادَهُمْ فَلَا يَضُرُّ أَوْلَادَهُمْ ذَلِكَ شَيْئًا
ฉันได้ปรากฏตัวอยู่ที่ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ซึ่งท่านได้อยู่ในบรรดาผู้คนทั้งหลาย แล้วท่านกล่าวว่า "ฉันตั้งใจจะทำการห้ามพวกท่านจากการ ฆีละฮ์ (ร่วมหลับนอนกับภรรยาขณะที่นางให้นมบุตรหรือนางให้นมบุตรขณะที่กำลังตั้งครรภ์) แต่ฉันได้พิจารณาถึงพวกโรมและเปอร์เซีย ปรากฏว่าพวกเขาได้ทำการฆีละฮ์กับบรรดาบุตรของพวกเขา แล้วสิ่งดังกล่าวก็ไม่ได้ทำให้เกิดโทษใด ๆ แก่บรรดาบุตรของพวกเขาเลย" รายงานโดยมุสลิม (2613)
ท่านอิมามอันนะวาวีย์ กล่าวว่า "บรรดาอุลามาอ์กล่าวว่า สาเหตุที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ตั้งใจห้ามจากการ "ฆีละฮ์" นั้น เพราะท่านเกรงว่าจะเกิดโทษแก่เด็กที่กำลังอยู่ในช่วงดื่มนม และบรรดาอุลามาอ์ว่า บรรดาแพทย์ได้กล่าวว่า การ "ฆีละฮ์" (ร่วมหลับนอนกับภรรยาขณะที่นางให้นมบุตรหรือนางให้นมบุตรขณะที่กำลังตั้งครรภ์) ทำให้น้ำนมดังกล่าวมีพิษ และชนอาหรับจะรังเกียจและระวังมัน" ชัรห์ซอฮิห์มุสลิม 5/271
ดังนั้น ด้วยเหตุเช่นนี้ สามีจึงไม่สมควรกระทำแบบพละกาลครับ
والله تعالى أعلى وأعلم