ข้าพเจ้าได้อ่านหนังสือ อัล-หาวีย์ ของท่านอิมาม ซุยูตีย์...ในเรื่องการทำเมาลิด......ได้เจอคำกล่าวของท่าน อิมาม ชัมซุดดีน บิน
นาซิรุดดีน อัด-ดิมัชกีย์ กล่าวว่า อะบีละฮับ ที่อัลลอฮฺ ตำหนิในอัลกุรอาน จะถูกลงโทษเบาลงในวันจันทร์ เนื่องจากเป็นวันเกิดของท่านนบี....
ดู หนังสือ อัล-หาวีย์ ของ อิมาม ซุยูตีย์ เล่ม 1 หน้า 188
ถามว่าเรื่องนี้นำมาเป็นหลักฐานได้รึเปล่า.......ศอเหี้ยะแค่ไหนคับ...
อบูละฮับได้ปลดปล่อยนางสุวัยบะฮ์ อัลอัสละมีย์ให้เป็นอิสระจากการเป็นทาส เพราะมีความปีติยินดี และดีใจ ในการเกิด(เมาลิด)ของท่านนบี(ซ.ล.)
ท่านอิบนุกะษีรกล่าวว่า "สตรีคนแรกที่ให้นมแก่ท่านนบี(ซ.ล.)คือ นางสุวัยบะฮ์ ทาสของอบูละฮับ โดยที่อบูละฮับได้ทำการปล่อยนางให้เป็นอิสระ เพราะเขาได้รับข่าวดีจากการเกิดของท่านนบี(ซ.ล.) ด้วยเหตุดังกล่าวคือ ในขณะที่ท่านอับบาสพี่น้องของอบูละฮับ(ร.ฏ.)ได้ฝันเห็นเขา หลังจากที่ได้เห็นเขาถึงความขาดทุนอย่างย่อยยับ แล้วท่านอับบาสถามอบูละฮับว่า ท่านได้ประสบอะไรบ้าง? อบูละฮับตอบว่า "หลัง(ตาย)จากพวกท่านไป ฉันไม่พบความดีใดเลยนอกจากฉันได้รับน้ำดื่มในนี้(หัวแม่มือและนิ้วถัดจากนั้น)ด้วยเหตุการปล่อยสุวัยบะฮ์" ดู อัลบิดายะฮ์ วะ อันนิฮายะฮ์ เล่ม 1 หน้า 224
ท่านอิมามอัลบุคอรีย์ได้รายงานเอาไว้ในบทเรื่องนิกาหฺ หะดิษที่ 5101 ว่า
قال عروة وثويبة مولاة لأبي لهب كان أبو لهب أعتقها فأرضعت النبي صلى الله عليه وسلم فلما مات أبو لهب أريه بعض أهله بشر حيبة قال له ماذا لقيت قال أبو لهب لم ألق بعدكم غير أني سقيت في هذه بعتاقتي ثويبة
"ท่านอุรวะฮ์ กล่าวว่า นางสุวัยบะฮ์เป็นทาสหญิงของอบูละฮับ ซึ่งอบูละฮับได้ทำการปลดปล่อยนางให้เป็นอิสระ แล้วนางก็เป็นแม่นมให้กับท่านนบี(ซ.ล.) ในขณะที่อบูละฮับเสียชีวิต ส่วนหนึ่งจากครอบครัวของเขาได้ฝันเห็นเขา ในสถาพที่เลวร้าย แล้วผู้ที่ฝันถามอบูละฮับว่า ท่านได้ประสบอะไรบ้าง อบูละฮับกล่าวว่า ฉันไม่เคยประสบกับ(ความสุขสบาย)อะไรเลยหลัง(ตาย)จากพวกท่านไป นอกจากฉันได้ดื่มน้ำจากสองนิ้วนี้(คือหัวแม่มือและนิ้วถัดจากนั้น) ด้วยสาเหตุการปลดปล่อยสุวัยบะฮ์ให้เป็นอิสระ"(ในขณะที่ได้รับข่าวดีกับการเกิดของท่านนบี(ซ.ล.)" ดู ฟัตหุลบารีย์ เล่ม 9 หน้า 140
บางรายงานกล่าวว่า
"ท่านอับบาสได้ฝันเห็นพี่น้องของเขา คืออบูละฮับ หลังจากที่เขาได้เสียชีวิตไปแล้ว ท่านอับบาสกล่าวแก่อบูละฮับว่า ท่านเป็นอย่างไรบ้าง? อบูละฮับกล่าวว่า ฉันอยู่ในไฟนรก นอกจาก จะถูกผ่อนปรนแก่ฉัน กับทุกๆ คืนวันจันทร์ และฉันก็ดื่มน้ำจากสองนิ้วนี้(คือหัวแม่มือและนิ้วถัดจากนั้น) ด้วยสาเหตุการปลดปล่อยสุวัยบะฮ์ให้เป็นอิสระในขณะที่ได้รับข่าวดีกับการเกิดของท่านนบี(ซ.ล.)" หะดิษนี้ ท่านอิบนุกะษีรได้กล่าวไว้หนังสือ ซีเราะฮ์อันนะบีย์ เล่ม 1 หน้า 124 , ท่านอับดุลร๊อซซาก ได้กล่าวรายงานไว้ในหนังสือ อัลมุซันนัฟของท่าน เล่ม หน้า 478 , ท่านอัลหาฟิซฺ อัลบะฆอวีย์ได้กล่าวไว้ในหนังสือ ชัรหฺอัซซุนนะฮ์ เล่ม 9 หน้า 76
ท่านอิบนุหะญัร อัลอัสเกาะลานีย์ ได้กล่าวอธิบายไว้ใน หนังสือ ฟัตหุลบารีย์ บทเรื่องนิกาหฺ ว่า " ท่านอัลบัยฮะกีย์กล่าวว่า หะดิษที่รายงานว่าบรรดาความดีของคนกาเฟรไร้ความหมายและเป็นโมฆะนั้น หมายถึง พวกเขาจะไม่สามารถรอดพ้นจากไฟนรกและจะไม่สามารถเข้าสวรรค์ได้ และอนุญาติให้กาเฟรถูกผ่อนปรนจากการลงโทษที่เขาสมควรได้รับต่อสิ่งที่เขากระทำเอาไว้จากความดี....ฉัน(คือท่านอิบนุหะญัร)ขอกล่าวว่า อันนี้(คือการคัดค้านของอุลามาอ์ที่ความดีของกาเฟรไม่เป็นผลประโยชน์) ถือว่าเป็นการคัดค้านคำตีความของท่านอัลบัยฮะกีย์ เพราะทั้งหมดสิ่งที่กล่าวมานั้น เกี่ยวกับสิ่งที่เป็นบาปขั้นกุฟุร ดังนั้น สำหรับบาปที่ไม่กุฟุร ก็จะมีสิ่งใดมาห้ามในการผ่อนปรนได้อย่างไรเล่า?
ท่านอัลกุรฏุบีย์กล่าวว่า การผ่อนปรนการลงโทษนี้ เฉพาะให้กับหะดิษนี้และด้วยกับผู้ที่ตัวบทได้ระบุเอาไว้ , ท่านอิบนุ อัลมุนัยยิร กล่าวไว้ใน อัลหาชียะฮ์ ว่า ณ ที่นี้ มีอยู่ประเด็นด้วยกัน
1. เป็นไปไม่ได้ คือการพิจารณาว่า การตออัต(ทำความดี)ของกาเฟรพร้อมการกุฟุรของเขา เนื่องจากเงื่อนไขของการตออัตนั้น คือ จะตกเป็นการตออัตด้วยกับการมีเจตนาที่ใช้ได้(เซาะหฺ) ซึ่งประเด็นนี้ไม่มีที่กาเฟร
2. ให้ผลบุญกับคนกาเฟรในบางอะมัล เพราะเป็นความโปรดปรานจากอัลเลาะฮ์(ซ.บ.) ซึ่งอันนี้สติปัญญาย่อมไม่คัดค้าน ดังนั้น เมื่อดังกล่าวได้รับการยอมรับ แน่นอนว่า การปลดปล่อยนางสุวัยบะฮ์ของอบูละฮับนั้น ไม่ใช่เป็นการสร้างความใกล้ชิด(ต่ออัลเลาะฮ์) แต่อนุญาติโดยการที่อัลเลาะฮ์ทรงประทานความโปรดปรานกับสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์ อย่างเช่นความโปรดปรานที่พระองค์ทรงประทานแก่ท่านอบูฏอลิบ และสิ่งที่ติดตามมาในเรื่องดังกล่าวนั้น คือการขึ้นอยู่บนหลักฐานในการปฏิเสธหรือยืนยัน"
ฉัน(คือท่านอิบนุหะญัร)ขอกล่าวว่า "เป็นการเสริมในสิ่งดังกล่าวนี้ คือ ความโปรดปรานดังกล่าวที่เกิดขึ้นนั้น เพื่อให้เกียตริแก่กาเฟรที่ทำความดีต่อท่านนบี(ซ.ล.)และสิ่งที่เหมือนๆกับเรื่องดังกล่าว" ดู หนังสือ ฟัตหุลบารีย์ เล่ม 9 หน้า 145 - 146 และ ดู หนังสือ อัสซีเราะฮ์ อันนะบะวียะฮ์ ของท่านอิบนุกะษีร เล่ม 1 หน้า 224
ท่านอัลหาฟิซฺ อับดุรเราะหฺมาน บิน ดะบิอฺ อัชชัยบานีย์ กล่าววิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่า " ฉันขอกล่าวว่า การผ่อนปรนลดหย่อนโทษกับอบูละฮับนั้น เพราะเขาได้ทำการให้เกียรติ(การเกิด)ของท่านนบี(ซ.ล.)เหมือนกับการถูกลดหย่อนการลงโทษกับอบูฏอลิบ โดยที่(การลดหย่อนโทษกับอบูละฮับนั้น)ไม่ใช่เพราะ(อะมัลด้วย)การปล่อยทาส(คือนางสุวัยบะฮ์) (แต่เพราะให้เกียตริแก่นบี) เพราะอัลเลาะฮ์ทรงตรัสว่า "สิ่งที่พวกเขา(กาเฟร)ได้อะมัลในดุนยานั้นจะมลายสิ้น และเป็นโมฆะกับสิ่งที่เขาเคยปฏิบัติมา" ดู หนังสือ หะดาอิก อัลอันวาร ฟี อัซซีเราะฮ์ เล่ม 1 หน้า 134
ท่านอิมาม อัลอัชค๊อร ได้รายงานไว้ในหนังสือ บะฮ์ญะตุลมาฮาฟิล และท่านอามิร ผู้อถาธิบายได้กล่าวว่า ถูกกล่าวว่า นี้เป็นการเฉพาะแก่อบูละฮับ เพราะเขาเคยให้เกียตริแก่ท่านนบี(ซ.ล.) (ในวันเกิด) เหมือนกับการผ่อนปรนของท่านอบูฏอลิบด้วยสาเหตุของท่านนบี(ซ.ล.) , และถูกกล่าวว่า ไม่มีสิ่งใดมาห้ามจากการผ่อนปรนลดหย่อนการลงโทษจากทุกคนกาเฟรที่เป็นปฏิบัติความดี" ดู ชัรหฺ อัลบะฮ์ญะฮ์ เล่ม 1 หน้า 41
ดังนั้น เมื่ออบูละฮับผู้ที่อัลกรุอานได้ทำการตำหนิเขา ยังถูกผ่อนโทษให้ เนื่องจากมีความดีใจในการเกิด(เมาลิด)ของท่านนบี(ซ.ล.) ฉะนั้น ผู้ที่แสดงความปิติยินดี หรือดีใจ ด้วยกับวันเกิดของท่านนบี(ซ.ล.)โดยที่เขาเป็นมุอฺมินและเสียชีวิตในสภาพดังกล่าวนี้ ต้องได้รับผลการตอบแทนมากกว่านั้น วัลลอฮุอะลัม