ผู้เขียน หัวข้อ: เก็บเงินไว้ซอดาเกาะฮ์ให้คนตายในครอบครัวอย่างอื่นนอกจากทำบุญเลี้ยงอาหารได้ป่าวคับ  (อ่าน 2791 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

อิลฮาม

  • บุคคลทั่วไป

 salam
ขอบคุณที่ตอบให้ครับ สบายใจที่เลี้ยงอาหารให้คนตายไม่ใช่วาญิบ แต่ผมยังสงสัยว่า การทำบุญให้ผู้ตาย จำเป็นต้องทำบุญเลี้ยงอาหารอย่างเดียวเหรอครับ
ทำอย่างอื่นแทนไม่ได้เหรอคับ ผมเคยได้ยินว่าลูกขอดุอาอ์ให้พ่อแม่ที่ตายแล้วได้ ขอดุอาอ์ให้คนตายกับการเลี้ยงอาหารอันไหนดีกว่ากันอ่ะคับ
บ้านผม กับหลายๆ บ้านแถวบ้านผม ค่อนข้างยากจน ถ้าจัดเลี้ยงอาหารก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูง แล้วมีค่าใช้จ่ายจุกจิกอะคับ กลัวว่าเงินที่เอาไปเลี้ยงจะหมด
แล้วไม่พอเดี๋ยวต้องไปยืมอีก ถ้าไม่ทำซอดาเกาะฮ์ด้วยการเลี้ยงอาหารได้มั้ยครับ ขอทำอย่างอื่นที่ดีกว่า และไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายอ่ะคับ
เพราะเงินที่ได้รับบริจาคมาจำเป็นต้องใช้ในครอบครัวจริงๆ แต่ก็ยังอยากทำอะไรที่คนตายในครอบครัวได้ประโยชน์อ่ะครับ
อาจจะดูเหมือนว่าผมอยากได้แต่ไม่ยอมเสียเงิน แต่ที่บ้านไม่ค่อยมีเงินจริงๆ ครับ ก็เลยต้องหาวิธีอื่นนอกจากเลี้ยงอาหารคับ
 salam

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
وعليكم السلام ورحمة الله وبركاته

การทำทานซอดาเกาะฮ์  ด้วยการบริจาคหรือด้วยวิธีการเลี้ยงอาหารแก่พี่น้องมุสลิมนั้น  ไม่ใช่เป็นวายิบนะครับ  และการทำทานซอดาเกาะฮ์นั้น  ไม่จำเป็นต้องเลี้ยงเป็นอาหารอย่างเดียวหรอกครับ  กระทำอย่างอื่นก็ได้  แต่ที่เลี้ยงเป็นอาหารนั้น  เพราะว่าผู้คนทั่วไปจะได้รับประทานกันอย่างทั่วถึง  และอาหารที่เราจะเลี้ยงเป็นทานนั้น  สมควรยิ่งอย่างต้องเป็นอาหารที่เบา ๆ ง่าย ๆ เช่น ข้าวต้ม  ถั่วเขียวต้ม  และอื่น ๆ   อย่าไปทำเลี้ยงแบบอาหารหนัก ๆ เพราะมันสิ้นเปลือง  ซึ่งถือว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง 

การทำอาหารเป็นทานซอดาเกาะฮ์แก่มัยยิดนั้น  ให้พี่น้องมุสลิมช่วยกันทำ  ไม่ใช่ให้ครอบครัวมัยยิดทำนะครับ  เพราะหากครอบครัวมัยยิดทำอาหารเลี้ยงแต่เพียงลำพัง  เราไม่สมควรไปรับประทานนะครับ  ซึ่งเรื่องนี้อยู่ที่ผู้นำในพื้นที่ต้องช่วยดูและ้จัดการให้ถูกต้อง  และอย่าปล่อยให้ครอบครัวมัยยิดต้องเดือดร้อน 

ส่วนการเลี้ยงอาหารเป็นทานซอดาเกาะฮ์นั้น  หากไม่มีความสามารถและถึงต้องยืมเป็นหนี้เป็นสิน  ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าตำหนิอย่างยิ่งยวดและต้องหลีกห่าง  แต่หากจะทำอย่างอื่นที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ตายนั้น  ก็มีอย่างอื่นอีกเยอะครับ  เช่น  ซิกรุลลอฮ์  อ่านอัลกุรอาน  กล่าวลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์  แล้วอุทิศผลบุญให้แก่มัยยิดครับ

ท่านอิบนุก๊อยยิม  ได้กล่าวไว้เช่นกันว่า  "บรรดานักปราชญ์ได้ขัดแย้งเกี่ยวกับอิบาดะฮ์ที่กระทำด้วยร่างกาย  เช่น  การถือศีลอด  การละหมาด   การอ่านอัลกุรอาน  และการซิกรุลลอฮ์   ท่านอิมามอะห์มัด  และปราชญ์สะลัฟส่วนมาก  มีทัศนะว่า  ผลบุญการถือศีลอด  การละหมาด  การอ่านอัลกุรอาน  การซิกรุลลอฮ์  ถึงผู้ตาย  และมันยังเป็นทัศนะของกล่าวบางส่วนของสานุศิษย์อิมามอบูหะนีฟะฮ์  และท่านอิมามอะห์มัดได้กล่าวระบุไว้ในสายรายงานของมุฮัมมัด บิน อะห์มัด  อัลกะห์ฮาล  เขากล่าวว่า  "ได้กล่าวถามแก่ท่านอบีอับดิลลาฮ์ (คือท่านอิมามอะห์มัด) ว่า  ชายคนหนึ่งได้กระทำความดี  จากการละหมาด  การซอดาเกาะฮ์  และอื่น ๆ   แล้วมอบผลบุญครึ่งหนึ่งให้แก่บิดาหรือมารดาของเขา  ท่านอิมามอะห์มัดตอบว่า  "ฉันหวัง(ว่าผลบุญนั้นถึง)"  หรือท่านอิมามอะห์มัดกล่าวว่า "ทุก ๆ สิ่งจากการซอดาเกาะฮ์และอื่น ๆ นั้น  ผลบุญจะถึงแก่มัยยิด"   และท่านอิมามอะห์มัดกล่าวเช่นเดียวกันว่า "ท่านจงอ่านอายะฮ์กุรซีย์ 3 ครั้ง  ท่านกุลฮุวัลลอฮุอะฮัด  และท่านจงกล่าวว่า  "โอ้ผู้อภิบาลแห่งข้า  ความดีงามของมันนั้น  มอบแด่บรรดาชาวกุบูร"   หนังสือ  อัรรั๊วะห์  ของท่านอิบนุก๊อยยิม  1/117

ท่าน อิบนุ มุฟลิหฺ(ศิษย์ของท่านอิบนุตัยมียะฮ์) กล่าวไว้ว่า "ไม่ว่าอิบาดะฮ์ใด ที่กระทำขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นการดุอา อิสติฆฟาร การละหมาด การถือศีลอด การทำฮัจญฺ การอ่านอัลกุรอาน และอื่น ๆ จากสิ่งดังกล่าว และเอาผลบุญดังกล่าวนั้น มอบฮะดียะฮ์ให้แก่มัยยิดมุสลิม เขาย่อมได้รับผลประโยชน์จากสิ่งดังกล่าว ท่านอิมามอะหฺมัด กล่าวว่า ผู้ตายนั้น(ผลบุญ)ทุกๆ สิ่งจากความดีงามจะถึงไปยังเขา เพราะมีบรรดาตัวบทได้รายงานเกี่ยวกับเรื่องนี้และเพราะบรรดามุสลิมีนในทุกเมือง ได้ทำการรวมตัวกัน และพวกเขาทำการอ่านอัลกุรอาน และพวกเขาก็ทำการฮะดียะฮ์(มอบผลบุญของทุกๆ สิ่งจากความดีงาม) ให้แก่บรรดาผู้ตายของพวกเขา โดยไม่ได้รับการตำหนิเลย ดังนั้น ดังกล่าวย่อมเป็นมติ(อิจญฺมาอ์) และเช่นการขอดุอา และการอิสติฆฟาร นั้น หากแม้ว่า จะฮาดิยะฮ์มอบแก่ท่านร่อซูล(ซ.ล.) ก็ถือว่าอนุญาติ และผลบุญก็ถึงไปยังเขา. ซึ่งได้กล่าวมันโดยท่านอัลมุจญฺ" ดู หนังสือ อัลมุบดิอ์ ชัรหฺ อัลมุกเนี๊ยะอฺ ของท่าน อิบนุ มุฟลิหฺ เล่ม2 หน้า254

والله تعالي أعلي وأعلم
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

 

GoogleTagged