ผู้เขียน หัวข้อ: คำสอนสุดท้าย ของศาสดามูฮำหมัด (ซ.ล.)  (อ่าน 6008 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Andalus

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1131
  • เพศ: ชาย
  • บ่าวผู้ต่ำต้อย
  • Respect: +27
    • ดูรายละเอียด


        ในวันที่ 8 ซุลฮิจยะฮฺ ศาสดามูฮำหมัด (ซ.ล.) บรรดามุสลิมได้ไปพักอยู่ที่ตำบทมีนาและค้างอยู่ที่นั้น วันรุ่งขึ้นท่านได้ขี่อูฐเดินทางไปยังภูเขาอะรอฟะฮฺได้ตั้งกระโจมพักอยู่ตรงด้านตะวันออกของภูเขาตรงจุดที่เรียกกันว่า นะมีรอฮฺ ในตอนเที่ยงทานได้เดินทงไปถึงภูเขานูร ณ ที่นี่เองท่านได้นั่งบนหลังอูฐ และเริ่มเทศนาสั่งสอนชาวมุสลิมด้วยอันโด่งดังโดยมีเราะบีอะ อิบนุ อุมัยยะห์ อิบนุ เคาะลัฟ คอยพูดซ้ำที่ละประโยค ศาสดาเริ่มต้นด้วยการสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้าขอบคุณพระองค์แล้วท่านก็กล่าวสุนทรพจน์ดังต่อไปนี้

         “ โอ้ ท่านทั้งหลาย จงตั้งใจฟังคำพูดของฉันเพราะฉันไม่รู้ว่าฉันจะได้พบกับพวกท่านในโอกาสเช่นนี้อีกเมื่อไร โอ้ ท่านทั้งหลายชีวิตและทรัพย์ของพวกท่านเป็นสิ่งท่ต้องห้ามและเป็นสิ่งที่คนหนึ่งคนใดจะมาละเมิดมิได้ จนกว่าพวกท่านจะได้พบกับพระผู้อภิบาล เสมือนกับวันที่บริสุทธิ์นี้และเดือนนี้เป็นเวลาที่ต้องห้ามสำหรับพวกท่านและเมืองนี้ก็เป็นเมืองต้องห้ามสำหรับพวกท่านทั้งหลายพวกท่าทั้งหลายจะต้องได้รับการสอบสวนจากองค์พระผู้อภิบาลของพวกท่านของพวกท่านในกิจการงานทุกอย่างที่พวกเจ้าได้กระทำไว้”
    
          “ โอ้ประชาชนทั้งหลาย พวกท่านทั้งหลายมีสิทธ์ที่ได้รับมอบหมายเหนือฝ่ายสตรีและฝ่ายสตรีก็มีสิทธิ์เหนือฝ่ายชายเช่นกันในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ดังนั้นพวกท่านจงได้ปกป้องดูแลภรรยาของพวกท่านด้วยความรักความเมตตาเถิดแน่นอนใครที่ทำได้เช่นนั้นก็เท่ากับเขาได้ปกครองดูแลภรรยาของเขาเขาเอาไว้ให้อยู่ในความพิทักษ์รักษาของพระผู้เป็นเจ้า พวกเจ้าทั้งหลายจงรักษาความศรัทธาเชื่อมั่นให้คงไว้ในจิตของพวกท่านและจงหลีกเลี่ยงออกจากเรื่องบาปกรรมชั่ว ดอกเบื้อเป็นสิ่งที่ต้องห้าม สำหรับลูกหนี้ให้ส่งคืนเฉพาะเงินในส่วนเงินที่ยืมมาและเรื่องของดอกเบี้ยจะเป็นต้องถูกยกเลิก”
    
          “นับแต่นี้ต่อไป เรื่องของการแก้แค้นทดแทนกันด้วยเลือด เช่น ในสมัยยุคป่าเถื่อนเป็นเรื่องต้องห้าม การอาฆาต จองล้างจองพลาญกันด้วยด้วยเลือดต้อสิ้นสุดกันเสียที”
    
          “โอ้ ประชาชนทั้งหลาย บรรดาข้าทาสคนใช้ของพวกท่านที่อยู่ในความดูแลของพวกท่านนั้น จงเลี้ยงดูพวกเขา เช่น อาหารที่พวกท่านรับประทาและให้เสื้อผ้า   เครื่องนุ่มห่มแก่พวกเขาด้วยเครื่องนุงห่มที่เพวกท่านใช่ หากพวกเขากระทำในสิ่งที่เป็นความผิดพลาดชนิดที่ท่านไม่ปรารถนาที่ไม่อภัยให้พวกเขาก็จงแยกทางกับเขาเสีย อย่าทำร้ายเฆี่ยนตีทำทารุณพวกเขา เพราะเขาก็ต่างเป็นบ่าวของพระองค์เช่นเดี่ยวกัน”
    
          “โอ้ ประชาชนทั้งหลาย มารร้ายนั้นหมดสิ้นความหวังทั้งมวลที่จะได้รับการเคารพบูชาในแผ่นดินของพวกท่านแล้ว แต่กระนั้นก็ตามมันยังเป็นห่วงที่กำหนดการกระทำอันต่ำต้อยของพวกท่านอยู่ เพราะฉะนั้นจงระมัดระวังมันไว้เถิดเพื่อความปลอดภัยแห่งตัวท่านและศาสดาของท่าน”
  
          “ โอ้ ประชาชนทั้งหลาย พวกท่านจงรำลึกและจดจำในสิ่งที่ฉันพูด  พวกท่านต้องรำลึกเสมอว่า มุสลิมทุกคนนั้นมีฐานะเป็นพี่น้องกัน พวกท่านทั้งหลายต่างมีความเท่าเทียมกัน  และขอให้ทุกคนมีความพอใจในสิทธิและหน้าที่รับผิดชอบที่เรามีอยู่เสมอหน้ากัน  พวกท่านแต่ละคนล้วนแต่เป็นสมาชิกของสังคมพี่น้องเดี่ยวกัน จงปกป้องตัวของท่านให้ห่างไกลจากความ อยุติธรรมในทุกกรณี ขอให้บุคคลที่มาอยู่ที่นี้จงนำสิ่งที่ได้ยินจากฉันไปบอกเล่าแก่บุคคลที่ไม่ได้มาอยู่ ณ ที่นี้เพราะอาจเป็นไปได้ว่าคนที่ไม่ได้รับการบอกเล่านั้นอาจมีความจดจำได้ดีกว่าบุคคลที่ได้ยินไปจากฉันโดยตรงก็เป็นได้ และผู้ที่ได้รับความไว้วางใจเขาต้องไม่ให้ผ็ที่ไว้วางใจเขาต้องประสบความผิดพลาด”
  
          “โอ้ผู้ศรัทธาทั้งหลาย หากเมื่อเมื่อถึงเวลาที่ฉันต้องจากพวกท่านไปไปแล้ว พวกท่านจง อย่าได้หันกลับไปต่อสู้เป็นศัตรูหลั่งเลือดกัน เหมือนอย่าเช่นสมัยแห่งความโง่เขลาดังกล่าวได้ผ่านมา แท้จริงฉันได้มอบสิ่งหนึ่งแก่พวกท่านทั้งหลายซึ่งหากพวกท่านยึดเอาไว้อย่างมั่นคงแล้ว ท่านททั้งหลายจะไม่หลงทางออกสู่แนวทางที่เหลวไหลเป็นอันขาด สิ่งนั้นคือ อัลกุรอานและสุนนะห์ของฉัน”
  
          “โอ้  ศรัทธาชนทั้งหลาย แท้จริงพระผู้เป็นเจ้าเป็นเจ้าของพวกท่านนั้นมีองค์เดี่ยว ต้นตระกูลของพวกท่านก็สืบเชื้อสายเดี่ยวกัน  นั้นคืออาดำและอาดำนั้นถูกสร้างมาจากดิน แท้จริงผู้ที่มีเกียรติที่สุดในหมู่พวกเจ้านั้นคือ ผู้ที่มีความยำเกรงต่ออัลลอฮฺมากที่สุด ตนอาหรับก็หาใช่จะเป็นคนดีเลิศกว่าคนชาติอื่นๆ  นอกจากพวกเขาจะมีความยำเกรงมากกว่าเท่านั้น”
  
          "โอ้ ท่านทั้งหลาย จงสดับรับฟังถ้อยคำของฉันให้ดี จงรู้เถิดว่า มวลมุสลิมนั้นย่อมเป็นพี่น้องกัน และจงรู้เถิดว่า บรรดามุสลิมก็คือภราดรภาพอันเดี่ยวกัน ไม่มีสิ่งใดที่เป็นของพี่น้องมุสลิมด้วยกันจะเป็นของมุสลิมโดยถูกต้อง นอกจากกว่าเขาผู้นั้นจะให้โดยความเต็มใจและไม่คิดมูลค่าเพิ่ม เพราะฉะนั้นจงอย่ากระทำการอยุติธรรมต่อตัวท่านเอง”

    
          และท่านนบีได้อ่านโองการจากคัมภัร์อัลกุรอาน ซูเราะหฺ อัลมาอีดะห์ อายะที่4  ซึ่งมีใจความว่า

            “ ในวันนี้ข้าได้ให้ศาสนาของข้าแก่พวกเจ้าไว้อย่าครบครัน ได้มอบกรุณาธิคุณของข้าให้แก่พวกเจ้าไว้อย่าครบครัน และข้ายินดีเลือกเฟ้นให้ศาสนาอิสลามเป็นศาสนาของพวกเจ้า”

  
____________________________      

          ที่มา หนังสือ ตะวันขึ้นที่มาดีนะห์
            งานเมาลิดกลางแห่งประเทศไทย ฮ.ศ. 1416
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ต.ค. 12, 2010, 12:28 PM โดย eno »
"โอ้ อัลลอฮฺ ผู้ทรงทำให้จิตใจเปลี่ยนแปลงได้ ขอพระองค์ทรงให้หัวใจของฉันแน่นแฟ้นอยู่บนศาสนา(อิสลาม)ของพระองค์ด้วยเถิด "

ออฟไลน์ AUZULODEEN

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 625
  • เพศ: ชาย
  • ทุกๆชีวิตต้องได้ลิ้มรสแห่งความตาย
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
Re: คำสอนสุดท้าย ของศาสดามูฮำหมัด (ซ.ล.)
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ต.ค. 11, 2010, 04:45 PM »
0
เดี๋ยวนี้พี่น้องเราไม่ค่อยได้ประพฤติตามที่ท่านน่าบีได้สั่งสอนไว้เลย
แท้จริงเราเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮ์ และเราจะต้องกลับคืนไปสู่พระองค์

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
Re: คำสอนสุดท้าย ของศาสดามูฮำหมัด (ซ.ล.)
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ต.ค. 12, 2010, 11:37 AM »
0
ผมมองว่า ปัจจุบันนี้ ผู้คนจะถูกแบ่งออกเป็น ๒ ประเภท หากมองผ่านกระจกการตักเตือน นั่นก็คือ ประเภทแรก จะมีความรู้สึกว่า ต้องควรทำตัวเราให้ดี ตราบใดที่ยังไม่ดีพอ ก็ไม่สมควรไปตักเตือนผู้อื่น เพราะเราเองยังไม่ดีพอ และประเภทที่สอง จะมีความรู้สึกว่า ต้องช่วยกันตักเตือน สะกิด และทักซึ่งกันและกัน แม้ ณ ตอนนั้นเราจะไม่ได้ดีพร้อมไปเสียทุกอย่างก็ตาม แต่หากใครอยู่ในสภาพที่มีสติมากกว่า ก็สมควรตักเตือนผู้ที่สติน้อยกว่า แต่ก็หวังในอนาคตว่า หากตนทำผิดบ้าง ก็หวังอยากที่จะได้การตักเตือนที่ดีเช่นเดียวกัน

         สำหรับผมแล้ว ผมเห็นด้วยและพยายามจะเอาอย่างบุคคลในประเภทที่สอง แต่ประเภทแรกก็ถือเป็นการถ่อมตนที่ดีเช่นกัน แต่หากเรามอง ณ สภาพในปัจจุบัน การจะคงลักษณะแบบบุคคลประเภทแรกต่อไป ก็ดูเหมือนจะเป็นการทำร้ายสังคมในทางอ้อมก็เป็นได้ ซ้ำยังอาจจะเป็นบ่อเกิดหนึ่งที่อาจจะทำให้เกิดรอยดำขึ้นทีละนิด ทีละนิดขึ้นในสังคม และท้ายสุดก็เป็นรอยดำอันใหญ่ และเมื่อขึ้นตอนนั้น การที่จะลบรอยดำใหญ่นั้นออก ก็ดูเหมือนจะยากขึ้นเรื่อยๆ

          ฉะนั้น อย่าได้มองว่า การตักเตือน คือการที่บุคคลดีๆ หรือดีพร้อมเท่านั้นที่จะสามารถกระทำได้ อย่ารอให้คนที่ดีพร้อมมาตักเตือนเราก่อน เราถึงจะฟังเขา และในอีกมุมหนึ่งก็คือ อย่ารอให้เราดีพร้อมก่อน แล้วค่อยจะตักเตือนผู้อื่น ทั้งๆ ที่เราอยู่ในสภาพที่พร้อมกว่า มีสติกว่าในตอนนั้นก็ตาม แต่ให้มองว่า การตักเตือน คือการสะกิด การทักของผู้มีสติมากกว่าแก่ผู้ที่มีสติน้อยกว่า แล้วสมควรผลัดกันสะกิด ผลัดกันทัก อินชาอัลลอฮฺ สังคมเราจะน่าอยู่ยิ่งขึ้น และบรรยากาศแห่งความเป็นพี่น้องที่ห่วงใยต่อกันก็จะเกิดขึ้น และทุกทฤษฎีย่อมเป็นจริงได้ไม่ยาก หากเราไม่มองมันเป็นแค่ทฤษฎี แล้วเงียบเฉยตามเคย - วัลลอฮุอะอ์ลัม - วัสสลามุอลัยกุม
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: คำสอนสุดท้าย ของศาสดามูฮำหมัด (ซ.ล.)
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มี.ค. 30, 2013, 07:09 PM »
0
อัสลามุอะลัยกุม

ขุดค่ะ...ขุด

เป็นคำสอนสุดท้ายที่สุดซึ้งค่ะ...

โดยเฉพาะ...

“โอ้  ศรัทธาชนทั้งหลาย
แท้จริงพระผู้เป็นเจ้าเป็นเจ้าของพวกท่านนั้นมีองค์เดี่ยว
ต้นตระกูลของพวกท่านก็สืบเชื้อสายเดี่ยวกัน 
นั้นคืออาดำและอาดำนั้นถูกสร้างมาจากดิน

แท้จริงผู้ที่มีเกียรติที่สุดในหมู่พวกเจ้านั้นคือ
ผู้ที่มีความยำเกรงต่ออัลลอฮฺมากที่สุด
ตนอาหรับก็หาใช่จะเป็นคนดีเลิศกว่าคนชาติอื่นๆ 
นอกจากพวกเขาจะมีความยำเกรงมากกว่าเท่านั้น”


เหมือนย้ำเตือนให้ตระหนักว่า...
ความมีเกียรตินั้นอยู่ที่ความยำเกรง หาใช่เชื้อชาติเผ่าพันธุ์...


วัสลามค่ะ



"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: คำสอนสุดท้าย ของศาสดามูฮำหมัด (ซ.ล.)
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ต.ค. 15, 2013, 08:35 PM »
0
ขุดอีกรอบ...

เพราะกลับมาอ่านกี่ครั้งก็รู้สึกว่าเรานั้นยังบกพร่องอยู่...

เป็นคำสอนสุดท้ายที่มีความหมายเหลือเกินค่ะ

วัสลามค่ะ


"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

 

GoogleTagged