ท่านอัตติรมีซีย์ ได้รายงานว่า
عَنِ الْمُغِيرَةِ بْنِ شُعْبَةَ ، قَالَ : صَلَّى رَسُولُ اللهِ صلى الله عليه وسلم ، حَتَّى انْتَفَخَتْ قَدَمَاهُ ، فَقِيلَ لَهُ : أَتَتَكَلَّفُ هَذَا ، وَقَدْ غَفَرَ اللَّهُ لَكَ مَا تَقَدَّمَ مِنْ ذَنْبِكَ وَمَا تَأَخَّرَ ؟ قَالَ : أَفَلا أَكُونُ عَبْدًا شَكُورًا
จาก อัลมุฆีเราะฮ์ บุตร ชั๊วะอฺบะฮ์ เขากล่าวว่า "ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ทำการละหมาดจนสองเท้าของท่านบวม จึงถูกถามแก่ท่านว่า ท่านได้ทุ่มเทถึงขนาดนี้เลยหรือ ทั้งที่อัลเลาะฮ์ได้ทรงอภัยโทษแก่ท่านในความผิดที่ได้ล่วงผ่านมาแล้วและที่จะมีมาภายหลัง ? ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า "จะมิให้ฉันเป็นบ่าวผู้กตัญญูรู้คุณดอกหรือ?" อัชชะมาอิล มุฮัมมะดียะฮ์ (250)
عَنْ أَبِي هُرَيْرَةَ ، قَالَ : كَانَ رَسُولُ اللهِ صلى الله عليه وسلم ، يُصَلِّي حَتَّى تَرِمَ قَدَمَاهُ ، قَالَ : فَقِيلَ لَهُ : أَتَفْعَلُ هَذَا وَقَدْ جَاءَكَ أَنَّ اللَّهَ تَعَالَى قَدْ غَفَرَ لَكَ مَا تَقَدَّمَ مِنْ ذَنْبِكَ وَمَا تَأَخَّرَ ؟ قَالَ : أَفَلا أَكُونُ عَبْدًا شَكُورًا
จากอบูฮุร๊อยเราะฮ์ เขากล่าวว่า "ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ทำการละหมาดจนสองเท้าของท่านบวม - อบูฮุร๊อยเราะฮ์ กล่าวว่า - ได้ถูกถามแก่ท่านนบีว่า ท่านได้กระทำสิ่งนี้ โดยที่อัลเลาะฮ์ทรงอภัยโทษแก่ท่านในความผิดที่ได้ล่วงผ่านมาแล้วและที่จะมีมาภายหลังแล้วมิใช่หรือ ? ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า "จะมิให้ฉันเป็นบ่าวผู้กตัญญูรู้คุณดอกหรือ?" (251)
ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ขยันทำการละหมาด ทุ่มเทกับตัวท่านเอง จนกระทั่งสองเท้าของท่านบวมอันเนื่องจากยืนนานด้วยสองเท้าของท่าน ซอฮาบะฮ์ผู้อาวุโสบางท่าน กล่าวกันเขาว่า เขาคือท่านอุมัร ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ ได้ถามท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมว่า ท่านได้กระทำตัวท่านให้มีความลำบากที่อาจจะไม่สามารถแบกรับได้ถึงขนาดเลยหรือ? ทั้งที่อัลเลาะฮ์ตะอาลาได้ทรงอภัยโทษความผิดแก่ท่านทั้งในสิ่งที่ล่วงผ่านมาแล้วและที่จะมีมาภายหลัง เสมือนกับที่อัลุกุรอานได้กล่าวไว้ว่า "เพื่ออัลเลาะฮ์ทรงอภัยโทษแก่เจ้า ในความผิดของเจ้าที่ได้กระทำไว้ก่อน (การประกาศศาสนา) และความผิดที่กระทำหลัง (จากการประกาศศาสนา)" อัลฟัตห์ : 2
ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ตอบว่า จะไม่ให้ฉันเป็นบ่าวที่กตัญญูรู้คุณดอกหรือ? หมายถึง เมื่ออัลเลาะฮ์ทรงให้เกียรติฉันด้วยการอภัยโทษให้ จะไม่ให้ฉันขอบคุณในการมอบความดีงามของพระองค์ที่มีต่อฉันดอกหรือ? กล่าวคือ จะให้ฉันทิ้งการละหมาดเพราะอภัยโทษดังกล่าวที่ถูกล่าวไว้ในอัลกุรอานกระนั้นหรือ?
ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวถ้อยคำว่า อับดุล "บ่าวหรือข้าทาส" นั้น สามารถเรียกร้องไปสู่การกตัญญูรู้คุณได้ดียิ่งกว่า เพราะท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้สังเกตุว่าตัวท่านนั้น เป็นบ่าวข้าทาสที่กตัญญูรู้คุณ ที่ผู้เป็นนายได้มอบเนี๊ยะมัติการอภัยโทษให้แก่ท่าน ดังนั้น ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จึงจำเป็นต้องแสดงความกตัญญูรู้คุณ
จุดมุ่งหมายของฮะดิษนี้ ก็คือ เพื่อบ่งบอกให้รู้ว่า ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมนั้น เป็นมักโลคที่ทำการตออัตภักดีต่อผู้อภิบาลของเขามากที่สุด!
วัลลอฮุอะลัม
อ้างอิงจากหนังสือ : อัชชะมาอิล อัลมุฮัมมะดียะฮ์ วัลคิซ๊อล อัลมุสฏ่อฟะวียะฮ์ 2/61