salam
ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ (๑๐ เมษายน ๒๐๐๘) หนังสือพิมพ์เดลี่เมลได้ลงคอลัมหนึ่งที่น่าประหลาดใจแก่ผู้คนเป็นอย่างมาก โดยได้เขียนไว้ว่า หัวใจนั้นมีบทบาทอย่างมากในเรื่องของความศรัทธา ความไร้ซึ่งศรัทธา ความรู้สึก และการรับรู้ แท้จริงมีหญิงวัยรุ่นผู้หนึ่งแต่งงานได้ไม่กี่ปี สามีของเขาผู้ไร้ศรัทธาในศาสนาต้องการที่จะจบชีวิตของตน เขาจึงใช้ปืนยิงศีรษะตัวเองตาย
ทว่าหัวใจของเขายังคงทำงานอยู่ แพทย์จึงได้นำเอาหัวใจของชายผู้นี้ไปปลูกถ่ายให้กับผู้ป่วยที่มีความศรัทธาในศาสนา ซึ่งเขามีความรักที่จะทำความดีเป็นอย่างมาก ผู้ป่วยผู้นี้ประสบปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ และมีความต้องการหัวใจใหม่ และเขาก็ได้หัวใจใหม่ เขารู้สึกดีใจและขอบคุณชายที่ฆ่าตัวตายเป็นอย่างมากที่เขาได้ให้ชีวิตใหม่แก่ตน
หลังจากนั้น ชายป่วยผู้นั้นก็ได้ไปพบภรรยาของชายที่ฆ่าตัวตายโดยบังเอิญ เขามีความรู้สึกทันทีว่า เขารู้จักเธอมานานแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ไม่กลัวที่จะต้องเผชิญหน้าต่อหน้าเธอเพื่อที่จะบอกเธอว่า เขารักเธอ เขาอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเธอ ในขณะนั้นเองหัวใจก็เริ่มสัมผัสกับความรู้สึกเดิมๆกับหญิงผู้นี้ สิ่งที่ชายผู้นี้มีความรู้สึกกับภรรยาของผู้ที่เป็นเจ้าของหัวใจเดิมเป็นสิ่งที่ย้ำว่าหัวใจยังคงรักษาความรู้สึก ความทรงจำที่มีต่อหญิงผู้นี้อยู่ ทว่าเรื่องนี้ก็ยังไม่ทำให้คนใดฉุดคิดจนถึงทุกวันนี้ (จากนักวิทยาศาสตร์ทั่วไป)
ชายผู้ศรัทธาที่ได้รับการเปลี่ยนหัวใจของผู้ไร้ศรัทธา ก็เริ่มที่จะแสดงความไร้ซึ่งศรัทธาออกมา ทว่าเขาก็ยังพยายามที่จะซ้อนมันไว้เท่าที่จะซ้อนมันได้ ไม่ทันไรหัวใจก็เริ่มที่จะทำบาปโดยการที่เขาไม่ต้องการที่จะใช้ชีวิตต่อไปอีก ซึ่งเป็นความรู้สึกเช่นเดียวกับเจ้าของหัวใจเดิม เขาจึงใช้ปืนจ่อที่ศีรษะยิงตายทันที
และนี้ก็เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจแก่ผู้คนเป็นอย่างมากว่า ทำไมชายที่เคยมีศรัทธาอย่างแรงกล้า รักที่จะกระทำความดี มีความสุขที่ได้ช่วยเพื่อนมนุษย์ กลับกลายเป็นผู้ไร้ศรัทธา และมีความสิ้นหวังในชีวิต เพียงแค่ช่วงเวลาไม่นายด้วยการเปลี่ยนหัวใจใหม่
มิใช่การเปลี่ยนหัวใจเท่านั้นนะครับ ที่จะทำให้ความศรัทธาเราเปลี่ยนแปลงไป การถ่ายเลือดก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ความศรัทธาเราอ่อนแอลงได้
และได้มีเรื่องเล่ามาจากเชคผู้หนึ่งได้เล่าว่า เพื่อนของเขากำลังศึกษานิติศาสตร์อิสลาม และเขายังเป็นคนที่รักษาละหมาดไม่เคยขาด แน่นอนเขาย้อมเป็นผู้ศรัทธาอย่างไม่ต้องสงสัยเลย ด้วยอาการป่วยที่เกี่ยวกับเลือด ทำให้เขาต้องถูกส่งตัวไปรักษายังประเทศตะวันตก และได้รับการเปลี่ยนเลือด ทว่าแพทย์ได้นำเลือดของผู้ที่ไม่ใช้มุสลิมมาให้แก่เขา หลังจากนั้นได้ไม่นาน เพื่อนของเชคผู้นนี้ก็เริ่มต้องการที่จะดื่มเบียร์ และต้องการเล่นบทรักกับหญิงอื่น (ทำซินา) และทิ้งละหมาด เชคผู้นี้ถามเขาว่า เพราะอะไรท่านถึงได้ทำเช่นนี้ ไม่มีความเกรงกลัวอัลลอฮ์เลยหรือ ? เขาไม่ตอบอะไร นอกเสียจากเพียงคำว่า โปรดรู้ไว้ว่า ฉันหมดความเชื่อไปแล้วว่า อัลลอฮ์นั้นมีอยู่จริง ...
เพียงแค่เลือดของผู้ไร้ศรัทธาจะส่งผลต่อความศรัทธาของผู้ได้รับเลือดเปลี่ยนแปลงไปได้ขนาดนี้ และนี่แหละเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่า หัวใจจะสูบฉีดเลือด ไปพร้อมกับข้อมูลที่มีอยู่ในเลือด ดังนั้นเลือดก็คือสื่อในการถ่ายทอดข้อมูลระหว่างหัวใจ สมอง และส่วนอื่นๆของร่างกายด้วย เช่นเดียวกับปอด ตับ และอวัยวะส่วนอื่นๆ
พี่น้องคิดไหมครับว่า หากเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงละก็ ปัญหาของเราชาวไทยมุสลิมจะต้องเกิดขึ้นแน่นอนครับ
และสามารถกล่าวได้เต็มปากว่า การที่เรารับประทานอาหารที่ไม่สะอาด อาหารที่มาจากทรัพย์สินที่ต้องห้าม หรืออาหารต้องห้าม มันก็คือสาเหตุที่สำคัญหนึ่ง ที่ทำให้หัวใจเรามืดบอด ด้วยการขจัดแรงศรัทธา และความดีงามต่างๆในจิตใจออกไปทีละนิดทีละน้อย จนกระทั่งหมดสิ้นไป
ไม่เพียงแต่ในด้านของความศรัทธาและความดีงามเท่านั้นที่ถูกขจัดออกไป สติปัญญาก็อ่อนแอลงไปด้วย
والله أعلم