ผู้เขียน หัวข้อ: ความรักของอะลุ้ลบัยตุ(ลูกหลานท่านนบี)ที่มีต่อเคาะลีฟะฮุสามคนแรก  (อ่าน 5874 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ "Kamarutdin"

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 24
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด

จากส่วนหนึ่งของหนังสือเรื่อง อีมามอาลี เขียนโดย ท่าน ซัยยิด อบุล ฮะซัน อะลี นัดวี

ความรักของอะลุ้ลบัยตุ(ลูกหลานท่านนบี)ที่มีต่อเคาะลีฟะฮุสามคนแรก...

   ลูกหลานท่านบีต่างก็ยอมรับผลงานของเคาะลีฟะฮุสามคนแรกที่มีต่ออิสลาม ยะฮุยา บิน สะอิ๊ดเล่าว่า  มีคนสองสามคน
จากอีรัคได้มาเยี่ยม อะลี บิน ฮุเซน (ซัยนุล อาบีดีน) และได้พูดถึงเคาะลีฟะฮุสามคนแรกในทางที่ไม่ดี  เมื่อคนเหล่านั้น
พูดจบ ซัยนุล อาบีดีน ได้กล่าวว่า "ฉันขอยืนยันว่าพวกท่านไม่ใช่ผู้คนที่อัลลอฮุได้ทรงกล่าวไว้ในกรุอ่านว่า 'ข้าแต่พระผู้อภิบาลของเรา ได้ทรงโปรดอภัยเราและพี่น้องของเราผู้ที่ได้รับการศรัทธาก่อนหน้าเรา   และ  ทรงโปรดอย่าให้มีการเคียดแค้นในหัวใจของเราต่อบรรดาผู้ได้ศรัทธา    ข้าแต่พระผู้อภิบาลของเรา     แท้จริง พระองค์เป็นผู้ทรงอ่อนโยน   
ผู้ทรงเมตตาเสมอ'(1) อัลลอฮุจะทรงจัดการกับพวกท่านตามที่พระองค์ทรงประสงค์"(2)
   
   อุรวะฮุ บิน อับดุลลอฮุ รายงานว่า "ครั้งหนึ่ง ฉันได้ถามมุฮัมมัด อัลบากิรุ เกี่ยวกับการตกแต่งดาบให้สวยงาม เขาได้ตอบว่าไม่เป็นสิ่งเสียหายแต่ประการใดเพราะอบูบักรุ อัศศิดดีกก็ได้ทำเช่นนั้นเช่นกัน ฉันจึงได้กล่าวว่า"ท่านเรียกเขาว่าอัศศิดดีก"
เขาจึงยืนขึ้นทันทีพร้อมหันหน้าไปทางกิบละฮุแะกล่าวว่า 'ใช่ ฉันเรียกเขาว่าอัศศิดดีกและใครก็ตามที่ไม่ยอมรับว่าเขาเป็น
อัศศิดดีก ก็ขอให้อัลลอฮุทรงอย่าทำให้เขาเป็นผู้สัตย์จริงทั้งในโลกนี้และโลกหน้า"(3)

   เมาลา ญาบิรุ อัล ญะฟีเล่าว่าเมื่อเขาออกมาจาก มุฮัมมัด อัลบากิรุ ฝ่ายหลังได้กล่าวแก่เขาว่า "บอกชาวกูฟะด้วยว่าฉันไม่เอาด้วยกับพวกที่ไม่ยอมรับอบูบักรุและอุมัรู(อีกคำพูดหนึ่งของรายงานกล่าวว่า ใครเห็นเขาเป็นเรื่องตลก)"(4)

   มูฮัมมัด บิน อิสฮากกล่าวว่าครั้งหนึ่ง มุฮัมมัด อัลบากิรุ ได้กล่าวว่า "คนที่ไม่รู้จักความดีของอบูบักรุและอุมัรคือคนไม่รู้จัก
ซุนนะฮุ"(5)

   อบู คอลิด อัล อะฮ์มัรุกล่าวว่า ฉันได้ถามอัดุลอฮุ อัลมาเอซ บิน ฮะซัน อัลมุซันนา เกี่ยวกับอบูบักรุและอุมัรุ เขาได้ตอบว่า
"ขออัลลอฮุทรงประทานความเมตตาแก่เขาทั้งสอง  ใครก็ตามที่ไม่วิงวอนขอความจำเริญของอัลลอฮุให้แก่เขาทั้งสอง ก็ขอให้อัลลอฮุอย่าได้ทรงประทานความโปรดปรานแก่เขาผู้นั้น" หลังจากนั้น เขาก็กล่าวต่อว่า "ฉันไม่คิดว่าอัลลอฮุจะทรงฟังการสำนึกผิดของคนที่สาปแช่งเขาทั้งสอง"  อบูคอลิดเล่าด้วยว่าเมื่อใครทำให้นึกถึงเรื่องการลอบสังหารอุษมาน อับดุลลอฮุ อัลมาเอซ จะร้องไห้จนเคราและเสื้อเปียก(6)

(1)กรุอ่าน 59:10
(2)ศิฟาตุศ ศ็อฟวะฮุ เล่ม 2 หน้า 55
(3)ศิฟาตุศ ศ็อฟวะฮุ เล่ม 2 หน้า 185
(4)ศิฟาตุศ ศ็อฟวะฮุ เล่ม 2 หน้า 185
(5)ศิฟาตุศ ศ็อฟวะฮุ เล่ม 2 หน้า 185
(6)ตารีค ดามิชก์ หน้า 357-358

   
"เฉพาะพระองค์เท่านั้นที่เราขอนมัสการ และ เฉพาะพระองค์เท่านั้นที่เราขอความช่วยเหลือ"

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ส่วนหนึ่งจากความรักของท่านอลีที่มีต่อ บรรดาคอลิฟะฮฺทั้งสามท่านนั้น คือคือการตั้งชื่อบรรดาบุตรของท่าน ด้วยนามชื่อของพวกเขา

บรรดาลูกหลานของท่านอลีที่ถูกฆ่าพร้อมกับพี่ชายของเขานั้น คือ

1. ท่านอบูบักร บุตร ท่านอลีบินอบีฏอลิบ โปรดดู หนังสือ อัลอิรชาด ของท่าน อัล-มุฟีด หน้าที่ 248 / หนังสือ อะลาม อัล-วะรอ ของท่าน อัฏฏ๊อบรุซีย์ หน้า 203 /หนังสือ กัชฟุลฆุมมะฮฺ ของท่าน อัล-อัรบะลีย์ เล่ม 1 หน้า 440 / หนังสือ มุนตะฮา อัลอามาล เล่ม 1 หน้า 528 /หนังสือ ฮะยาฮฺ อัล-ฮุเซน ของท่าน บากิร ชะรีฟ อั-กุร่อชีย์ เล่ม 1 หน้า 270 /หนังสือ เยามฺ อัฏฏัฟ ของท่าน ฮาดีย์ อันนะญะฟีย์ หน้าที่ 171-172-173-174 /หนังสือ มุซฺอลิม อะฮฺลิลบัยตฺ ของท่าน ซอดิก มักกีย์ หน้า 258 /หนังสือ มะนากิบ อาลิ อบีฏอลิบ ของท่าน อิบนิ ชะฮฺ อาชูบ เล่ม 3 น้า 305

2. อุมัร บุตร อลีบินอลีฏอลิบ โปรดดู อัล-อิรชาด หน้า 186 / อะลาม อัล-วะรอ หน้า203 / มะนากิบ อาลิ อะบีฏอลิบ เล่ม 3 หน้า304 / กัชฟฺ อัล-ฆุมมะฮฺ เล่ม 1 หน้า 440 .

3. อุษมาน บุตร อลีบินอบีฏอลิบ ดู อัล-อิรชาด หน้า 186 / มะนากิบ อาลิ อบีฏอลิบ เล่ม 3 หน้า 304 / อะลาม อัลวะรอ หน้า 203 / กุชฟฺ อัล-ฆุมมะฮฺ เล่ม 1 หน้า 440 / มุนตะฮา อัลอามาน เล่ม 1 หน้า 526-257 / ฮะยาฮฺ อัลอิมาม ฮุเซน ของท่าน อัล-กุรอชีอะฮฺ เล่ม 3 หน้าที่ 262 / เยามฺ อัล-ฏ๊อฟ ของท่านของท่านฮาดี อันนะญะฟีย์ หน้าที่ 175 และ 179 .
4. อบูบักรบินอัลฮุเซนบินอลีบินอบีฏอลิบ ดู อัล-อิรชาด หน้า168 และ 248 / อะลาม อัลวะรอ หน้า 212 / กัชฟฺ อัล-ฆุมมะฮฺ เล่ม 1 หน้า 575 และ 580 / มุนตะฮา อัลอามาน เล่ม 1 หน้า 526 /ฮะยาฮฺ อัลฮุเซน เล่ม 3 หน้า 254 / เยามฺ อัฏฏอ๊ฟ หน้า 167

5. อุมัร บุตร ฮุเซนบินอะลีบินอะบีฏอลิบ โปรดดู มะซอลิม อะฮฺลิลบัยตฺ ของท่าน ซอดิก มักกีย์ หน้า 258 / อัล-อิรชาด หน้า197 / อะลาม อัลวะรอ หน้า112

การที่เราได้หยิบยกรายชื่อเหล่านี้ผมกล่าว ก็เพื่อให้ชีอะฮฺที่มีใจเป็นธรรม รู้ถึงความรักของอะฮฺลิลบัยตฺ ที่พวกเขาได้ตั้งชื่อบรรดาบุตรของพวกเขา ด้วยนามของ คอลิฟะฮฺทั้งสาม ไม่เพียงแค่นี้ ท่านอิมาม ซัยนุลอาบิดีน อิมามคนที่ 4 ของชีอะฮฺ ก็ยังตั้งชื่อบุตรชายของท่านเองว่า อุมัร

โดยไม่ต้องสงสัยเลยว่า แท้จริง มนุษย์คนหนึ่ง เขาจะเลือกตั้งชื่อให้บุตรหลานของเขา กับชื่อที่เป็นที่รักยิ่งไปยังพวกเขา ดังนั้น ท่านอบูบักร ท่านอุมัร และท่านอุษมาน ย่อมเป็นที่รักยิ่งในหัวใจของท่านอะลี (ร.ฏ.) ดังนั้นท่านจึงตั้งชื่อบรรดาบุตรของท่านด้วยนามของคอลิฟะฮฺทั้ง อัลฮัมดุลิลลาหฺ

والله أعلي وأعلم
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
พี่น้องโปรดพิจารณาครับว่า   บุตรนั้นเมื่อคลอดออกมา  หน้าที่ของวะลี  ผู้เป็นบิดา  ต้องทำการตั้งชื่อที่สวยงามประเสริฐ ๆ และมีความหมายดี ๆ ให้บุตรของตนที่คลอดออกมา  และบางครั้งอาจจะตั้งชื่อให้ตรงกับบุคคลให้ความเคารพรัก

ปรากฏว่า  บรรดาอิมามของชีอะฮ์  ตั้งชื่อบุตรของตนว่า  อบูบักร  , อุมัร , อุษมาน   
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ "Kamarutdin"

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 24
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
พี่น้องโปรดพิจารณาครับว่า   บุตรนั้นเมื่อคลอดออกมา  หน้าที่ของวะลี  ผู้เป็นบิดา  ต้องทำการตั้งชื่อที่สวยงามประเสริฐ ๆ และมีความหมายดี ๆ ให้บุตรของตนที่คลอดออกมา  และบางครั้งอาจจะตั้งชื่อให้ตรงกับบุคคลให้ความเคารพรัก

ปรากฏว่า  บรรดาอิมามของชีอะฮ์  ตั้งชื่อบุตรของตนว่า  อบูบักร  , อุมัร , อุษมาน   

ใช่ครับ ไม่ว่าจะชนชาติใดๆในโลกนั้น การตั้งชื่อนั้น ย่อมต้องการ ความหมาย ความไพเระ และ ด้วยกับชื่อที่ดีจากบุคคลอันเป็นที่รักยิ่ง
ฉะนั้นการที่ท่านอะลี(รฏ)และบรรดาลูกหลานของท่านนั้น   ได้ทำการตั้งชื่อลูกหลานของตัวเองด้วยกับชื่อของเคาะลีฟะฮุรอซิดีนทั้งสามนั้น ย่อมเป็นการแสดงให้เห็นถึง ความรัก ความนับถือ และ การยอมรับ ในตัวของเคาะลีฟะฮุรอซิดีนทั้งสามอย่างเปิดเภยและเป็นการยืนยันอย่างชัดเจนว่าบรรดาลูกหลานของท่านอาลี(รฎ)นั้นไม่เคยประมาณสาปแช่งเคาะลีฟะฮุรอซิดีนทั้งสามเหมือนที่พวกชีอะหุทำกันในปัจจุบัน
"เฉพาะพระองค์เท่านั้นที่เราขอนมัสการ และ เฉพาะพระองค์เท่านั้นที่เราขอความช่วยเหลือ"

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com

ใช่ครับ ไม่ว่าจะชนชาติใดๆในโลกนั้น การตั้งชื่อนั้น ย่อมต้องการ ความหมาย ความไพเระ และ ด้วยกับชื่อที่ดีจากบุคคลอันเป็นที่รักยิ่ง
ฉะนั้นการที่ท่านอะลี(รฏ)และบรรดาลูกหลานของท่านนั้น   ได้ทำการตั้งชื่อลูกหลานของตัวเองด้วยกับชื่อของเคาะลีฟะฮุรอซิดีนทั้งสามนั้น ย่อมเป็นการแสดงให้เห็นถึง ความรัก ความนับถือ และ การยอมรับ ในตัวของเคาะลีฟะฮุรอซิดีนทั้งสามอย่างเปิดเภยและเป็นการยืนยันอย่างชัดเจนว่าบรรดาลูกหลานของท่านอาลี(รฎ)นั้นไม่เคยประมาณสาปแช่งเคาะลีฟะฮุรอซิดีนทั้งสามเหมือนที่พวกชีอะหุทำกันในปัจจุบัน

ใช่แล้วครับ  บรรดาอิมามของชีอะฮ์เอง  ก็ตั้งชื่อบรรดาบุตรของพวกเขา  ด้วยชื่อของ  ค่อลิฟะฮ์ทั้งสามท่าน  คือ อบูบักร  , อุมัร , อุษมาน  แต่ปัจจุบัน  ไม่มีชีอะฮ์คนใดตั้งชื่อบุตรของตนเองที่คลอดออกมาว่า  อบูบักร , อุมัร , อุษมาน  เนื่องจากชีอะฮ์ปัจจุบันรังเกียจที่จะตั้งชื่อผู้เป็นศัตรูแนวทางของตน  แต่บรรดาอิมามของชีอะฮ์ กลับตั้งชื่อบุตรของตนเองว่า อบูบักร , อุมัร , อุษมาน  นั่นก็เพราะว่าความจริงแล้ว  ค่อลิฟะฮ์ทั้งสามนั้นไม่ใช่เป็นศัตรูของบรรดาอิมามเหล่านั้นเลย
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

นูรุ้ลอิสลาม

  • บุคคลทั่วไป
ชัดเจนครับว่า  บรรดาอิมามที่พวกชีอะฮ์แอบอ้างว่ามีหลักการตามที่ตนเองยึดถือนั้น  ไม่ได้มีหลักการเหมือนกับพวกชีอะอ์อัรรอฟิเฏาะฮ์  เนื่องจากบรรดาอิมามจะไม่ตั้งชื่อให้บุตรหลานของตนเองเหมือนกับชื่อของศัตรู  เราจะสังเกตุได้ว่า  บรรดาอิมามจะไม่ตั้งชื่อบุตรของตนว่า  ฟิรอูน ฮามาน  กอโรน  เนื่องจากพวกเขาเป็นศัตรูต่ออิสลาม  ดังนั้น  จึงเป็นไปไม่ได้หรอกครับที่บรรดาอิมามจะตั้งชื่อของบรรดาค่อลิฟะฮ์ทั้งสาม  ที่พวกชีอะฮ์รังเกียจเคียดแค้น  ให้กับบรรดาบุตรหลานของตน 

ออฟไลน์ Mannan

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 65
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บรดาอิมาม(อ)ที่เราชีอะห์  เชื่อนั้นต้องมาจากการแจ่งตั้งจากอัลลอฮ(ซ.บ) และท่านศาสดา(ศ)เท่านั้น  และต้องเป็นผู้บริสุทธิ์  ปราศจากความผิดบาปทั้งปวงเพราะถ้าหากเอาคนผิดมาเป็นผู้นำ  ความสัจธรรมที่แท้จริงก็ไม่รู้อยู่ตรงไหน     ท่านอบูบักร   ท่านอุมัร  ท่านอุษมานเคยบูชาเจว็ดมาก่อน ทำชั่วมาก่อนจึงไม่เหมาะสมกับตำแหน่งอิมามผู้นำหลังจากท่านศาสดา(ศ)  เพื่อรักษาดีนนี้เอาไว้  ดังเช่น 
   อัลกรุ อ่าน   ซูเราะห์มาอิดะห์  อายะห์ที่55    (ซะกาตใขณะโค้ง (รูกูอ์))   มีท่านอะลีเท่านั้น   ที่ถูกอัตถาธิบายเพราะตอนโองการนี้ลงตอนเกิดเหตุการณ์นั้นพอดี   
                      มาอิดะห์            อายะห์ที่          67    เหตุการณ์  ณตำบล  เฆาะดีร คุม
                     อัชชูรอ                อายะที่            23
                     อัลอะห์ซาบ           อายะห์ที่        33
   ควรดูตัฟซีรทั้งสองมัซฮับ   อย่ามีอคตินะครับ         
                                                           ชีอะห์รักสันติ                               
   ชีอะห์ตั้งชื่อ  ว่าอบูบักรมากมายนะครับ อุษมานก็มีนะครับ    มีจริง วัลลอฮุอักบัร

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
บรดาอิมาม(อ)ที่เราชีอะห์  เชื่อนั้นต้องมาจากการแจ่งตั้งจากอัลลอฮ(ซ.บ) และท่านศาสดา(ศ)เท่านั้น  และต้องเป็นผู้บริสุทธิ์  ปราศจากความผิดบาปทั้งปวงเพราะถ้าหากเอาคนผิดมาเป็นผู้นำ  ความสัจธรรมที่แท้จริงก็ไม่รู้อยู่ตรงไหน     ท่านอบูบักร   ท่านอุมัร  ท่านอุษมานเคยบูชาเจว็ดมาก่อน ทำชั่วมาก่อนจึงไม่เหมาะสมกับตำแหน่งอิมามผู้นำหลังจากท่านศาสดา(ศ)  เพื่อรักษาดีนนี้เอาไว้  ดังเช่น 
   อัลกรุ อ่าน   ซูเราะห์มาอิดะห์  อายะห์ที่55    (ซะกาตใขณะโค้ง (รูกูอ์))   มีท่านอะลีเท่านั้น   ที่ถูกอัตถาธิบายเพราะตอนโองการนี้ลงตอนเกิดเหตุการณ์นั้นพอดี   
                      มาอิดะห์            อายะห์ที่          67    เหตุการณ์  ณตำบล  เฆาะดีร คุม
                     อัชชูรอ                อายะที่            23
                     อัลอะห์ซาบ           อายะห์ที่        33
   ควรดูตัฟซีรทั้งสองมัซฮับ   อย่ามีอคตินะครับ         
                                                           ชีอะห์รักสันติ                               
   ชีอะห์ตั้งชื่อ  ว่าอบูบักรมากมายนะครับ อุษมานก็มีนะครับ    มีจริง วัลลอฮุอักบัร

โปรดอ่านหัวข้อกระทู้นี้ให้เข้าใจนะครับว่า เขาพูดถึงเรื่องอะไร ?   ไม่ใช่เอะอะอะไร  ก็จะพูดเรื่องคอลิฟะฮ์ว่าใครเหมาะสมกว่า  คุณจะเถียงแพ้หรือชนะ  มันก็ไม่สามารถย้อนอดีตเพื่อไปเปลี่ยนแปลงอะไรได้หรอก  เพราะอัลเลาะฮ์ทรงกำหนดมาแล้วว่าหลังจากท่านนบี เสียชีวิต คือท่านอบูบักร , ท่านอุมัร , ท่านอุษมาน , ท่านอะลีย์

แต่กระทู้นี้  เขาพูดถึงเรื่องความรักของอะฮ์ลิลบัยต์ที่มีต่อคอลิฟะฮ์ทั้ง 3 ซึ่งชีอะฮ์ไม่ตามบรรดาอิมามเกี่ยวกับกรณีนี้  มีด้วยหรือ ที่บรรดาอิมามตั้งชื่อบรรดาศัตรูของท่านให้กับบุตรหลานอันเป็นที่รักของตน!?  
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ Mannan

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 65
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
สลามครับ คุณ... isma-il      ผมMannanไม่ใช่คนโกหกหรอกครับแต่ขอให้คุณอ่านในสิ่งที่ผมจะเขียนต่อไปนี้ให้ดีนะครับ  จะยอมรับหรือไม่นั่นก็แล้วแต่คุณนะครับ   ขอพูดในนามผู้ที่สนใจชีอะห์คนนึงนะครับ   ************************  ฝากบอกนักเรียนอียิปด้วยว่าเขามีโอกาสดีแล้วที่จะศึกาฮะดีษว่าด้วยอิมาม12  ทั้งจาก บุคคอรี  มุสลิม  ฯ แล้วไปยึดถือ 4  คอลีฟะห์ทำไม?

*************************************************************************

คุณ  Mannan ครับ  โปรดอ่านกฏก่อนการเสวนา  และตั้งกระทู้ขึ้นมาเป็นการเฉพาะในเรื่องนั้น ๆ ที่คุณต้องการเสวนา  ไม่ใช่มาระบายความในใจโดยไร้การหลักการอ้างอิง  หวังว่าคุณคงเข้าใจ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พ.ค. 03, 2007, 08:39 AM โดย al-azhary »

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
คุณ Mannan ไม่มีศักยภาพพอที่จะเสวนาเชิงวิชาการ ตามกฏการเสวนาของเรา  โปรดการกฏการเสวนาก่อนครับ  และผมต้องลบสิ่งที่คุณนำเสนอมา  เพราะผิดกฏระเบียบ  หวังว่าคุณคงเข้าใจ
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ Mannan

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 65
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
 เพราะอัลเลาะฮ์ทรงกำหนดมาแล้วว่าหลังจากท่านนบี เสียชีวิต คือท่านอบูบักร , ท่านอุมัร , ท่านอุษมาน , ท่านอะลีย์

           ถ้าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรในอดีตได้ คุณก็ช่วยแก้ไขความผิดพลาดของคุณในการละทิ้งอะห์ลุลบัยต์ด้วย       

ขอหลักฐานด้วยนะ    ที่อยู่ข้างบนอะว่า   เพราะอัลเลาะฮ์ทรงกำหนดมาแล้วว่าหลังจากท่านนบี เสียชีวิต คือท่านอบูบักร , ท่านอุมัร , ท่านอุษมาน ,

ออฟไลน์ musalmarn

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 796
  • เพศ: ชาย
  • สักวัน... ฉันจะขี่ม้า
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
    • ชมรมศาสนศึกษา แผนกอิสลาม มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
ถึง บังอัลฯ ผมขออนุญาต copy แปะคำตอบน่ะครับ เพื่อที่ user ที่ใช้นาว่า Mannan ได้อ่าน และหากไม่ตรงกับประเด็นหรือผิดพลาดประการใด รบกวนชี้แนะและแก้ไขได้ครับ ญาซากัลลอฮ ฮุ ค็อยร็อน

ถึง user ที่ใช้นามว่า Mannan โปรดอ่านทุกตัวอักษร ญาซากัลลอฮ ฮุ ค็อยร็อน



คำถาม

ขอหลักฐานด้วยนะ    ที่อยู่ข้างบนอะว่า   เพราะอัลเลาะฮ์ทรงกำหนดมาแล้วว่าหลังจากท่านนบี เสียชีวิต คือท่านอบูบักร , ท่านอุมัร , ท่านอุษมาน ,

คำตอบ

السلام عليكم ورحمة الله وبركاته وطيباته

13. ชายรอฟิฏีย์ผู้นั้นกล่าวถามท่านญะฟัรอีกว่า การเป็นคอลีฟะฮ์ ของอบูบักรฺ อุมัร อุษมาน และท่านอลี นั้นมีอยู่ในอัลกุรอ่านหรือไม่?

ท่านญะฟัรตอบว่า" ใช่แล้ว! มีกล่าวไว้ในอัลกุรอ่านและมีกล่าวไว้ในคำภีร์เตาร๊อตและอินญีลด้วยเช่นกัน อัลเลาะห์ทรงตรัสว่า

وَهُوَ الَّذِي جَعَلَكُمْ خَلاَئِفَ الأَرْضِ وَرَفَعَ بَعْضَكُمْ فَوْقَ بَعْضٍ دَرَجَاتٍ

?และพระองค์เป็นผู้ทรงบันดาลพวกเจ้าให้เป็นผู้สืบทอดอำนาจปกครองแผ่นดินและทรงยกย่องพวกเจ้าบางส่วนให้เหนือ กว่าอีกบางส่วนเป็นหลายฐานันดร? อันอาม :165

พระองค์ทรงตรัสอีกว่า :

أَمَّن يُجِيبُ الْمُضْطَرَّ إِذَا دَعَاهُ وَيَكْشِفُ السُّوءَ وَيَجْعَلُكُمْ خُلَفَاء الْأَرْضِ

?ใครเล่าที่ทรงตอบรับ(คำวอนขอของ)ผู้เดือดร้อน เมื่อเขา ได้ขอพระองค์ และทรงคลี่คลายความเลวร้ายและทรงแต่งตั้งพวกพวกเจ้าให้เป็นผู้สืบทอดแผ่นดิน(สืบทอดจากประชาชาตืยุคก่อน)? อัลนัมลุ :62

لَيَسْتَخْلِفَنَّهُم فِي الْأَرْضِ كَمَا اسْتَخْلَفَ الَّذِينَ مِن قَبْلِهِمْ وَلَيُمَكِّنَنَّ لَهُمْ دِينَهُمُ الَّذِي ارْتَضَى

  ?ว่าแท้จริงพระองค์จักทรงสืบทอดอำนาจปกครอง แผ่นดินแก่พวกเจ้า ประดุจเดียวกันกับที่พระองค์ให้การสืบทอดแก่มวล ประชาชาติยุคก่อนจากพวกเขาและพระองค์จักทรงบันดาลความมั่นคงแก่พวกเขาซึ่งศาสนาของพวกเขา? อันนูร :55

14. ชายผู้นั้นกล่าว ถามท่านญะฟัรว่า ใหนหรือ การเป็นคอลีฟะฮ์ของพวกเขาที่ถูกกล่าวในเตาร๊อต?

ท่านญะฟัรกล่าวตอบด้วยคำตำรัสของพระองค์ว่า

مُّحَمَّدٌ رَّسُولُ اللَّهِ وَالَّذِينَ مَعَهُ أَشِدَّاء عَلَى الْكُفَّارِ رُحَمَاء بَيْنَهُمْ تَرَاهُمْ رُكَّعاً سُجَّداً يَبْتَغُونَ فَضْلاً مِّنَ اللَّهِ وَرِضْوَاناً سِيمَاهُمْ فِي وُجُوهِهِم مِّنْ أَثَرِ السُّجُودِ ذَلِكَ مَثَلُهُمْ فِي التَّوْرَاةِ وَمَثَلُهُمْ فِي الْإِنجِيلِ

?มุฮัมหมัด เป็นศาสนทูตแห่งอัลเลาะห์และบรรดาผู้อยู่ร่วม(อุดมการณ์เดียวกัน)กับเขา คืออบูบักร ล้วนมีพลังเข้มแข็งเหนือพวกไร้ศรัทธา คืออุมัร อีกทั้งมีเมตตาใน ระหว่างพวกเขากันเอง คืออุษมานอิบนุอัฟฟาน เจ้าเห็นพวกเขาทำการก้มและกราบโดยแสวงหาความโปรดปรานและความพอพระทัย จากอัลเลาะห์ คืออลีอิบนุอบีฏอลิบ อันเครื่องสังเกตจากพวกเขามีปรากฏอยู่ในใบหน้าของพวกเขาจากร่องรอยของการกราบ  นั้นเป็นสัญลักษณะของพวกเขาที่ปรากฏอยู่ในคัมภีร์เตารอฮ์และลักษณะของพวกเขาที่ปรากฏอยู่ในคำภีร์อิน ญีล? อัลฟัตฮฺ : 29

ชายผู้นั้นกล่าวแย้งว่า ?หมายความว่าอย่างไรหรือสิ่งที่ถูกกล่าวไว้ในเตารอฮ์และอินญีล? ? ท่านญะฟัรตอบ ว่า?คือมุฮัมหมัดเป็นร่อซูลลุลเลาะห์และบรรดาคอลีฟะฮ์หลังจากท่าน คือ อบูบักร อุมัร อุษมานและอลี? หลังจากนั้นท่านญะฟัรจึงตบอก ชายผู้นั้น! พร้อมกล่าวว่า? ความวิบัติ!จงประสบแก่เจ้า เนื่องจากอัลเลาะห์ทรงตรัสว่า:

كَزَرْعٍ أَخْرَجَ شَطْأَهُ فَآزَرَهُ فَاسْتَغْلَظَ فَاسْتَوَى عَلَى سُوقِهِ يُعْجِبُ الزُّرَّاعَ لِيَغِيظَ بِهِمُ الْكُفَّارَ وَعَدَ اللَّهُ الَّذِينَ آمَنُوا وَعَمِلُوا الصَّالِحَاتِ مِنْهُم مَّغْفِرَةً وَأَجْراً عَظِيماً

 ?ซึ่งระบุว่าเหมือนกับพืชที่ผลิหน่อของมันออกมา แล้วหน่อ นั้นก็ทำให้พืชเจริญงอกงามขึ้น คืออบูบักร จนมันแข็งแกร่ง คืออุมัร แล้วยืนอยู่บนลำต้นของมันได้ คืออุษมาน สร้างความชื่นชมให้แก่ผู้ปลูกเป็นอย่างยิ่งเพื่อทรงทำให้พวกไร้ศรัทธารู้สึกโกรธแค้นต่อพวกเขา คืออลีอิบนุอบีฏอลิบ  อัลเลาะห์ทรงสัญญาไว้แก่บรรดาผู้มีศรัทธาและประพฤติแต่ความดีงาม จากพวกเขาว่าทรงนิรโทษและประทานรางวัลอันยิ่งใหญ่(แด่พวกเขาคือบรรดาซอฮาบะฮ์ของร่อซูลลุลเลาะห์(ซ.ล.)? อัลฟัตฮฺ :29

ท่านญะฟัรกล่าวต่อชายผู้นั้นอีกว่า? ขอความวิบัติจงประสบแก่เจ้า! เนื่องจากบิดาของฉันเล่าให้ฉันฟังจากปู่ของฉันจากท่านอลี อิบนิอบีฎอลิบว่า ท่านร่อซูลลุลเลาะห์(ซ.ล.)กล่าวว่า?ฉันคือบุคคลแรกที่ฟื้นจากแผ่นดินในสภาพที่ไม่ทนงตนแล้วอัลเลาะห์ก็ทรงประทานเกียตริแก่ฉันอย่างที่ไม่เคยประทานให้แก่นบีท่านใดเลยที่มาก่อนฉัน หลังจากนั้นพระองค์ทรงบัญชาว่า?เจ้าจงนำบรรดาคอลีฟะฮ์หลังจากเจ้า มาใกล้ๆซิ? ดังนั้นฉัน(ร่อซูลลุลเลาะห์)กล่าวถามพระองค์ว่า?โอ้พระผู้อภิบาลของข้าฯ บรรดาคอลีฟะฮ์นั้นมีใครบ้าง? " อับดุลเลาะห์บินอุษมาน(หลานท่านนบีจากบุตรีของท่านผู้เป็นภรรยาของท่านอุษมานบินอัฟฟาน เสียชีวิตตั้งแต่ยังเยาวัย)กล่าวว่า เขาคืออบูบักร ดังนั้นบุคคลแรกที่ฟื้นคืนชีพหลังจากฉันคืออบูบักร จากนั้นเขาได้ยืนอยู่เบื้องหน้าของพระองค์และได้รับการสอบสวน เพียงเล็กน้อย หลังจากนั้นเขาจึงได้รับเกียตริด้วยการสวมอาภรณ์สีเขียวสองชิ้นและสภาพที่ยืนอยู่เบื้องหน้าบัลลังค์อะรัชของพระองค์

หลังจากนั้น   ได้มีบัญชาว่า?อุมัรอิบนุค๊อฏ๊อบอยู่ใหน?? ดังนั้นอุมัรจึงถูกเชิญมาในสภาพที่มีรอยเลือดไหลที่ต้นคอของเขา แล้วเขาจึงถูกถามว่า ใครทำกับเจ้าเช่นนี้? อุมัรจึงตอบว่า ทาสคนหนึ่งของมุฆีเราะห์บินชั๊วะบะฮ์ จากนั้นเขาได้ยืนอยู่เบื้องหน้าของพระองค์และได้รับการสอบสวนเพียงเล็ก น้อย หลังจากนั้นเขาจึงได้รับเกียตริด้วยการสวมอาภรณ์สีเขียวสองชิ้น ในสภาพที่ยืนอยู่เบื้องหน้าบัลลังค์ของพระองค์

หลังจากนั้น  อุษมานได้ ถูกเชิญมาในสภาพที่มีรอยเลือดไหลที่ต้นคอของเขา แล้วเขาจึงถูกถามว่า ?ใครทำกับเจ้าเช่นนี้ ?? อุษมานตอบว่า? คนนั้นบุตรของ คนนั้นและคนนั้นบุตรของคนนั้นจาก นั้นเขาได้ยืนอยู่เบื้องหน้าของพระองค์และได้รับการสอบสวนเพียงเล็กน้อย หลังจากนั้นเขาจึงได้รับเกียตริด้วยการ สวมอาภรณ์สีเขียวสองชิ้น ในสภาพที่ยืนอยู่เบื้องหน้าบัลลังค์ของพระองค์

หลังจากนั้น  อลีอิบนุอบีฏอลิบจึงถูกเรียกเชิญมาในสภาพที่มีรอยเลือด ไหลอยู่ที่ต้นคอของเขา เขาจึงถูกถามเช่นกันว่า?ใครทำกับเจ้าเช่นนี้?? เขาตอบว่า อับดุรเราะห์มานอิบนุมุลญัม นั้นเขาได้ยืนอยู่เบื้อง หน้าของพระองค์และได้รับการสอบสวนเพียงเล็กน้อย หลังจากนั้นเขาจึงได้รับเกียตริด้วยการสวมอาภรณ์สีเขียวสองชิ้น ในสภาพที่ยืนอยู่เบื้องหน้าบัลลังค์ของพระองค์?

ชายรอฟิฏีย์ผู้นั้นกล่าวถามท่านญะฟัรว่า? โอ้ ลูกหลานร่อซูลลุลลอฮ์ สิ่งที่กล่าวเมื่อครู่นี้มีระบุไว้ในอัลกุรอ่าน หรือ? ท่านญะฟัรอัศศอดิกตอบว่า ใช่แล้ว พระองค์ทรงตรัสว่า

وَجِيءَ بِالنَّبِيِّينَ وَالشُّهَدَاء

?พร้อมทั้งบรรดาศาสดาและบรรดาผู้เป็นสักขีพยาน(คืออบูบักร อุมัร อุษมานและ อลี)

وَقُضِيَ بَيْنَهُم بِالْحَقِّ وَهُمْ لَا يُظْلَمُونَ

ก็จะถูกนำตัวมาและมีการตัดสินระหว่างพวกเขาเหล่านั้นโดยสัจจะธรรมและพวกเขาจะไม่ถูกฉ้อฉลเลย?

ชายผู้นั้นกล่าวว่า? โอ้ บุตรร่อซูลุลเลาะห์ อัลเลาะห์จะรับการขออภัยโทษของฉัน ในสิ่งที่ฉันยึดมั่นอยู่เนื่องจากการจำแนกการศรัทธาเพียงบางส่วนระหว่าง ท่านอบูบักร อุมัร อุษมาน และอลี หรือไม่ ? ท่านญะฟัรอัศศอดิกตอบว่า?ประตูแห่งการขออภัยโทษยังคงเปิดอยู่เสมอ ดังนั้นท่านจงขอพรและอภัยโทษ ให้มากแก่พวกเขา และถ้าหากท่านเสียชีวิตในสภาพที่เป็นปรปักษ์ต่อพวกเขาแล้ว แน่นอน ท่านจะจากโลกนี้ไปในสภาพที่มิใช่มุสลิม คุณงามความดี ของท่านเปรียบเสมือนดั่งภาคผลของพวกกุฟฟารที่ เสมือนผงธุลีที่ไร้ค่า

ดังนั้นชายดังกล่าวจึงขอลุกโทษสำนึกผิดต่ออัลเลาะห์และสลัดทิ้งจากแนวทางและคำกล่าวของเขา


แปลโดย อัล-อัซฮะรีย์


ออฟไลน์ Mannan

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 65
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ช่างคุณเถอะเมื่อคุณปฏิเสธ  อะห์ลุลบัยต์แต่ไปเอานิทานของอบูฮุร็อยเราะห์มาอ้าง   แล้ววันนึงขณะที่คุณมั่นใจในวันนี้  คุณจะเป็นผู้ขาดทุน
                   

                                                                               วัสลาม


ออฟไลน์ ActionMask

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 250
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
ขอโทษครับ มีใครคนไหนในนี้เค้า ปฏิเสธท่านอาลี หรือ ลูกหลานท่านนบีหรือครับ เท่าที่อ่าน ลูกหลานท่านนบีเองต่างหากที่ปฏิเสธชีอะห์ ผมยังงงนะครับว่า ถ้าการกระทำของคอลีฟะห์ สามท่านแรก ผิด ทำไมท่านอาลีนิ่งเฉย มิหน้ำซ้ำ ถ้าท่านอาลีคิดว่า คอลีฟะห์ทั้งสามท่าน ขัดคำสั่งท่านนบี ท่านจะตั้งชื่อลูกๆ ท่านตามชื่อบรรดาคอลีฟะห์ทั้งสามทำไม

แล้วทำไมพวกท่านไม่ทำตาม ท่านอาลี ในการตั้งชื่อลูกๆ ตามชื่อของคอลีฟะห์ทางสามท่านแรก เหมือนอย่างที่ท่านอาลีทำ?

คิดว่าท่าน หรือ พวกเรา อะหลุลซุนนะห์ กันแน่ที่ปฏิเสธ ท่านอาลี ปฏิเสธอะลุ้ลบัยตฺ?

ออฟไลน์ Mannan

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 65
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ขอโทษครับ มีใครคนไหนในนี้เค้า ปฏิเสธท่านอาลี หรือ ลูกหลานท่านนบีหรือครับ เท่าที่อ่าน ลูกหลานท่านนบีเองต่างหากที่ปฏิเสธชีอะห์ ผมยังงงนะครับว่า ถ้าการกระทำของคอลีฟะห์ สามท่านแรก ผิด ทำไมท่านอาลีนิ่งเฉย มิหน้ำซ้ำ ถ้าท่านอาลีคิดว่า คอลีฟะห์ทั้งสามท่าน ขัดคำสั่งท่านนบี ท่านจะตั้งชื่อลูกๆ ท่านตามชื่อบรรดาคอลีฟะห์ทั้งสามทำไม

แล้วทำไมพวกท่านไม่ทำตาม ท่านอาลี ในการตั้งชื่อลูกๆ ตามชื่อของคอลีฟะห์ทางสามท่านแรก เหมือนอย่างที่ท่านอาลีทำ?

คิดว่าท่าน หรือ พวกเรา อะหลุลซุนนะห์ กันแน่ที่ปฏิเสธ ท่านอาลี ปฏิเสธอะลุ้ลบัยตฺ?
      ขอโทดทีมีอีกมากมายที่ตั้งชื่อลูกตัวเอง  ว่า อบูบักร   อุมัร   อุษมาน   มีเยอะแยะ       
     
         ท่านอะลี(อ)   มิได้นิ่งเฉย   แต่เพราะหลักฐานเกี่ยวกับเรื่องอะห์ลุลบัยต์มีน้อย  เพราะ ทั้งสามคอลีฟะห์สั่งห้ามพูดถึงเรื่องนบี(ศ)เพราะกลัวจะพาลไปเรื่องคอลีฟะห์   
 แต่ท่านอะลี(อ)ได้กล่าวไว้ใน คุฏบะห์ ของท่านตอนที่ท่านได้ตำแหน่งคืน   จากอุษมาน   ไม่แน่ใจว่า  คุฏบะห์ที่   3  หรือ 22   ลองไปอ่านดู  ใน นะห์ญุลบาลาเฆาะห์
                 
                                                                      วัสลาม

 

GoogleTagged