ผู้เขียน หัวข้อ: การตั้งชื่อมัซฮับ"สะละฟีย์"ปฏิมากรรมบิดอะฮ์ยุคใหม่ของวะฮาบีย์  (อ่าน 8734 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

นูรุ้ลอิสลาม

  • บุคคลทั่วไป

السلام عليكم ورحمة الله وبركاته

สิ่งที่ผมจะนำเสนอต่อไปนี้ เป็นทัศนะหนึ่งที่เป็นการนำเสนอในเชิงวิชาการ ไม่ใช่เป็นการกล่าวหา หากท่านใดไม่มีความเห็นด้วย หรือไม่พอใจในสิ่งที่ผมนำเสนอ ก็โปรดสนทนาในเชิงวิชาการ เพื่อยืนยันความถูกต้องในทัศนะของท่าน โดยที่ผมจะทำการสนทนาในเชิงวิชาการชี้แจงจุดยืนของผมต่อไป

คำว่า ซะลัฟ (السلف ) ในเชิงภาษาอาหรับนั้น หมายถึง ก่อน หรือ เวลาที่ผ่านมาแล้ว ศัพท์เทคนิคตามหลักวิชาการ หมายถึง กลุ่มชนสามศตวรรษแรกของอุมมะฮฺอิสลาม จากประชาชาติของท่านนบีมุหัมมัด (ซ.ล.)

ท่านอิบนุมัสอูด (ร.ฏ.)รายงานจากท่านร่อซูลุลเลาะฮฺ (ซ.ล.) ท่านกล่าวว่า " บรรดามนุษย์ที่ประเสริฐสุดคือศตวรรษของฉัน จากนั้นบรรดาบุคคลที่ถัดจากพวกเขา และจากนั้นบรรดาบุคคลที่ถัดมาจากพวกเขา ..." รายงานโดยท่านอิมามบุคอรีย์และมุสลิม

กลุ่มชนสามศตวรรษแรกนั้น สามารถจำแนกได้ดังนี้ คือ

1. บรรดาซอฮาบะฮฺ ซึ่งพวกเขาเป็นชนกลุ่มแรกที่รับอุดุมการณ์และอะกีดะฮฺต่างๆ จากท่านร่อซูลุลเลาะฮฺ(ซ.ล.)โดยตรง หลักการต่างๆ จึงมั่นคงและมีเสถียรภาพอยู่ในสติปัญญาและหัวใจของพวกเขา โดยยังความบริสุทธิ์จากความมัวหมองของบิดอะฮฺและความคลุมเคลือ

2. บรรดาตาบิอีน ซึ่งพวกเขาก็ยังได้รับสัมผัสทางนำของท่านนบี(ซ.ล.) ด้วยการเจริญรอยตามบรรดาซอฮาบะฮฺของท่านร่อซูลุลเลาะฮฺ(ซ.ล.) และได้รับการชี้นำจากพวกเขาจากการได้เห็น อยู่ร่วม และได้รับอิทธิพลจากคำสอนต่างๆ ของท่านร่อซูลุลเลาะฮฺ(ซ.ล.)

3. ตาบิอิตตาบิอีน ซึ่งพวกเขาอยู่ในยุคที่ความบริสุทธิ์ของหลักการอัลอิสลามได้ถูกแทรกซึมจากหลักการภายนอกที่ไม่ใช่อัลอิสลาม จึงทำให้บิดอะฮฺเกิดขึ้นอย่างเปิดเผย โดยบิดอะฮฺ ความลุ่มหลง และอารมณ์เข้ามามีบทบาทมากขึ้น จากสมัยหนึ่ง มายังอีกสมัยหนึ่ง จนกระทั้งถึงปัจจุบัน โดยที่ท่านร่อซูลุลเลาะฮฺ(ซ.ล.)ได้กล่าวยืนยันไว้แล้ว ท่านอะนัส บิน มาลิก รายงานจากท่านร่อซูลุลเลาะฮฺ(ซ.ล.) ว่า " ...กาลสมัยหนึ่งจะไม่ผ่านมากับพวกเจ้า นอกจากว่ากาลสมัยหลังจากนั้นจะเลวร้ายยิ่งกว่า" รายงานโดยบุคอรีย์และมุสลิม

ดังนั้นการเจริญรอยตามสะลัฟนั้น ไม่ใช่จำกัดอยู่ในอักษรหรือถ้อยคำต่างๆ ที่พวกเขาได้พูด หรือจุดยืนต่างๆที่พวกเขาได้บ่งถึง เนื่องจากพวกเขาไม่ได้กระทำแบบดังกล่าวเอาไว้ แต่พวกเขาจะหวนกลับไปกับสิ่งที่พวกเขาได้หุกุ่มขึ้นมา ไปยังหลักการต่างๆในการอธิบายบรรดาตัวบทและรากฐานในการวินิจฉัย

การหวนกลับไปยังกฏเกนฑ์และหลักการพื้นฐานต่างๆ นั้น ย่อมเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อบรรดามุสลิมทั้งหมด ในทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่าจะเป็นสะลัฟหรือเคาะลัฟ

เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงเป็นเรื่องที่ผิดพลาดในจุดหนึ่ง โดยที่เราจะยึดเอาคำว่า "สะลัฟ" มาเป็นชื่อเรียกเป็นมัซฮับขึ้นมาใหม่ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ชาริอัตอัลอิสลาม ท่านทั้งหลายพึงทราบเถิดว่า นั่นคือชื่อมัซฮับที่เกิดมาใหม่คือ " สะละฟียะฮฺ" ดังนั้นจึงไม่ถือว่าผิดแต่ประการใดหากเราจะกล่าวว่า การตั้งมัซฮับสะละฟียะฮฺซึ่งเป็นชื่อมัซฮับที่เกิดขึ้นมาใหม่นี้เป็นบิดอะฮฺในศาสนาอิสลาม โดยที่อุลามาอฺสะละฟุสซอลิหฺ และเคาะลัฟของประชาชาตินี้ไม่เคยรู้จักมันมาก่อน ทั้งที่อุลามาสะลัฟ(ร.ฏ.)เหล่านั้น ไม่เคยเอาคำว่า "สะลัฟ"นี้ มาตั้งเป็นมัซฮับสะละฟีย์ เพื่อ จะให้ตัวเองมีความโดดเด่น หรือมีแนวทางความคิดที่เฉพาะหรือมีสังคมที่เฉพาะสำหรับพวกเขา โดยทำให้พวกเขามีความโดดเด่นจากผู้อื่นที่ไม่ใช่แนวทางของพวกเขาจากบรรดามุสลิมีนโดยใช้ชื่อว่ามัซฮับสะละฟีย์

เมื่อเราพิจารณาในปัจจุบัน เราจะพบว่าสะละฟียูน หรือบางกลุ่มเรียกว่า วะฮาบีย์ จะอ้างว่า จำเป็นต้องเข้าใจอัลกุรอานและซุนนะฮฺ ด้วยการเข้าใจของสะลัฟ โดยที่พวกเขาเหล่านั้นคิดว่า ความเข้าใจของสะลัฟนั้น เป็นหลักฐานตามหลักศาสนาต้องจำเป็นต้องปฏิบัติตาม ซึ่งคำพูดของพวกเขานั้น มีความหลงผิดอยู่ 2 ประการ

1. สะลัฟนั้น ไม่ได้มีความเห็นพร้องในการเข้าใจมัสอะละฮฺ หรือปัญหาประเด็นต่างๆไปทั้งหมด ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีมัซฮับใดมัซฮับหนึ่งอันเป็นที่รู้จักกัน จนกระทั้งทำให้เรียกกันว่า นั่นคือ มัซฮับสะลัฟ หรือความเข้าใจของสะลัฟ หรือจำเป็นต้องตามสิ่งต่างๆด้วยความเข้าใจของสะลัฟ หากเราศึกษาบรรดาหนังสืออัลหะดิษหรือบรรดาคำกล่าวของสะลัฟ อย่างเช่นหนังสือ "อัลมุซันนัฟ" ของท่าน หาฟิซ อัลดุรร๊อซฺซฺาก และท่านอิบนุชัยบะฮฺ เราจะพบตัวอย่างมากมายเกี่ยวกับความเห็นต่างๆที่มีการขัดแย้งและมีความแตกต่างกันจากอุลามาอฺสะลัฟ

สะละฟียะฮฺปัจจุบันพยายามเรียกร้องให้เราให้ยึดความเข้าใจจากสะลัฟ แต่ในทางตรงกันข้าม เราจะเห็นว่าพวกเขาต่างหลีกเลี่ยง ความเข้าใจของบรรดาอิมามทั้งสี่ หรือมัซฮับทั้ง 4 พวกเขาพยายามบอกว่าไม่ให้เราตักลีดตามอิมามชาฟิอีย์ อิมามมาลิก อิมามอบูหะนีฟะฮฺ อิมามอะหฺมัด (ร่อฏิยัลเลาะฮฺฮุอันฮุม) ทั้งที่พวกเขาคืออุลามาอฺสะละฟุสซอลิหฺ !! แต่ในสภาพของความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในเชิงการกระทำ พวกเขากลับส่งเสริมให้ผู้คนทั้งหลายตามความเข้าใจ อุลามาอฺที่ไม่ใช่อยู่ในยุคสะลัฟ เช่น ชัยคฺ อิบนุตัยมียะฮฺ ชัยคฺบินบาซฺ และชัยคฺ นาซิร อัลบานีย์ เป็นต้น

2. ไม่มีหลักฐานใดจากอัลกรุอานและซุนนะฮฺ ที่ชี้ให้เห็นว่า ไม่จำต้องใช้สติปัญญาของเราที่อัลเลาะฮฺทรงประทานให้ ในการเข้าใจอัลกุรอานและซุนนะฮฺ ด้วยความเข้าใจที่ไม่ใช่ของเราแต่ต้องตามสะลัฟ ตราบใดที่คนหนึ่งถึงขั้นระดับที่สามารถวินิจฉัยในตัวบทได้ ดังนั้น อัลเลาะฮฺได้ทรงให้บรรดามุสลิมทำความเข้าใจตัวบทจากคำบรรชาใช้และห้ามของ โดยใช้คำว่า "โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย" ซึ่งหมายความปกคลุมของสะลัฟและเคาะลัฟโดยทั้งหมด ตราบใดที่พวกเขาอยู่ในระดับขั้นที่อิจญฺติฮาดวินิจฉัยได้ ไม่ใช่ว่าผู้ที่มีคุณสมบัติวินิจฉัยได้นั้น ต้องยึดความเข้าใจของสะลัฟเพียงอย่างเดียว

ดังนั้น ความเข้าใจของบรรดามุจตะฮิดนั้น ไม่ว่าจะเป็น สะลัฟ หรือ เคาะลัฟ ก็ถูกพิจารณาได้ว่าเป็นหลักชาเราะอฺสำหรับคนเอาวามทั่วไปที่ไม่สามารถเข้าใจอัลกุรอานและซุนนะฮฺโดยตรงได้ และมติอิจญฺมาอฺของบรรดามุจตะฮิด ไม่ว่าจะเป็นยุคสะลัฟ หรือเคาะลัฟ นั้น ถูกพิจารณาว่าเป็นหลักชาเราะอฺ เป็นหลักฐานตามหลักชาริอะฮฺได้ แต่สิ่งที่อื่นจากนั้นย่อมถือว่าไม่ถูกต้อง!!

ได้มีหะดิษที่ซอเฮียะฮฺโดยการสนับสนุนจากสายรายงานอื่น มีความว่า


مثل أمتى مثل المطر ، لا يدرى أوله خير أم أخره

" ประชาชาติของฉัน อุปมาดังสายฝน โดยที่ไม่รู้ว่าฝนช่วงแรกหรือช่วงหลังที่ดีกว่ากัน " รายงานโดยอิมามอะหฺมัด เล่ม 3 หน้า 130 และท่านตัรมิซีย์ เล่ม 5 หน้า 152 ฮะดิษที่ 2869
ท่านจะพบว่า หะดิษนี้ชี้ถึงความประเสริฐของชนเคาะลัฟเช่นเดียวกับสะลัฟ

ท่าน อัลหาฟิซฺ อิบนุ อัลเญาซีย์ กล่าวว่า " ท่านอิมามอะหฺมัด ได้ถูกถามเกี่ยวกับปัญหาหนึ่ง แล้วท่านก็ได้ทำการฟัตวา จึงคนกล่าวแก่ท่านว่า นี้ ท่านอิบนุ อัลมุบาร๊อก ไม่ได้กล่าวไว้ ดังนั้นท่านอิมามอะหฺมัดกล่าวตอบว่า อิบนุ อัลมุบาร๊อก ไม่ได้ลงมาจากฟากฟ้านี่!! " ดู ดัฟอฺ ชุบะฮฺ อัตตัชบีฮฺ หน้า 111 ซึ่งหมายความว่า ความเข้าใจของสะลัฟนั้น ไม่ใช่เป็นหลักฐานที่จำเป็นบนเราต้องปฏิบัติด้วยความเห็นของเขาเสมอไป

จึงเป็นที่แปลกใจอย่างยิ่ง ที่สะละฟียูนปัจจุบัน ชอบอ้างว่า สิ่งที่พวกเขาได้กล่าว จากบรรดาความเห็น หรือบรรดาคำพูดต่างๆของพวกเขา คือ มัซฮับ แนวทางของสะลัฟ เพื่อที่จะให้คนทั่วไป หรือคนที่เชื่อคนอื่นง่าย เข้าใจผิดหลงเชื่อ เพื่อพวกเขาจะได้เผยแพร่บรรดาความเห็นของพวกเขาที่ไม่ต้องถูกต้อง และพวกเขาต่างเรียกร้องไปสู่อากิดะฮฺของ กลุ่ม อัลมุญัสสิมะฮฺ โดยบอกว่า อัลเลาะฮฺ มีอวัยวะ มีมือ มีตา มีเท้า มีหน้าแข้ง มีสีข้าง ที่มีความเข้าใจตามที่คนทั่วไปเข้าใจ แต่มีไม่เหมือนกับเรา !!?? แล้วพวกเขาก็บอกว่า นี้คือ แนวทางของสะลัฟ !!??

ดังนั้น เราอัลอะชาอิเราะฮฺ และอัลมะตูริดียะฮฺ อะฮฺลิสซุนนะฮฺวัลญะมาอะฮฺ จากมัซฮับทั้งสี่ คือมัซฮับ อิมามอัชชาฟิอีย์ มัซฮับอิมามมาลิก มัซฮับอิมามอบูหะนีฟะอ์ และมัซฮับอิมามอะหฺมัด คือผู้ที่เจริญรอยตามสะลัฟ ไม่ใช่อยู่มัซฮับสะละฟีย์

บางท่านกล่าวว่า มัซฮับเกิดขึ้นมาเพราะการเมือง บางท่านกล่าวอ้างอำพรางว่ามะลาอิกะฮฺไม่ถามในกุโบรว่าเราสังกัดมัซฮับอะไร บางท่านกล่าวว่าบรรดาอิมามทั้ง4 ไม่ได้ใช้ให้ตามพวกเขาโดยผู้อ้างนั้นพยายามให้เราเลิกสังกัดมัซฮับ บางท่านกล่าวว่าอิสลามไม่มีมัซฮับ!! บางท่านกล่าวว่าการสังกัดมัซฮับนั้นเป็นกุฟุร บ้างกล่าวอำพรางอย่างไม่เข้าใจว่าการตามอัลกุรอานและซุนนะฮฺนั้นมะอฺซูม แต่การตามมัซฮับนั้นไม่มะซูมจึงต้องทิ้งมัซฮับ ซึ่งคำกล่าวต่างๆ เหล่านี้ มาจากบรรดาซะละฟีย์ที่เป็นปฏิปักษ์กับมัซฮับทั้งสี่ ซึ่งการไม่มีมัซฮับนั้นย่อมเป็นบิดอะฮฺที่มาคุกคามโลกอิสลามในปัจจุบัน

والسلام

อัล-อัซฮะรีย์

--------------------------------------------------------------------
อ้างอิงบทความเก่าของ อัล-อัซฮะรีย์  จากเว๊ปมรดกฯ

นูรุ้ลอิสลาม

  • บุคคลทั่วไป
ว่าง ๆ นึกขึ้นได้ว่าพวกเราได้เขียนบทความที่น่าสนใจไว้ก็นำมาเสนอข้อเท็จจริง  คำว่า "สะละฟีย์"  หมายถึงกลุ่มที่อ้างตนเองว่าตามสะลัฟ  ซึ่งเป็นชื่อที่วะฮาบีย์ได้อุตริตั้งขึ้นมาเพื่อตบตาและแอบอ้างโปรโหมตและโฆษณาชวนเชื่อหลักการของตนที่เป็นบิดอะฮ์  ดังนั้น การอ้างตนเองว่าอยู่มัซฮับสะละฟีย์  จึงถือว่าเป็นบิดอะฮ์!!

นูรุ้ลอิสลาม

  • บุคคลทั่วไป
ว่าง ๆ จะมาสานต่อครับ อินชาอัลเลาะฮ์  หากผู้ใดมีอะไรนำเสนอแนะ  เชิญได้เลยครับ 


วัสลาม

ออฟไลน์ ahmedisa

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 102
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
น่าน คุณปู่อัลฯ  จะพยายามสร้างกระแสอะไรอีกครับ    สลาฟก็คือสลาฟ  สี่มัซฮับก็พยายามทำให้ใกล้เคียงสลาฟ เขายอมรับคำว่าสลาฟ พี่น้องที่คุณปู่อัลฯพยายามบอกว่ามันคือวะฮาบีย์อะไรของปู่เนี่ย เขาก็ต้องการความเป็นสลาฟ  ผมว่าบทความที่คุณปู่อัลฯ ลงมาในกระทู้ไม้ได้สร้างความเป้นกลางตรงไหนเลย คุณปู่อัลฯพยายามโจมตี โจมตี และโจมตี  อะไรคือที่มาของกระดานเสวนาศาสน
ธรรมของเว็บไซต์ครับ 

ปู่ก็เอาส่วนเดียวมาลงเป็นหลักฐาน    ดูๆคุณปู่เป็นกลางดีเนอะ

ในกระทู้เหมือนไม่ได้ว่ากันเลยเนอะ    เหมือนกะลังชี้แจงเนอะ 

ปู่ก็พยายามสรรหาคำแบบไหนก็ได้เพื่อให้คนอ่านรู้สึกสุนทรีย์และให้คนอ่านรู้สึกว่าสำนวนวต่างๆที่ผ่านสมองมันเป็นสำนวนแห่งความเป็นอาดิ้ล   แต่อิสลามบอกให้มองที่หลักฐานนะครับ  ปู่อัลฯยกมาหมดหรือยังครับที่ปู่อัลพยายามบอกว่าชัยค์เหล่านั้นไม่เห็นชอบ  ถ้าหมดแล้วปู่อัลฯต้องยกของฝ่ายตรงข้ามด้วยยกให้ลึกให้หมดด้วยสิปู่    ยกของซูฟีย์ด้วย ซูฟีย์เองก็มีคำว่าสลาฟุสซอลิห์อยู่ในกลุ่มพวกเขา  พี่น้องตับลีฆก็มี  หรือแม้แต่ชีอะห์ตัวน่าเกลียด บางกลุ่มก็มี   

ผมถามปู่อัลฯแล้วน่ะว่า  สี่อิมห่ามอยู่มัซฮับอะไร ปู่อัลฯหนี "เฉยเลย"  ปล่อยให้หลานอารมณ์ค้างงั้นน่ะ   หลายๆกระทู้คุณปู่ตอบนิดหน่อย ยกหลักฐานนิดนึง แล้วก็ใช้สำนวนป่วนนิดหน่อย  แล้วก็ล็อคกระทู้ประมาณนี้น่ะครับ   

ผมไม่ได้โกรธเกลียดปู่นะ  ผมรักปู่เหมือนเดิม   แต่ผมไม่อยากปู่เป็นชนวนในการพรากพี่น้องที่เขามีการค้นคว้าศึกษา พวกเขายังเป็นนักดาอีย์อีกได้หลายปี ซึ่งถ้าเปรียบกับปู่แล้วรุ่นหลานๆได้เปรียบกว่าแน่นอน อินชาอัลเลาะห์     ดังนั้นปู่อย่าสร้างความร้าวฉานให้ระหว่างกลุ่มนะครับ  ถ้าจะเสวนาก้ขอให้ปู่ช่วยกลับไปดูความนิยามด้วย   ดูความนิยามของการเสวนาแบบอิสลามนะครับ   เสวนาแบบสังคมอิสลามเขาทำอย่างไรปู่น่าจะเคยทำบ้างสมัยหนุ่มๆนะหรือแก่ๆก็ยังมีให้เห้นในหมู่พวกเขา   

ปู่ไม่ตอบเพราะปู่โกรธหลานคนนี้ก็ช่วยเปิดเอ็มคุยด้วย  หลานรอเกือบเดือนแล้ว บางคืนปู่เปิดแต่ปู่ไม่คุยด้วย     


รักปู่เสมอ

ปล.เมื่อก่อนเรียกพี่ชาย   แต่ด้วยกับความเป้นเด็กเดี๋ยวเหมือนผมจะปีนเกลียวเลยขอเรียก คุณปู่สุดที่รักล่ะกันครับ ;) ;) ;)
munsheed filislam
www.myspace.com/ababeelrec โหลดฟรี

http://ahmedisa.multiply.com ท่วงทำนองของนักต่อสู้

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ขอบคุณบังนูรฯ ที่นำบทความเก่า ๆ มานำเสนอ  คุณ ahmedisa บทความดังกล่าว  ผมได้เขียนไว้ในกระทู้เวปไซท์มรดกอิสลาม  เกือบจะสองปีได้มั้งครับ  แต่เมื่อเป็นบทความของผมถูกอ้างอิงมา  ยังไงผมก็ต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบและชี้แจงครับ  อินชาอัลเลาะฮ์
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

คนอยากรู้

  • บุคคลทั่วไป
ครับ เป็นกระทู้ที่ผมชอบมากครับ  อะไรๆๆที่เป้นบิดอของวะฮาบีญืแล้วผมจะไม่ทราบที่จะเก็บเกี่ยวความรู้เลยครับ

น้องนุรุ้ลอิสลาม น้องอัลอัชฮารีย์

ออฟไลน์ salamah

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 761
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
สลามค่ะ
                ก็ขอเป็นผู้อ่านและเป็นผู้รับฟังที่ดีอีกคนนึงนะคะ.........ทุกๆท่าน :) :)   แต่อย่าทะเลาะกันนะคะ :'( :'(
ถึงไม่รอบรู้ทุกด้าน    แต่ขอเป็นมุสลิมะห์ที่ดีก็พอ

ออฟไลน์ Goddut

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 854
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
บอกน้อง อีซา แล้ว
เรื่อง มัซฮับ
น้องอีซา ไม่อ่าน และฟังคนอื่น
เอาแต่จะกวน อัลอัช เสมอ
พี่ก็ไม่เข้าใจว่า น้องอีซา ต้องการอันใดกันแน่

เพราะที่ อัลอัช ตอบไป ว่า 4 มัซฮับนั้น เขามีแนวทางของตัวเอง
อีซา ก็ยังไม่เข้าใจ ตลกจริงๆ.......

วัสลาม...

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com

ปู่ก็เอาส่วนเดียวมาลงเป็นหลักฐาน    ดูๆคุณปู่เป็นกลางดีเนอะ

ในกระทู้เหมือนไม่ได้ว่ากันเลยเนอะ    เหมือนกะลังชี้แจงเนอะ 


คุณ ahmedisa  พูดเหมือนกับว่ามีหลักฐานมาชี้แจงเกี่ยวกับประเด็นนี้   ดังนั้น  คุณ ahmedisa  ลองเอาหลักฐานที่เกี่ยวกับประเด็นนี้มานำเสนอซิครับ  ผมจะรอและรับผิดชอบในบทความของผม  หากมีพี่น้องนำมาเสนออ้างอิง  อินชาอัลเลาะฮ์
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ salamah

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 761
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด

ปู่ก็เอาส่วนเดียวมาลงเป็นหลักฐาน    ดูๆคุณปู่เป็นกลางดีเนอะ

ในกระทู้เหมือนไม่ได้ว่ากันเลยเนอะ    เหมือนกะลังชี้แจงเนอะ 


คุณ ahmedisa  พูดเหมือนกับว่ามีหลักฐานมาชี้แจงเกี่ยวกับประเด็นนี้   ดังนั้น  คุณ ahmedisa  ลองเอาหลักฐานที่เกี่ยวกับประเด็นนี้มานำเสนอซิครับ  ผมจะรอและรับผิดชอบในบทความของผม  หากมีพี่น้องนำมาเสนออ้างอิง  อินชาอัลเลาะฮ์

ใจเย็นนะคะ........คุณปู่ฯใจเย็นค่ะ.......
ถึงไม่รอบรู้ทุกด้าน    แต่ขอเป็นมุสลิมะห์ที่ดีก็พอ

ออฟไลน์ sufriyan

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 526
  • เพศ: ชาย
  • 0000
  • Respect: +16
    • ดูรายละเอียด
ทำหน้าที่ของเราเถอะครับ คุณอัลฯ  อย่าเสียเวลากับคนที่ยังไงก็ไม่เข้าใจหรอก ถ้าเค้าอยากเสวนาเดี๋ยวเค้าก็คงอ้างอิงวิชาการเองแหละ หากไม่งั้นเดี๋ยวเค้าก็คง..........เองเหมือนกัน  ยังมีหลายคนรอคอยวิชาการอยู่ครับ :D :D

ออฟไลน์ salamah

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 761
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ทำหน้าที่ของเราเถอะครับ คุณอัลฯ  อย่าเสียเวลากับคนที่ยังไงก็ไม่เข้าใจหรอก ถ้าเค้าอยากเสวนาเดี๋ยวเค้าก็คงอ้างอิงวิชาการเองแหละ หากไม่งั้นเดี๋ยวเค้าก็คง..........เองเหมือนกัน  ยังมีหลายคนรอคอยวิชาการอยู่ครับ :D :D


นำเสนอต่อเถอะค่ะ.........ทำหน้าที่ของพวกคุณไปเถอะ    หลายคนก้อหลากหลายความคิดหลากหลายมุมมองนะคะ........อันนั้นก้อต้องเข้าใจค่ะ
แต่สิ่งหนึ่งที่พวกคุณจะต้องจำไว้นะน่ะ..........ก็คือทำทุกอย่างที่พวกคุณตั้งใจไว้ไงคะ    ปัญหาเล็กๆน้อยๆก็อาจจะมีบ้างนะ
แต่ทุกปัญหาเราก็คุยกันได้นี่ใช่ไหมคะ....... :) :) :)
ถึงไม่รอบรู้ทุกด้าน    แต่ขอเป็นมุสลิมะห์ที่ดีก็พอ

ออฟไลน์ ahmedisa

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 102
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
munsheed filislam
www.myspace.com/ababeelrec โหลดฟรี

http://ahmedisa.multiply.com ท่วงทำนองของนักต่อสู้

นูรุ้ลอิสลาม

  • บุคคลทั่วไป
ผมเข้าใจว่า คุณ ahmedisa  เข้ามาปกป้องวะฮาบีย์  และพยายามให้เราไม่โจมตีวะฮาบีย์  ;D

ออฟไลน์ Sunnah so

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 56
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ผมเข้าใจคุณอัชฯ คุณนูรุ้ล คุณอะหมัดอีซาและคนอื่นๆในการเรียนรู้และถ่ายทอดทัศนะ แต่ไม่เข้าใจคุณก๊อดดัต ไม่รู้ว่าสบายดีอะปล่าว
จงเข้มข้นกับความฝัน และเข้มแข็งกับผลลัพท์ (แอบเอามาจากรถเมล์)

 

GoogleTagged