เรื่อง ศิฟาตอัล-กะลาม..وحدث أبو حامد الشارفي عن أبي القاسم ابن أبيه سمع عن أحمد بن حنبل قال من قال لفظي بالقرآن مخلوق فهو جهمي ؛ ومن قال لفظي بالقرآن غير مخلوق فهو مبتدع. وقال عبد الله : كان أبي يكره أن يتكلم في اللفظ يعني فيقال مخلوق أو غير مخلوق.
ความว่า อะบูหามิด อัช-ชาริฟีย์ ได้กล่าวมาจาก อะบีกอเซม อิบนุ อุบัยฮฺ ซึ่งได้ฟังจากอิมาม อะหฺมัด บิน หัมบัล กล่าวว่า"ผู้ใดก็ตาม
ที่ใด้กล่าวว่า ตัวบทอัล-ผู้กุรอาน คือ มัคลูก ดังนั้น เขาคือ พวกญะฮฺมีญะฮฺ และผู้ใดที่กล่าวว่าตัวบทอัล-กุรอาน ไม่ใช่มัคลูก ดังนั้น
เขาคือ พวกอุตริกรรม". และท่าน อับดุลลอฮฺ กล่าวว่า "บิดาของฉันรังเกียจในการที่จะกล่าวถึงตัวบทอัลกุรอานว่า เป็นมัคลูก หรือ
ไม่เป็นมัคลูก" ดู หนังสือ อิซฮาร อัล-อะกีดะฮฺ อัส-สุนนียะฮฺ บิ ชัรหิ อัล-อะกีดะฮฺ อัฎ-เฎาะหาวียะฮฺ โดย เชค อับดุลลอฮฺ อัล-ฮะเราะรีย์ หน้าที่ 101
คำถาม1. คำกล่าวของ อิมาม อะหฺมัด ที่ว่า
من قال لفظي بالقرآن مخلوق فهو جهمي ؛ ومن قال لفظي بالقرآن غير مخلوق فهو مبتدع.
ความว่า "ผู้ใดก็ตามที่ใด้กล่าวว่า ตัวบทอัล-ผู้กุรอาน คือ มัคลูก ดังนั้น เขาคือ พวกญะฮฺมีญะฮฺ และผู้ใดที่กล่าวว่าตัวบทอัล-กุรอาน
ไม่ใช่มัคลูก ดังนั้น เขาคือ พวกอุตริกรรม"
นี่เป็นคำกล่าวของท่านจริงหรือเปล่า หากเป็นคำกล่าวของท่าน เราจะเข้าใจความหมายมันอย่างไร?
2. กะลามุลลอฮฺนั้น มีหุรุฟ และ เสียงหรือไม่ อย่างไร?
3. ตัวอักษรต่างๆ ที่ถูกบันทึกลงในอัล-กุรอานเป็นอายะฮฺๆ นั้น เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นใหม่ซึ่งมาจากลิ้นของท่านรสูลหรือไม่ อย่างไร?
4. อะชาอิเราะฮฺได้แบ่งแยกศิฟาตอัล-กะลามของอัลลอฮฺอย่างไร?
หวังว่าจะเป็นประโยชน์แด่ผู้อ่านครับ