بسم الله الرحمن الرحيم
الحمد لله رب العالمين و الصلاة والسلام على سيدنا محمد وعلي اله وصحبه أجمعين
มันเป็นสิทธิของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ที่จะไม่ต้องการให้บุคคลอื่นยืนให้เกียรติอันเนื่องจากความนอบน้อมถ่อมตนของท่าน
แต่ทว่าการยืนให้เกียรติผู้อื่นถือว่าไม่ใช่เป็นสิ่งที่ฮะรอม เพราะยังมีฮะดิษอื่นอีกที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ใช้ให้ชาวอันซอรได้ใช้ให้ยืนให้แก่ สะอัด บุตร มุอาซฺ และท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ยืนให้แก่ฟาติมะฮ์บุตรีของท่าน
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ซึ่งท่านมุสลิมได้รายงานว่า
قَالَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ لِلْأَنْصَارِ قُومُوا إِلَى سَيِّدِكُمْ
"ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวแก่ชาวอันซอรว่า พวกท่านจึงยืนให้แก่หัวหน้าพวกเขาท่าน" (3314)
ท่านอิมามอันนะวาวีย์ กล่าวว่า
قُلْت : الْقِيَام لِلْقَادِمِ مِنْ أَهْل الْفَضْل مُسْتَحَبّ , وَقَدْ جَاءَ فِيهِ أَحَادِيث , وَلَمْ يَصِحّ فِي النَّهْي عَنْهُ شَيْء صَرِيح , وَقَدْ جَمَعْت كُلّ ذَلِكَ مَعَ كَلَام الْعُلَمَاء عَلَيْهِ فِي جُزْء وَأَجَبْت فِيهِ عَمَّا تَوَهَّمَ النَّهْي عَنْهُ . وَاَللَّه أَعْلَم
"ฉัน (คืออิมามนะวาวีย์) ขอกล่าวว่า การยืนให้แก่ผู้มีคุณธรรมที่ได้มาหานั้น เป็นสิ่งที่มุสตะฮับ (ชอบให้กระทำ) ซึ่งแท้จริงแล้วมีบรรดาฮะดิษที่ระบุเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยที่ไม่มีฮะดิษซอฮิห์ใด ๆ ที่ชัดเจนเลยที่ห้ามจากการยืน และแท้จริงฉันได้รวบรวมทุก ๆ ฮะดิษดังกล่าวพร้อมกับคำกล่าวของอุลามาอ์ พร้อมกับทำการตอบสิ่งที่คลุมเคลือในการห้ามการยืน" ชัรห์ซอฮิห์มุสลิม
ท่านอิมามคอฏีบ อัชชัรบีนีย์ ได้กล่าวว่า "สุนัตให้ทำการยืนให้แก่ผู้มีคุณธรรม อันเนื่องจากมีความรู้ เป็นคนดี มีเกียรติ และอื่น ๆ โดยยืนเพื่อให้เกียรติ ไม่ใช่เพื่อโอ้อวดและยะโส ท่านอิมามอันนะวาวีย์ ได้กล่าวไว้ในหนังสือ อัรเราเฎาะฮ์ว่า ได้มีบรรดาฮะดิษที่ซอฮิห์ยืนยันเกี่ยวกับเรื่องการยืนให้เกียรติ" หนังสือมุฆนิลมั๊วะห์ตาจญ์ 4/232
ท่านบุคอรีย์ ได้รายงานจาก ท่านหญิงอาอิชะฮ์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮา ซึ่งท่านนางได้กล่าวว่า
ما رأيت أحدا من الناس كان أشبه بالنبي صلى الله عليه و سلم كلاما ولا حديثا ولا جلسة من فاطمة قالت وكان النبي صلى الله عليه و سلم إذا رآها قد أقبلت رحب بها ثم قام إليها فقبلها ثم أخذ بيدها فجاء بها حتى يجلسها في مكانه وكانت إذا أتاها النبي صلى الله عليه و سلم رحبت به ثم قامت إليه فقبلته
"ฉันไม่เคยเห็นคนใดที่จะมีความคล้ายคลึงกับท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ในทางคำพูด การสนทนา การนั่ง ยิ่งไปกว่าท่านหญิงฟาติมะฮ์ - ท่านหญิงอาอิชะฮ์กล่าวว่า - เมื่อท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้เห็นท่านหญิงฟาติมะฮ์ ท่านก็จะหันให้การต้อนรับนางและลุกขึ้นยืนให้แก่นาง แล้วท่านก็จูบนาง และจูงมือนาง แล้วท่านก็จูงมือนางมาจนกระทั่งเชิญให้นางนั่งในสถานที่ของท่าน และเมื่อท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ไปหานาง นางก็จะให้การต้อนรับและยืนให้แก่ท่าน และจูบท่านนบี ศ็อลลัลลออฮุอะลัยฮิวะซัลลัม" กิตาบ อัลอะดับ อัลมุฟร็อด (947) ฮะดิษซอฮิห์
ดังนั้น ใครบอกว่าการยืนให้เกียรติเป็นสิ่งที่ฮะรอม เขาย่อมปฏิเสธอีกฮะดิษอื่นอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะฮะดิษนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จะไม่ค้านกันเอง และบางครั้งบางสิ่งบางอย่างนบีไม่ชอบที่จะให้กระทำกับท่าน แต่ท่านชอบให้กระทำกับคนอื่น เพราะมันเป็นสิทธิพิเศษสำหรับท่านนะครับ เช่น การถือศีลอดติดต่อกัน 2 วัน หรือ 3 วัน เป็นศิษย์พิเศษของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ซึ่งท่านไม่ชอบให้คนอื่นกระทำเหมือนกับท่าน และการเช่นที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ใช้ให้คนอื่นเดินนำหน้าท่านนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าห้ามมุสลิมเดินนำหน้า ดังนั้น การที่ท่านนบีนอบน้อมถ่อมตนไม่ต้องการให้ผู้อื่นยืนให้เกียรติ ก็มิได้ห้ามให้พี่น้องมุสลิมยืนให้เกียรติต่อผู้อาวุโสที่มีคุณธรรม ทำไมถึงไม่ห้ามล่ะ นั่นก็เพราะว่าท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ใช้ให้ชาวอันซอรยืนให้แก่สะอัด บุตร อาซฺ เพราะหากการยืนให้เกียรติิเป็นสิ่งที่ฮะรอมต้องห้าม แน่นอนว่า นบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ต้องไม่ใช้ชาวอันซอรเยี่ยงนั้น คือท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จะไม่ใช้ิสิ่งที่ฮะรอมครับ
والله سبحانه وتعالي أعلي وأعلم