เสวนาเชิงวิชาการ > สนทนาศาสนธรรม

ของขวัญ...แด่ผู้ป่วย

<< < (9/12) > >>

นูรุ้ลอิสลาม:

เป็นกระทู้ที่ดีมากกระทู้หนึ่งเลยทีเดียว  ยะซากิลลาฮิคอยร๊อน  mycool:

คนเดินดิน:
salam

     เพิ่งหายไปหมาด ๆ

เป็นโรคกระเพาะอาหาร

อาจเป็นได้ว่ารับประทานอะไรที่อัลลอฮ์ไม่ประสงค์ลงไป

เลยถูกล้างเครื่องยกใหญ่

เจ็บมั่ก ๆ แต่อัลฮัมดูลิลลาฮ์

ยังหายใจได้อยู่จนถึงวันนี้

อินชาอัลลอฮ์...

     หากผิดพลาดประการใดโปรดอภัยให้ด้วยนะพี่น้อง

 loveit:

nujjaba:
5- เมื่อผู้ป่วยอยู่ในสถานที่ที่ไม่มีน้ำ  ไม่มีฝุ่นดิน  และไม่มีผู้ที่จะนำเอาน้ำหรือฝุ่นดินมาให้ได้  ดังนั้น  ก็ให้ผู้ป่วยทำการละหมาดได้ตามสภาพที่เป็นอยู่  และไม่มีสิทธิที่จะยืดเวลาทำการละหมาดให้ล่าช้าออกไปจากเวลาของมัน  ดังคำดำรัสของอัลลอฮฺที่ว่า

"ดังนั้น  พวกเจ้าทั้งหลายจงเกรงกลัวอัลลอฮฺเถิด  เท่าที่พวกเจ้าจะสามารถ ( กระทำได้ )"  ( อัตตะฆอบุน  อายะฮฺที่  16 )

6- ผู้ป่วยที่ป่วยเป็นโรคปัสสาวะกะปริดกะปรอย  หรือเลือดไหลออกมาอยู่เสมอ  หรือผายลมอยุ่เป็นประจำหรือไม่เป็นเวลา  หลังจากเยียวยารักษาแล้ว  ก็ยังไม่หาย  อนุญาตให้ผู้ป่วยทำการอาบน้ำละหมาดทุกครั้งที่จะทำการละหมาด  หลังจากเข้าเวลาละหมาดแล้ว  และให้ชำระล้างสิ่งสกปรกที่มาเปรอะเปื้อนร่างกายและเสื้อผ้าของเขาเสียก่อน  หรือให้เปลี่ยนเอาเสื้อผ้าที่สะอาดเพื่อใช้ทำการละหมาด  ถ้าหากการกระทำนั้น  เป็นที่สะดวกสำหรับเขา  ดังที่อัลลอฮฺ  ตะอาลา  ทรงกล่าวไว้ว่า

"และ ( อัลลอฮฺ )  ไม่ทรงทำให้เกิดความยากลำบากใดๆ แก่พวกเจ้าในเรื่องศาสนา"  ( อัลฮัจญ์  อายะฮฺที่  78 )


และคำดำรัสของอัลลอฮฺ  ตะอาลา  ที่ว่า

"อัลลอฮฺ  ทรงประสงค์ความสะดวกง่ายดายให้แก่พวกเจ้าและพระองค์ไม่ทรงประสงค์  ให้มีความยุ่งยากลำบากแก่พวกเจ้าเลย" 
( อัลบะเกาะเราะฮฺ  อายะฮฺที่  185 )


และท่านนบี  ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้กล่าวว่า

قال النبي صلى الله عليه وسلم  : إذا أمرتكم بأمر فأتوا منه ما ا ستطعتم" متفق عليه"

"เมื่อฉันใช้ให้พวกท่านกระทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด  พวกท่านก็จงทำสิ่งนั้นเท่าที่พวกท่านจะสามารถกระทำได้"

( บันทึกโดย  อิมามอัลบุคอรีย์  และอิมามมุสลิม )

ให้ผู้ป่วยระมัดระวังตัวเผื่อเอาไว้ ( โดยใช้ผ้าอ้อมสำเร็จรูป )  เพื่อไม่ให้ปัสสาวะ  หรือเลือดกระเซ็นไปเปื้อนเสื้อผ้า  เปื้อนร่างกาย  หรือเปื้อนสถานที่ที่เขาทำละหมาดอยู่
อนุญาตให้ผู้ป่วยทำการละหมาดอย่างสะดวกง่ายๆ สั้นๆ ในช่วงเวลานั้น  และอนุญาตให้ผู้ป่วยอ่านอัลกุรอาน ( ในขณะที่เขาทำการละหมาด ) จนกระทั่งหมดเวลา  เมื่อเวลาของการทำละหมาดหนึ่งหมดไป  และเวลาการทำละหมาดอื่นได้เข้ามา  ก็จำเป้นที่เขาจะต้องไปทำน้ำละหมาดใหม่อีก  หรือไม่ก็ให้ทำการ "ตะยัมมุม" ถ้าเขาไม่สามารถใช้น้ำทำน้ำละหมาดได้

เนื่องจากท่านนบี  ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้ใช้ให้หญิงที่มีเลือดออกมาผิดปกติ ( มุซตะฮาเฏาะฮฺ ) ทำน้ำละหมาดทุกครั้งในเวลาของการทำละหมาด
"อัลมุซตะฮาเฏาะฮฺ" นั้น  คือ  หญิงที่มีเลือดออกมาอยู่เสมอซึ่งเลือดนั้นไม่ใช่เลือดประจำเดือน 

กรณีผู้ป่วยเป้นโรคปัสสาวะกะปริดกะปรอยบ่อยๆ หลังจากได้ทำน้ำละหมาดแล้ว  ยังมีปัสสาวะไหลซึมออกมาในขณะที่ได้เวลาละหมาด  ก็ให้เขาทำละหมาดได้เลยซึ่งจะไม่ทำให้เกิดผลเสียใดๆ แก่เขา

ถ้าผู้ป่วยต้องเข้าเฝือก  หรือมีผ้าพันแผล  ซึ่งมีความจำเป็นจะต้องคงไว้เช่นนนั้นก่อน  ก็ให้เขาเช็ด  หรือลูบลงไปบนเฝือก  หรือบนผ้าพันแผลนั้น  และในการทำน้ำละหมาด  หรือในการอาบน้ำชำระล้าง  และต้องชำระล้างอวัยวะในส่วนต่างๆ ที่นอกเหนือจากนั้น  และถ้าการใช้น้ำเช็ดหรือลูบลงไปบนเฝือก  หรือล้างอวัยวะที่อยู่ในบริเวณนั้น  จะทำให้เกิดอันตราย  ก็เป็นที่พอเพียงสำหรับเขาในการทำ "ตะยัมมุม" ( ใช้ฝุ่นดิน ) แทน  ณ  ตำแหน่งที่จะต้องเช็ดหรือลูบ  หรือในที่ที่เมื่อใช้น้ำชำระล้างแล้วจะเกิดอันตรายต่อผู้ป่วยได้

และการทำตะยัมมุมจะต้องเสียไปด้วยกับสิ่งที่ทำให้น้ำละหมาดนั้นเสีย  และจะต้องเสียไปเมื่อผู้ป่วยสามารถใช้น้ำได้แล้ว  หรือเมื่อปรากฏว่ามีการพบน้ำ  หลังจากที่หาแล้วไม่พบ



.... คราวหน้าจะมาต่อในเรื่องของ  วิธีการละหมาดของผู้ป่วยนะเจ้า   cool2:

- ครูจริงใจ-:
 salam

ญาซากัลลอฮฺ  ท่านพี่ nujjaba

ที่ขยันอัพเดต  สิ่งดีๆ   แก่ พี่น้อง


 loveit: loveit:

al-fantazy:
คุณ nujjaba  นี่ ขยันพิมพ์ นะคับ...ดีแล้วคับ  งั้นพิมพ์ต่อเถอะคับ....

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

Go to full version