วิธีการละหมาดของผู้ป่วย
นักวิชาการอิสลามมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า ผู้ที่ไม่สามารถลุกขึ้นยืนทำละหมาดได้ก็ให้เขานั่งทำละหมาด ถ้าหากเขาไม่สามารถนั่งทำละหมาดได้ ก็ให้เขานอนตะแคงละหมาด โดยหันหน้าไปทางทิศ "กิบละฮฺ" และชอบให้เขานอนตะแคงข้างขวา และถ้าเขาไม่สามารถนอนตะแคงทำละหมาดได้ ก็ให้เขาละหมาดในสภาพที่นอนหงาย ดังที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวแก่ท่านอุมรอน อิบนุ ฮุซอยนฺ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ ว่า
" صل قائما ، فإن لم تستطع فقاعدا ، فإن لم تستطع فعلى جنب "
" رواه البخاري وزاد النسا ئي : " فإن لم تستطع فمستلقيا "จงทำการละหมาด ด้วยการยืน หากไม่สามารถยืนได้ ก็ให้นั่งละหมาด และถ้าหากไม่สามารถนั่งได้ ก็ให้นอนตะแคง ( ละหมาด )"
( บันทึกโดย อิมามอัลบุคอรีย์ )
และท่านอันนะซาอีย์ ได้รายงานเพิ่มว่า
"หากไม่สามารถนอนตะแคงได้ ก็ให้ทำการละหมาดโดยการนอนหงายหน้า"
และผู้ใดที่สามารถลุกขึ้นยืนทำละหมาดได้ แต่ไม่สามารถทำการ "รุกั๊วะ" ได้ หรือไม่สามารถทำการ "สุญูด" ได้ การยืนทำการละหมาดก็ยังไม่พ้นไปจากเขา เขายังต้องยืนทำละหมาดอยู่ เมื่อจะ "รุกั๊วะ" ก็ให้ทำเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการทำ "รุกั๊วะ" และหลังจากนั้น ก็มห้นั่งลงและทำสัญญาณบ่งบอกถึงการ "สุญูด" ดังมีคำดำรัสของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ที่ว่า
"พวกเจ้าจงยืนขึ้น ( ทำละหมาด ) เพื่ออัลลอฮฺ ด้วยความนอบน้อม" ( อัลบะเกาะเราะฮฺ อายะฮฺที่ 238 )
และท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
صل قائما " رواه البخا ري " "จงทำการละหมาด โดยการยืนละหมาด"
( บันทึกโดย อิมามอัลบุคอรีย์ )
อัลลอฮฺ ตะอาลา ตรัสว่า
"ดังนั้น พวกเจ้าทั้งหลายจงเกรงกลัวอัลลอฮฺเถิด เท่าที่พวกเจ้าจะสามารถ ( กระทำได้ )" ( อัตตะฆอบุน อายะฮฺที่ 16 )
ถ้าผู้ป่วยกำลังนอนรักษาตัวอยู่ และนายแพทย์ผู้ที่ได้รับความไว้วางใจน่าเชื่อถือ ได้กล่าวแก่ผู้ป่วยว่า "ถ้าจะละหมาดก็จะต้องอยู่ในสภาพนอนหงาย จะได้รักษาเยียวยาได้ ถ้ามิเช่นนั้นก็จะไม่สามารถรักษาได้" ดังนั้นก็เป็นที่อนุญาตให้เขาละหมาดโดยนอนหงายได้
และผู้ใดไม่สามารถทำการ "รุกั๊วะ" และทำการ "สุญุด" ได้ ก็ให้ทำสัญญาณบ่งบอกถึงลักษณะการกระทำทั้งสองนั้น และหากทำสัญญาณบ่งบอกถึงการ "สุญูด" ได้เพียงอย่างเดียว ก็ให้เขาทำ "รุกั๊วะ" และให้ทำสัญญาณบ่งบอกถึงการ "สุญูด" ( โดยโน้มคอลงไปให้ต่ำ )
เมื่อใดที่เขาต้องการจะ "รุกั๊วะ" แต่ไม่สามารถก้มหลังลง "รุกั๊วะ" ได้ ก็ให้เขาโน้มคอลงไปให้ต่ำสักเล็กน้อย และในขณะ "สุญูด" ก็ให้ใบหน้าของเขาก้มต่ำลงไปใกล้พื้นมากกว่าการทำ "รุกั๊วะ" เท่าที่จะทำได้
และถ้าผู้ใดไม่สามารถผงกศีรษะของเขา เพื่อเป็นสัญญาณของการ "รุกั๊วะ" และ "สุญูด" ได้ ก็ให้เขาตั้งเจตนากระทำการ "รุกั๊วะ" และ "สุญูด" และให้กล่าวถ้อยคำ ( ที่เกี่ยวกับการ "รุกั๊วะ และ "สุญูด" ออกมา ) ก็ถือว่าเป้นการเพียงพอแล้วสำหรับเขา
และจะไม่ถือว่าการกระทำการละหมาดนั้น พ้นไปจากขา ตราบใดที่เขายังมีสติมั่นคงดีอยู่
....ค่อยมาต่อกันใหม่ครั้งหน้า อินชาอัลลอฮฺ
