ในหนังสือก็อลยูบีย์อีกตามเคยครับ
وبعد التعلم لا يجب قضاء ما صلاه بالترجمة قبله
إلا أن يكون أخره مع التمكن منه ،
فإنه لابد من صلاته بالترجمة عند ضيق الوقت لحرمته ، ويجب القضاء لتفريطه بالتأخير
"(หากไม่สามารถกล่าวตักบีรได้ ก็ให้แปลด้วยภาษาใดก็ได้...และจำเป็นต้องเล่าเรียนหากมีความสามารถ หากแม้นว่าจะต้องเดินทางไปร่ำเรียนที่เมืองอื่นก็ตาม) และหลังจากร่ำเรียน(วิธีการกล่าวตักบีร)แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องกอฎอชดใช้ละหมาดที่ทำไปด้วยการแปลตักบีรก่อนที่จะทำการร่ำเรียน
นอกจาก ช่วงท้ายของเวลาละหมาดนั้น เขามีความสามารถที่จะร่ำเรียนได้
ดังนั้น จึงจำเป็นจากการละหมาดของเขาด้วยการแปลตักบีรในขณะที่มีเวลากระชั้นชิดเพื่อรักษาเวลา(ละหมาด)เอาไว้และจำเป็นต้องกอฎอชดใช้เนื่องจากเขาได้ละเลยด้วยการล่าช้า" ก็อลยูบีย์วะอุมัยเราะฮ์ 1/163
ฟาอ์ ดังกล่าวนี้ คือฟาตัฟเรี๊ยะอ์ ไปยัง إلا ที่เป็นอิสติสนาอ์ เพราะประโยคหลังจากฟาอ์นั้น ได้ขยายความฮุกุ่มของประโยคที่ถูกยกเว้น (คือหากท้ายเวลามีความสามารถร่ำเรียนได้) ประโยคที่มาขยายความ ตัฟเรี๊ยะอ์ด้วยฟาอ์ นั้น ก็คือ จำเป็นต้อง จึงจำเป็นจากการละหมาดของเขาด้วยการแปลตักบีรในขณะที่มีเวลากระชั้นชิดเพื่อรักษาเวลา(ละหมาด)เอาไว้และจำเป็นต้องกอฎอชดใช้เนื่องจากเขาได้ละเลยด้วยการล่าช้า
ผิดพลาดประการใด โปรดชี้แนะครับ
