ผู้เขียน หัวข้อ: หนังสือ : การตักลีดตามบทบัญญัติศาสนาเกี่ยวกับนิติศาสตร์อิสลามและความสำคัญ  (อ่าน 4035 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com

السلام عليكم ورحمة الله وبركاته



หนังสือ : การตักลีดตามบทบัญญัติศาสนาเกี่ยวกับเรื่องของนิติศาสตร์อิสลามและความสำคัญ

  ของท่าน อัลลามะฮ์  อัลมุฮักกิก  อับดุรร่อฮีม  อัลลาญิฟูรีย์

นำเสนอโดย  อัลลามะฮ์  อิมาม  อบูลหะซัน  อันนัดวีย์


หนังสือเล่มนี้   เป็นหนังสือที่ชี้แจงความหลงผิดของบรรดาอ้างตนอยู่ในมัซฮับอะฮ์ลุลฮะดิษโดยปฏิเสธการตักลีดมัซฮับอิมามทั้งสี่  และทำการโต้ตอบความคลุมเครือของพวกเขา  ด้วยตัวบทของอัลกุรอาน  ซุนนะฮ์  และบรรดาคำกล่าวของปราชญ์อิสลาม
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
 salam

ปัจจุบันผู้ประกาศตนไม่สังกัดมัซฮับ  แรกตนเองว่า  มุฮัมมะดียีน , จนกระทั่งปัจจุบันพวกเขาภูมิใจที่จะแรกตนเองว่า สะละฟีย์ , อะษะรีย์ , และอ้างว่าตนเองอยู่มัซฮับ อะฮ์ลุลฮะดิษ  โดยปฏิเสธการตามมัซอับอิมามทั้งสี่  จนกระทั่งบางครั้งพวกเขากล่าวว่า การตามมัซฮับอิมามทั้งสี่นั้น เป็น กุฟุรและชิริก

พวกเขาแอบอ้างว่าอยู่มัซฮับอะฮ์ลุลฮะดิษ  แต่เหตุใดบรรดาอุลามาอ์ฮะดิษที่แท้จริง  พวกเขาก็มีมัซฮับ  เช่น  อิมามบุคอรีย์ อยู่กลุ่มของอุลามาอ์มัซฮับชาฟิอีย์ ,  อิมามอันนะซาอีย์  ก็อยู่เป็นนักปราชญ์ฮะดิษระดับแนวหน้า แต่ท่านก็เป็นอุลามาอ์มัซฮับชาฟิอีย์  , ท่านอบูดาวูด นักปราชญ์ผู้ที่ได้รับการยอมรับว่าจำเป็นฮะดิษ  มีความยำเกรง  มีความละเอียดอ่อน  แต่ท่านก็เป็นอุลามาอ์มัซฮับชาฟิอีย์  บางทัศนะบอกว่ามัซฮับฮัมบาลีย์ , ท่านอิมามมุสลิม ,  ท่านอิมามอัตติรมีซีย์ , ท่านอิมามอัดดารุกุฏนีย์ ,  ท่านอิมามอิบนุมาญะฮ์ , ร่อฮิมะฮุมุลลอฮ์ นั้น  พวกเขาทั้งหมดเป็นอุลามาอ์มัซฮับอิมามชาฟิอีย์

ท่านอิมามอัลบัยฮะกีย์ , ท่านอิมามอันนะวาวีย์ ,  ท่านอัซซะฮะบีย์ , ท่านอัลฮาฟิซฺ อิบนุหะญัร  , ท่านอัศศ่าคอวีย์ , ท่านอัศศะยูฏีย์ ซึ่งทั้งปราชญ์ฮะดิษทั้งหมดนี้  ก็อยู่ในมัซฮับอิมามอัชชาฟิอีย์

และยังมีนักปราชญ์ฮะดิษท่านอื่น ๆ อีกมากมาย  ที่ต่างคนก็มีมัซฮับของอิมามทั้งสี่  แต่เหตุใดปัจจุบันผู้อ้างว่าอยู่มัซฮับอะฮ์ลุลฮะดิษ  จึงประกาศตนว่าไม่สังกัดมัซฮับทั้งสี่  ยิ่งกว่านั้นยังกล่าวอีกว่ มันเป็นกุฟุรและชิริก  วัลอิยาซุบิลลาฮ์

สิ่งที่ผมได้นำเสนอข้างต้นนี้คือบทนำของหนังสือดังกล่าวครับผม   ;D
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
 salam

ในหนังสือเล่มนี้  ได้ยกไว้หลายตัวอย่างเกี่ยวกับ  เรื่องที่นักฮะดิษนั้นมิใช่จะชำนาญในวิชาฟิกห์กันทุกคน  นักฮะดิษบางท่านจำฮะดิษแต่ไม่เข้าใจฮะดิษอย่างแจ่มชัด  ตัวอย่างเช่น 

ท่านอัลลามะฮ์  อิบนุ อัลเญาซีย์  ได้กล่าวไว้ในหนังสือ ตัลบีส อิบลีส  ความว่า  ได้ถูกรายงานจากท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ความว่า

أَنَّهُ صَلَّي اللهُ عَلَيْهِ وَسلَّمَ نَهَي أَنْ يَسْقِيَ الرَّجُلُ مَاءَهُ زَرْعَ غَيْرِهِ

"แท้จริง  ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้ห้ามให้ผู้ชายคนหนึ่งทำการรดน้ำของเขากับสิ่งเพาะปลูกของคนอื่น"

มีนักฮะดิษกลุ่มหนึ่งได้นั่งอยู่(ในขณะที่รายงานฮะดิษ) ได้กล่าวว่า "แท้จริงพวกเรานั้น  เมื่อน้ำได้เหลือในเรือกสวนของเรา  เราก็จะปล่อยน้ำ(แต่ไม่รดน้ำ)ให้เพื่อนบ้านใกล้เคียง  แล้วเราก็นั่งกล่าวอิสติฆฟารต่ออัลเลาะฮ์  ดังนั้น  คนอ่านรายงานฮะดิษก็ไม่เข้าใจและคนฟังก็ไม่เข้าใจ และพวกเขาก็ไม่รู้เลยว่า  เป้าหมายของฮะดิษนั้น  คือห้ามผู้ชายคนหนึ่งไปร่วมหลับนอนกับทาสหญิงที่ตั้งครรภ์จากนายคนอื่นแล้ว 
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
อัสสลามุ อลัยกุม

            ไม่ทราบว่า ...
                          ท่านอัลลามะฮ์  อิมาม  อบูลหะซัน  อันนัดวีย์ กับ
                          อบูลหะซัน  อลีย์ อันนัดวีย์ (ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งอธิการบดีสถาบันนัดวะตุ้ลอุละมาอฺ, อินเดีย)

                 เป็นคนๆ เดียวกันหรือเปล่า และสถาบันข้างต้น เป็นสถาบันวะฮาบีย์ไหม เพราะ อ.มุรีด เคยเรียนที่นั่น
 
             วัลลอฮุ อะอฺลัม

วัสสลามุ อลัยกุม
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ มุคลิศ

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 159
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
salam

ปัจจุบันผู้ประกาศตนไม่สังกัดมัซฮับ  แรกตนเองว่า  มุฮัมมะดียีน , จนกระทั่งปัจจุบันพวกเขาภูมิใจที่จะแรกตนเองว่า สะละฟีย์ , อะษะรีย์ , และอ้างว่าตนเองอยู่มัซฮับ อะฮ์ลุลฮะดิษ  โดยปฏิเสธการตามมัซอับอิมามทั้งสี่  จนกระทั่งบางครั้งพวกเขากล่าวว่า การตามมัซฮับอิมามทั้งสี่นั้น เป็น กุฟุรและชิริก

พวกเขาแอบอ้างว่าอยู่มัซฮับอะฮ์ลุลฮะดิษ  แต่เหตุใดบรรดาอุลามาอ์ฮะดิษที่แท้จริง  พวกเขาก็มีมัซฮับ  เช่น  อิมามบุคอรีย์ อยู่กลุ่มของอุลามาอ์มัซฮับชาฟิอีย์ ,  อิมามอันนะซาอีย์  ก็อยู่เป็นนักปราชญ์ฮะดิษระดับแนวหน้า แต่ท่านก็เป็นอุลามาอ์มัซฮับชาฟิอีย์  , ท่านอบูดาวูด นักปราชญ์ผู้ที่ได้รับการยอมรับว่าจำเป็นฮะดิษ  มีความยำเกรง  มีความละเอียดอ่อน  แต่ท่านก็เป็นอุลามาอ์มัซฮับชาฟิอีย์  บางทัศนะบอกว่ามัซฮับฮัมบาลีย์ , ท่านอิมามมุสลิม ,  ท่านอิมามอัตติรมีซีย์ , ท่านอิมามอัดดารุกุฏนีย์ ,  ท่านอิมามอิบนุมาญะฮ์ , ร่อฮิมะฮุมุลลอฮ์ นั้น  พวกเขาทั้งหมดเป็นอุลามาอ์มัซฮับอิมามชาฟิอีย์

ท่านอิมามอัลบัยฮะกีย์ , ท่านอิมามอันนะวาวีย์ ,  ท่านอัซซะฮะบีย์ , ท่านอัลฮาฟิซฺ อิบนุหะญัร  , ท่านอัศศ่าคอวีย์ , ท่านอัศศะยูฏีย์ ซึ่งทั้งปราชญ์ฮะดิษทั้งหมดนี้  ก็อยู่ในมัซฮับอิมามอัชชาฟิอีย์

และยังมีนักปราชญ์ฮะดิษท่านอื่น ๆ อีกมากมาย  ที่ต่างคนก็มีมัซฮับของอิมามทั้งสี่  แต่เหตุใดปัจจุบันผู้อ้างว่าอยู่มัซฮับอะฮ์ลุลฮะดิษ  จึงประกาศตนว่าไม่สังกัดมัซฮับทั้งสี่  ยิ่งกว่านั้นยังกล่าวอีกว่ มันเป็นกุฟุรและชิริก  วัลอิยาซุบิลลาฮ์

อิมามบุคอรี , อิมามมุสลิม   ก็มัซฮับชาฟิอีย์  และนักฮะดิษอื่น ๆ ก็ชาฟิอีย์   mycool:

ออฟไลน์ บาชีร

  • ปีสามสักที
  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2164
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +59
    • ดูรายละเอียด
ท่านอบูหะสันอะลีอันนัดวี เป็นซูฟีครับ

ไม่ใช่วะฮะบี

ส่วนอาจารย์มุรีดนั้นคือศิสไม่ตามครู
นักเรียนปีสาม กฎหมายอิสลาม อัซฮัร ไคโร

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ท่านอบูหะสันอะลีอันนัดวี เป็นซูฟีครับ

ไม่ใช่วะฮะบี

ส่วนอาจารย์มุรีดนั้นคือศิสไม่ตามครู

ท่านอะบุลฮะซัน อันนัดวี  มีอะกีดะฮ์ตามแนวทางของ อันมะตูรียะฮ์  มัซฮับหะนะฟีย์  และท่านได้ยกย่องซูฟีไว้ในหนังสือของท่านเยอะเหมือนกัน
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
อัสสลามุ อลัยกุม

             จากที่บังอัลอัซฮรีย์กล่าวว่า "ท่านอะบุลฮะซัน อันนัดวี  มีอะกีดะฮ์ตามแนวทางของ อันมะตูรียะฮ์  มัซฮับหะนะฟีย์  และท่านได้ยกย่องซูฟีไว้ในหนังสือของท่านเยอะเหมือนกัน"  หากตามความเข้าใจนี้ ไม่เป็นการผิดใช่ไหมที่จะเข้าใจว่า สถาบันนัดวะตุ้ลอุละมาอฺ ยึดอะกีดะฮฺอะฮฺลุสสุนนะฮ์ วัลญะมาอะฮ์ อัลมาตูรีดียะฮ์ ผิดถูกอย่างไรชี้แจงด้วยนะครับ เพราะสนใจเกี่ยวกับสถาบันนี้เป็นอย่างมาก

วัสสลามุ อลัยกุม
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ Al-islam

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 31
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
....ไม่มีไร แค่อยากเข้ามาป่วน  มีไรป่าว....


ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
ไม่ต้องไปสนใจเขาหรอกครับคุณ Al-islam ปล่อยเค้าไป เค้าทำได้แค่นั้น ท้ายสุดก้เหมือนหลายๆ รายที่ผ่านมา กลับไปอย่างสบักสบ็อม แต่ก้ไม่ยอมรับอยู่ดี - วัสสลาม
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม


ออฟไลน์ sunnah 50

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 117
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
salam

ในหนังสือเล่มนี้  ได้ยกไว้หลายตัวอย่างเกี่ยวกับ  เรื่องที่นักฮะดิษนั้นมิใช่จะชำนาญในวิชาฟิกห์กันทุกคน  นักฮะดิษบางท่านจำฮะดิษแต่ไม่เข้าใจฮะดิษอย่างแจ่มชัด  ตัวอย่างเช่น 

ท่านอัลลามะฮ์  อิบนุ อัลเญาซีย์  ได้กล่าวไว้ในหนังสือ ตัลบีส อิบลีส  ความว่า  ได้ถูกรายงานจากท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ความว่า

أَنَّهُ صَلَّي اللهُ عَلَيْهِ وَسلَّمَ نَهَي أَنْ يَسْقِيَ الرَّجُلُ مَاءَهُ زَرْعَ غَيْرِهِ

"แท้จริง  ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้ห้ามให้ผู้ชายคนหนึ่งทำการรดน้ำของเขากับสิ่งเพาะปลูกของคนอื่น"

  เป้าหมายของฮะดิษนั้น  คือห้ามผู้ชายคนหนึ่งไปร่วมหลับนอนกับทาสหญิงที่ตั้งครรภ์จากนายคนอื่นแล้ว 

อัสสลามุอะลัยกุมน้องบ่าวอาจารย์ อัลอัซฮารีย์

หะดิษข้างต้น เป็นการจำกัดเฉพาะในกรณี ห้ามผู้ชายไม่ให้หลับนอนกับทาสหญิงที่ตั้งครรภ์จากนายคนอื่นเท่านั้นหรือครับ
หะดิษนี้เกี่ยวกับกรณีเชลยในการทำสงครามหุนัยน์ มิใช่หรือครับ และหะดิษนี้ไม่น่าจะจำกัดอยู่แค่ทาสหรือเชลยที่ทั้งครรภ์ นะครับ
น่าจะมีความหมายครอบคลุมถึงหญิงที่ตั้งครรภ์ทั่วไปและหญิงที่ตั้งครรภ์เนื่องจากการผิดประเวณีนี(ซีนา)ด้วยนะครับ

ท่านอิบนุกอ็ยยิม(ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน) กล่าวว่า

ونهى النبي صلى الله عليه وسلم أن توطأ المسبية الحامل حتى تضع، مع أن حملها مملوك له، فالحامل من الزنا أولى ألاّ توطأ حتى تضع

และท่านนบี ศอลฯ ได้ห้ามไม่ให้ร่วมหลับนอนกับเชลยหญิงที่ตั้งครรภ์ จนกว่านางจะคลอด โดยที่บุตรในครรภ์ของนางนั้น เป็นเป็นกรรมสิทธิ์ของเขา(หมายถึงเป็นทาสของเขา) ดังนั้น หญิงที่ตั้งครรภ์จากการซีนา(ผิดประเวณี )ย่อมสมควรกว่าที่เขาจะไม่ร่วมหลับนอนกับนางจนกว่านางจะคลอด - หาชียะฮอิบนุกอ็ยยิม เล่ม 6 หน้า 119

ประนี้เป็นประเด็นที่นักวิชาการมีความเห็นที่แตกต่างกัน  แต่บังว่า สมควรหรือที่จะเปิดหนทางให้สะดวกสำหรับคนที่ทำผิดประเวณีซึ่งนับวันจะมีมากขึ้น  โดยส่วนตัวประเด็นนี้เห็นด้วยกับอิหม่ามอะหมัดและท่านอื่นๆที่ต้องมีอิดดะฮสำหรับหญิงที่ทำซีนา


ท่านอิหม่ามนะวาวีย์ (ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)กล่าวว่า

اذا زنت المرأة لم يجب عليها العدة ،سواء كانت حائلا أو حاملا ، فان كانت حائلا جاز للزانى ولغيره عقد نكاح عليها وان حملت من الزنا فيكره نكاحها قبل وضع الحمل،وهو أحد الروايتين عن أبى حنيفة رضى الله عنه وذهب ربيعة ومالك والثورى وأحمد واسحاق رضى الله عنهم الى أن الزانية يلزمها العدة كالموطوءة بشبهة فان كانت حائلا اعتدت ثلاثة أقراء،وان كانت حاملا اعتدت بوضع الحمل ولا يصح نكاحها قبل وضع الحمل

เมื่อผู้หญิง ได้ทำผิดประเวณี ก็ไม่จำเป็นที่นางจะต้องมีอิดดะฮ ไม่ว่านางจะไม่ตั้งครรภ์หรือตังครรภ์(จากการซินานั้น)ก็ตาม แล้วถ้านางไม่ได้ตั้งครรภ์(จากการซีนา) ก็อนุญาตแก่ชายชู้และอื่นจากชายชู้ ทำพิธีนิกะห์กับนางได้ และถ้านางตั้งครรภ์ เนื่องจากการซินานั้น ก็เป็นการน่าเกลียด(มักรูฮ) ทำพิธีนิกะห์กับนาง ก่อนการคลอดบุตร และมันคือ รายงานหนึ่งจากสองรายงานจากอบีหะนีฟะฮ (ร.ฎ) และ เราะบีอะฮ, อิหม่ามมาลิก ,อัษเษารีย์, อิหม่ามอะหมัด และอิสหาก(ขออัลลอฮประทานความโปรดปรานแก่พวกเขา) มีทัศนะว่า หญิงที่ผิดประเวณีนั้น จำเป็นจะต้องมีอิดดะฮ เช่น เดียวกับหญิงที่ถูกร่วมเพศ ด้วยสาเหตุของความเคลือบแคลง(ชุบฮาต) แล้วถ้าปรากฏว่านางไม่ได้ตั้งครรภ์(จากการซีนา) ก็ให้นางมีอิดดะฮ สามครั้งการมีประจำเดือน และถ้าปรากฏว่านางตั้งครรภ์ (จากการซีนา)ก็ให้นางมีอิดดะฮ โดยการคลอดบุตร ก่อน และการทำพิธีนิกะห์นางก่อนการคลอดบุตรนั้นใช้ไม่ได้ – ดูมัจญมัวะ ชัรหุลมุหัซซับ เล่ม 17 หน้า 348

....
;วัสสลาม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มี.ค. 05, 2010, 03:56 PM โดย sunnah 50 »

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
1ปีกว่าๆผ่านไป ช่างมานะเสียนี่กระไร
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ colidlayla

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 111
  • Respect: -1
    • ดูรายละเอียด
 salam
ผมจำไม่ได้ว่า มุจตาฮิจ มีกี่ระดับ จำได้ว่า มี มุจตาฮิจมุตลักคือ อิหม่ามทั่งสี่ และ มุจตาฮิจมัสฮับ แล้วก็หลังจาก อิหม่าม อันนาวาวีนั้น ตักลีดทั้งหมด
พวกไม่ตามมัสฮับ สงสัยอยากจะเป็น มุดตาฮิ กับเค้าบ้าง หุหุ  hihi:

 

GoogleTagged