بسم الله الرحمن الرحيم
الحمد لله رب العالمين و الصلاة والسلام على سيدنا محمد وعلي اله وصحبه أجمعين
ท่านอิมามอันนะวาวีย์ กล่าวว่า "ความหมายของฮะดิษนี้ มี 2 ทัศนะของอุลามาอ์
ทัศนะที่หนึ่ง : การสรรเสริญด้วยความดีงามนี้ สำหรับบรรดาผู้มีคุณธรรมได้ทำการสรรเสริญแก่เขา เพราะการสรรเสริญของพวกเขานั้นได้สอดคล้องกับบรรดาพฤติกรรมของเขา ดังนั้นเขาจึงเป็นส่วนหนึ่งจากชาวสวรรค์ ดังนั้น หากเขามิใช่เฉกเช่นดังกล่าว แน่นอนว่าเขาย่อมมิได้อยู่ในจุดมุ่งหมายของฮะดิษ
ทัศนะที่สอง : ซึ่งเป็นทัศนะที่ถูกต้องและได้รับการเลือกเฟ้น คือฮะดิษอยู่บนความหมายที่ครอบคลุมและกว้าง ๆ กล่าวคือมุสลิมทุกคนที่เสียชีวิตนั้น อัลเลาะฮ์ตะอาลา ทรงดลใจให้บรรดาผู้คนและส่วนมากของพวกเขาทำการสรรเสริญต่อผู้ตาย ซึ่งสิ่งดังกล่าวเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งจากชาวสวรรค์ ไม่ว่าการกระทำของเขาจะสอดคล้องกับสิ่งดังกล่าวหรือไม่ก็ตาม และหากแม้นว่าการกระทำของเขาไม่ได้อยู่ตามนัยยะดังกล่าว เขาก็ไม่จำเป็นต้องถูกกำหนดโทษเสมอไป แต่ทว่าเขาจะอยู่ภายใต้อำนาจความประสงค์ของอัลเลาะฮ์ ดังนั้น หากพระองค์ดลใจให้บรรดาผู้คนทำการสรรเสริญเขา แน่นอนว่า เราจะเอาสิ่งดังกล่าวมาเป็นเครื่องยืนยันว่า อัลเลาะฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ได้ทรงประสงค์ที่จะอภัยโทษให้แก่เขาแล้ว และด้วยเหตุนี้แหละ จะปรากฏผลประโยชน์ของการสรรเสริญ" ชัรห์ซอฮิห์มุสลิม 4/23
ดังนั้น ฮะดิษข้างต้นนั้นอยู่ในความหมาย(อุมูม)ครอบคลุม เป็นฮะดิษเกี่ยวกับการชมเชยยกย่องผู้ตาย ไม่ว่าจะมีอิมามถามหรือว่าไม่มีอิมามถามก็ตามหากเราพูดสิ่งที่ดีงามยกย่องให้เกียรติมัยยิด ถือว่าอยู่ในความหมายของฮะดิษนี้ทั้งสิ้น
ส่วนมัยยิดที่เรารู้ว่าไม่ดีนั้น อนุญาตให้ตอบได้ว่าดีเพื่อเป็นการคิดในแง่ดีต่อมัยยิด แต่หากมัยยิดไม่ดีและเราก็ไม่อยากจะกล่าวยกย่องต่อมัยยิด ก็สมควรเงียบไม่ต้องกล่าวว่ามัยยิดเป็นคนไม่ดีนะครับ
والله أعلى وأعلم