ผู้เขียน หัวข้อ: ทำอย่างไรให้มีรสชาดในการทำอิบาดะฮ์และลดความแข็งกระด้างของจิตใจ  (อ่าน 4389 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
ไม่ทราบว่าต้นอินทผาลัมเอาไปอ่านเป็นภาษาอะไรหรือ
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
???????? ????? ?????????? ??????????


ดังนั้นเมื่อมนุษย์ตระหนักถึงข้อเท็จจริงอันนี้และรู้ว่าตัวของเขานั้นไม่ว่าจะเป็นคนร่ำรวย , เป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรงไม่เจ็บป่วย , และเป็นคนที่มีความรู้มากมายก็ตาม  แน่นอนว่าการตระหนักถึงแก่นแท้ของตัวตนจิรง ๆ ของเขานั้น  ก็จะสามารถดึงเขาให้มีความนอบน้อมในการทำอิบาดะฮ์ต่ออัลเลาะฮ์ตะอาลา  ฉะนั้นจากความหมายนี้  ท่านลองพิจารณาถึงศักยภาพของท่านที่อัลเลาะฮ์ตะอาลาได้ทรงตรัสไว้ว่า

??????? ?????? ??? ????????? ??????? ???????? ?????????? ????????

"อัลเลาะฮ์ทรงต้องการจะทรงผ่อนผัน(การลงโทษ)แก่พวเจ้าและมนุษย์ถูกสร้างขึ้นมาในสภาพที่อ่อนแอ"" อันนิซาอฺ 28

หมายถึงมนุษย์ทั้งหมดนั้นแก่นแท้แล้วถูกสร้างขึ้นมาพร้อมกับความอ่อนแอ  ดังนั้นศักยาภาพของมนุษย์จึงอยู่ในวิสัยของความอ่อนแอเสมอ  ซึ่งอัลเลาะฮ์ต้องการที่จะที่บอกให้เราตระหนักว่า  บรรดาเนี๊ยะมัตปัจจัยอำนวยสุขนั้น  ไม่ว่าจะเป็นพละกำลัง  ความรู้  ความสุขสบาย  และความร่ำรวยนั้น  ไม่บังควรเลยที่สิ่งเหล่านั้นทำให้เราต้องลืมตัวตนอันแท้จริงที่ถูกสร้างให้แก่เรา  เพราะความจริงแล้วปัจจัยอำนวยสุขทั้งหลายนั้น  เป็นสิ่งที่อุบัติขึ้นมาเท่านั้นเอง  วันนี้มันได้มา  แต่พรุ้งนี้มันอาจจะไม่อยู่กับเราก็ได้  ด้วยเหตุนี้  อัลเลาะฮ์ตะอาลาจึงความเมตตาปราณีแก่เรา  ด้วยการให้มนุษย์ถูกทดสอบในบางช่วงบางเวลา  เช่น  ทำให้เขาป่วย , ทำให้เขามีความยากจนหลังจากร่ำรวย , ทำให้เขามีความอ่อนแอหลังจากมีพลานามัยสมบูรณ์ , ทำให้มีความสั่นคลอนหลังจากมีความสงบสุข

เพราะพระองค์ทรงตรัสยืนยันไว้ว่า

???????????? ?????????? ??????????? ???????? ??????????? ???????????

"และเราจะทดสอบพวกเจ้าอย่างจริงจังด้วยความยากแค้น  และความสุขสบาย (ที่สลับหมุนเวียนกันไป)และพวกเจ้าจะถูกนำตัวกลับมายังเรา(เพื่อรอรับการพิพากษาต่อไป)" อัลอัมบะยาอฺ 21/35

พระองค์ทรงตรัสเช่นกันว่า

??????????????????? ???????? ????? ???????? ?????????? ???????? ????? ??????????? ?????????? ?????????????? ????????? ?????????????

"ขอยืนยัน  เราจะทดสอบพวกเจ้าอย่างแน่นอนด้วยบางสิ่ง(เพียงเล็กน้อย)จากความหวาดกลัว , ความหิวโหย , ความขาดแคลนทรัพย์ , ความคาดแคลนชีวิต (ของผู้คนและสัตว์ต่างๆ)และความขาดแคลนผลไม้และเจ้าจงแจ้งข่าวดีแก่บรรดาผู้อดทนเถิด" 2/155
   

 salam

ยาซากัลลอฮุคอยรอนค่ะ

ดังที่กล่าวมานั้น...ความรู้ที่อัลเลาะฮฺประทานให้เรามาในวันนี้นั้น
วันหนึ่งพระองค์ก็จะเอากลับไปใช่มั้ยคะ...

ทุกอย่างที่เราได้มาทั้งหมดพระองค์จะเอากลับไปในสักวันใช่มั้ยคะ...
ดังนั้น เราควรจะทำอย่างไรกับวันนี้ เพื่อเตรียมรับกับวันที่พระองค์จะเอาสิ่ง
เหล่านั้นไป...เพราะว่าบางครั้งมันก็ทำใจยากนะคะกับการสูญเสีย
ไม่ว่าจะสูญเสียอะไรในชีวิตไปก็ตาม โดยเฉพาะความจำและความรู้
วันนึงเมื่อแก่ตัวไป เราอาจจะไม่มีมันเอาไว้ประดับอีกแล้วก็ได้

ไม่ต้องตอบเดี๋ยวนี้หรือวันนี้ก็ได้ค่ะ รอคำตอบได้เสมอ...
เพราะจะได้เตรียมตัวเตรียมใจ แล้วที่สำคัญจะได้นำไปบอกกับคนใกล้ตัว
ที่เมื่อก่อนเคยเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรที่อบอุ่น มีอีมาน และเป็นตัวอย่างที่ดี
ให้กับเรามาตลอด แต่วันนี้กับเกรี้ยวกราดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ด้วยเพราะสังขารที่ร่วงโรยหรือด้วยการทดสอบของอัลเลาะฮฺตาลาลา
ถึงทำให้คนที่เรารักและนับถือเปลี่ยนไปได้...แต่เพราะเข้าใจ
ความรักที่มีให้เสมอมาเลยไม่เปลียนแปลง เพียงแต่อยากช่วยเยียวยา
อยากเห็นท่านกลับมาเป็นคนเดิม คนที่เข้มแข็งทั้งกายและใจ
อยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้ลูกหลานต่อไป...
และวันนึงอาจจะเป็นเราที่ต้องมีสภาพอย่างท่านก็ได้ หากว่าชีวิตยังคงเดินต่อไป...

เพราะความรู้นั้นไม่ต่างจากทรัพย์สินเลย เราต้องพยายามแสวงหามา
ด้วยความเหน็ดเหนื่อย เพราะพระองค์จะช่วยคนที่ช่วยตนเอง
วันนึงหากมันต้องกลับคืนไปยังพระองค์ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเอง
จะมีสภาพแบบไหน...จะผ่านบททดสอบนั้นหรือไม่...อีมานจะเหลือสักเท่าไหร่

...ขออัลเลาะฮฺทรงชี้ทางนำด้วยเถิด...อามีนยาร็อบ

ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับผู้นำเสนอเอาไว้ก่อนนะคะ

วัสลามุอะลัยกุมวาเราะมาตุลลอฮฺวาบาเราะกาตุ

^_____________________________________^





    loveit: loveit:
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ Rachyds

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 100
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • http://rachyds.siamvip.com
 :salam:

   อัลฮัมดุลิ้ลลาฮ เคล็ดลับในการทำอีบาดะฮให้มีรสชาติหอมหวาน หรือควบคุมสภาวะทางด้านจิตใจ
-ในการทำละหมาดซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่เราควรมีความตั้งมั่น "กอเฉาะ" ในหัวใจ จำเป็นอย่างยิ่งครับที่จะต้องมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดสามารถที่จะควบคุมสภาวะจิตใจของเรา ไม่ให้สิ่งต่างๆของโลกดุนยาเข้ามาแวบเข้าในสมอง ในขณะที่เข้าเฝ้าพระองค์ผู้อภิบาล แม้นว่าจะฉุดกระชากลากดึง เพื่อจะได้ตั้งมั่น ตัวยายาที่จะรักษาโรคนี้ได้คือ อัลกุรอ่านครับ
-พี่น้องลองเปรียบเทียบได้ ในระยะเวลา ๒ วัน วันแรกพี่น้องทำอามาลอีบาดัต เหมือนตามปรกติตามที่พี่น้องปฎิบัติ แต่ไม่ต้องอ่านอัลกุรอ่าน และวันถัดไปคือวันที่สองพี่น้องทำอาม้าลอีบาดัต แต่หลังจากซูบฮ พี่น้องอ่านอัลกุรอ่าน และมาเปรียบเทียบกันระหว่างทั้งสองวันนั้น วันใหนที่พี่น้องคิดว่าทำอาม้าลได้อร่อยกว่า อินชาอัลลอฮ ท่านจะได้เห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน
-ความบารอกัตของอัลกุรอ่าน เปรียบเสมือนกับอาหารของวิญญาณ เมื่อใครที่อ่านเป็นประจำทุกวัน วิญญาณของเขาจะเกิดความเข้มแข็ง เปรียบเสมือนกับนักกีฬาถ้าอยากจะให้ร่างกายแข็งแรงต้องหมั่นฝึกซ้อมเพื่อให้กล้ามเนื้อกระชับพร้อมทั้งอาหารที่สมบูรณ์ เช่นเดียวกันกับวิญญาณและจิตใจถ้าจะให้แข็งแรงและสมบูรณ์ก็ต้องอามาลอ่านอัลกุรอ่าน
-เมื่อจิตใจและวิญญานที่อ่อนแอ(ในการดำเนินชีวิตแต่ละวัน) ความรู้สึก วิสวัสหรือ ความกระด้างกระเดื่อง ความหดหู่ หรือต่างๆนาๆ ที่ชัยตอนวิสวัสจะกำเนิดขึ้นในหัวใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาละหมาดและเวลาซิกร บางตรั้งมันจะแวบเข้ามาในหัวใจ โดยมิทันตั้งใจ (พยายามทำความเข้าใจซักนิดครับเพราะนี่คือแนวทางของซูฟี) เราก็ต้องควบคุมมันโดยบารอกัตของอัลกุรอ่าน
-บุคคลที่ตั้งใจซิกิร อยากจะนั่งสักชั่วโมง ถ้าตราบใดที่ท่านไม่ได้อ่านอัลกุรอ่านในวันนั้น ซิกกิรของท่าน อาจกล่าวได้ว่าได้เพียงแต่วาจา ไม่ได้มาพร้อมทั้งหัวใจ ซึ่งนับว่าขาดทุน มิหนำซ้ำ ท่านอาจจจะนั่งได้แค่เพียง สิบหรือสิบห้านาที ชัยตอนก็จะหาเรื่องให้ท่านหันเห ไปในเรื่องต่างๆ จนในที่สุดท่านก็ต้องลุกเดินหนีไป
-บทความนี้ อาจจะเข้าใจยากสำหรับใครบางคน ซึ่งบางครั้งมันเป็นการยากที่จะอธิบาย ต้องอาศัยประสบการณ์ และปฏิบัติ พร้อมทั้งวิชาความรู้ และมิใช่แนวทางของตอริกัต สายใดสายนึง เพียงเพื่อหวังด้วยความอิคลัส ว่าพี่น้องได้อ่านและทำความเข้าใจ และได้รับฮิดายะฮจากอัลลอฮ(ซ.บ)

ออฟไลน์ isha censiri

  • เพื่อนแรกพบ (^^)/
  • *
  • กระทู้: 2
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
 :salam                                                                                                                                                     แท้จริง อัลเลาะฮ์ ซ.บ.ทรงมอบยาให้สำหรับท่านแล้วซึ่งท่านจะต้องนำมาบำบัดนี้คือคำกล่าวของท่านร่อซู้ลฯ        ลูกหลานอาดัมทั้งหมดย่อมมีความผิดและบรรดาผู้มีความผิดที่ดีเลิศ  คือผู้ที่ทำการเตาบะฮ์   รายงานโดย ท่านอิหม่ามอะฮ์หมัด,อัตติรมีซีย์,อิบนุมาญะฮ์,อัลฮากิม,อะนัส ร.ฎ.ฯ ดังนั้นการระงับความละโมบ โกรธ หลง จึงใม่ใช่มาจากผลงานจากจิตใจของตัวเอง แต่มาจากพฤติกรรมที่น้อมรับคำบัญชาของ อ.ล.ซ.บ. ที่นำมาปฏิบัติก็สามารถนำมาระงับคุณลักษณะอันไม่ดีในจิตใจในการทำอิบาดะฮ์และลดความแข็งกระด้างของจิตใจได้ถ้าปฏิบัติเป็นประจำ    (อินชาอัลเลาะฮ์)  loveit:                                 

 

GoogleTagged