
การเตาบัตภาคปฏิบัติ
-ตื่นขึ้นมาละหมาดตะฮัดยุตและละหมาดเตาบัต ในช่วงเวลากลางคืนหลังจากตื่นนอน และควรแน้นการกล่าวอิสติคฟารให้มากที่สุดพร้อมทั้งเรียบเรียงเหตุการณ์ที่เคยกระทำบาปที่ผ่านมา ตระหนักว่าเรากำลังสำนึกผิดต่ออัลลอฮตาอา และตระหนักว่าอวัยวะต่างของร่างกายเราพร้อมที่จะเป็นพยานกับการกระทำบาปของเราที่เคยกระทำลงไป การตื่นขึ้นมาละหมาดตะฮัดยุดนั้นจะแสดงให้อัลลอฮตาอาลาเห็นว่าเราเอาจริงเอาจังในการกระทำ และสามารถที่จะใกล้ชิดกับอัลลอฮตาอาลามากที่สุดในขณะที่สิ่งมีชีวิตอื่นต่างหลับใหล อีกทั้งมลาอีกัตก็จะเป็นพยานให้กับเราและขอดุอาให้เรา
ซูเราะฮอาลาอิมรอน

16. คือบรรดาผู้ที่กล่าวว่า โอ้พระเจ้าแห่งพวกข้าพระองค์ แท้จริงพวกข้าพระองค์ศรัทธากันแล้ว โปรดทรงอภัยโทษให้แก่พวกข้าพระองค์ด้วยเถิด ซึ่งบรรดาความผิดของพวกข้าพระองค์และโปรดได้ทรงป้องกันพวกข้าพระองค์ให้พ้นจากการลงโทษแห่งไฟรกด้วย

17. บรรดาผู้ที่อดทน และบรรดาผู้ที่พูดจริง และบรรดาผู้ที่ภักดี และบรรดาผู้ที่บริจาคและบรรดาผู้ที่ขออภัยโทษในยามใกล้รุ่ง(*1*)
(1) คือก่อน ฟะญัร์ขึ้น หมายถึงผู้ที่สละความสุขในยามนั้น โดยลุกขึ้นละหมาด ตะฮัจยญุด และขออภัยโทษ ต่ออัลลอฮ์ -หมั่นขยันทำอาม้าลที่เป็นฟัรดูและสุหนัต(ละหมาด)ในชีวิตประจำวัน ให้ตรงตามเวลา และครบตามจำนวน
-การปฏิบัติต้องอาศัยระยะเวลา และต้องอดทนในการทดสอบจากอัลลอฮตาอาลา ในความอิคลาสของเรา
-การอิสติกฟารต้องกระทำอย่างต่อเนื่องและยากลำบาก
-หยุดการกระทำบาปเหล่านั้นอย่างสิ้นเชิง
อินชาอัลลอฮเมื่อเราผ่านการปฏิบัติดังที่ได้กล่าวเราจะรู้สึกถึงความผูกพันธ์และความเมตตาจากอัลลอฮตาอาลาซึ่งยากที่จะอธิบายนอกจากตัวเราและอัลลอฮตาอาลาเท่านั้นที่เข้าใจ และจะมีสัญญาณหนึ่งสัญญาณใดในร่างกายเราตอบสนอง(การร้องไห้)ปรากฏ อินชาอัลลอฮการชำระบาปของเราอาจเป็นผลสำเร็จและอาจเปลี่ยนตัวเราเป็นผู้ใกล้ชิดอัลลอฮตาอาลา