salam
ท่านนบีได้กล่าวว่า " สตรี จะถูกขอแต่งงานด้วยคุณลักษณะ 4 ประการ คือ ด้วยทรัพย์สินของนาง ด้วยวงศ์ตระกูลของนาง ด้วยรูปโฉมของนาง และด้วย ศาสนาของนาง ..ดังนั้น ท่านจงเลือกสตรีที่มีศาสนา" (หะดิษจาก บุคครี และมุสลิม)
หากดูตามเนื้อหาแล้ว รู้สึกว่า เรื่องศาสนา นบีจะกล่าวไว้หลังสุดนะคับ....
เรื่องนี้ มีอะไรน่าคิดรึเปล่าน๊า.....อื้อ..... ทำไมน๊า......
โดยธรรมชาติแล้ว รูปลักษณ์ภายนอกคือสิ่งแรกที่ดึงดูดให้บุรุษสนใจในสตรี คือ ทรัพย์สินของนาง วงศ์ตระกูลของนาง รูปโฉมของนาง
แต่สิ่งสำคัญที่นบีได้เรียงลำดับไว้หลังสุด ก็คือ ให้ดูที่ศาสนาของนาง
เสมือนเราแหวกม่านเพื่อค้นหาบางสิ่ง แหวกไปแต่ละชั้น ก็ดูเหมือนจอมปลอมไม่ใช่เนื้อแท้
จนมาพบม่านแห่งอิหม่านซึ่งปกติส่วนนี้จะอยู่ลึกสุดของคนเรา หาดูไม่ใช่ง่ายๆ
และนบีก็ใช้ให้เราคัดเลือกนางจากตรงนี้ ตรงอันดับสุดท้ายนี่เอง
คือให้มองผ่านสิ่งนอกกาย แต่ให้มองที่อิหม่านของนาง
เอ่อ...มันคือความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ ไม่รุ้ตรงประเด็นที่สงสัยหรือป่าว
จริงๆแล้วในตัวหะดิษนั้นระบุไว้อย่างชัดเจนแล้วน่ะค่ะ
หากเราจะอ่านอย่างพิจารณากันจริงๆ...
เพราะ
ท่านนบีได้กล่าวว่า " สตรี จะถูกขอแต่งงานด้วยคุณลักษณะ 4 ประการ คือ ด้วยทรัพย์สินของนาง ด้วยวงศ์ตระกูลของนาง ด้วยรูปโฉมของนาง และด้วย ศาสนาของนาง ..ดังนั้น ท่านจงเลือกสตรีที่มีศาสนา" (หะดิษจาก บุคครี และมุสลิม)
ท่่านนบีท่านกล่าวเรียงลำดับจากสิ่งที่เห็นเด่นชัด
จากภายนอก แล้วค่อยๆสู่ภายใน...
และยังย้ำตรงที่ว่า
....ดังนั้น...ท่านจงเลือกสตรีที่มีศาสนา...
คือให้เราเลือกสตรีที่มีศาสนา!!!
สรุปตามความเห็นส่วนตัวนะคะ...
เพราะเราเรียนมาย่อมรู้ดีว่า ท่านนบีส่งเสริมให้เรา
มองคนที่ข้างใน อัลลอฮฺก็ทรงตัดสินเราที่ข้างใน...
ดังนั้น...คำว่า"สตรีที่มีศาสนา" ย่อมกินลึก...
สำหรับตัวข้าน้อย หากตัดสินใจแต่งงานเพราะทรัพย์สิน
ของเขาแล้ว ข้าน้อยคงแต่งไปแล้ว...
และหากตัดสินใจแต่งงานเพราะวงศ์ตระกูลของเขา
ข้าน้อยก็คงแต่งงานไปแล้ว...
และหากเลือกแต่งเพราะรูปโฉมของเขา
ข้าน้อยก็คงแต่งงานไปนานแล้วเช่นกัน...
เพราะคนที่มีคุณสมบัติพร้อมใน 3 ข้อนั้น
เราได้พบเจอเขาแบบตัวเป็นๆ แล้วเขาก็คงจะ
หน้ามืดตามัวมาสนใจเรา...
แต่เพราะเขาขาดคุณสมบัติแค่ข้อเดียว...
และข้าน้อยก็บอกพ่อไปว่า...ข้อนี้เขาไม่มี
และข้าน้อยไม่คิดว่าเขาจะให้ความสนใจ
หรือให้ความสำคัญกับคุณสมบัติข้อนี้
ซึ่งสำหรับข้าน้อยมันสำคัญมาก...
นั่นคือ...ศาสนา...
แล้วก็จริงนะคะ...คนเราหากเลือกที่เงินทองของเขา
เราเองอาจจะต้องเหนื่อยและวุ่นวายกับการดูแล
ทรัพย์สมบัติของเขา...คนรวยใช่ว่าจะไม่เหนื่อย...
บางคนคิดว่าแต่งงานไปกับคนรวยแล้วจะสบาย
ต้องไปรวยก่อนค่ะถึงจะรู้ว่าไม่จริง....
หากอัลลอฮฺให้ทุกข์ทน ต่อให้มีเงินเท่าภูเขาก็เอาไปซื้อ
ความสุขมาไม่ได้...
และหากเราเลือกเพราะชาติตระกูลของเขา....
หากเราเกิดมาด้อยกว่าเขา เราก็จะถูกเขาดูหมิ่น
ศักดิ์ศรีของเราได้...ซ้ำอาจจะลามปามไปถึง
พ่อแม่และบรรพบุรุษของเราอีกด้วย...
อยู่ด้วยกันแล้วอาจอึดอัดได้...
หากเราเลือกคนที่รูปโฉม...
วันนึงคนเราก็ต้องแก่ ต้องมีเหี่ยวมีเฉา...
ยิ่งถ้าเราหน้าตาด้อยกว่าเขา เราก็จะถูกมองอย่างดูหมิ่นจากคนรอบกายอีก...
แต่ถ้าเราเลือกใครสักคนเพราะศาสนา
เพราะจิตใจของเขาแล้ว...
แน่นอน...คนมีจิตใจดี มีอีหม่าน เขาไม่มาดูถูกดูหมิ่นเรา
อย่างแน่นอน...เพราะต่อให้เขาไม่มีทรัพย์สมบัติมากมาย
ไม่ได้เกิดมาในชาติตระกูลที่สููงส่ง
ไม่ได้หน้าตาดีอะไรมากมาย
แต่ถ้าหากเขาเป็นคนดี เป็นที่รักของอัลลอฮฺ...
โลกหน้า...นิรันดร์กว่า...
เพราะจุดสำคัญมันอยู่ตรงที่...อัลลอฮฺมองเราที่ตรงไหน...
และพระองค์ตัดสินเราที่ตรงไหน...
ปัจจุบัน คนรวย คนสวย คนหล่อ หาได้ไม่ยากเลย
มีกันเกลือนเมือง แม้ไม่สวยก็ไปศัลยกรรมเอาก็เยอะค่ะ...
ผู้ชายทีี่เลือกที่หน้าตาอาจจะต้องมาคอยซ่อมแซม
ส่วนที่สึกหรอซึ่งเกิดจากการทำศัลยกรรมให้กับภรรยา
ก็ได้นะคะ...เพราะหากว่าหญิงนั้นมีศาสนา
เธอจะไม่กล้าขัดคำส่ังพระเจ้าโดยการดัดแปลง
หรือเปลี่ยนแปลงการสร้างของพระองค์...
ซึ่งหากมองจริงๆ สังคมทุกวันนี้ เปลือกของมนุษย์สวยขึ้น
สวยกว่าคนสมัยก่อน...เพราะไม่มีดั้งก็ทำให้มีได้...
ซึ่งถ้าจะหาคนที่หน้าตา ก็คงหาได้ไม่ยาก
แต่การจะหาคนดีๆสักคน...มันดูแสนจะยากเย็น...
ที่ยากก็เพราะไม่รู้ว่าจะดูยังไงดีว่าคนนี้ดีจริงๆ....
ความดีหรือศาสนามันซ่อนอยู่ข้างใน
เลยไม่ง่ายนักที่จะมองเห็น...
เพื่อนผองจึงมักเตือนว่า...เลือกมากมักได้แร่...
ข้าน้อยจึงยืนยันว่าไม่ได้เลือกมาก แค่เลือกที่จะรอ
จนกว่าจะเจอ...ถ้าไม่เจอ ก็ไม่ใช่ปัญหา...
โลกหน้ายังมี...^^
แต่เพราะรู้ว่าตัวเองก็ยังมีข้อบกพร่องอีกมากมาย
ที่ต้องขัดเกลาและแก้ไข...จึงต้องทำตัวเองให้ดีไว้ก่อน
ส่วนเรื่องภาคผลนั้น อินชาอัลลอฮฺ...
ก็ขอมอบหมายไปยังอัลลอฮฺ....
เพราะหากพระองค์ไม่ให้ ใครก็ให้ไม่ได้...
ซึ่งถ้าชายใดหวังอยากได้ผู้หญิงที่มีครบทั้ง 4 ข้อ
ก็คงต้องรอ ซึ่งอาจจะมีผู้หญิงที่คุณสมบัติครบตามนั้นจริง
แต่เธอคนนั้นจะเป็นเนื้อคู่ของเราหรือเปล่าเท่านั้นเอง...
ส่วนข้าน้อย ไม่ได้รอคนที่มีคุณสมบัติพร้อมทุกอย่าง
แค่รอ...คนรักของอัลลอฮฺเท่านั้นเองค่ะ...
ซึ่งพ่อบอกว่า...นั่นคือ "ของสูง"
ถ้าอยากได้ต้องปีนขึ้นไป จะรอให้มันร่วงลงมา
หรือโน้มลงมาแปดเปื้อนไม่ได้...
เพราะถ้ามันร่วงลงมาจริงๆ มันก็ไม่ใช่ของสูงแล้ว...
...อันของสูงแม้ปองต้องจิต...หากไม่คิดปีนป่ายจะได้ฤา...
พ่อบอกว่า แม้เป็นผู้หญิง ท่านนบีก็สนับสนุน
ให้แสวงหาคนดี คนมีอีหม่าน...เพราะผู้หญิงก็มีสิทธิ์
ในการเลือกเฟ้นคู่ชีวิตของตัวเองเช่นกัน...
แต่มีคนทักว่า ถ้าปีนขึ้นไปถึงแล้วไม่เจอใครจะทำไง...
ข้าน้อยก็เลยบอกว่า...ก็ขึ้นคานไง...คานก็ของสูงเหมือนกัน
...อิอิอิ...
และไม่มีอะไรจะยิ่งใหญ่ เท่ากับการได้ขึ้นไปอยู่ตรงจุด
ที่พระเจ้ารัก...ของขวัญใดจะเทียบเท่าความรักจากอัลลอฮฺ...
และมีความรักนึงซึ่งบริสุทธิ์...เราสัมผัสได้ตั้งแต่แรกเกิด
และไม่ว่าเราจะหน้าตาเป็นอย่างไร...เขาก็พร้อมจะรักเรา
ทุกลมหายใจ...เราสวยและหล่อที่สุดสำหรับเขา
บุคคลนัั้นคือ...พ่อกับแม่...
ความรักจริง...ทำให้เรามองข้ามรูปโฉม
มองข้ามฐานันดร มองข้ามเชื้อชาติเผ่าพันธุ์...
และก็ความรักอีกเช่นกัน ที่ทำให้เรามองเห็นสิ่งดีๆ
ในตัวคนๆนึงได้ แม้คนมากมายจะมองไม่เห็น...
เลยเชื่อว่า...ความรัก...คือความเมตตายิ่งที่อัลลอฮฺ
มอบให้มนุษย์และสัตว์...
ปล.พร่ามเสียยาว
(ถ้ามาแบบสั้นๆก็คงจะไม่ใช่นาดาโยรุตัวจริง)
ขุดเสร็จก็ขอแบกจอบกลับไปลับคมต่อค่ะ...
จอบจะได้ไม่ขึ้นสนิม พร้อมจะกลับมาขุดอีกครั้งเมื่อมีโอกาส
วัสลามค่ะ