0065_ได้หรือไม่ แบ่งมรดกเท่าๆ กันตามคำสั่งเสียของผู้ตาย

[sufriyan]

Tweet

อัสลามูอาลัยกุม
เนื่องจากผมต่อจากข้อความเดิมไม่ได้ครับ
ไม่มีช่องให้ตอบเลย สงสัยระบบมีปัญหา งั้นถามที่นี่ละกัน
นาย ก.ได้บอกกับนางข.และลูกชายอีกคนหนึ่งว่าให้แบ่งมรดกเท่าๆกัน เมื่อนายก.ตาย เราบอกว่านาย ก.ได้สั่งเช่นนั้น แล้ววาริษ ทั้งหมด ไม่มีใครคัดค้าน ถือว่า ไช้ได้ใช่ไหมาครับ แต่หากว่ามีคนคัดค้าน ให้ถือว่า คำสั่งนั้นตกไปใช่หรือเปล่า แล้วต้องมาทำการแบ่งมรดกด้วยฟารอเอ็ดต่อ
ถามว่า ถ้าหากพยานที่รับฟังคำสั่งเสียผู้ชายสองคน  คำสั่งเสียใช้ได้หรือไม่
ถ้าหากพยานเป็นผู้ชายหนึ่งคน ผู้หญิงสองคน คำสั่งเสียใช้ได้หรือไม่
คำสั่งเสียกับพินัยกรรมแตกต่างกันไหม ยังไง
ถ้าหากเราบอกว่านาย ก.ได้สั่งเช่นนั้น โดยไม่เล่ารายละเอียดในเรื่องศาสนาเพื่อให้หมดเรื่องหมดราวในการแบ่งมรดก จะได้ไหม
แค่นี้ก่อนไปหาข้อมูลแล้วจะมาถามต่อ อินชาอัลลอฮ์

[al-azhary]

وعليكم السلام ورحمة الله وبركاته

بسم الله الرحمن الرحيم

الحمد لله رب العالمين و الصلاة والسلام على سيدنا محمد وعلي اله وصحبه أجمعين

คุณ ซูฟริยาน  ครับ  ปัญหาเรื่องครอบครัวเช่นนี้  ผมอยากให้ไปปรึกษาดาโต๊ะยุติธรรมประจำจังหวัดหรือผู้ที่เกี่ยวข้องนะครับ  แต่หากว่าผมได้ตอบ  เพื่อนของคุณที่โทรมาปรึกษานั้น  ต้องนำไปพิจารณาในการแบ่งมรดกที่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นสำหรับเขา  ผมก็เลยหนักใจที่จะตอบคำถาม  ผมจึงละหมาดอิสติคอเราะฮ์สองร่อกะอัต เพื่อให้การตอบของผมนี้ไม่ไปมีผลกระทบต่อครอบครัวอื่น
 
1.การแบ่งมรดกตามที่อัลเลาะฮ์ทรงบัญญัติไว้ในอัลกุรอาน  ถือว่าการแบ่งมรดกที่ดียิ่งอย่างสูงสุด

2. หากวาริษ(ทายาท) ต้องการจะแบ่งมรดกเท่า ๆ กัน โดยพวกเขามีมติตกลงเห็นพร้องกันโดยไม่มีผู้ใดคัดค้าน  ก็อนุญาตให้ทายาทแบ่งมรดกเท่ากันได้  เนื่องจากมรดกเป็นสิทธิของทายาทในการจัดการ  และการที่ทายาทมีมติเห็นพร้องให้แบ่งมรดกเท่ากันนั้น เขาเรียกว่า الصلح (อัศศุลห์ คือ การประนีประนอมหรือยิมยอมให้กันและกัน)  อย่างเช่น  ผู้ตายได้สั่งเสียให้บริจาคทรัพย์สิน  ก็อนุญาตได้แค่เศษหนึ่งส่วนสามเท่านั้น  แต่หากเกินกว่านั้น  ต้องได้รับการยินยอมจากทายาทผู้ตายเสียก่อน  เป็นต้น  และหากว่ามีทายาทคนหนึ่งไม่ยินยอมการประนีประนอมหรือยินยอมในสิ่งดังกล่าว  ก็ให้กลับไปใช้หลักการแบ่งมรดก (ฟะรอเอ็ด) แต่หากว่า  มีทายาทที่ยังไม่บรรลุศาสนภาวะและทายาทที่มีสติปัญญาไม่สมบูรณ์  ก็ไม่อนุญาตให้ทายาททำการแบ่งมรดกเท่า ๆ กัน  เพราะการยินยอมของทายาทที่ยังไม่บรรลุศาสนภาวะและสติปัญญาไม่สมบูรณ์นั้น  การตัดสินใจเห็นชอบย่อมไม่มีผล  นอกจาก ทายาทบรรลุศาสนภาวะและสติปัญญาหวนกลับมาเป็นปกติแล้ว   

3. หากมีพยานผู้ชายสองคนรับฟังการสั่งเสียและมีคุณสมบัติพร้อมในการเป็นพยาน  ก็สามารถรับการยืนยันเรื่องการสั่งเสียนั้นได้  แต่คำสั่งเสียดังกล่าวอยู่ในอัตตราทัพย์สินเพียงหนึ่งในสามส่วนเท่านั้น  หมายถึง หากมีเงิน 3 ล้านบาท   ก็สามารถนำมาแบ่งให้ทายาทเท่า ๆ ภายในวงเงิน 1 ล้านบาทเท่านั้น 

4. หากมีการอ้างว่า  ผู้ตายได้สั่งเสีย  จำเป็นต้องมีพยานผู้ชายสองคนเท่านั้น ตามมัซฮับชาฟิอีย์

5.การสั่งเสียนั้นด้วยถ้อยคำและคำว่าพินัยกรรมคือการสั่งเสียด้วยการบันทึก  แต่ไม่ว่าจะด้วยถ้อยคำหรือว่าการบันทึก ย่อมอยู่ในความหมายของ الوصية  (อัลวะซียะฮ์) ทั้งสิ้น 

والله أعلى وأعلم