salam
ฮะดิษนี้ท่านอิมามอันนะวาวีย์ ได้อธิบายจุดยืนหลักอะกีดะฮ์ของ อะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ ความว่า
هذا الحديث من أحاديث الصفات , وفيها مذهبان تقدم ذكرهما مرات في كتاب الإيمان . أحدهما : الإيمان به من غير خوض في معناه , مع اعتقاد أن الله تعالى ليس كمثله شيء وتنزيهه عن سمات المخلوقات . والثاني تأويله بما يليق به , فمن قال بهذا قال : كان المراد امتحانها , هل هي موحدة تقر بأن الخالق المدبر الفعال هو الله وحده , وهو الذي إذا دعاه الداعي استقبل السماء كما إذا صلى المصلي استقبل الكعبة ؟ وليس ذلك ; لأنه منحصر في السماء كما أنه ليس منحصرا في جهة الكعبة , بل ذلك لأن السماء قبلة الداعين , كما أن الكعبة قبلة المصلين , أو هي من عبدة الأوثان العابدين للأوثان التي بين أيديهم , فلما قالت : في السماء , علم أنها موحدة وليست عابدة للأوثان
ًًฮะ ดิษนี้ เป็นส่วนหนึ่งจากบรรดาฮะดิษซีฟาต และเกี่ยวกับบรรดาฮะดิษซีฟาตนั้น มี 2 แนวทาง (ซึ่งทั้ง 2 แนวทางก็คือแนวทางของอัลอะชาอิเราะฮ์) ตามที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วในกิตาบอัลอีหม่าน ก็คือ
1. ให้ศรัทธาด้วยกับฮะดิษนี้ โดยไม่เข้าใจยุ่งเกี่ยวในความหมายของมัน พร้อมกับเชื่อว่าอัลเลาะฮ์ตะอาลานั้นไม่มีสิ่งใดคล้ายเหมือนกับพระองค์ และพระองค์ทรงบริสุทธิ์จากสัญลักษณ์ของบรรดามัคโลค (คือแนวทางสะละฟุศศอลิห์โดยรวม)
2. ให้ทำการตีความ(ตะวีล) ฮะดิษนี้ด้วยสิ่งที่เหมาะสมต่อพระองค์ (คือแนวทางของค่อลัฟโดยรวม)
ดัง นั้น ผู้ที่ได้กล่าวด้วยกับการตีความนี้ เขาก็จะกล่าวว่า จุดมุ่งหมายก็คือ การทดสอบตัวนาง(ทาสหญิงผิวดำที่เป็นเด็ก) ว่านางนั้นเป็นผู้ที่เชื่อในอัลเลาะฮ์องค์เดียวหรือไม่ ยอมรับว่าผู้ทรงสร้าง เป็นผู้ทรงบริหาร ผู้ทรงกระทำ(ตามที่พระองค์ทรงประสงค์) คืออัลเลาะฮ์องค์เดียวหรือไม่? และพระองค์คือผู้ที่ผู้วอนขอต่อพระองค์ได้ทำการผินไปยังท้องฟ้าเหมือนกับที่ ผู้ทำการละหมาดได้ผินไปทางกิบลัตหรือไม่? ซึ่งดังกล่าวนั้น ไม่ใช่เพราะพระองค์ทรงจำกัดอยู่ในฟ้ากฟ้าเฉกที่พระองค์ก็ไม่ได้จำกัดอยู่ใน ทิศกะบะฮ์ แต่ทว่าสิ่งดังกล่าวเพราะฟากฟ้าเป็นกิบลัต(ทิศ)ของผู้ที่วอนขอดุอา เหมือนกับ กะบะฮ์เป็นกิบลัต(ทิศ)ของผู้ที่ทำการละหมาด หรือว่า(เพื่อสอบว่า)นางเป็นส่วนหนึ่งจากผู้ที่กราบไว้รูปปั้นที่อยู่ในมือ ของพวกเขาหรือไม่? ดังนั้นในขณะที่นางได้กล่าวว่า อยู่ในฟ้า ก็รู้เลยว่านางเป็นผู้ที่นับถือพระองค์เพียงองค์เดียวไม่ใช่เป็นผู้กราบไหว้ เจว็ด" ดู ชัรหฺ ซอเฮี๊ยะหฺมุสลิม ของอิมาม อันนะวาวีย์ เล่ม 5 หน้า 24
1. อิมามอันนะวาวีย์ กล่าวว่าแนวทางที่ถูกยอมรับนั้นมี 2 แนวทาง คือการมอบหมาย(ตัฟวีฏ)ในความหมายของมันและทำการตีความ
2. อิมามอันนะวาวีย์ กล่าวว่าฟากฟ้านั้นทิศหรือกิบลัตของผู้ทำการขอดุอาเหมอนกับกะบะฮ์เป็นทิศหรือกิบลัตของผู้ละหมาด
หลักอะกีดะฮ์ของวะฮาบีย์
1. วะฮาบียะฮ์เข้าไปยุ่งเกี่ยวความหมายไม่ทำการมอบ(ตัฟวีฏ)ในความหมายของมัน โดยสรุปว่า อัลเลาะฮ์ทรงมีทิศในเชิงรูปธรรมอยู่ไกลโพ้นจากฟากฟ้าและมัคโลค
2. วะฮาบียะฮ์พยายามอ้างว่าฟากฟ้าคือทิศหรือกิบลัตของอัลเลาะฮ์
วัลลอฮุอะลัม