ผู้เขียน หัวข้อ: ท่านอิมามอิบนุ หะญัร อัลอัสกอลานีย์ กับ ท่านอิมามนะวาวีย์ เป็นอะชาอิเราะฮฺหรือ??  (อ่าน 5176 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
 salam

ฮะดิษนี้ท่านอิมามอันนะวาวีย์  ได้อธิบายจุดยืนหลักอะกีดะฮ์ของ อะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์  ความว่า

هذا الحديث من أحاديث الصفات , وفيها مذهبان تقدم ذكرهما مرات في كتاب الإيمان . أحدهما : الإيمان به من غير خوض في معناه , مع اعتقاد أن الله تعالى ليس كمثله شيء وتنزيهه عن سمات المخلوقات . والثاني تأويله بما يليق به , فمن قال بهذا قال : كان المراد امتحانها , هل هي موحدة تقر بأن الخالق المدبر الفعال هو الله وحده , وهو الذي إذا دعاه الداعي استقبل السماء كما إذا صلى المصلي استقبل الكعبة ؟ وليس ذلك ; لأنه منحصر في السماء كما أنه ليس منحصرا في جهة الكعبة , بل ذلك لأن السماء قبلة الداعين , كما أن الكعبة قبلة المصلين , أو هي من عبدة الأوثان العابدين للأوثان التي بين أيديهم , فلما قالت : في السماء , علم أنها موحدة وليست عابدة للأوثان

ًًฮะ ดิษนี้  เป็นส่วนหนึ่งจากบรรดาฮะดิษซีฟาต  และเกี่ยวกับบรรดาฮะดิษซีฟาตนั้น  มี  2  แนวทาง (ซึ่งทั้ง 2 แนวทางก็คือแนวทางของอัลอะชาอิเราะฮ์) ตามที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วในกิตาบอัลอีหม่าน   ก็คือ

1. ให้ศรัทธาด้วยกับฮะดิษนี้  โดยไม่เข้าใจยุ่งเกี่ยวในความหมายของมัน  พร้อมกับเชื่อว่าอัลเลาะฮ์ตะอาลานั้นไม่มีสิ่งใดคล้ายเหมือนกับพระองค์  และพระองค์ทรงบริสุทธิ์จากสัญลักษณ์ของบรรดามัคโลค (คือแนวทางสะละฟุศศอลิห์โดยรวม)

2. ให้ทำการตีความ(ตะวีล) ฮะดิษนี้ด้วยสิ่งที่เหมาะสมต่อพระองค์  (คือแนวทางของค่อลัฟโดยรวม)

ดัง นั้น  ผู้ที่ได้กล่าวด้วยกับการตีความนี้  เขาก็จะกล่าวว่า  จุดมุ่งหมายก็คือ  การทดสอบตัวนาง(ทาสหญิงผิวดำที่เป็นเด็ก)  ว่านางนั้นเป็นผู้ที่เชื่อในอัลเลาะฮ์องค์เดียวหรือไม่ ยอมรับว่าผู้ทรงสร้าง  เป็นผู้ทรงบริหาร  ผู้ทรงกระทำ(ตามที่พระองค์ทรงประสงค์) คืออัลเลาะฮ์องค์เดียวหรือไม่?  และพระองค์คือผู้ที่ผู้วอนขอต่อพระองค์ได้ทำการผินไปยังท้องฟ้าเหมือนกับที่ ผู้ทำการละหมาดได้ผินไปทางกิบลัตหรือไม่?  ซึ่งดังกล่าวนั้น  ไม่ใช่เพราะพระองค์ทรงจำกัดอยู่ในฟ้ากฟ้าเฉกที่พระองค์ก็ไม่ได้จำกัดอยู่ใน ทิศกะบะฮ์  แต่ทว่าสิ่งดังกล่าวเพราะฟากฟ้าเป็นกิบลัต(ทิศ)ของผู้ที่วอนขอดุอา  เหมือนกับ  กะบะฮ์เป็นกิบลัต(ทิศ)ของผู้ที่ทำการละหมาด  หรือว่า(เพื่อสอบว่า)นางเป็นส่วนหนึ่งจากผู้ที่กราบไว้รูปปั้นที่อยู่ในมือ ของพวกเขาหรือไม่?  ดังนั้นในขณะที่นางได้กล่าวว่า  อยู่ในฟ้า  ก็รู้เลยว่านางเป็นผู้ที่นับถือพระองค์เพียงองค์เดียวไม่ใช่เป็นผู้กราบไหว้ เจว็ด" ดู  ชัรหฺ ซอเฮี๊ยะหฺมุสลิม ของอิมาม อันนะวาวีย์ เล่ม 5 หน้า 24

1. อิมามอันนะวาวีย์  กล่าวว่าแนวทางที่ถูกยอมรับนั้นมี 2 แนวทาง  คือการมอบหมาย(ตัฟวีฏ)ในความหมายของมันและทำการตีความ

2. อิมามอันนะวาวีย์  กล่าวว่าฟากฟ้านั้นทิศหรือกิบลัตของผู้ทำการขอดุอาเหมอนกับกะบะฮ์เป็นทิศหรือกิบลัตของผู้ละหมาด

หลักอะกีดะฮ์ของวะฮาบีย์

1. วะฮาบียะฮ์เข้าไปยุ่งเกี่ยวความหมายไม่ทำการมอบ(ตัฟวีฏ)ในความหมายของมัน  โดยสรุปว่า อัลเลาะฮ์ทรงมีทิศในเชิงรูปธรรมอยู่ไกลโพ้นจากฟากฟ้าและมัคโลค

2. วะฮาบียะฮ์พยายามอ้างว่าฟากฟ้าคือทิศหรือกิบลัตของอัลเลาะฮ์

วัลลอฮุอะลัม
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
 salam

ท่านอิมามนะวาวีย์ ได้กล่าวไว้ในหนังสือ เราเฏาะตุตฏอลีบีน ของท่าน ว่า

إن من الأمور التى يرتد به الإنسان عن دين الإسلام ويكفر معتقدها هى : أن يثبت إنسان لله تعالى الإتصال والإنفصال

ความ ว่า " ส่วนหนึ่งจากประการต่างๆ ที่ทำให้ มนุษย์ตกมุรตัดออกจากศาสนาอิสลาม และเป็นกุฟุรกับผู้ที่ยึดมั่นกับมัน ก็คือ การที่มนุษย์คนหนึ่งได้ทำการยืนยันให้กับอัลเลาะฮฺ กับการที่(พระองค์)ทรงติดอยู่(ในโลกนี้) หรือแยก(จากโลกนี้ คือพระองค์อยู่นอกโลก) " ดู หนังสือ เราเฏาะตุตฏอลิบีน ของท่านอิมามนะวาวีย์ เล่ม 10 หน้า 64

อะกีดะฮ์ของอิมามอันนะวาวีย์นั้น  คืออัลเลาะฮ์มิได้ทรงอยู่ในโลกหรือนอกโลก  แต่พระองค์ทรงมีอยู่ในสภาวะที่เคยมีมาที่ก่อนจะมีสร้างสากลโลก  และปัจจุบันก็ไม่ทรงเปลี่ยนแปลง  แต่ที่แน่ ๆ คืออัลเลาะฮ์ทรงมี  จะมีอย่างไรนั้นเราของมอบหมายต่ออัลเลาะฮ์  แต่ทว่าบรรดาสรรพสิ่งทั้งหลายย่อมชี้ถึงการมีของพระองค์

อะกีดะฮ์วะฮาบียะฮ์

1. วะฮาบียะฮ์เชื่อว่าอัลเลาะฮ์ทรงอยู่แยกจากโลกนี้  อัลเลาะฮ์อยู่นอกโลก  อยู่บนฟ้า  ไกลออกไป
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
 salam

ท่านอิมามอันนะวาวีย์กล่าวอธิบายว่า

مَذْهَب أَهْل الْحَقّ أَنَّ الرُّؤْيَة قُوَّة يَجْعَلهَا اللَّه تَعَالَى فِي خَلْقه , وَلَا يُشْتَرَط فِيهَا اِتِّصَال الْأَشِعَّة وَلَا مُقَابَلَة الْمَرْئِيّ وَلَا غَيْر ذَلِكَ , لَكِنْ جَرَتْ الْعَادَة فِي رُؤْيَة بَعْضنَا بَعْضًا بِوُجُودِ ذَلِكَ عَلَى جِهَة الِاتِّفَاق لَا عَلَى سَبِيل الِاشْتِرَاط , وَقَدْ قَرَّرَ أَئِمَّتنَا الْمُتَكَلِّمُونَ ذَلِكَ بِدَلَائِلِهِ الْجَلِيَّة وَلَا يَلْزَم مِنْ رُؤْيَة اللَّه تَعَالَى إِثْبَات جِهَة - تَعَالَى عَنْ ذَلِكَ - بَلْ يَرَاهُ الْمُؤْمِنُونَ لَا فِي جِهَة كَمَا يَعْلَمُونَهُ لَا فِي جِهَة . وَاَللَّه أَعْلَم

ท่านอิมามอันนะวา วีย์ได้อธิบายเช่นกันว่า  "ที่เป็นสัจธรรมก็คือ  แท้จริง การเห็นนั้น  อัลเลาะฮ์จะสร้างพลัง(แห่งการเห็น) ให้อยู่ในมัคโลค(คือ บรรดามุมินีน)และในการเห็นนั้นมิได้ถูกวางเงื่อนไขว่าจะสัมพันธ์กับการ สะท้อนแสงและไม่ถูกวางเงื่อนไขว่าต้องเผชิญหน้ากันระหว่างผู้ที่ถูกเห็นและ ไม่ถูกวางเงื่อนไขอื่น ๆ จากสิ่งดังกล่าวเลย  แต่ตามหลักของกฏธรรมดาทั่วไปในการที่เราเห็นซึ่งกันและกันนั้นดังกล่าวจำเป็นต้องมีทิศมาบรรจบกันแต่มิได้อยู่บนเงื่อนไข(ว่าทั้งสองต้องมีทิศทาง เห็น)  และแท้จริงบรรดาปราชญ์มุตะกัลลิมีนของเราได้ยืนยันในสิ่งดังกล่าวด้วยบรรดา หลักฐานที่ชัดเจน  และไม่จำเป็นว่าการเห็นอัลเลาะฮ์นั้น  ต้องยืนยันการมีทิศทางให้กับพระองค์  ซึ่งพระองค์ทรงบริสุทธิ์จากสิ่งดังกล่าว  แต่ทว่าบรรดามุอฺมินจะได้เห็นพระองค์โดย(พระองค์)มิได้อยู่ในทิศใด  เหมือนกับที่บรรดามุอฺมินรู้ดีกว่าพระองค์มิได้อยู่ในทิศใด  วัลลอฮุอะลัม" ชัรห์ ซอฮิห์มุสลิม 2/20

จากคำกล่าวของอิมามอันนะวาวี ย์นี้  ทำให้เรารู้ว่า  อะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์จะได้เห็นอัลเลาะฮ์ตะอาลาด้วยพลังที่พระองค์ทรง สร้างแก่ให้มัคโลคในวันกิยามะเพื่อให้เห็นพระองค์ตามวิธีการที่พระองค์ทรง ประสงค์  พระองค์จะให้มุมินเห็นอย่างชัดเจนโดยไม่ได้ข้อสงสัยอันใดเลย  ซึ่งการเห็นนี้เมื่ออัลเลาะฮ์ทรงประสงค์ให้เราได้เห็น  ก็มิได้หมายความว่าต้องเห็นตามเงื่อนไขของการเห็นในโลกดุนยาที่ต้องมีทิศ  ท่านอิมามญะลาลุดดีน อัดดะวานีย์ได้กล่าวว่า  "ไม่จำเป็นจากบรรดาเงื่อนไข(การเห็นแบบในโลกดุนยา)ดังกล่าว  นำมาเป็นเงื่อนไขในการเห็นในโลกอาคิเราะฮ์"  หนังสือชัรห์ ญะลาลุดดีน อัดดะวานีย์  2/167

อะกีดะฮ์วะฮาบียะฮ์

1. วะฮาบียะฮ์เชื่อว่าพวกเขาจะเห็นอัลเลาะฮ์แบบมีทิศและมีรูปแบบวิธีการ  คืออยู่ทิศข้างบนพวกเขา  แล้วก็เงยหน้าขึ้นไปมองในวันกิยามะฮ์

วัลลอฮุอะลัม
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ The sunnah

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 69
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
อะกีดะฮฺแบบวะฮาบีย์นี้  อันตรายมากจริงๆ ครับ.... Oops: Oops:

 

GoogleTagged