ผู้เขียน หัวข้อ: ปัญหาเงิน สสส.  (อ่าน 5577 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ al-talib

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 8
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ปัญหาเงิน สสส.
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: ส.ค. 10, 2008, 07:37 PM »
0
3.ขอบคุณคับสำหรับหลักฐานของอาจารย์ที่ว่า...ท่านอุมัรได้แยกภาษีสุราและสุกรดังกล่าวเป็นกองคลังเอกเทศและนำไปใช้สาธารณประโยชน์...กรณีที่แยกผมเองก็มองว่ายังไม่ตรงประเด็นอีกเช่นกันเพราะบริบทของรัฐอิสลามไม่ได้แน่นอนอยู่แล้วที่จะนำมาใช้ในกิจการศาสนาซึ่งท่านอุมัรเองตามที่ยกมาก็นำไปใช้สาธารณะประโยชน์...จึงแตกต่างกับบริบทรัฐที่ไม่ใช่รัฐอิสลาม(อิคติลาฟุดดารอย)หรือรัฐที่ไม่ได้ใช้กฎหมายอิสลามปกครองประเทศ...เช่นประเทศไทย...จึงอยากให้อาจารย์อัชฮารีย์ชี้แนะอีกเล็กน้อยคับ...วัสลาม

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: ปัญหาเงิน สสส.
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: ส.ค. 11, 2008, 02:25 AM »
0
3.ขอบคุณคับสำหรับหลักฐานของอาจารย์ที่ว่า...ท่านอุมัรได้แยกภาษีสุราและสุกรดังกล่าวเป็นกองคลังเอกเทศและนำไปใช้สาธารณประโยชน์...กรณีที่แยกผมเองก็มองว่า
ยังไม่ตรงประเด็นอีกเช่นกันเพราะบริบทของรัฐอิสลามไม่ได้แน่นอนอยู่แล้วที่จะนำมาใช้ในกิจการศาสนาซึ่งท่านอุมัรเองตามที่ยกมาก็นำไปใช้สาธารณะประโยชน์...
จึงแตกต่างกับบริบทรัฐที่ไม่ใช่รัฐอิสลาม(อิคติลาฟุดดารอย)หรือรัฐที่ไม่ได้ใช้กฎหมายอิสลามปกครองประเทศ...เช่นประเทศไทย...
จึงอยากให้อาจารย์อัชฮารีย์ชี้แนะอีกเล็กน้อยคับ...วัสลาม

ผมไม่ได้กล่าวว่า  ท่านอุมัรแยกภาษีสุราและสุกรเป็นกองคลังเอกเทศน์  แต่ผมได้บอกว่า  เงินภาษีที่เก็บได้  ไม่ว่าจะเป็นภาษีสุราและสุกรนั้น  ล้วนต้องเข้ามาเก็บไว้ในบัยตุลมาล(คลังหลวง)  แล้วนำมาทำนุบำรุงบ้านเมืองเพื่อเป็นสาธารณะประโยชน์แก่ประชาชนมุสลิมีนโดยรวม 

หากเราพิจารณาคำว่า "บัยตุลมาล"  ปรากฏว่า  ในบัยตุลมาล (คลังหลวง)นั้น  ก็ทรัพย์สินหลากหลายประเภทที่เป็นรายได้เข้ามาแก่คลังหลวง  ซึ่งทรัพย์สินแต่ละประเภทในคลังหลวงก็ต้องจัดแบ่งแยกแยะไว้เป็นส่วน ๆ หรือหมวดหมู่  เช่น  ในบัยตุลมาล (คลังหลวง)  มีทรัพย์สิน  อาทิเช่น

1. ทรัพสินประเภท "อัลฟัยอ์"  คือทรัพย์สินที่มุสลิมีนได้ยึดได้มาจากพวกกุฟฟารโดยไม่ต้องทำสงคราม  ซึ่งทรัพย์สินประเภทนี้มอบแต่บรรดามุสลิมทั่วไปหรือแล้วแต่การวินิจฉัยของผู้นำ

2.  ทรัพย์สินประเภท "อัลฆ่อนีมะฮ์" คือทรัพย์สินที่มุสลิมได้ยึดได้มาพวกกุฟฟารหลังจากทำสงครามแล้ว  ซึ่งต้องแบ่งตามที่อัลกุรอานได้กล่าวไว้ว่า  "แท้จริงเป็นของอัลเลาะฮ์  เศษหนึ่งส่วนห้าของมัน  และของศาสนทูต , ของญาติสนิท(ของศาสนทูต) , ของลูกกำพร้า , ของคนอนาถา , และของคนเดินทาง (ที่ยากจน)" อัลอัมฟาล 41

3. ทรัพย์สินประเภท "อัลอุชูร" คือทรัพย์สินที่เก็บมาจากบรรดาพ่อค้าจากประเทศคู่สงคราม  ที่ได้ผ่านเข้ามาในอาณาจักรอิสลาม

4. ทรัพย์สินประเภท "อัลยิซยะฮ์" (เงินภาษี) ซึ่งเก็บมาจากพวกนะซอรอ , ยะฮูดี , มุญูซีย์ , ต่อการให้ความคุ้มครองและให้ความปลอดภัยต่อพวกเขา  ซึ่งเงินภาษีนี้จะถูกนำมาใช้กับสาธานูประโยชน์โดยรวมของประเทศ

5. ทรัพย์สินประเภท "อัศศ่อดะเกาะฮ์"  ทรัพย์ที่มุสลิมได้บริจาคให้โดยมีเป้าหมายเพื่อผลบุญและฏออัตภักดี  ซึ่งร่วมถึงการบริจาคแบบเชิงบังคับ เรียกว่า "ซะกาต"  หรือบริจาคเชิงสมัครใจ  เรียกว่า "ศ่อดะเกาะฮ์"

6.  ทรัพย์สินประเภท "อัลค่อรอจญ์" (เงินภาษีแผ่นดิน) เก็บมาจากพวกกุฟฟารจากผืนดินทำกินของพวกเขาที่ผู้นำมุสลิมีนได้จัดสรรให้

ดังนั้นทรัพย์สินในบัยตุลมาล  ก็สามารถนำมาใช้ในรูปแบบสาธารณะประโยชน์โดยรวม  และประโยชน์แบบเฉพาะ  และการนำไปใช้ก็ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของผู้นำด้วย  ส่วนกรณีของท่านอุมัรนั้น  หากเกี่ยวกับเรื่องศาสนาโดยตรง  เช่นการบูรณะมัสยิด  ท่านจะขอเงินบริจาคที่บริสุทธิ์ต้องมีการไตร่สวนที่มาของเงิน  และเรื่องของศาสนาเช่นนี้  มันเป็นสิทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับอัลเลาะฮ์   ส่วนเรื่องสาธารณูประโยชน์นั้นเกี่ยวข้องกับมุสลิมีนโดยรวม  ดังนั้นจึงชัดเจนว่า  ท่านอุมัรไม่เอาเงินจากเก็บภาษีมาบูรณะมัสยิด  โดยเฉพาะเงินภาษีสุราและสุกร  ท่านไม่เอานำใช้เกี่ยวกับเรื่องศาสนาแน่นอน

ส่วนเงินภาษีที่รัฐมิใช่อิสลามนั้น  หากเขานำมาช่วยเหลือแก่เรา  ก็สมควรในการแยกแยะนำมาใช้ให้เหมาะสมตามหลักการที่ควรจะเป็น

วัลลอฮุอะลัม
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: ปัญหาเงิน สสส.
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: ส.ค. 11, 2008, 02:40 AM »
0
3.ขอบคุณคับสำหรับหลักฐานของอาจารย์ที่ว่า...ท่านอุมัรได้แยกภาษีสุราและสุกรดังกล่าวเป็นกองคลังเอกเทศและนำไปใช้สาธารณประโยชน์...กรณีที่แยกผมเองก็มองว่า
ยังไม่ตรงประเด็นอีกเช่นกันเพราะบริบทของรัฐอิสลามไม่ได้แน่นอนอยู่แล้วที่จะนำมาใช้ในกิจการศาสนาซึ่งท่านอุมัรเองตามที่ยกมาก็นำไปใช้สาธารณะประโยชน์...
จึงแตกต่างกับบริบทรัฐที่ไม่ใช่รัฐอิสลาม(อิคติลาฟุดดารอย)หรือรัฐที่ไม่ได้ใช้กฎหมายอิสลามปกครองประเทศ...เช่นประเทศไทย...
จึงอยากให้อาจารย์อัชฮารีย์ชี้แนะอีกเล็กน้อยคับ...วัสลาม

ผมยังไม่เข้าใจแจ่มแจ้งคำว่า  "จึงแตกต่าง..." น่ะครับ ว่ามันแตกต่างในแง่ใหน แล้วบริบทที่ว่านั้นมันต่างกันอย่างไร? ขอให้คุณช่วยชี้แจงรายละเอียดให้ผมทราบด้วยครับ  แต่จุดที่เหมือนระหว่างรัฐบาลอิสลาม(เช่นสมัยท่านอุมัร) และรัฐบาลไทยนั้น  คือ  ต่างฝ่ายก็เก็บและนำเงินภาษีมาช่วยเหลือและให้ยังเกิดประโยชน์โดยรวม المصالح العامة แก่บรรดามุสลิมีน  แต่ค่าเงินภาษีที่เก็บมานั้น  เป็นคนละรัฐบาลกันเท่านั้น 

ส่วนความต่างก็ผมเห็นในแง่มุมหนึ่งก็คือ รัฐอิสลามเมื่อนำเงินภาษีมาใช้เกี่ยวกับ المصالح العامة   แก่บรรดามุสลิมีน  รัฐบาลอิสลามจะควบคุมโดยตรงในแง่การนำไปใช้  ส่วนรัฐบาลที่ไม่ใช่อิสลามนั้น  เป็นหน้าที่ต่อบรรดามุสลิมที่รับเงินภาษีมา  แล้วนำมาใช้ให้ถูกกับหลักการและความเหมาะสม

วัลลอฮุอะลัม
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-talib

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 8
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ปัญหาเงิน สสส.
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: ส.ค. 11, 2008, 11:41 AM »
0
ต่อ...

ไม่ทราบว่าท่านอาจารย์อัชฮารีย์ เคยได้อ่านบทความ...การใช้ประโยชน์ของมุสลิมจากภาษีสุรา ภาษีสุกรที่เก็บโดยรัฐบาลไทย ในมุมมองของกฎหมายอิสลาม เขียนโดย ดร.มะรอนิง สาแลมิง...หรือยังคับ?...ซึ่งมีคำตอบอยู่ในตัวในบริบทรัฐที่ไม่ใช่อิสลามถ้ายังผมอาจ
จะนำมาโพสคับถ้าได้อ่านแล้วผมก็คงไม่โพสอีกคับ...วัสลาม

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: ปัญหาเงิน สสส.
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: ส.ค. 11, 2008, 11:48 AM »
0
ต่อ...

ไม่ทราบว่าท่านอาจารย์อัชฮารีย์ เคยได้อ่านบทความ...การใช้ประโยชน์ของมุสลิมจากภาษีสุรา ภาษีสุกรที่เก็บโดยรัฐบาลไทย ในมุมมองของกฎหมายอิสลาม เขียนโดย ดร.มะรอนิง สาแลมิง...หรือยังคับ?...ซึ่งมีคำตอบอยู่ในตัวในบริบทรัฐที่ไม่ใช่อิสลามถ้ายังผมอาจ
จะนำมาโพสคับถ้าได้อ่านแล้วผมก็คงไม่โพสอีกคับ...วัสลาม

โปรดนำมาโพสต์  แล้วคุณชี้ความแตกต่างให้ผมทราบแบบสรุปสั้น ๆ ด้วยนะครับ  จักขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง 
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-talib

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 8
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ปัญหาเงิน สสส.
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: ส.ค. 11, 2008, 12:20 PM »
0
ออ...ลืมไปคับ...ยาวมากคับกลัวเพื่อนท่านอื่นๆจะว่า... เอาเป็นว่าผมแนะนำเวบให้นะคับ...http://www.iqraonline.org

หัวข้อ...ร่วมเสวนาประเด็นเงิน สสส...เห็นเวบเขารวบรวมทัศนะลองศึกษาดูนะคับอาจเป็นเวบวาฮาบิตามที่กลุ่มของท่านเรียก

กัน...ผมก็เป็นวาฮาบิมั่งคับแต่ไม่เป็นไรแล้วแต่จะเรียก...เรามาร่วมมือทางวิชาการกันดีกว่าเพื่อเป็นประโยชน์ทางวิชาการนะคับ...

สงสัยประเด็นไหนแล้วค่อยมาคุยกันอีกที...ให้ความรู้ผมอีกที...ก็ไม่รู้จะสรุปอย่างไร...เมื่อผมอ่านบทความ ดร...แล้วอยากตอบ

โต้บทความเชคจังเพราะดูๆแล้วไม่ค่อยมีวิชาการเท่าไรและเหน็บแนมผู้รู้ที่เห็นต่างไว้เยอะคิดว่าทัศนะตนเองถูกคงจะให้อาจารย์

อัชฮารีย์ขัดภาษาอีกทีวันนี้แค่นี้ก่อนคับ...วัสลาม

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: ปัญหาเงิน สสส.
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: ส.ค. 11, 2008, 12:26 PM »
0
ออ...ลืมไปคับ...ยาวมากคับกลัวเพื่อนท่านอื่นๆจะว่า... เอาเป็นว่าผมแนะนำเวบให้นะคับ...http://www.iqraonline.org

หัวข้อ...ร่วมเสวนาประเด็นเงิน สสส...เห็นเวบเขารวบรวมทัศนะลองศึกษาดูนะคับอาจเป็นเวบวาฮาบิตามที่กลุ่มของท่านเรียก

กัน...ผมก็เป็นวาฮาบิมั่งคับแต่ไม่เป็นไรแล้วแต่จะเรียก...เรามาร่วมมือทางวิชาการกันดีกว่าเพื่อเป็นประโยชน์ทางวิชาการนะคับ...

สงสัยประเด็นไหนแล้วค่อยมาคุยกันอีกที...ให้ความรู้ผมอีกที...ก็ไม่รู้จะสรุปอย่างไร...เมื่อผมอ่านบทความ ดร...แล้วอยากตอบ

โต้บทความเชคจังเพราะดูๆแล้วไม่ค่อยมีวิชาการเท่าไรและเหน็บแนมผู้รู้ที่เห็นต่างไว้เยอะคิดว่าทัศนะตนเองถูกคงจะให้อาจารย์

อัชฮารีย์ขัดภาษาอีกทีวันนี้แค่นี้ก่อนคับ...วัสลาม

เว็บอิกเราะอฺ  กับ  เว็บฟิตยะฮ์  อ้างอิงที่นี่ได้  ไม่มีปัญหา  แล้วก็เคยมีพี่น้องเว็บอิกเราะอฺนำมาอ้างอิงก่อนหน้านี้แล้ว  ก็ไม่มีปัญหาอะไร  อย่าไปคิดมาก  ;D
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: ปัญหาเงิน สสส.
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: ส.ค. 11, 2008, 12:29 PM »
0
 salam

ผมไปอ่านที่อิกเราะอฺ และเจอบทความของ ดร. อับดุลฆอนี  แล้วครับ  ซึ่งอ่านมาแบบเร็ว ๆ  ซึ่งเนื้อหาถือว่าดีมาก  ได้ความรู้  แต่มีอยู่ประเด็นหนึ่ง  ซึ่งผมคิดว่าเป็นสิ่งที่คุณต้องการนำมาให้ผมอ่าน  คือดังนี้ครับ

5. การเทียบเคียงกรณีภาษีสุรา ภาษีสุกรที่รัฐ จัดให้ สสส. ดำเนิน และบริหารส่วนนี้ กับทรัพย์สินหะรอมที่อยู่ในบัยตุลมาล (กระทรวงการคลังของรัฐอิสลาม) เป็นการเทียบเคียงที่ถูกต้องหรือไม่ ?

ตอบ: การใช้หลักการเทียบเคียงระหว่างกรณีดังกล่าวเป็นการเทียบเคียงไม่ตรงประเด็น

( กียาสมะอะฟาริก) เป็นการใช้หลักการเทียบเคียงที่ไม่ถูกต้อง เพราะกรณีของทรัพย์สินหะรอมที่เกิดพลัดหลงเข้าไปในบัยตุลมาลนั้น จำนวนของมันเข้าไปปะปนจนไม่สามารถแยกแยะได้ว่าอันไหนเป็นทรัพย์สินบริสุทธิ์ อันไหนเป็นทรัพย์สินที่ต้องห้าม ฉะนั้น นักกฎหมายอิสลามจึงมีความเห็นตรงกันว่า ในกรณีเช่นนี้ หากเกิดขึ้นในรัฐอิสลาม หรือในเมืองหนึ่งเมืองใดของรัฐอิสลาม ก็เป็นการอนุโลมสามารถเอาไปใช้ประโยชน์ได้ แต่ในกรณีภาษีสุรา ภาษีสุกร ที่รัฐจัดให้กับ สสส. เป็นที่แน่นอนว่า มาจากทรัพย์สินที่เกิดจากสุรา และสุกร โดยไม่ต้องสงสัย ฉะนั้น การใช้หลักการเทียบเคียงดังกล่าว เป็นการใช้หลักการเทียบเคียงที่ไม่ถูกต้อง

และกรณีของทรัพย์สินหะรอม ในบัยตุลมาลนั้น เกิดขึ้นโดยมุสลิมเข้าไปเกี่ยวข้องในประเทศหรือรัฐที่ใช้กฎหมายอิสลามปกครอง ซึ่งแตกต่างจากกรณีภาษีสุรา ภาษีสุกร ภาษีการพนันที่เก็บโดยรัฐบาลไทย เป็นการกระทำที่เกิดระหว่างพลเมืองที่มิใช่มุสลิมกับรัฐที่ปกครองที่ใช้กฎหม ายรัฐธรรมนูญของราชอาณาจักรไทยซึ่งการเก็บภาษีดังกล่าวเป็นที่ยอมรับของสังค มว่าชอบธรรม และกระบวนการก็ได้สิ้นสุดระหว่างพวกเขาแล้ว ฉะนั้น หากเอาประเด็นภาษีสุรา ภาษีสุกร ภาษีการพนันที่เก็บโดยรัฐบาลไทย ไปเทียบเคียงกับทรัพย์สินหะรอมที่อยู่ในบัยตุลมาลจึงเป็นการเทียบเคียงที่ไม ่ถูกต้อง เป็นการใช้หลักการกียาสที่มีเหตุผลแตกต่างกัน จึงเป็นสิ่งที่ไม่ชอบโดยหลักการวินิจฉัย
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
Re: ปัญหาเงิน สสส.
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: ส.ค. 11, 2008, 12:40 PM »
0
อัสสลามุ อลัยกุม

             เกี่ยวกับประเด็นการยกหลักฐานประกอบในเรื่องๆ หนึ่ง ทางวะฮาบีย์มักจะต้องการหลักฐานแบบผิวเผิน ที่ตรงเดะๆ กับประเด็นนั้นๆ โดยบางครั้งไม่ย่อมกิยาส แม้จะใกล้เคียงมากที่สุดก็ตาม นี่คือสิ่งที่ประสบเกี่ยวกับปัญหาการยกหลักฐานในการอ้างจากการเรียนที่ มอ.ปัตตานี แล้วบางครั้งก็ขัดแย้งกันเองบ้าง ในบางประเด็นที่อ้าง ทั้งๆ ที่เป็นวะฮาบีกันทั้งคู่ เช่นประเด็นการร้องเพลงได้ไหม? ขอมาอัฟด้วยที่คุยไม่ตรงประเด็น

              ดร.มะรอนิง สาแลมิง คือ อ.ของผมเองครับ ท่านสอนวิชาอุศูลุลฟิกฮฺ ท่านสอนได้ดีมากครับ ลึกและมีฮิกมะฮฺ ท่านมักจะพูดในสไตล์แบบใช้หลักบะลาเฆาะฮ์และจิตวิทยา บางครั้งท่านพูดประชดและตักเตือนนักศึกษา บางทีก็ถึงขึ้นด่า แต่นักศึกษามักจะไม่รู้ตัว แต่เมื่อรู้ตัว ก็จะพากันยิ้มและหัวเราะกันยกใหญ่ พอใจกับคำด่า อิอิ ผมชอบสไตล์การสอนของท่านมากๆ ครับ ทั้งตัว อ.และวิชา ถูกใจผมมากๆ และท่านเองก็มีต้องขึ้นประชุมที่ กทม อยู่บ่อยครั้ง เพื่อเข้าประชุม และเสวนาทางวิชาการ เพราะท่านเป็นคนเก่งและพูดเก่ง มีฮิกมะฮฺ พูดรักษาน้ำใจคน อย่างงี้แหละ คือ อ.ที่น่าเอาอย่าง นี่คือความเห็นของผมนะ - ขอมาอัฟอีกครั้งที่ไม่ตรงประเด็น

วัสสลามุ อลัยกุม
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: ปัญหาเงิน สสส.
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: ส.ค. 11, 2008, 12:46 PM »
0
 salam

ดร. มะรอนิง  ได้กล่าวอีกว่า

2. เมื่อการทำธุรกิจหรือนิติกรรมสัญญาของพวกเขาเป็นสิ่งที่กฎหมายอิสลามให้การย อมรับว่าชอบธรรม เงิน ทรัพย์สิน หรือสินค้าที่ได้จากการทำธุรกรรม หรือการทำนิติกรรมสัญญาดังกล่าวของพวกเขา มุสลิมสามารถทำการซื้อ ขาย ในเรื่องที่ไม่ผิดกฎหมายอิสลาม หรือรับในรูปแบบ รับบริจาค รับของขวัญ ได้หรือไม่ ?

ตอบ: เช็คอิบนุก็อยยิม กล่าวว่า “ เมื่อพวกเขาเหล่านั้น (ผู้ที่มิใช่มุสลิม) ได้ชำระค่าต่าง ๆ ที่เป็นหน้าที่ของพวกเขา จะเป็นภาษีส่วนตัว (ภาษีคุ้มครอง) ภาษีที่ดิน ค่าปรับ (สินไหม) จ่ายหนี้ หรืออื่น ๆ ที่มาจากสิ่งต้องห้ามในระบบกฎหมายของเรา (มุสลิม) แต่ของพวกเขาไม่ได้ถือว่าเป็นสิ่งต้องห้าม เช่น เหล้า สุกร ถือว่าเป็นสิ่งอนุมัติสำหรับเราที่จะได้รับจากเขาเหล่านั้น นี้คือทัศนะของอิหม่ามอะหฺมัด (อัล-ฮัมบาลีย์) และนักกฎหมายอิสลามท่านอื่น ๆ ที่เป็นชาวสะลัฟ…… แท้จริงเหล่าปฏิเสธชน เมื่อได้ทำการซื้อขายสิ่งเหล่านั้น (สุรา ,สุกร) ระหว่างพวกเขาแล้ว ถือว่าพวกเขาได้ดำเนินธุระกรรม บนพื้นฐานในสิ่งที่พวกเขาเห็นว่าเป็นสินค้า และมูลค่าที่ชอบธรรม และในเมื่อเรารับมูลค่าจากพวกเขา ก็ถือว่าเรารับมูลค่าที่หะลาล (ชอบธรรม) ของพวกเขา ” (อิบนุก็อยยิม : 1995 : 1 : 63)

ออกความเห็น

จากตรงนี้  แสดงว่า ภาษีของผู้ที่ไม่ใช่มุสลิมที่มาจากสิ่งที่ฮะรอม  เช่น สุรา  สุกร  เป็นต้น นั้น  เราสามารถรับจากเขาได้  แต่...ต้องด้วยการตีเป็นมูลค่าหรือราคา  โดยวิธีการที่พวกเขานำไปซื้อขาย  แล้วนำเงินนั้น  มาจ่ายเป็นภาษี  ซึ่งเราสามารถรับได้  ดังที่มีรายงานจากท่านอุมัรความว่า

ได้รายงานว่า  เมื่อบรรดาเจ้าหน้าที่ของท่านอุมัร ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ  ได้มารวมตัวประชุมที่ท่าน  ท่านอุมัรจึงกล่าวว่า

يا هؤلاء إنه قد تلغني أنكم تأخذون في الجزية الخمر والخنزير ، فقال بلال : أجل إنهم يفعلون ذلك فقال : فلا تفعلو ، ولكن ولوا أربابها بيعها ، ثمّ خذوا الثمن منهم

"โอ้พวกท่านเหล่านี้เอ๋ย  ได้ทราบมาถึงฉันว่า  พวกท่านได้นำสุราและสุกรมาอยู่ในภาษีด้วย  ท่านบิล้าลตอบว่า  ใช่แล้วครับ  พวกเขาได้กระทำดังกล่าว  ท่านอุมัรกล่าวว่า  พวกท่านอย่างทำเช่นนั้น  แต่ทว่าให้พวกท่านจงให้เจ้าของเหล้าและสุกร (ที่เป็นกาเฟรซิมมีย์ผู้อยู่ภายใต้สนธิสัญญาการปกครองอิสลาม)ทำการขายมัน   แล้วพวกท่านก็จงเอาราคา(ของสุราและสุกร)มาจากพวกเขา(เพื่อเป็นเงินภาษี)"  จากหนังสือ อัลค่อรอจญ์ ของท่านอบียูซุฟ หน้า 151  และหนังฟัตฮุลก่อดีร 5/6  (ซึ่งถ่ายทอดจากหนังสือ المِلكية ونظريّة العقد في الشريعة الإسلامية หน้า 50 ของท่านอิมามอบูซะฮ์เราะฮ์  ตีพิมพ์ดารุลฟิกริลอะรอบีย์)

ซึ่งตรงนี้  ถือว่าคำของท่านอุมัร  สอดคล้องกับบทความของ ดร. มะรอนิง  ใช่ไหมครับ  คุณ al-talib
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ส.ค. 11, 2008, 12:50 PM โดย al-azhary »
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: ปัญหาเงิน สสส.
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: ส.ค. 11, 2008, 01:49 PM »
0
 salam

5. การเทียบเคียงกรณีภาษีสุรา ภาษีสุกรที่รัฐ จัดให้ สสส. ดำเนิน และบริหารส่วนนี้ กับทรัพย์สินหะรอมที่อยู่ในบัยตุลมาล (กระทรวงการคลังของรัฐอิสลาม) เป็นการเทียบเคียงที่ถูกต้องหรือไม่ ?

ตอบ: การใช้หลักการเทียบเคียงระหว่างกรณีดังกล่าวเป็นการเทียบเคียงไม่ตรงประเด็น

( กียาสมะอะฟาริก) เป็นการใช้หลักการเทียบเคียงที่ไม่ถูกต้อง เพราะกรณีของทรัพย์สินหะรอมที่เกิดพลัดหลงเข้าไปในบัยตุลมาลนั้น จำนวนของมันเข้าไปปะปนจนไม่สามารถแยกแยะได้ว่าอันไหนเป็นทรัพย์สินบริสุทธิ์ อันไหนเป็นทรัพย์สินที่ต้องห้าม ฉะนั้น นักกฎหมายอิสลามจึงมีความเห็นตรงกันว่า ในกรณีเช่นนี้ หากเกิดขึ้นในรัฐอิสลาม หรือในเมืองหนึ่งเมืองใดของรัฐอิสลาม ก็เป็นการอนุโลมสามารถเอาไปใช้ประโยชน์ได้ แต่ในกรณีภาษีสุรา ภาษีสุกร ที่รัฐจัดให้กับ สสส. เป็นที่แน่นอนว่า มาจากทรัพย์สินที่เกิดจากสุรา และสุกร โดยไม่ต้องสงสัย ฉะนั้น การใช้หลักการเทียบเคียงดังกล่าว เป็นการใช้หลักการเทียบเคียงที่ไม่ถูกต้อง

และกรณีของทรัพย์สินหะรอม ในบัยตุลมาลนั้น เกิดขึ้นโดยมุสลิมเข้าไปเกี่ยวข้องในประเทศหรือรัฐที่ใช้กฎหมายอิสลามปกครอง ซึ่งแตกต่างจากกรณีภาษีสุรา ภาษีสุกร ภาษีการพนันที่เก็บโดยรัฐบาลไทย เป็นการกระทำที่เกิดระหว่างพลเมืองที่มิใช่มุสลิมกับรัฐที่ปกครองที่ใช้กฎหม ายรัฐธรรมนูญของราชอาณาจักรไทยซึ่งการเก็บภาษีดังกล่าวเป็นที่ยอมรับของสังค มว่าชอบธรรม และกระบวนการก็ได้สิ้นสุดระหว่างพวกเขาแล้ว ฉะนั้น หากเอาประเด็นภาษีสุรา ภาษีสุกร ภาษีการพนันที่เก็บโดยรัฐบาลไทย ไปเทียบเคียงกับทรัพย์สินหะรอมที่อยู่ในบัยตุลมาลจึงเป็นการเทียบเคียงที่ไม ่ถูกต้อง เป็นการใช้หลักการกียาสที่มีเหตุผลแตกต่างกัน จึงเป็นสิ่งที่ไม่ชอบโดยหลักการวินิจฉัย

ออกความเห็น

คงจะเป็นประเด็นตรงนี้ใช่ไหมครับ  ที่คุณ al-talib บอกว่า  การอ้างคำกล่าวของท่านอุมัรนั้น  ไม่ตรงประเด็น  ดังนั้น  ผมขอร่วมออกความเห็น  ถูกผิดอย่างไรช่วยแนะนำผมด้วยครับ

กล่าวคือ  ท่าน ดร. มะรอนิง  ได้บอกว่า  บัยตุลมาลจำนวนทรัพย์สินเข้าไปอาจจะไม่สามารถแยกแยะได้  ซึ่งเหมือนกับว่าทรัพสินต่าง ๆ ที่บัยตุลมาลได้รับมานั้น  ถูกปะปนผสมปนเปกันไป  เหมือนกับว่าทรัพสินไม่ได้ถูกแยกแยะประเภทเอาไว้ในบัยตุลมาล  ทั้งที่ความจริง  หากเราเข้าไปศึกษาเกี่ยวกับระบบบัยตุลมาล  ก็จะพบว่า มีการแยกแยะทรัพย์สินเอาไว้  ไม่ได้รวมกันทั้งหมด  เพราะอย่างน้อยทรัพย์สินอัลฆ่อนีมะฮ์ (ทรัพย์สินที่ยึดได้หลังจากทางสงคราม) ก็ไม่สามารถนำไปปนกับทรัพย์สินอื่น  เพราะอัลเลาะฮ์ได้แบ่งไว้ให้ในอัลกุรอานแล้ว

แต่ในแง่ที่ผมต้องการจะเปรียบเทียบก็คือ 

บัยตุลมาล : ท่านอุมัรได้สั่งให้ทำการเก็บภาษีสุราและสุกร  ด้วยการตีเป็นมูลค่าเงิน  โดยให้พวกเขานำไปซื้อขาย  และการซื้อขายระหว่างพวกเขานั้นก็ชอบธรรมตามหลักการของพวกเขา  แล้วนำเงินที่ได้มาจ่ายเป็นภาษีเพื่อนำมาใช้ทำนุบำรุงและเป็นสาธารณูประโยชน์โดยรวม

รัฐบาลไทย : ได้ทำการเก็บภาษีสุราและสุกร  โดยคิดเป็นมูลค่าเงินรายได้ที่คิดเป็นเปอร์เซ็น  และกาเฟรกันเองที่ประกอบการค้าเหล้าและสุกรนั้น  ถือว่าเป็นค้าที่ชอบธรรมตามหลักการของพวกเขา  เมื่อได้เงินมาแล้ว  พวกเขาก็นำมาจ่ายภาษีให้แก่คลังของรัฐบาล  ดังนั้นหากเราถามว่า  การค้าระหว่างพวกเขาและการเก็บภาษีนั้น ชอบธรรมตามหลักการของพวกเขาเองหรือไม่? ตอบ : ชอบธรรมตามหลักการของพวกเขาแน่นอน  และถือเป็นเงินภาษีเรียบร้อยตามที่พวกเขาได้ตกลงกันแล้ว ไม่มีใครไปเรียกว่าเงินเหล้าเงินสุกรแล้ว  ดังนั้น  เมื่อเป็นเงินภาษีตามหลักการของพวกเขาแล้ว  ก็สามารถนำมาให้และใช้เป็นสาธารณูประโยชน์โดยรวมแก่บรรดามุสลิมีนที่เป็นประชากรของประเทศไทยอันเป็นสิทธิที่พวกเขาพึงได้รับในแง่กฏหมายของบ้านเมือง

ฉะนั้น หากเงินที่ได้มาจากการค้าขายสิ่งฮะรอม(ตามทัศนะของอิสลาม)รับไม่ได้  แน่นอนว่า  ท่านอุมัรก็จะไม่เก็บเงินภาษีสุราและสุกร  แต่ท่านจะยกเว้นไว้  โดยไปเก็บภาษีที่ได้มาจากผลิตผลการเกษตรของกาเฟรที่อยู่ภายใต้การปกครองของอิสลาม  แต่ในทางตรงกันข้าม  ท่านอุมัรเห็นว่าการประกอบการของคนกาเฟรนั้นชอบธรรมในระหว่างพวกเขาเอง  จึงรับเงินภาษีที่ตีมูลค่ามาจากสิ่งสุราและสุกร  ดังนั้นประเด็นที่จะเปรียบก็คือ  เมื่อการตกลงจัดเก็บภาษีระหว่างรัฐบาลกับผู้ประกอบการเป็นสิ่งที่ชอบธรรมในหมู่พวกเขา  เราก็สามารถรับเงินภาษีอันชอบธรรมตามทัศนะของพวกเขานั้นได้เช่นกัน

เพราะฉะนั้น  ผู้ใดบอกว่าเงินรับเอาเงิน สสส. ที่เป็นภาษีได้มาจากสุราและสุกร  เป็นการรับเงินที่สกปรกและฮะรอม  ก็เท่ากับว่า  ท่านอุมัรได้เอาเงินสกปรกและฮะรอมจากพวกกาเฟรมาเป็นเงินภาษีด้วยเช่นกัน  วัลอิยาซุบิลลาฮ์ ไม่มีนักปราชญ์แห่งโลกอิสลามคนใดกล่าวอย่างนั้นแน่นอน

วัลลอฮุอะลัม 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ส.ค. 11, 2008, 01:57 PM โดย al-azhary »
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ sufriyan

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 526
  • เพศ: ชาย
  • 0000
  • Respect: +16
    • ดูรายละเอียด
Re: ปัญหาเงิน สสส.
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: ส.ค. 11, 2008, 09:09 PM »
0
 salam
นิดหนึ่งครับ  เพราะผมอ่านแล้ว งงๆ 
อ้างถึง
เพราะฉะนั้น  ผู้ใดบอกว่าเงินรับเอาเงิน สสส. ที่เป็นภาษีได้มาจากสุราและสุกร  เป็นการรับเงินที่สกปรกและฮะรอม  ก็เท่ากับว่า  ท่านอุมัรได้เอาเงินสกปรกและฮะรอมจากพวกกาเฟรมาเป็นเงินภาษีด้วยเช่นกัน  วัลอิยาซุบิลลาฮ์ ไม่มีนักปราชญ์แห่งโลกอิสลามคนใดกล่าวอย่างนั้นแน่นอน
อ้างถึง
เพราะฉะนั้น  ผู้ใดบอกว่าเงินรับเอาเงิน สสส. ที่เป็นภาษีได้มาจากสุราและบุหรี่  เป็นการรับเงินที่สกปรกและฮะรอม  ก็เท่ากับว่า  ท่านอุมัรได้เอาเงินสกปรกและฮะรอมจากพวกกาเฟรมาเป็นเงินภาษีด้วยเช่นกัน  วัลอิยาซุบิลลาฮ์ ไม่มีนักปราชญ์แห่งโลกอิสลามคนใดกล่าวอย่างนั้นแน่นอน

วัสลาม

ออฟไลน์ al-talib

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 8
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ปัญหาเงิน สสส.
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: ส.ค. 13, 2008, 12:25 PM »
0
ต่อ...

อนึ่งโดยส่วนตัวผมเองก็ยังไม่เคยสอบถามประเด็นที่เกี่ยวข้องกับท่านอุมัรในการเก็บภาษีสุราและสุกรจากท่าน ดร. ว่าทำไมไม่ระบุในบทความ เอาไว้ให้นักศึกษา มอ.ที่อยู่ที่นั่นฝากถามดร.ให้หน่อยนะคับ...เวบนี้เห็นว่าเรียน มอ.กันเยอะแล้วมาบอกผมหน่อยว่าตรงกับที่ผมเข้าใจไหมหรือไม่ตรงกันหรืออย่างไร…

ประการต่อมาข้อสังเกตต่างๆ 1 /2 และ3 เป็นข้อสังเกตของผมเองล้วนๆไม่เกี่ยวข้องกับ ดร.นะคับส่วนหนึ่งเห็นว่าน่าจะเป็นไปได้ก็เลยเขียนเข้ามาคุยและอาจจะเป็นไปได้ว่าถ้าหยิบยกทัศนะท่านอุมัรมาอาจมีข้อโต้แย้งแบบข้อสังเกตของผม(ข้อ1/2และ3ที่ผ่านมา)ก็เป็นได้ฉะนั้นไม่หยิบดีกว่า(หรืออย่างไร?ก็ไม่ทราบ)หยิบทัศนะของนักวิชาการที่ตรงประเด็นที่สุดมาเสนอดีกว่าและมีความปลอดภัยทางวิชาการและเพื่อความรอบครอบทุกประเด็นปัญหา

...ก็ขอขอบคุณสำหรับการออกความเห็นและมุมมองของท่านอาจารย์อัชฮารีย์ที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการศึกษาวิจัย...วัสลาม

ออฟไลน์ มุคลิศ

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 159
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
Re: ปัญหาเงิน สสส.
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: ส.ค. 17, 2008, 08:25 AM »
0
ฉะนั้นไม่หยิบดีกว่า(หรืออย่างไร?ก็ไม่ทราบ)หยิบทัศนะของนักวิชาการที่ตรงประเด็นที่สุดมาเสนอดีกว่าและมีความปลอดภัยทางวิชาการและเพื่อความรอบครอบทุกประเด็นปัญหา

ขอมีความเห็นส่วนร่วมด้วยคนครับ  เท่าที่อ่านบทความของ  ดร. มะรอนิง  ที่ยกทัศนะของอุลามาอฺมานั้น  ผมยังไม่เห็นว่า ดร.มะรอนิง จะยกทัศนะที่ตรงประเด็นในเรื่องเงิน สสส เลย ผมคิดว่าที่ ดร. ไม่พบหลักฐานท่านอุมัร  นั่นก็คงเพราะว่า ท่าน ดร. ไม่ได้รู้เสียทุกเรื่องราว  หรือค้นคว้ากันทุกเล่ม  และความจริงหลักฐานของอุลามาที่ท่าน ดร. ได้นำเสนอมาจากอุลามาอฺนั้น  ก็ไม่ขัดกับคำพูดของท่านอุมัรเลย  เพราะท่านอิบนุก็อยยิมก็บอกว่าเป็นทัศนะของท่านอิมามอะฮ์มัด  และชนสะลัฟ  แต่เผอิญว่าท่าน ดร. เขาศึกษาพบเพียงแค่อุลามาอฺ  แต่บังอัลอัซฮะรีเขาค้นพบหลักฐานถึงต้นขั่ว  ผมเองก็เคยไปเปิดดูหนังสือ อัลค่อร็อจ ของ ท่านอบูยูซุฟ ศิษย์ของท่านอบูฮะนีฟะฮ์  พบว่ามีหลักฐานกล่าวของท่านอุมัรยืนยันเอาไว้จริงตามนั้นครับ  แต่ผมขอออกความคิดว่า  คุณฎอลิบ น่าจะนำสิ่งที่บังอัลอัซฮะรีนำเสนอไปให้ ดร. มะรอนิง อ่าน  แล้วให้ ดร.มะรอนิง  ออกความเห็นคัดค้านหรือวิจารณ์  คิดว่าน่าจะดีกว่า  แต่ผมว่าคัดค้านยากพอควรเพราะหลักการมันครอบคลุมแล้ว  เป็นที่น่าสังเกตว่า  บางคนเข้ามาในเว็บนี้  ชอบติติงว่ามักอ้างอิงจากอุลามา  ไม่มีค่อยมีหลักฐาน  (ผมว่าคนที่มาติตงเขาไม่ค่อยได้อ่านข้อมูลในเว็บนี้เท่าไหร่)  แต่เมื่อมีหลักฐาน  เขาดันอยากจะได้คำอุลามาถึงจะดีกว่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ส.ค. 17, 2008, 08:54 AM โดย มุคลิศ »

ออฟไลน์ al-talib

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 8
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ปัญหาเงิน สสส.
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: ส.ค. 18, 2008, 02:11 PM »
0

ต่อ...

ว้า,,,ผมอุตสาห์ออกตัวแล้วว่าเป็นความเห็นส่วนตัวของผมเองไม่เกี่ยวกับใครทั้งสิ้นทำไมคุณมุคลิศลามปามไปที่ ดร.ด้วยกล่าวหาว่าท่านอ่านไม่หมด มาชวนทะเลาะกับผมอีก...ผมไม่อยากทะเลาะกับใคร...ว่าจะไปถามให้อยู่แล้วไม่ไปถามดีกว่าเดี๋ยวเป็นการให้เครดิตคนบางคน...หลักฐานท่านอุมัรมีมานานแล้วตั้งแต่จะทำการก่อตั้ง กองทุนสสส.หรือสสม.ไม่ใช่ว่า อาจารย์อัสฮารีย์เป็นคนพบคนแรกของประเทศไทย...ดร.ทางฟิกฮฺที่ มอ,ก็ยกหลักฐานท่านอุมัรเช่นเดียวกันในการถกปัญหาศาสนากับดร,ฟิกฮฺที่กุลยะฮฺ...และดร.มะรอนิงก็ทราบดีในหลักฐานท่านอุมัรและก็หยิบยกทัศนะนักวิชาการเสริมเพิ่มเติมก็เพื่อให้ทราบที่มาที่ไปพร้อมเหตุผลทางศาสนาและยังมีหลักฐานอีกมาก...ทั้งจากท่านอุมัรอัลคอตตอบและอุมัรบินอับดุลลอฮฺอาซิซในหนังสืออะฮฺกามอะฮลุลซิมมะฮฺแต่หยิบมาเพียงบางส่วนเพื่อให้กะชับเป็นบทความเท่านั้น ...ผมขอร้องหล่ะอย่าพาดพิงหรือกล่าวหาใครเลยผมก็จะให้เกียรติท่านทุกคน...ทั้งๆที่จะมากล่าวหาว่าเป็นวาฮาบิก็ตามแต่

 

GoogleTagged