สลามุนลอฮิอะลัยกุ้ม
รู้สึกว่าหลังจากย้ายโฮสแล้ว ข้อมูลกระทู้นี้หายไปบางส่วน ใครเก็บข้อมูลไว้ ช่วยนำมาโพสต์หน่อยครับ เพราะมีประโยชน์มาก
bashirแล้วถ้าเรารู้ว่าละหมาดวันศุกรไม่เซาะแล้วยังละหมาดอีก
ครูฮุเซนบอกผมว่าหะรอม ไม่อนุญาติให้เราละหมาดวันศุกรแต่วายิบให้เราละหมาดซุฮุรแทน
มุคลิศสลามุนลลอฮิอะลัยกุ้ม
...ได้ไปอ่านฟิกฮ์มัซฮับฮับบาลี เขาบอกว่าเงื่อนหนึ่งของละหมาดวันศุกร์ว่า จำเป็นต้องมีผู้ละหมาด 40 คนที่เป็นคนمستوطين คนในพื้นที่เดิม ดังนั้นนักศึกษาสามัญที่ตั้งละหมาดญุมอะฮ์กันขึ้นมาที่มหาลัยนั้น ไม่มีคนในพื้นที่ถึง 40 คนก็ถือว่าละหมาดญุมอะฮ์ใช้ไม่ได้แล้ว
...เท่าที่อ่านดูแล้วปรากฏว่า นักศึกษาที่ละหมาดวันศุกร์ใน มอ. หรือในมหาวิทยาลัยนั้น อุลามาอ์มัซฮับทั้ง 4 ได้ฮุกุ่มว่าละหมาดใช้ไม่ได้ ไม่เซาะฮ์ เพราะว่า
หนึ่ง . มัซฮับฮะนะฟีย์ฮุกุ่มไม่เซาะฮ์เพราะไม่มีผู้นำมารับรองให้ทำละหมาดวันศุกร์
สอง . มัซฮับมาลิกีย์ฮุกุ่มว่าไม่เซาะฮ์เพราะไม่ได้ทำในมัสยิดญาเมี๊ยะอฺหรือมัสยิดกลางประจำของเมือง
สาม . มัซอับชาฟิอีย์ฮุกุ่มว่าไม่เซาะห์เพราะผู้ตั้งละหมาดมิใช่เป็นคนที่อยู่ในพื้นที่และไม่ใช่เป็นคนพื้นที่ 40 คน
สี่ . มัซฮับฮัมบาลีย์ฮุกุ่มว่าไม่เซาะห์เพราะผู้ทำการละหมาดไม่ใช่คนในพื้นที่ 40 คน
...ผลลัพธ์ก็คือ การละหมาดของเด็กมหาลัยในเมืองไทยที่ตั้งญุมอะฮ์ขึ้นกันเองในมหาลัยนั้น มัซฮับทั้ง 4 ได้ฮุกุ่มว่าพวกเขาละหมาดญุมอะฮ์ใช้ไม่ได้ ส่วนนักศึกษาที่กระทำกันนั้น คงยึดมัซฮับที่ 5 ซึ่งชื่อว่ามัซฮับ........??
al-azharyทั้ง 4 มัซฮับ ที่ได้ฮุกุ่มว่า เด็กมหาลัยเมืองไทยที่ตั้งญุมอะฮ์ขึ้นเอง ถือว่าละหมาดไม่เซาะห์นั้น คือไม่เซาะห์ตามนัยยะของมัซฮับทั้งสี่จริง ตามที่ตำราของมัซฮับทั้งสี่ได้ระบุไว้ครับ
วัลลอฮุอะลัม
Al Fatoniอัสสลามุ อลัยกุม
ต้องขอโทษด้วยนะครับที่แจ้งเล่มหนังสือมัจฺญ์มูอฺผิดเล่มที่จริงคือ เล่ม 4 หน้า 492, 495, 502 และหนังสือมุฆนีย์ อัลมุหฺตาจฺญ์ เล่ม 1 หน้า 537 นี่คือหนังสือที่ อ.นำมาเป็นหลักฐานเกี่ยวกับญุมุอะฮ์ของผู้เดินทาง และคนต่างแดนเศาะหฺ (ในความหมายของ อ.ที่อธิบายคือ หมายถึง บุคคลเหล่านี้ตั้งญุมุอะฮ์ขึ้นเอง ถือว่าเศาะหฺ ตามมัฑฮับชาฟิอีย์)
ผมขอถามเพิ่มเกี่ยวกับเรื่องญุมุอะฮ์อีกว่า
(1.) หากเรารู้แล้วว่า ทำญุมุอะฮ์ไม่เศาะหฺ แต่ด้วยความที่เราเคยชินกับการทำ และการไม่ทำทำให้จิตใจไม่สงบ จึงได้ทำญุมุอะฮ์ ทั้งๆ ที่ขาดเงื่อนไข หรือเงื่อนไขไม่ครบ โดยถือเจตนารมณ์ของญุมุอะฮ์ในการทำ เช่น ต้องการให้มุสลิมมีการพบปะชุมนุมกันในรอบสัปดาห์ และอื่นๆ ในลักษณะเดียวกัน อยากทราบว่า เหตุผลแค่นี้ สามารถทำให้ญุมุอะฮ์ของเราเศาะหฺไหม แม้ทุกคนจะไม่ใช่ผู้เดินทางทั้งหมด หรือเกือบทั้งหมดก็ตาม และเนื่องด้วยจำนวนประชากรที่มาก เกิน 40 คนหลายเท่า เช่นนี้ ถือว่าเศาะหฺไหม
(2) กรณีที่คนละหมาดซุฮฺรี อีกที หลังเสร็จละหมาดญุมุอะฮ์ เนื่องด้วยเหตุต่างๆ นานา อยากทราบว่าบทบัญญัติศาสนาตัดสินอย่างไรกับกรณีดังกล่าวนี้ และที่จริงแล้ว การกระทำดังกล่าวสมควรกระทำในโอกาสใดบ้างครับ และโอกาสใดสมควรกระทำ และการกระทำถือว่าอยู่ในหลักเกณฑ์ไหนของหุกุมตักลีฟีย์ทั้ง 5 ครับ
(3) ด้วยความที่อยากจะทำญุมุอะฮ์ แต่ขาดเงื่อนไขที่ว่า ต้องเป็นคนพื้นที่ ดังนั้น เขาจึงตั้งเจตนาว่าจะอยู่นั้นเป็นการถาวร แต่ทว่าการตั้งเจตนาของเขานั้น เป็นเพียงเพื่อต้องการให้ครบตามเงื่อนไขการเป็นคนพื้นที่เท่านั้น พูดง่ายๆ ก็คือ อีกใจหนึ่งตั้งเจตนาว่ากลับบ้านเกิดแน่นอน ไม่ทราบว่าการตั้งเจตนาของเขาเช่นนี้ เป็นการทำให้เงื่อนไขครบถ้วนไหม
วัสสลามุ อลัยกุม
al-azharyตอบ(1) เรื่องละหมาดถือเป็นรุกุ่นใหญ่และสำคัญที่สุด ดังนั้นเราต้องกระทำสิ่งที่แน่นอนยิ่งกว่า โดยเฉพาะเรื่องฟัรดูเราไม่ควรอย่างยิ่งที่จะกระทำทัศนะที่เสี่ยง ดังนั้น ผู้ที่ไม่ครบเงื่อนไขละหมาดวันศุกร์ แล้วเขาทำละหมาดซุฮ์ริ อุลามาอ์อะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์มัซฮับทั้ง 4 ต่างก็ฮุกุ่มว่าการละหมาดของเขาใช้ได้ แต่ในทางตรงกันข้าม การละหมาดของนักศึกษามหาลัยในเมืองไทยที่ไม่ครบเงื่อนไขการละหมาดวันศุกร์นั้น อุลามาอ์อะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์มัซฮับทั้ง 4 ต่างก็ฮุกุ่มว่าละหมาดพวกเขาใช้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นเรื่องฟัรดูอันสำคัญเช่นนี้ เราไม่ควรนำมากระทำกันแบบตามอำเภอใจ ส่วนข้ออ้างที่ว่า การละหมาดวันศุกร์เพื่อจะมีการพบปะชุนนุมกันนั้น ความจริงสำหรับนักศึกษา เพียงแค่มารวมตัวที่มหาลัยเพื่อละหมาดญะมาอะฮ์ 5 เวลาก็ถือว่าเพียงพอแล้วสำหรับความต้องการที่จะรวมตัวกัน และหากจะนะซีฮัตกันก็ทำกันหลังละหมาดใดละหมาดหนึ่งใน 5 เวลาก็ถือเป็นความประเสริฐอย่างยิ่งแล้ว
(2) เมื่อไม่ครบองค์ประกอบและเงื่อนไขของการละหมาดวันศุกร์ ก็วายิบต้องละหมาดซุฮ์ริ ครับ
(3) อัลเลาะฮ์ตะอาลา ทรงตระหนักและรู้สิ่งที่อยู่ในจิตใจของเราดีเป็นอย่างยิ่ง จะเหนียตในจิตใจว่าจะใช้ได้หรือไม่ได้นั้น มันอย่างระหว่างเขากับอัลเลาะฮ์ตะอาลา ดังนั้นผู้เหนียตต้องตอบกับตัวเองครับว่าตั้งใจจะเป็นคนในพื้นที่เป็นคนตั้งถิ่นฐานที่นั่นกันตลอดชีวิตหรือเปล่า หรือว่าเรียนจบแล้วกลับบ้านไปอยู่กับพ่อแม่ของตน
วัลลอฮุอะลัม
Al Fatoniอัสสลามุ อลัยกุม
ทั้ง 3 คำถามทั้งสามข้างต้น คือสิ่งที่ได้ดำเนิน และกำลังดำเนินอยู่ ณ มหาลัยของผม ณ ตอนนี้ครับ
วัสสลามุ อลัยกุม