ผู้เขียน หัวข้อ: การละหมาดญุมุอะฮ์ของ นศ.มหาลัย "เศาะหฺ" ไหม?  (อ่าน 16159 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ นูรุ้ลอิสลาม

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1356
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
คือว่าถ้าผมมาทำงานที่กทม แล้วไม่ได้ยินเสียงอะซานก็ไม่ต้องไปละมาดก็ได้ใช่ปะครับ

      ใช่แล้วครับ...ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ใหน  หากเราอยู่อาศัยที่นั่น 4 ขึ้นไป  ก็ถือว่าวายิบจำเป็นต้องละหมาดญุมอะฮ์  ในพื้นที่ที่เราไปพักอาศัยทำงานอยู่  และหากแม้นว่าวายิบเราเป็นคนมุกีมต้องละหมาดญุมอะฮ์  ก็ไม่สามารถที่จะตั้งละหมาดญุมอะฮ์ขึ้นเอง  เพราะการตั้งละหมาดญุมอะฮ์ขึ้นมาเองเป็นหน้าที่ของคนในพื้นที่(มุสเตาฏีน) ไม่ใช่หน้าที่ของคนเดินทางหรือคนที่มาขอพักอาศัยชั่วคราว 

    ผมขอแยกแยะให้เข้าใจระหว่างคนมุกีมกับคนในพื้นที่  ดังนี้น่ะครับ

1.  คนในพื้นที่ (มุสเตาฏีน) วายิบจำเป็นต้องละหมาดวันศุกร์และสามารถตั้งละหมาดวันศุกร์ขึ้นมาได้หากมี 40 คน

2.  คนที่มาพักอาศัย (คนมุกีม) วายิบต้องละหมาดวันศุกร์  แต่ไม่มีสิทธิ์ในการตั้งละหมาดวันศุกร์ขึ้นมาได้
لا إله إلا الله محمد رسول الله

ออฟไลน์ นูรุ้ลอิสลาม

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1356
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
salam

เรียนถามอ.อัลอัซฮารีครับ...ถ้าหากว่าอย่างในกรณีของผมนี้ คือพักอาศัยในพื้นที่หนึ่ง(อยู่เกิน 3 วัน) แต่ผมไปทำงานอีกพื้นที่หนึ่ง(คือตอนเช้าไปทำงาน ตอนเย็นกลับที่พัก) ที่มีการละหมาดญุมอะฮฺ แล้วก็ได้ยินเสียงอะซาน ในพื้นที่นั้น(ละแวกหมู่บ้านแถวๆที่ทำงาน)  กรณีนี้ผมจำเป็นที่จะต้องละหมาดญุมอะฮฺในพื้นที่ๆผมทำงานอยู่ใช่ไหมครับ?
รบกวนอ.ด้วยนะครับผม  loveit:

ญะซากัลลอฮ์ฮุค็อยร็อน ล่วงหน้าครับ

มันไม่วาญิบ แต่มันอยู่ที่ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีในตัวคนเราครับ รู้ทั้งรู้ว่าไม่ซอฮ แต่ก็ยังอยากจะไปให้ได้อยู่ดี

          ใช่แล้วครับ...หากแม้นว่าบางทีเราไม่วายิบละหมาดญุมอะฮ์เพราะเดินทางหรือไปทำงานนอกพื้นที่  แต่หากเราได้ยินเสียงอะซานจากมัสยิดในพื้นที่ที่เราไปทำงานนั้น  ก็ให้ไปละหมาดญุมอะฮ์พร้อมกับคนในพื้นที่และถือว่าละหมาดญุมอะฮ์ใช้ได้  ดีกว่ามาละหมาดซุฮ์ริคนเดียว

        แต่ประเด็นที่พี่น้องเขาพูดกันในกระทู้นี้  มิใช่ไม่ต้องการส่งเสริมให้ละหมาดวันศุกร์  แต่มันอยู่ในประเด็นที่ว่าเป็นคนแค่มาอาศัยไม่ใช่เป็นคนพื้นที่แต่กลับตั้งละหมาดญุมอะฮ์ขึ้นมาถือว่าใช้ได้หรือไม่?

          ต่อไปนี้  พี่น้องที่มีความรู้มัซฮับทั้ง 4  เกี่ยวกับละหมาดญุมอะฮ์  ในกรณีของนักศึกษาที่ตั้งญุมอะฮ์ขึ้นในมหาวิทยาลัยนั้น  ถือว่าใช้ได้หรือไม่?  ก็ให้พี่น้องศึกษาเงื่อนไขและกฏเกนฑ์ที่มัซฮับทั้งสี่ได้กล่าวถึงเรื่องละหมาดญุมอะฮ์  แต่ถ้าหากสมมุติว่า  มัซฮับทั้งสี่ตัดสินว่าการละหมาดญุมอะฮ์ในมหาลัยใช้ไม่ได้  ก็ถือว่าเป็นการเสี่ยงอันใหญ่หลวงที่จะมาตั้งญุมอะฮ์ขึ้นกันเอง  เพราะขนาดมัซฮับทั้ง 4  ยังไม่รับรองญุมอะฮ์ของพวกเขา  แต่ถ้าหากนักศึกษามหาลัยที่ตั้งญุมอะฮ์กันขึ้นมาเอง  อ้างว่าทำละหมาดเพราะมีซุนนะฮ์รับรอง  ก็สรุปได้ว่ามัซฮับทั้ง 4  พลาดการพิจารณาซุนนะฮ์นั้นไป  ซึ่งเป็นไปได้ยากครับ  วัลลอฮุอะลัม     
لا إله إلا الله محمد رسول الله

ออฟไลน์ salahudin

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 46
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
เเล้วถ้าบ้านผมอยู่หนองจอกเเล้วไปทำงานที่สาทร หรือพื้นที่ที่ห่างจากบ้านโดยระยะทางประมาณ 40-50 กม. โดยประมาณเเละในพื้นที่ที่เราไปทำงานอยู่นั้นก็ปรากฏว่าไม่มีการทำญุมอะฮกัน (ในระเเวกบริษัท) จะมีก็ห่างกันเป็นสิบๆโล ผมยังวายิบต้องทำญุมอะฮไหมครับ

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
ถ้าไม่สามารถจะไปได้ก็ไม่วาญิบครับ ทำซุฮรีปกติ
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ IamCrying

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 376
  • เพศ: ชาย
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
แฮะ แฮะ solahuddin happy2: myGreat: natural:
Closer than veins : Invite to the Way of thy Lord with wisdom... Qur.16:125

ออฟไลน์ มุคลิศ

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 159
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
สลามุนลอฮิอะลัยกุ้ม

รู้สึกว่าหลังจากย้ายโฮสแล้ว ข้อมูลกระทู้นี้หายไปบางส่วน  ใครเก็บข้อมูลไว้  ช่วยนำมาโพสต์หน่อยครับ  เพราะมีประโยชน์มาก

ออฟไลน์ มุคลิศ

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 159
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด

จากที่ได้นำเสนอกันมา  สรุปได้ว่า  ผู้ใดที่อยู่ในมัซฮับทั้งสี่  ก็ถือว่าการละหมาดที่ มอ. หรือที่มหาลัย ถือว่าใช้ไม่ได้  แต่หากอยู่มัซฮับวะฮาบี  ตามทัศนะของเขาถือว่าใช้ได้  หากบอกว่าตามแนวทางของซุนนะฮ์นบี  ถือมุสาเพราะนบีไม่เคยละหมาดวันศุกร์ 2 คน และนบีไม่เคยใช้ให้คนรอบๆ มะดีนะฮ์ทำการละหมาดวันศุกร์  วัลลอฮุอะลัม

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
วันนี้หลังละหมาดวันศุกร์ก็ได้ละหมาดซอโฮเผื่อไว้ด้วยครับ ครั้งแรกนะเนี่ย คนต่างประเทศในนั้นทำแบบนี้เต็มเลย เพราะคงไม่มีละหมาดซูนัตไหนตอนนั้น4รอกาอัต จากนั้นอยากได้บุญละหมาดซูนัตหลังละหมาด เพราะเป็นซูนัตมูอากัต เลยละหมาด(ทุกทีไม่ขยันขนาดนั้น) แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าจะนียัตยังไงดี นียัตหลังละหมาดวันศุกร์หรือว่าหลังละหมาดซอโฮ สุดท้ายเลยนียัตไปว่า ละหมาดซูนัตบะดียัฮ เอาอันที่ใช้ได้ก็แล้วกัน วันศุกร์หรือซอโฮก็ได้ 5555
ไม่ทราบว่าแบบนั้นใช้ได้หรือเปล่าครับละหมาดซูนัตของผม
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
สลามุนลอฮิอะลัยกุ้ม

รู้สึกว่าหลังจากย้ายโฮสแล้ว ข้อมูลกระทู้นี้หายไปบางส่วน  ใครเก็บข้อมูลไว้  ช่วยนำมาโพสต์หน่อยครับ  เพราะมีประโยชน์มาก

bashir

แล้วถ้าเรารู้ว่าละหมาดวันศุกรไม่เซาะแล้วยังละหมาดอีก

ครูฮุเซนบอกผมว่าหะรอม ไม่อนุญาติให้เราละหมาดวันศุกรแต่วายิบให้เราละหมาดซุฮุรแทน

มุคลิศ

สลามุนลลอฮิอะลัยกุ้ม

...ได้ไปอ่านฟิกฮ์มัซฮับฮับบาลี  เขาบอกว่าเงื่อนหนึ่งของละหมาดวันศุกร์ว่า   จำเป็นต้องมีผู้ละหมาด 40 คนที่เป็นคนمستوطين คนในพื้นที่เดิม  ดังนั้นนักศึกษาสามัญที่ตั้งละหมาดญุมอะฮ์กันขึ้นมาที่มหาลัยนั้น  ไม่มีคนในพื้นที่ถึง 40 คนก็ถือว่าละหมาดญุมอะฮ์ใช้ไม่ได้แล้ว

...เท่าที่อ่านดูแล้วปรากฏว่า  นักศึกษาที่ละหมาดวันศุกร์ใน มอ. หรือในมหาวิทยาลัยนั้น  อุลามาอ์มัซฮับทั้ง 4 ได้ฮุกุ่มว่าละหมาดใช้ไม่ได้  ไม่เซาะฮ์  เพราะว่า

หนึ่ง .  มัซฮับฮะนะฟีย์ฮุกุ่มไม่เซาะฮ์เพราะไม่มีผู้นำมารับรองให้ทำละหมาดวันศุกร์

สอง .  มัซฮับมาลิกีย์ฮุกุ่มว่าไม่เซาะฮ์เพราะไม่ได้ทำในมัสยิดญาเมี๊ยะอฺหรือมัสยิดกลางประจำของเมือง

สาม .  มัซอับชาฟิอีย์ฮุกุ่มว่าไม่เซาะห์เพราะผู้ตั้งละหมาดมิใช่เป็นคนที่อยู่ในพื้นที่และไม่ใช่เป็นคนพื้นที่ 40 คน

สี่ .  มัซฮับฮัมบาลีย์ฮุกุ่มว่าไม่เซาะห์เพราะผู้ทำการละหมาดไม่ใช่คนในพื้นที่ 40 คน

...ผลลัพธ์ก็คือ  การละหมาดของเด็กมหาลัยในเมืองไทยที่ตั้งญุมอะฮ์ขึ้นกันเองในมหาลัยนั้น  มัซฮับทั้ง 4 ได้ฮุกุ่มว่าพวกเขาละหมาดญุมอะฮ์ใช้ไม่ได้  ส่วนนักศึกษาที่กระทำกันนั้น คงยึดมัซฮับที่ 5 ซึ่งชื่อว่ามัซฮับ........??

al-azhary

ทั้ง 4 มัซฮับ  ที่ได้ฮุกุ่มว่า  เด็กมหาลัยเมืองไทยที่ตั้งญุมอะฮ์ขึ้นเอง  ถือว่าละหมาดไม่เซาะห์นั้น  คือไม่เซาะห์ตามนัยยะของมัซฮับทั้งสี่จริง  ตามที่ตำราของมัซฮับทั้งสี่ได้ระบุไว้ครับ   

วัลลอฮุอะลัม

Al Fatoni

อัสสลามุ อลัยกุม

ต้องขอโทษด้วยนะครับที่แจ้งเล่มหนังสือมัจฺญ์มูอฺผิดเล่มที่จริงคือ เล่ม 4 หน้า 492, 495, 502  และหนังสือมุฆนีย์ อัลมุหฺตาจฺญ์ เล่ม 1 หน้า 537 นี่คือหนังสือที่ อ.นำมาเป็นหลักฐานเกี่ยวกับญุมุอะฮ์ของผู้เดินทาง และคนต่างแดนเศาะหฺ (ในความหมายของ อ.ที่อธิบายคือ หมายถึง บุคคลเหล่านี้ตั้งญุมุอะฮ์ขึ้นเอง ถือว่าเศาะหฺ ตามมัฑฮับชาฟิอีย์)
     
ผมขอถามเพิ่มเกี่ยวกับเรื่องญุมุอะฮ์อีกว่า

(1.) หากเรารู้แล้วว่า ทำญุมุอะฮ์ไม่เศาะหฺ แต่ด้วยความที่เราเคยชินกับการทำ และการไม่ทำทำให้จิตใจไม่สงบ จึงได้ทำญุมุอะฮ์ ทั้งๆ ที่ขาดเงื่อนไข หรือเงื่อนไขไม่ครบ โดยถือเจตนารมณ์ของญุมุอะฮ์ในการทำ เช่น ต้องการให้มุสลิมมีการพบปะชุมนุมกันในรอบสัปดาห์ และอื่นๆ ในลักษณะเดียวกัน อยากทราบว่า เหตุผลแค่นี้ สามารถทำให้ญุมุอะฮ์ของเราเศาะหฺไหม แม้ทุกคนจะไม่ใช่ผู้เดินทางทั้งหมด หรือเกือบทั้งหมดก็ตาม และเนื่องด้วยจำนวนประชากรที่มาก เกิน 40 คนหลายเท่า เช่นนี้ ถือว่าเศาะหฺไหม

(2) กรณีที่คนละหมาดซุฮฺรี อีกที หลังเสร็จละหมาดญุมุอะฮ์ เนื่องด้วยเหตุต่างๆ นานา อยากทราบว่าบทบัญญัติศาสนาตัดสินอย่างไรกับกรณีดังกล่าวนี้ และที่จริงแล้ว การกระทำดังกล่าวสมควรกระทำในโอกาสใดบ้างครับ และโอกาสใดสมควรกระทำ    และการกระทำถือว่าอยู่ในหลักเกณฑ์ไหนของหุกุมตักลีฟีย์ทั้ง 5 ครับ

(3) ด้วยความที่อยากจะทำญุมุอะฮ์ แต่ขาดเงื่อนไขที่ว่า ต้องเป็นคนพื้นที่ ดังนั้น เขาจึงตั้งเจตนาว่าจะอยู่นั้นเป็นการถาวร แต่ทว่าการตั้งเจตนาของเขานั้น เป็นเพียงเพื่อต้องการให้ครบตามเงื่อนไขการเป็นคนพื้นที่เท่านั้น พูดง่ายๆ ก็คือ อีกใจหนึ่งตั้งเจตนาว่ากลับบ้านเกิดแน่นอน ไม่ทราบว่าการตั้งเจตนาของเขาเช่นนี้ เป็นการทำให้เงื่อนไขครบถ้วนไหม

วัสสลามุ อลัยกุม

al-azhary

ตอบ

(1)  เรื่องละหมาดถือเป็นรุกุ่นใหญ่และสำคัญที่สุด  ดังนั้นเราต้องกระทำสิ่งที่แน่นอนยิ่งกว่า  โดยเฉพาะเรื่องฟัรดูเราไม่ควรอย่างยิ่งที่จะกระทำทัศนะที่เสี่ยง  ดังนั้น ผู้ที่ไม่ครบเงื่อนไขละหมาดวันศุกร์  แล้วเขาทำละหมาดซุฮ์ริ  อุลามาอ์อะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์มัซฮับทั้ง  4  ต่างก็ฮุกุ่มว่าการละหมาดของเขาใช้ได้  แต่ในทางตรงกันข้าม  การละหมาดของนักศึกษามหาลัยในเมืองไทยที่ไม่ครบเงื่อนไขการละหมาดวันศุกร์นั้น  อุลามาอ์อะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์มัซฮับทั้ง  4  ต่างก็ฮุกุ่มว่าละหมาดพวกเขาใช้ไม่ได้  เพราะฉะนั้นเรื่องฟัรดูอันสำคัญเช่นนี้  เราไม่ควรนำมากระทำกันแบบตามอำเภอใจ  ส่วนข้ออ้างที่ว่า  การละหมาดวันศุกร์เพื่อจะมีการพบปะชุนนุมกันนั้น  ความจริงสำหรับนักศึกษา  เพียงแค่มารวมตัวที่มหาลัยเพื่อละหมาดญะมาอะฮ์ 5 เวลาก็ถือว่าเพียงพอแล้วสำหรับความต้องการที่จะรวมตัวกัน  และหากจะนะซีฮัตกันก็ทำกันหลังละหมาดใดละหมาดหนึ่งใน 5 เวลาก็ถือเป็นความประเสริฐอย่างยิ่งแล้ว

(2)  เมื่อไม่ครบองค์ประกอบและเงื่อนไขของการละหมาดวันศุกร์  ก็วายิบต้องละหมาดซุฮ์ริ ครับ

(3)  อัลเลาะฮ์ตะอาลา ทรงตระหนักและรู้สิ่งที่อยู่ในจิตใจของเราดีเป็นอย่างยิ่ง  จะเหนียตในจิตใจว่าจะใช้ได้หรือไม่ได้นั้น  มันอย่างระหว่างเขากับอัลเลาะฮ์ตะอาลา  ดังนั้นผู้เหนียตต้องตอบกับตัวเองครับว่าตั้งใจจะเป็นคนในพื้นที่เป็นคนตั้งถิ่นฐานที่นั่นกันตลอดชีวิตหรือเปล่า  หรือว่าเรียนจบแล้วกลับบ้านไปอยู่กับพ่อแม่ของตน

วัลลอฮุอะลัม

Al Fatoni

อัสสลามุ อลัยกุม

ทั้ง 3 คำถามทั้งสามข้างต้น คือสิ่งที่ได้ดำเนิน และกำลังดำเนินอยู่ ณ มหาลัยของผม ณ ตอนนี้ครับ

วัสสลามุ อลัยกุม
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
 salam

salam

เรียนถามอ.อัลอัซฮารีครับ...ถ้าหากว่าอย่างในกรณีของผมนี้ คือพักอาศัยในพื้นที่หนึ่ง(อยู่เกิน 3 วัน) แต่ผมไปทำงานอีกพื้นที่หนึ่ง(คือตอนเช้าไปทำงาน ตอนเย็นกลับที่พัก) ที่มีการละหมาดญุมอะฮฺ แล้วก็ได้ยินเสียงอะซาน ในพื้นที่นั้น(ละแวกหมู่บ้านแถวๆที่ทำงาน)  กรณีนี้ผมจำเป็นที่จะต้องละหมาดญุมอะฮฺในพื้นที่ๆผมทำงานอยู่ใช่ไหมครับ?
รบกวนอ.ด้วยนะครับผม  loveit:

ญะซากัลลอฮ์ฮุค็อยร็อน ล่วงหน้าครับ

จำเป็นต้องละหมาดครับ  เพราะเดินทางออกนอกพื้นที่ก่อนดวงอาทิตย์คล้อย  โดยรู้ว่าระหว่างทางหรือจุดหมายปลายทางมีการทำละหมาดญุมอะฮ์  ก็วายิบต้องละหมาดพร้อมกับพี่น้องในพื้นที่นั้น

เเล้วถ้าบ้านผมอยู่หนองจอกเเล้วไปทำงานที่สาทร หรือพื้นที่ที่ห่างจากบ้านโดยระยะทางประมาณ 40-50 กม. โดยประมาณเเละในพื้นที่ที่เราไปทำงานอยู่นั้นก็ปรากฏว่าไม่มีการทำญุมอะฮกัน (ในระเเวกบริษัท) จะมีก็ห่างกันเป็นสิบๆโล ผมยังวายิบต้องทำญุมอะฮไหมครับ

ต่อมา  หากการเดินทางกลับไปแล้วไม่ทันละหมาดหรือการเดินทางระยะไกลเพื่อไปละหมาดญุมอะฮ์ทำให้เกิดความยาก  ก็ให้ละหมาดซุฮ์ริแทน  แต่ถ้าหากการเดินทางไม่ยากลำบากและทันละหมาดญุมอะฮ์  ก็วายิบต้องไปละหมาดญุมอะฮ์ 

วัลลอฮุอะลัม
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
อ้าว ลืมอะไรไปหรือเปล่าครับบัง เรื่องละหมาดซูนัตของผมล่ะ นียัตแบบนั้นใช้ได้หรือเปล่า
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
อัสสลามุ อลัยกุม

              ไม่ทราบว่า ...
                        (1.) มีทัศนะที่ว่า เงื่อนไขของคนพื้นที่ ก็คือ ต้องอยู่ ณ ที่นั้นๆ นานเป็นระยะเวลาหนึ่ง หรือนานพอสมควร อาจจะประมาณครึ่งปีขึ้นไป หรือน้อยกว่านั้นนิดหนึ่ง (2-3 เดือน) ซึ่งแม้ในภายหลังจะต้องกลับบ้านเกิดอย่างแน่นอนเมื่อเสร็จภาระกิจก็ตาม กล่าวคือ มิได้ตั้งใจจะอยู่ที่นั่นอย่างถาวร) ดั่งเช่นนักศึกษามหาลัยที่พักอยู่ตามหอพักมหาลัย หรือใกล้เคียง เพราะสาเหตุประการหนึ่งที่ทางมหาลัยผมจัดให้มีการทำญุมุอะฮ์ ก็ด้วยการอ้างเหตุผลข้างต้น และผู้คนส่วนใหญ่ (โดยเฉพาะนักศึกษา) จะเข้าใจไปตามนั้น ซึ่งบางคนก็ถือมัฑฮับชาฟิอีย์ แต่ละหมาดไปเพราะคิดว่าตัวเองคงเป็นคนพื้นที่แล้ว เพราะอยู่นานแล้ว (ส่วนใหญ่ด้วยซ้ำ) ประเด็นที่อยากทราบก็คือ อุละมาอ์มีความเห็นอย่างไรบ้างต่อนิยามข้างต้น
                        (2.) แล้ว อ.ที่อยู่ตามบ้านพักมหาลัย กินนอน อยู่กับลูกเมีย มีบุตรที่บ้านพักนั้น และส่งลูกเรียน ลูกก็อาศัยในบ้านพักนั้น จนโต อกิลบาลิฆ อยากถามว่า ลูกของเขานั้น ถือว่าเป็นคนในพื้นที่ไหม และจะนับเป็นหนึ่งในจำนวนศ็อหฺญุมุอะฮ์ได้ไหม
                        (3.) จะหุกุมอย่างไรครับ สำหรับบุคคลที่มีเรียนบ่ายโมงตรง ซึ่งว่าๆ ไปแล้ว เขาสามารถที่ออกไปละหมาดข้างนอกมหาลัยได้ โดยยอมเข้าเรียนสายนิดหนึ่ง อันเนื่องจาก อ.ไม่ได้กวดขันมาก หรือบางคน อ.จะกวดขัน แต่ด้วยความต้องการจะทำญุมุอะฮ์ จึงยอมออกไปทำในสัปดาห์หนึ่ง และเขาไม่กลัวต่อการถูกต่อว่าของ อ.ด้วยที่เข้าสาย แต่ปัญหาก็คือ จะมีบางสัปดาห์ที่จิตใจของเขาอ่อนแอ ทำให้หวนกลับนึกภาพ หาก อ.ถาม หรือต่อว่าในเรื่องนี้ จึงไม่กล้าออกไปในสัปดาห์นั้น แต่พอมาบางสัปดาห์จิตใจเข้มแข็งก็ออกไป และจะสลับอยู่อย่างนี้เป็นเรื่อยไป อยากถามว่า ช่วงที่เขาไม่ได้ออกไปทำญุมุอะฮ์ ทั้งๆ ที่บางครั้งเขายอมออกไป โดยไม่ได้คิดว่าเป็นอุปสรรคแต่ประการใด แม้ในความเป็นจริง อ.อาจจะต่อว่าเหตุที่เข้าเรียนสายก็ได้ แต่เขามั่นใจว่าเมื่ออธิบายแล้ว อ.จะเข้าใจ แต่พอมาอีกสัปดาห์ เขากลับละทิ้ง และทำละหมาดซุฮฺริ หรือไปละหมาดญุมุอะฮ์ที่ทางมหาลัยจัด ทั้งๆ ที่รู้ว่าไม่ศ็อหฺ (เนื่องจากไม่ครบเงื่อนไขที่ว่าต้องเป็นคนในพื้นที่) ดังกล่าวอย่างนี้ จะถือว่า เขาได้ละทิ้งญุมุอะฮ์ไปหรือไม่ สำหรับสัปดาห์ที่เขาไม่ได้ออกไป
                        ปัญหาข้างต้นนี้ เป็นปัญหาที่เพื่อนผมถามผมมา ผมก็ตอบไปว่า สัปดาห์ที่ไม่ได้ไป ถือว่า ขาดญุมุอะฮ์ไป อันเนื่องว่า ก่อนหน้านี้ เราสามารถแข็งใจออกไปละหมาดญุมุอะฮ์ได้ (ซึ่งในตัวเมืองปัตตานีมีมัสญิดเป็นสิบๆ และมีการทำญุมุอะฮ์ที่ศ็อหฺทุกที่ เว้นแต่บางที่) และเพื่อนก็บอกว่า เขาสามารถเข้าสายได้ แม้ อ.จะเคร่ง แต่ก็คิดว่าคุยได้ ไม่ทราบว่า สิ่งที่ผมบอกเพื่อนไปถูกต้องไหม ซึ่งส่วนตัวผมค่อนข้างมั่นใจว่า ตอบถูกแล้ว โดยอาศัยสภาวะจิตใจของเขาที่ก่อนหน้านั้นเข้มแข็ง เป็นตัวกำหนด และดูจากที่เขาบอกว่า สามารถเข้าสายได้ แม้ อ.จะเคร่ง แต่ก็คิดว่าคุยได้ และเขาก็ยืนยัน มิน่าจะเป็นอุปสรรคใดๆ หากตั้งใจจะทำจริงๆ ไม่ทราบว่าจะผิดถูกอย่างไรนั้น แต่เพื่อความมั่นใจยิ่งขึ้น เชิญผู้รู้ชี้แจงและท้วงติงได้เลยนะครับ ต้องการทราบมากๆ ขอบคุณล่วงหน้านะครับ
                        ตอนนี้ประเด็นญุมุอะฮ์เป็นปัญหามากๆ สำหรับนักศึกษามหาลัยครับ ล่าสุดที่ ม.วลัยลักษณ์ จะมีการจัดทำญุมุอะฮ์ขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ เพื่อนผมที่เรียนที่นั่นบอกว่า ประธานชมรมมุสลิมก่อนหน้านี้ ได้ยกเลิก มิให้มีการทำญุมุอะฮ์ในมหาลัย เนื่องด้วยไม่ครบเงื่อนไขคนพื้นที่ แต่เมื่อล่าสุดนี้ ได้มีการจัดทำญุมุอะฮ์ขึ้น โดยมิได้คำนึงถึงเงื่อนไขบางประการ โดยให้เหตุผลว่า อิสลามเป็นศาสนาที่ยืดหยุ่นได้ (หมายถึง ญุมุอะฮ์สำหรับนักศึกษามหาลัย ไม่จำเป็นต้องคำนึงที่เงื่อนไขคนพื้นที่ก็ได้ แต่ให้ดูที่เจตนารมณ์ในการญุมุอะฮ์ ว่าอิสลามต้องการอะไรจากการให้มีญุมุอะฮ์ขึ้น) แต่ปัญหาก็เกิดขึ้นเหมือนกับกรณีของมหาลัยผมนั่นแหละครับ คือมีทั้งคนที่ทำและไม่ทำ ซึ่งต่างก็มีเหตุผล แต่ที่น่าเสียใจก็คือ บุคคลที่ทำญุมุอะฮ์ชอบมาเสียดสี หรือโจมตีคนที่ไม่ได้ทำด้วยคำกล่าวต่างๆ ที่ไม่น่าฟัง
                         มาถึงตรงนี้ ผมจึงขอรบกวนผู้รู้เว็บนี้ ช่วยทำบทความขึ้นมาหนึ่ง เพื่อชี้แจงเรื่องญุมุอะฮ์อย่างละเอียด กรุณารับไว้พิจารณาด้วยนะครับ เพราะเป็นปัญหามากๆ สำหรับนักศึกษามหาลัยเมืองไทย ที่บางครั้งทำอะไร โดยไม่ได้คำนึงถึงเงื่อนไขของอิบาดะฮ์นั้นๆ แต่จะคำนึงแต่เพียงเจตนารมณ์ หรือเป้าหมายของอิบาดะฮ์นั้นๆ ทั้งๆ ที่บางครั้งก็ทำไปผิดๆ ถูกๆ แต่ที่ทำไป เพราะมีผู้รู้บางท่านในเมืองไทยที่ตนนิยมชมชอบ บอกว่าทำได้ โดยอ้างเจตนารมณ์เป็นหลัก แม้บางอย่างที่ทำไปจะขัด หรือขาดเงื่อนไขไปก็ตาม

วัสสลามุ อลัยกุม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ส.ค. 27, 2008, 04:34 PM โดย Al Fatoni »
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ JawhaR

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1303
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
 salam

ปี่ที่แล้ว ผมเป็นทหารเกณฑ์ ที่ สัตหีบ
ผมได้ละหมาดฌุมอะฮ์ทุกสัปดาห์ คับ
เพราะภายในค่ายทหาร มีการละหมาดฌุมอะฮ์กัน
ซึ่งมีการปฏิบัติเช่นนี้ มาหลายปีแล้ว
เท่าที่ผมอ่านความคิดเห็นของพี่น้องและผู้รู้ ก็คงสรุปได้ว่า

การทำละหมาดฌุมอะฮ์ ในค่ายทหารนั้น ไม่เศาะห์ ใช่มั้ยครับ ?
เพราะ ผู้ละหมาด มีแต่ทหารเกณฑ์
นายทหารและเจ้าหน้าที่ มีประมาณ 10 คนเอง

ผม คิดว่าเขาก็ยังคงปฏิบัติกันอยู่ครับ แล้วจะทำไงดีคับ ?
ส่วนตัวผมเอง ก็ต้อง ละหมาดชุฮรี่ ชด ใชมั้ยครับ ?

ผู้รู้ช่วยตอบผมทีคับ
ญาซากัลลอฮุค็อยร็อน


I'm just a Mini Muslim and will try to be   StrongeR. Insha-Allah

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com

                        ตอนนี้ประเด็นญุมุอะฮ์เป็นปัญหามากๆ สำหรับนักศึกษามหาลัยครับ ล่าสุดที่ ม.วลัยลักษณ์ จะมีการจัดทำญุมุอะฮ์ขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ เพื่อนผมที่เรียนที่นั่นบอกว่า ประธานชมรมมุสลิมก่อนหน้านี้ ได้ยกเลิก มิให้มีการทำญุมุอะฮ์ในมหาลัย เนื่องด้วยไม่ครบเงื่อนไขคนพื้นที่ แต่เมื่อล่าสุดนี้ ได้มีการจัดทำญุมุอะฮ์ขึ้น โดยมิได้คำนึงถึงเงื่อนไขบางประการ โดยให้เหตุผลว่า อิสลามเป็นศาสนาที่ยืดหยุ่นได้ (หมายถึง ญุมุอะฮ์สำหรับนักศึกษามหาลัย ไม่จำเป็นต้องคำนึงที่เงื่อนไขคนพื้นที่ก็ได้ แต่ให้ดูที่เจตนารมณ์ในการญุมุอะฮ์ ว่าอิสลามต้องการอะไรจากการให้มีญุมุอะฮ์ขึ้น) แต่ปัญหาก็เกิดขึ้นเหมือนกับกรณีของมหาลัยผมนั่นแหละครับ คือมีทั้งคนที่ทำและไม่ทำ ซึ่งต่างก็มีเหตุผล แต่ที่น่าเสียใจก็คือ บุคคลที่ทำญุมุอะฮ์ชอบมาเสียดสี หรือโจมตีคนที่ไม่ได้ทำด้วยคำกล่าวต่างๆ ที่ไม่น่าฟัง
                       

นักศึกษาที่ ม.วลัยลักษณ์ และอื่น ๆ  ซึ่งได้ตั้งญุมอะฮ์ขึ้นมาเองนั้น  นักปราชญ์อะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์สะละฟุศศอลิห์มัซฮับทั้ง 4 ตัดสินว่า  ละหมาดญุมอะฮ์ใช้ไม่ได้  (ไม่เซาะห์)  ส่วนนักศึกษา ม.วลัยลักษณ์  ที่ทำละหมาดญะมาอะฮ์ซุฮ์ริ  นักปราชญ์อะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์สะละฟุศศอลิห์มัซฮับทั้ง 4  ตัดสินว่า  ละหมาดของเขาใช้ได้ (เซาะห์)

ส่วนข้ออ้างที่ว่ายืดหยุ่นนั้น  นักปราชญ์สะละฟุศศอลิห์ได้วางหลักการที่ยืดหยุ่นและรัดกุมแล้ว  ดังนั้น  การละหมาดเป็นเรื่องฟัรดูวายิบเป็นรุกุ่นใหญ่เป็นองค์ประกอบหลักของอัลอิสลาม  เราไม่ควรทำเบาความกับสิ่งที่สำคัญเช่นนี้   โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  หากอ้างความยืดหยุ่นในเรื่องละหมาดญุมอะฮ์ที่ขาดเงื่อนไขบางประการเกี่ยวกับการมีคุณสมบัติเป็นคนในพื้นที่  แน่นอนว่า  ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ก็ต้องยืดหยุ่นให้ผู้คนรอบ ๆ นครมะดีนะฮ์และบรรดาเผ่าที่อยู่ในทะเลทรายทำละหมาดญุมอะฮ์กันแล้วครับ  แต่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ไม่ได้ยืดหยุ่นให้  ดังนั้นอย่าล้ำหน้าท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ในเรื่องฟัรดูเช่นนี้ 

วัลลอฮุอะลัม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ส.ค. 28, 2008, 05:29 PM โดย al-azhary »
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
อัสสลามุ อลัยกุม

             บังอัลอัซฮะรีย์และผู้รู้ท่านอื่นๆ ครับ ฝากคำถาม ข้อที่ 1-3 ที่ผมถามข้างต้นด้วยครับ โดยเฉพาะข้อ 2 และข้อ 3 (ขอเน้นข้อ 3 เป็นสำคัญอีกที เพราะผมได้ตอบเพื่อนไปแล้ว แต่ต้องการความมั่นใจ ผู้รู้ทั้งหลายในเว็บนี้ ช่วยยืนยันคำตอบที่ผมตอบไปด้วยครับ ผิดถูกอย่างไรท้วงติงมาได้เลย พร้อมที่จะรับฟัง) - วัลลอฮุ อะอฺลัม

             ญาซากั้ลลอฮุ ค็อยร็อนมากๆ ครับ สำหรับคำตอบที่ถามในส่วนท้าย ชัดเจนครับ

วัสสลามุ อลัยกุม
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

 

GoogleTagged