ผู้เขียน หัวข้อ: ก็อวฺม์ก็ดีม - ก็อวฺม์ญดีด ของอิมามอัชชาฟิอีย์  (อ่าน 2828 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด

อัสสลามุ อลัยกุม

             สืบเนื่องจากเรียนวิชาฟิกฮฺ1 อีกเช่นเคยครับ คือว่า อ.ท่านว่า มัฮฑับชาฟิอีย์เองก็มี 2 มัฮฑับ คือ ก็ดีม (ที่อิรัก) กับ ญดีด (ที่อิยิปต์) ทำให้ผมรู้สึกว่ารู้เพิ่มกว่านี้อะครับ ว่าทำไมท่านอิมามฯ เอง สำหรับมีถึง 2 ทัศนะ ซึ่งแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงในบางเรื่อง อยากถามเป็นเพราะเหตุใดครับ แล้วเราสมควรที่จะตามอันไหนครับระหว่างสอง และทัศนะใหม่ของท่านที่ได้เกิดนั้น ถือเป็นการยกเลิก คำฟัตวาเก่าของท่านไหม แล้วท่านอิมามฯ เองมีคำตัดสินเช่นไร ต่างคนๆ หนึ่งยังคงมั่นที่จะยึดทัศนะเก่าของท่าน ทั้งๆ ที่ท่านเปลี่ยนคำฟัตวาใหม่แล้ว เพราะบางคนให้ความเห็นว่า การตามทัศนะของท่านอิมามชาฟิอีย์ถือเป็นการตามอิมามชาฟิอีย์อย่างแท้จริง ทำให้มีบางกลุ่มค้นคว้าหาตำรา และแปลตำราที่เป็นทัศนะเก่าของท่าน และนำมาโจมตีว่า ผู้ที่ถือมัฮฑับชาฟิอีย์ปฏิบัติไม่เหมือนท่านอิมามฯ และปัญหาอื่นๆ แล้วเราสมควรตามทัศนะเก่า หรือใหม่จะเป็นการดีที่สุดครับ และถ้าสมมุติว่า การตามทัศนะใหม่เป็นสิ่งที่สมควรกว่า ไม่ทราบว่า เราสามารถไปยึดทัศนะเก่าของอิมามฯ ได้ไหม ถ้าเกิดความจำเป็น ช่วยแจงได้ไหมครับ เพราะผมเรียนวิชานี้ ทั้งผมและเพื่อนๆ หลายคนมีความเห็นว่า การสอนของ อ.สร้างความคลุมเครือให้กับ นศ.มากๆ ผมเองก็รู้บ้างว่าอะไรเป็นอะไร เพราะเคยเรียนรู้มาบ้าง แต่ผมเองก็กำลังศึกษาอยู่ แต่เผอิญผมศึกษาในสิ่งที่ผมไม่อาจนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้ เพราะมันคนละเรื่องกับที่เรียนมาก่อน ทำให้บรรยากาศเรียนแต่ครั้ง เรียนเพื่อรู้ของเขา และความคิดเขาเท่านั้น มีไม่กี่เรื่องที่สามารถนำมาใช้ได้จริงๆ เพราะเกือบทุกมันดูตาลปัตรไปหมด เขาบอกว่าอ้างจากกิตาบของมัฑฮับชาฟิอีย์ทั้งหมด แต่ทำไมมันถึงขัดกันตลอดเลย ผมเพิ่งจะรู้เมื่อคืนเอง (24/7/2551) ตอนที่นั่งคิดตามที่ อ.สอนและเนื้อหาบนโปนเจคเตอร์และชีต ผมจึงนึกบทความที่ว่า "เมื่อหะดีษศ็ฮีหฺ มันก็คือมัฑฮับของฉัน" ผมจึงรู้ว่า อ.อาจจะใช้เกณฑ์ก็เป็นได้ ฝากบังๆ ช่วยชี้แจงให้ผมด้วยนะครับ เพราะมันๆไม่ใช่แค่ผมสงสัย แต่มี นศ.อีกเป็นร้อยๆ ที่อยากรู้และสงสัยในเรื่องแบบนี้มากไม่แพ้ผมเลย จะอาศัยให้เขาศึกษาเองคงยาก เพราะแค่เสนอจะให้ไฟล์ คงอ้างสารพัน แฮนดี้ไดรฟไม่มีบ้างหละ สัพใส่ไฟล์ไม่ได้ ผมจึงอยากจะใช้ตัวเองศึกษาไปเรื่อย พร้อมกับค้นหาคำตอบ แต่ก็ต้องอาศัยการชี้แจงจากบังๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ครับ ตอนนี้ผมกำลังภาษาหลายตัวทั้งมลายูและอาหรับ เพื่อการนี้โดยเฉพาะ เพราะผมรู้ว่า ผมคงจะพึงบังๆ ตลอดไปไม่ได้ ผมต้องยืนหยัดด้วยตัวเองให้ได้ อินชาอัลลอฮฺ
             ฝากชี้แจงเรื่องข้างต้นด้วยนะครับ เพระกำลังสร้างความคลุมเครือแก่ นศ เป็นร้อยๆ คนกันอยู่ครับ

วัสสลามุ อลัยกุม
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
คีลาฟ คือ เราะห์มัต
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ นูรุ้ลอิสลาม

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1356
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
ตามที่ อ.สอนและเนื้อหาบนโปนเจคเตอร์และชีต ผมจึงนึกบทความที่ว่า "เมื่อหะดีษศ็ฮีหฺ มันก็คือมัฑฮับของฉัน" ผมจึงรู้ว่า อ.อาจจะใช้เกณฑ์ก็เป็นได้ ฝากบังๆ ช่วยชี้แจงให้ผมด้วยนะครับ

        บางครั้งคนเราอาจจะเข้าใจผิดต่อคำกล่าวของอิมามอัชชาฟิอีย์  ที่ว่า "เมื่อฮะดิษศ่อฮีห์  มันก็คือมัซฮับของฉัน"  แล้วเกิดการฉับฉวยแอบอ้างทัศนะของอิมามชาฟิอีย์ก็ได้

      ลองอ่านหน้าเว็บดูเกี่ยวกับบทความเรื่อง "คำกล่าวของอิมามอัชชาฟิอีย์ “เมื่อฮะดิษซอฮิห์  มันคือมัซฮับของฉัน”
http://www.sunnahstudents.com/index.php?option=com_content&task=view&id=45&Itemid=1
แล้วเราก็จะเข้าใจคำกล่าวของอิมามอัชชาฟิอีและความเข้าใจของนักปราชญ์ที่มีต่อคำกล่าวของอิมามชาฟิอีย์  มิใช่นึกจะสอนอะไรที่มันดูตาลปัตรแล้วแอบอ้างคำกล่าวของอิมามชาฟิอีแบบตามอำเภอใจนั้นคงไม่ได้หรอก

      เป็นที่ทราบดีว่า  เกาลุลก่อดีม นั้น  คือทัศนะของอิมามชาฟิอีย์ที่ท่านได้เขียนตำราและฟัตวาเอาไว้ที่อิรัก  ส่วนเกากุลญะดีด  คือทัศนะของอิมามชาฟิอีย์ที่ท่านได้เขียนและฟัตวาเอาไว้ในประเทศอียิปต์  ซึ่งเป็นทัศนะคำกล่าวที่ใหม่  ที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่า  เมื่อท่านได้มาที่อียิปต์ซึ่งเป็นแหล่งของความรู้และมีอุลามาอฺมากมาย  ซึ่งแน่นอนว่าท่านอิมามชาฟิอีย์ก็ได้รับฮะดิษต่าง ๆ ที่ท่านไม่เคยทราบมาด้วย  ท่านจึงทำการฟัตวาใหม่ตามหลักฐานที่ท่านได้รับที่อียิปต์  สรุปง่ายก็คือ  ทัศนะของอิมามชาฟิอีย์นั้นมีการกลั่นกรองถึง 2 ครั้ง ซึ่งเป็นคุณลักษณะเด่นของมัซฮับอิมามชาฟิอีย์
لا إله إلا الله محمد رسول الله

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
อัสสลามุ อลัยกุม

              ประเด็นที่ผมต้องการทราบนั้นก็คือ สมควรที่จะยึดตามทัศนะไหนจะเป็นการดีกว่า พูดง่ายๆ คือ หากอิมามชาฟิอีย์จะทำการตัดสิน ท่านจะยึดตามทัศนะใหม่ หรือเก่าของท่านเป็นหลัก แล้วอุละมาอ์ที่สังกัดมัฑฮับชาฟิอีย์ลงมติเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าอย่างไรบ้าง เพื่อใช้ในการตัดสินปัญหาต่างๆ หากทัศนะใหม่เป็นการสมควรกว่า แล้วเมื่อใดที่สามารถผ่อนปรนมาใช้ทัศนะเก่าได้ และถ้าหากมีชุมชนหนึ่งบอกว่าฉันตามมัฑฮับชาฟิอีย์ทัศนะใหม่นะ เพราะมันย่อมดีกว่า เป็นทัศนะล่าสุด ซึ่งทัศนะเก่าอิมามได้ยกเลิกไปแล้ว และอีกฝ่ายหนึ่งบอกว่าฉันก็ตามมัฑฮับชาฟิอีย์ แต่ฉันตามทัศนะเก่าของท่าน อันนี้ย่อมดีกว่าสิ เพราะมันเป็นทัศนะแรกสุด อันแรกย่อมดีกว่า ไม่ทราบคำพูดของใครที่มีน้ำหนักกว่าครับ ส่วนตัวผมแล้ว จากประสบการณ์ที่เรียนมานั้น ผมพอจะสรุปได้ว่า สมควรตามทัศนะใหม่เป็นอันดับแรกก่อน แต่หากบางอย่างไม่มีในทัศนะใหม่ก็ให้ใช้อันเก่าได้ เช่น กรณีจำนวนผู้ละหมาดญุมุอะฮ์ ทัศนะใหม่บอกว่าต้อง 40 คน แต่หากบางชุมชนมีไม่ถึง 40 คน แต่ก็ยังต้องการทำญุมุอะฮ์ ก็อนุญาตให้เขายึดตามทัศนะเก่าได้ โดยที่อิมามจะต้องแจ้งให้มะมูมทราบด้วยว่า ญุมุอะฮ์นี้จะตามตามทัศนะเก่านะ เป็นต้น ผิดถูกเช่นไรช่วยชี้แจงด้วยนะครับ พร้อมหลักฐานด้วยก็ยิ่งดีครับ - ญาซากุมุลลอฮฺ

วัสสลามุ อลัยกุม
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ Muftee

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1899
  • เพศ: ชาย
  • ตั้งใจเข้าไว้นะ มุฟตีย์น้อย
  • Respect: +190
    • ดูรายละเอียด
อิมามชาฟิอีย์นั้น  มีอยู่ 2 ทัศนะ คือ กอดีม ( ฟัตวาที่อีรัก ) กับ ญะดีด ( ฟัตวาที่อียิปต์ ) ซึ่งเป็นที่ทราบกันดี
เมื่อบรรดาสานุศิษย์ของท่านอิมามชาฟิอีย์ได้ทำการวิเคราะห์หลักฐานจากคำฟัตวาของทั้งกอดีมและญะดีด        ดังนั้น  บรรดาสานุศิษย์ทั้งหลายต่างมีมติกันว่า ทัศนะญะดีด ( ฟัตวาที่อียิปต์ )  คือ  ทัศนะที่มีน้ำหนักมากกว่าทัศนะกอดีม ( ฟัตวาที่อีรัก ) ดังนั้น เมื่อทัศนะญะดีดมีน้ำหนักกว่า ก็ต้องเลือกปฎิบัติตามทัศนะที่มีหลักฐานที่หนักแน่นกว่า นอกจาก แค่บางมัสอะละฮฺเท่านั้นที่อัศฮาบุชชาฟิอีย์  เลือกตามฟัตวาของทัศนะที่กอดีม ( ฟัตวาที่อีรัก )  ซึ่งสานุศิษย์ของท่านก็มีทัศนะที่ต่างกันอีกว่ามีกี่มัซอะละฮฺที่ฟัตวาตามทัศนะกอดีมนั้นมีน้ำหนักกว่า บ้างก็ว่า 7 บ้างก็ว่า 14 มัซอะละฮฺ อาทิเช่น

1. การตัดเล็บมัยยิด                                      ทัศนะกอดีมถือว่ามักโรฮฺ
2. การสัมผัสผู้ที่ห้ามแต่งงานด้วย                     ทัศนะกอดีมถือว่าไม่เสียน้ำละหมาด
3. การรีบละหมาดอีชาอฺเมื่อเข้าเวลา                 ทัศนะกอดีมถือว่าเป็นสิ่งที่ประเสริฐกว่า
4. เวลาของละหมาดมักริบ                              ทัศนะกอดีมถือว่าให้ยืดเวลาออกไปจนกระทั่งแสงสีแดง
                                                               คล้อยลง ( غروب الشفق )
5. การกล่าวอามีนดังของมะอฺมูม ในละหมาดที่อ่านดัง  ทัศนะกอดีมถือว่าเป็นสุนัต
6. การอ่านซูเราะฮฺอื่นจากฟาตีหะฮฺ ใน 2 รอกาอัตสุดท้ายในละหมาด ทัศนะกอดีมถือว่าไม่ใช่สิ่งที่เป็นสุนัต
7. ผู้ที่เสียชีวิตในสภาพที่ขาดศีลอด            ทัศนะกอดีมถือว่าผู้ปกครองต้องถือศีลอดชดใช้แทน
และอื่นๆ อีก.................................
ดูหนังสือ อัลมัจมั๊วะ โดย  อิมามนะวาวีย์  เล่มที่ 1 หน้าที่ 112 ....


// อะฮฺลิสสุนนะฮฺ อัล-อะชาอิเราะฮฺ...สักวันนึง เราต้องเป็นอุละมาอฺที่ยิ่งใหญ่ อินชาอัลลอฮฺ //

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
ญาซากั้ลลอฮุ ค็อยร็อน มากๆ ครับ ชัดเจนและเข้าใจง่ายดีครับ ที่จริงผมก็พอทราบเรื่องนี้มาก่อนแล้ว แต่ที่ยังถามเป็นกระทู้ ก็เพราะต้องการหลักฐานจากการนำเสนอของบังๆ อีกที ซึ่งผมอ่อนแอในเรื่องนี้มากๆ คืออธิบายให้เพื่อนได้แค่ความเข้าใจของตน แต่ยกหลักฐานไม่ได้ เพราะส่วนใหญ่จะเป็นภาษาอาหรับ คงจะเข้าใจนะครับ และปัญหาเช่นนี้มีอีกครับ จะเก็บเอามาถามเรื่อยๆ อินชาอัลลอฮฺ - วัสสลาม
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ Muftee

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1899
  • เพศ: ชาย
  • ตั้งใจเข้าไว้นะ มุฟตีย์น้อย
  • Respect: +190
    • ดูรายละเอียด
น้อง Al Fatoni  ครับ บังแนะนำเลยนะ ว่า "เมื่อไรที่น้องเรียนจบจาก มอ.ปัตตานี ก็ขึ้นมาเรียนที่ไคโร เนี๊ยะสะเลย"
ไม่ต้องกลัวว่าจะเสียเวลา...มีไรปรึกษาบัง ...ความจริงคนเรียนศาสนานั้น สำคัญคือ ต้องเข้าใจภาษาอาหรับ และต้องเข้าใจเรื่องต่างๆ อีกมากมาย เรียนที่ มอ. ตานี อย่างเดียวนั้นยังไม่เต็มที่เท่าไรอะครับ..
// อะฮฺลิสสุนนะฮฺ อัล-อะชาอิเราะฮฺ...สักวันนึง เราต้องเป็นอุละมาอฺที่ยิ่งใหญ่ อินชาอัลลอฮฺ //

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
อัสสลามุ อลัยกุม

             เป็นความคิดที่ดีครับ ผมตั้งใจไว้เช่นนั้นแต่แรกแล้ว ส่วนตัวผมไม่ได้ต้องการเรียนที่นี่ (มอ.) เพราะรู้แต่แรกแล้วว่า ต้องมาเจอแบบนี้ แต่เนื่องด้วยเหตุหลายประการที่คนที่บ้านไม่ให้ไปไกล ก็เลยต้องจำยอมเรียนที่นี่ อินชาอัลลอฮฺ ช่วยดุอาอ์ให้ผมด้วยละกันครับ

            ผมรู้สึกเป็นหนี้บุญต่อเว็บนี้มากๆ จริงๆ เพราะก่อนหน้านั้น ก่อนที่ผมจะรู้จักเว็บนี้ ผมเครียดเรื่องนี้มากๆ ไม่มีใครให้ปรึกษาได้ เพราะส่วนใหญ่จะไม่ตอบ หรือตอบแบบอคติ ตอบแบบไม่รู้จริง ส่วนใหญ่ก็ฟังจากเขาอีกที อัลฮัมดุลิลละฮฺ ผมยังจำภาพที่ผมรู้จักเว็บนี้ครั้งแรกได้เต็มตา ผมยิ้มกลับบ้านอย่างอารมณ์ดีจริงๆ เป็นครั้งแรก อัลหัมดุลิลลาฮฺ ญาซากั้ลลอฮุ ค็อยร็อนมากๆ ครับทุกๆ คน โดยเฉพาะบังอัลอัซฮะรีย์ ถึงแม้ผมจะไม่เคยเห็นหน้าบัง แต่ผมรู้ว่าบังเป็นจริงใจครับ และคนอื่นๆ ด้วย - วัลลอฮุ อะอฺลัม

วัสสลามุ อลัยกุม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ส.ค. 02, 2008, 04:15 PM โดย Al Fatoni »
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ GeT

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 453
  • اللهم اعط منفقا خلفا
  • Respect: +25
    • ดูรายละเอียด
ก็อวฺม์ก็ดีม - ก็อวฺม์ญดีด ของอิมามอัชชาฟิอีย์  قوم قديم - قوم جديد กลุ่มใหม่ - กลุ่มเก่า
กาวล์เกาะดีม - กาวล์ญะดีด قول قديم - قول جديد  ทัศนะใหม่ - ทัศนะเก่า

ออฟไลน์ IamCrying

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 376
  • เพศ: ชาย
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
อะงง งง และ งง
 mycry
Closer than veins : Invite to the Way of thy Lord with wisdom... Qur.16:125

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
คำว่าเกาล์แปลว่าพูดไม่ใช่หรือ เพิ่งรู้นะว่าแปลว่าทัศนะก็ได้ด้วย
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

Qortubah

  • บุคคลทั่วไป

คำว่าเกาล์แปลว่าพูดไม่ใช่หรือ เพิ่งรู้นะว่าแปลว่าทัศนะก็ได้ด้วย

อัลหัมดุลิลลาฮฺ ที่อัลลอฮฺตะอาลาทรงประทานความรู้ให้แก่น้อง ทำให้ได้รู้เรื่องดังกล่าวครับ
ต้องชุโกรให้มาก..


ออฟไลน์ มุคลิศ

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 159
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด

คำว่าเกาล์แปลว่าพูดไม่ใช่หรือ เพิ่งรู้นะว่าแปลว่าทัศนะก็ได้ด้วย

อัลหัมดุลิลลาฮฺ ที่อัลลอฮฺตะอาลาทรงประทานความรู้ให้แก่น้อง ทำให้ได้รู้เรื่องดังกล่าวครับ
ต้องชุโกรให้มาก..



แปลว่า ทัศนะ  ก็ไม่ผิดหรอก  เพราะพูดออกมาก็มาจากทัศนะนั่นเอง  ;D

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
ผมก็คิดว่ามันก็สมควรจะเป็นอย่างนั้น คำว่าทัศนะ ภาษาไทย แปลว่าความเห็น ภาวะนายูแปลว่าเกอนาเปาะกัน(มั้ง)
ALHAMDULILLAH ความรู้ใหม่ในด้านภาษา
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
อัสสลามุ อลัยกุม

              แถว 3จ. เวลาพูดถึงทัศนะเก่ากับใหม่ของอิมามชาฟิอีย์ ก็จะใช้ทับศัพท์ไปเลยว่า ก็อวฺม์ก็ดีม (เกากอเด็ง) กับ ก็อวฺม์ญดีด (เกาญาดิ) ซึ่งจริงอยู่ที่ความหมายโดยแท้จริงของคำว่า ก็อวฺม์ แปลว่า พวก, กลุ่ม แต่โดยทั่วไปแล้ว คนที่นี้จะเข้าใจในความหมายที่หมายถึง ทัศนะ ด้วย หมายถึงในเรื่องนี้นะครับ ส่วนในประเด็นอื่น และคนพื้นที่อื่นจะเข้าใจแบบนี้หรือไม่ ผมไม่ทราบ ถือว่าแลกเปลี่ยนเกร็ดความรู้กัน
              คำว่า ทัศนะ ในภาษามลายู จะมีใช้กันในกิตาบมลายูทั่วๆ ไป โดยเฉพาะกิตาบสมัยใหม่จะใช้ 2 คำหลักๆ คือคำว่า Pendapat รากศัพท์คือ dapat แปลว่า ได้รับ (เป็นคำกริยา) + กับ imbubuhan - pen (prefiks) ทำให้กลายเป็นคำนาม ซึ่งให้ความหมายว่า ทัศนะ, ความคิดเห็น, ความเห็นในเรื่องนั้นๆ เป็นต้น  อีกคำหนึ่งที่มีความหมายว่า ทัศนะ โดยตรงเลยนั่นก็คือคำว่า Pandangan ครับ  รากศัพท์คือ pandang (คำกริยา) แปลว่า มอง, ดู, ชม เป็นต้น  บวกกับ imbuhan - an (suffiks) กลายเป็นคำนาม ซึ่งให้ความหมายว่า ทัศนะ หรือความเห็น นั่นเองครับ
              ส่วนคำว่า Kenampakan ที่น้องอิลฮามสงสัยนั้น ก็ถือว่ามีความหมายว่า ทัศนะ เช่นกันครับ ซึ่งคำนี้มาจากรากศัพท์คำว่า nampak แปลว่า เห็น (เป็นคำกริยา) + กับ imbuhan - ke - an กลายเป็นคำนามที่ให้ความหมายว่า ทัศนะ หรือความคิดเห็น หรือถ้าจะแปลตรงตัว ก็อาจจะได้ความว่า การมองเห็น (จากความเข้าใจของฉัน) ซึ่งก็คือ ทัศนะนั่นเองครับ
              ผิดถูกอย่างไร ฝากท่านผู้รู้ที่สรรทัดกว่าช่วยท้วงติงด้วยนะครับ แลกเปลี่ยนความรู้กัน ตอนนี้กำลังศึกษาไวยากรณ์ภาษามลายูพื้นฐานอยู่

วัสสลามุ อลัยกุม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ส.ค. 02, 2008, 04:27 PM โดย Al Fatoni »
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

 

GoogleTagged