بِسْمِ اللهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْمِ
اَلْحَمْدُ للهِ رَبِّ الْعَالَمِيْنَ وَ الصَّلاَةُ وَالسَّلاَمُ عَلىَ سَيِّدِنَا مُحَمَّدٍ وَعَليَ اَلِهِ وَصَحْبِهِ أَجْمَعِيْنَ
เป็นทราบดีว่า การละหมาดเป็นรุ่กุ่นที่สำคัญยิ่งของอิสลาม เป็นสิ่งที่บ่าวจะต้องถูกสอบสวนในวันกิยามะฮ์ หากละหมาดไม่สมบูรณ์ อะมัลอื่น ๆ ก็ไม่สมบูรณ์ไปด้วย และให้กับการละหมาดนั้นมีเงื่อนไข(ชะรัต)และองค์ประกอบ(รุกุ่น)ของการละหมาด ซึ่งหากไม่มีนันการละหมาดก็ไม่ใช่ไม่ได้ ดังนั้นส่วนหนึ่งจากเงื่อนไขของการละหมาด ก็คือการมีน้ำละหมาด และส่วนหนึ่งจากองค์ประกอบ(รุ่กุ่น)ของการอาบน้ำละหมาดก็คือ การล้างเท้าทั้งสองข้างจนถึงตาตุ่ม ซึ่งเป็นหลักเดิมตามที่อัลกุรอานได้ระบุไว้
แต่ศาสนาได้ผ่อนปรนให้ทำการเช็ดรองเท้าคุฟฟ์ (คือรองเท้าที่ปกปิดตาตุ่มทั้งสองข้างทำจากหนัง)แทนการล้างเท้าทั้งสองข้างได้ในการอาบน้ำละหมาด ซึ่งอนุญาตให้กระทำได้ทั้งหญิงและชายในทุกกรณี ทั้งในฤดูร้อน ฤดูหนาว ในยามเดินทางหรืออยู่กับบ้าน ในยามที่มีสุขภาพดีหรือเจ็บป่วย
รายงานตจากญะรีร อัลญะละบีย์ เขากล่าวว่า
رَأَيْتُ رَسُولَ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ بَالَ ثُمَّ تَوَضَّأَ وَمَسَحَ عَلَى خُفَّيْهِ
“ฉันได้เห็นท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ปัสสาวะ หลังจากนั้นท่านได้อาบน้ำละหมาดและได้เช็ดคุฟฟ์ทั้งสองข้างของท่าน” รายงานโดยมุสลิม (401)
ท่านชุร็อยห์ บิน ฮานีอฺ ได้รายงานว่า
أَتَيْتُ عَائِشَةَ أَسْأَلُهَا عَنْ الْمَسْحِ عَلَى الْخُفَّيْنِ فَقَالَتْ عَلَيْكَ بِابْنِ أَبِي طَالِبٍ فَسَلْهُ فَإِنَّهُ كَانَ يُسَافِرُ مَعَ رَسُولِ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فَسَأَلْنَاهُ فَقَالَ جَعَلَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ ثَلَاثَةَ أَيَّامٍ وَلَيَالِيَهُنَّ لِلْمُسَافِرِ وَيَوْمًا وَلَيْلَةً لِلْمُقِيمِ
“ฉันได้ไปหาท่านหญิงอาอิชะฮ์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮา เพื่อถามถึงเรื่องการเช็คคุฟฟ์ ท่านหญิงได้ตอบว่า จงไปหาท่านอะลีเถิด เพราะเขารู้เรื่องนี้ดีกว่าฉัน เขาเคยเดินทางไปกับท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ฉันจึงได้ไปถามเขา และเขาก็ตอบว่า ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กำหนดเวลาให้สามวันสามคืนสำหรับผู้ที่เดินทาง และหนึ่งวันหนึ่งคืนสำหรับผู้ที่ไม่ได้เดินทาง” รายงานโดยมุสลิม (414)
แต่ปัจจุบันมีคำถามขึ้นว่า ถุงเท้าที่คนทั่วไปใส่กันในปัจจุบันนั้น สามารถนำมาปฏิบัติเหมือนกับอุกุ่มการเช็ครองเท้าคุฟฟ์ได้หรือเปล่า?
ท่านอิมามอันนะวาวีย์ ได้กล่าวว่า “เงื่อนไขของการเช็ดคุฟฟ์นั้น คือ คุฟฟ์ต้องถูกสวมภายหลังจากมีน้ำละหมาดสมบูรณ์แล้ว , คุฟฟ์ทั้งสองข้างต้องปกปิดทั่วเท้าทั้งสองข้างในบริเวนที่จำเป็นต้องล้างในการอาบน้ำละหมาด , โดยคุฟฟ์ต้องสะอาด , สามารถเดินติดต่อกันไปกลับเป็นเวลาหนึ่งวันกับหนึ่งคืนสำหรับผู้เดินทางเพื่อทำภารกิจของเขา” หนังสือมินฮาจญุฏฏอลิบีน หน้า 7
ดังนั้น หากไม่สวมคุฟฟ์ขณะที่มีน้ำละหมาดสมบูรณ์เสียก่อน หรือไม่สามารถนำมาใช้เดินติดต่อกันได้เพราะมีความบางหรือไม่ทนทาน หรือไม่สามารถป้องกันน้ำเข้าได้เหมือนกับถุงเท้าในปัจจุบันที่ผู้คนเขาใส่กัน ก็ถือว่าไม่อนุญาตให้เช็ดถุงเท้าในลักษณะดังกล่าวแทนการล้างเท้าทั้งสองในการอาบน้ำละหมาด
ท่านอิมามอันนะวาวีย์ ได้กล่าวไว้เช่นกันว่า “ถือว่าการเช็ดใช้ไม่ได้กับรองเท้าที่ถูกทักที่ไม่สามารถกันน้ำได้ตามทัศนะที่ชัดเจนยิ่งกว่า” หนังสือมินฮาจญุฏฏอลิบีน หน้า 7
ดังนั้น ถุงเท้าที่ถูกถักทอจากผ้าฝ้ายในปัจจุบันที่ผู้คนใส่กันนั้น ไม่ได้อยู่ในฮุกุ่มของคุฟฟ์ เพราะมันมีความบาง ไม่สามารถใช้เดินทางติดต่อกันได้ เนื่องจากนำมาสวมใส่เพื่อเป็นถุงเท้ารองภายในเท่านั้น อีกทั้งยังไม่สามารถกันน้ำได้
แต่มีฮะดิษหนึ่ง ซึ่งรายงานโดยท่านอิมามอัตติรมีซีย์ จาก อัลมุฆีเราะฮ์ บิน ชั๊วะบะฮ์ ความว่า
تَوَضَّأَ النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ وَمَسَحَ عَلَى الْجَوْرَبَيْنِ وَالنَّعْلَيْنِ
“ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ทำการอาบน้ำละหมาดและท่านได้ทำการเช็ดถุงเท้าทั้งสองและรองเท้าทั้งสอง” สุนันอัตติรมีซีย์ (92) ท่านอัตติรมีซีย์กล่าวว่า ฮะดิษนี้ ฮะซันซอฮิห์
ท่านอิมามอันนะวาวีย์กล่าววิจารณ์ว่า “ตอบจากฮะดิษของอัลมุฆีเราะฮ์นี้ ด้วยหลายหนทางด้วยกัน (1) ฮะดิษนี้เป็นฮะดิษฏออีฟ ซึ่งบรรดานักปราชญ์ฮะดิษได้ทำการตัดสินว่าฎออีฟกับมัน ท่านอัลบัยฮะกีย์ตัดสินว่าเป็นฮะดิษฏออีฟ และท่านอัลบัยฮะกีย์ได้ทำการถ่ายทอดการตัดสินฎออีฟกับฮะดิษนี้ จาก ท่านซุฟยาน อัษเษารีย์ , ท่านอับดุรเราะห์มาน บิน มะฮ์ดี , ท่านอะห์มัด บิน ฮัมบัล , ท่านอะลี บิน อัลมาดีนีย์ , ท่านยะห์ยา บิน มะอีน , ท่านอิมามมุสลิม บิน อัลฮัจญาจญ์ , ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นเป็นนักปราชญ์ฮะดิษ หากแม้นว่าท่านอัตติรมีซีย์ตัดสินว่าเป็นฮะดิษฮะซันก็ตาม แต่การตัดสินของบรรดานักปราชญ์ฮะดิษเหล่านั้น ย่อมอยู่ก่อนการตัดสินของท่านอัตติรมีซีย์ ยิ่งกว่านั้น หากแม้นว่าทุก ๆ จากคนหนึ่งคนใดจากนักปราชญ์ฮะดิษเหล่านั้น ได้ตัดสินเพียงลำพังคนเดียว ก็ถูกนำมาอยู่ก่อนท่านอัตติรมีซีย์ ด้วยความเห็นพร้องของนักปราชญ์ฮะดิษ (2) หากว่าฮะดิษนี้ซอฮิห์ ก็ให้ตีความว่า ถุงเท้านั้นต้องสามารถเดินทางติดต่อกันได้ เพื่อรวมระหว่างหลักฐานต่าง ๆ (3) ท่านอัลบัยฮะกีย์ได้ทำการเล่าจากอัลอุซตาซฺ อบีลวะลีด อันนีซาบูรีย์ ว่า เขาได้ทำการตีความว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้เช็ดถุงเท้าที่ใช้เดินเป็นรองเท้า (หมายความว่าเป็นถุงเท้าที่คงทนสามาถใช้เดินอย่างติดต่อกันได้) มิใช่หมายความว่าท่านนบีสวมถุงเท้าเป็นเอกเทศน์และใส่รองเท้าเป็นเอกเทศน์ ซึ่งเสมือนเขาได้กล่าวว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ทำการเช็ดถุงเท้าของท่านที่ใช้ทำเป็นรองเท้าเดิน และท่านอัลบัยฮะกีย์ได้ทำการรายงานสิ่งที่บ่งชี้ถึงสิ่งดังกล่าวจากท่านอิมามมาลิก บุตร อะนัส ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ” หนังสือมัจญ์มั๊วะอฺ 1/566
แต่หากเราไปดูคำอธิบายฮะดิษของท่านอัตติรมีซีย์เอง ท่านได้กล่าวว่า
وَهُوَ قَوْلُ غَيْرِ وَاحِدٍ مِنْ أَهْلِ الْعِلْمِ وَبِهِ يَقُولُ سُفْيَانُ الثَّوْرِيُّ وَابْنُ الْمُبَارَكِ وَالشَّافِعِيُّ وَأَحْمَدُ وَإِسْحَقُ قَالُوا يَمْسَحُ عَلَى الْجَوْرَبَيْنِ وَإِنْ لَمْ تَكُنْ نَعْلَيْنِ إِذَا كَانَا ثَخِينَيْنِ
“ฮะดิษนี้ เป็นทัศนะของนักปราชญ์มิใช่คนเดียว ซึ่งเป็นตำกล่าวของ ท่านซุฟยานอัษเษารีย์ , ท่านอิบนุ มุบาร็อก , ท่านอิมามอัชชาฟิอีย์ , ท่านอิมามอะห์มัด , และท่านอิสฮาก ซึ่งพวกเขากล่าวว่า ให้ทำการเช็ดถุงเท้าทั้งสองข้าง เมื่อมันทั้งสองมีความหนา (ทนทาน) และหากมันไม่ใช่เป็นรองเท้าก็ตาม” หมายถึง ถุงเท้าที่มีความหนาคงทนสามารถใช้เดินทางติดต่อกันได้
ดังนั้น หลังจากที่ท่านอัตติรมีซีย์ ได้ทำการนำเสนอฮะดิษข้างต้น ท่านก็ได้ถ่ายทอดเงื่อนไขว่าถุงเท้านั้นต้องมีความหนา ซึ่งเงื่อนไขนี้ ไม่มีอยู่ที่ถุงเท้าที่ถูกถักมาจากฝ้ายที่นุ่มบอบบางซึ่งผู้คนปัจจุบันทั่วไปเขานิยมใช้กัน และไม่สามารถใช้เดินทางติดต่อกันได้เป็นเวลาหนึ่งวันกับอีกหนึ่งคืนอีกด้วย
ส่วนรายงานละเอียดของมัซฮับทั้งสี่นั้นนั้น พอสรุปได้ดังนี้
มัซฮับฮะนะฟีย์
ในหนังสืออัดดุรรุลมุคตาร ได้กล่าวว่า “(อนุญาตให้เช็ดบน)ถุงเท้าทั้งสองที่มีความหนา , รองเท้าทั้งสอง , และสิ่งที่ถูกทำมาจากหนัง กล่าวคือ ถุงเท้าทั้งสองข้างต้องหนา สามารถนำมาทางเดินได้ในระยะทาง 1 ฟัรซัก (คือ 5565 เมตร) และสามารถยึดติดกับหน้าแข้งได้ด้วยตัวของมันเอง” 1/269
จากหลักการดังกล่าว ถุงเท้าในปัจจุบันที่คนทั่วไปใช้สวมใส่กัน มีความบางไม่หนา ดังนั้น จึงใช้ไม่ได้ที่เอาน้ำเช็ดบนถุงเท้าเพื่อแทนการล้างเท้าทั้งสองข้าง
มัซฮับมาลิกีย์
ในหนังสือมุคตะซ็อร อัลค่อลีล ได้ระบุว่า “ถูกผ่อนปรนให้แก่ชายและหญิงถึงแม้นว่าจะมีเลือดเสีย(อิสติฮาเฎาะฮ์)ก็ตาม แม้จะอยู่บ้านหรือเดินทาง ให้ทำการเช็ดถุงเท้าที่เป็นหนังทั้งภายนอกและภายในได้” หน้า 26
ดังนั้น ถ้าหากถุงเท้าไม่ใช่ทำมาจากหนัง ก็ไม่อนุญาตให้ทำการเช็ดแทนการล้างเท้าทั้งสองตามทัศนะของนักปราชญ์มัซฮับมาลิกีย์ เพราะว่าถุงเท้าในปัจจุบันทำมาจากฝ้ายและอื่น ๆ ที่ไม่ใช่หนัง
มัซฮับชาฟิอีย์
ท่านอิมามอันนะวาวีย์ กล่าวว่า “สำหรับสิ่งที่ไม่สามารถใช้เดินทางอย่างติดต่อกันได้ เพราะว่ามันมีความบางนั้น ก็ไม่อนุญาตให้ทำการเช็ดบนมัน โดยไม่มีการขัดแย้งใด ๆ” หนังสืออัลมัจญ์มั๊วะอฺ 1/567
ดังนั้น ถุงเท้าที่ถูกถักมาจากฝ้ายหรืออื่น ๆ ที่ผู้คนทั่วไปสวมใส่กันนั้น มีความบาง ซึ่งไม่อนุญาตให้ทำการเช็ตบนมันได้ตามทัศนะของมัซฮับชาฟิอีย์
มัซฮับฮัมบาลีย์
ท่านอิมามชัมชุดดีน อิบนุ กุดามะฮ์ อัลมุก็อดดิซีย์ ได้กล่าวว่า “ถุงเท้านั้นต้องอยู่ในความหมายของคุฟฟ์ เพราะมันสามารถปกปิดบริเวนที่จำเป็นต้องล้างในการอาบน้ำละหมาด สามารถที่จะใช้เดินติดต่อกันได้ ซึ่งคล้ายกับคุฟฟ์” หนังสืออัชชัรฮุลกะบีร 1/281
ท่านอิบนุก็อฏฏอน อัลฟาซีย์ ได้กล่าวว่า “นักปราชญ์ทั้งหมด ได้ลงมติว่า ถุงเท้าทั้งสองข้างนั้น เมื่อทั้งสองไม่มีความหนา ก็ไม่อนุญาตให้ทำการเช็ดบนทั้งสอง” หนังสือ อัลอิกนาอฺ ฟี มะซาอิลิลอิจญ์มาอฺ มัสอะละฮ์ลำดับที่ 351
จากสิ่งที่ได้นำเสนอมาแล้วนั้น ปรากฏว่า เงื่อนไขที่ว่ารองเท้าคุฟฟ์หรือถุงเท้า ต้องมีความหนาและสามารถเดินทางติดต่อกันได้นั้น ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่นักปราชญ์อะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์มีมติเห็นพร้องกัน ดังนั้น ผู้ใดที่เช็ดบนถุงเท้าที่ไม่มีเงื่อนไขดังกล่าว ถือว่าการละหมาดของเขาใช้ไม่ได้ตามทัศนะของปวงปราชญ์ส่วนมาก
ดังนั้น เรื่องการละหมาด ถือว่าเป็นรุกุ่นสำคัญสุดของศาสนาอิสลาม เราสมควรเลือกกระทำสิ่งที่ถูกต้องแน่นอน มีความเข้มงวด พิถีพิถันในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับละหมาด ย่อมดีเลิศกว่านั่นเองครับ
وَاللهُ سُبْحَانَهُ وَتَعَاليَ أعْلىَ وَأَعْلَمُ