ผู้เขียน หัวข้อ: เช็ดถุงเท้าแทนการล้างเท้าในการอาบน้ำละหมาด  (อ่าน 5540 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

มุสลิม1

  • บุคคลทั่วไป

 salam

การเช็ดถุงเท้าแทนการล้างเท้าในการอาบน้ำละหมาดนั้น  มีฮุกุ่มได้อย่างไร?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ค. 31, 2008, 10:50 PM โดย al-azhary »

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
بِسْمِ اللهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْمِ

اَلْحَمْدُ للهِ رَبِّ الْعَالَمِيْنَ وَ الصَّلاَةُ وَالسَّلاَمُ عَلىَ سَيِّدِنَا مُحَمَّدٍ وَعَليَ اَلِهِ وَصَحْبِهِ أَجْمَعِيْنَ

เป็นทราบดีว่า  การละหมาดเป็นรุ่กุ่นที่สำคัญยิ่งของอิสลาม  เป็นสิ่งที่บ่าวจะต้องถูกสอบสวนในวันกิยามะฮ์  หากละหมาดไม่สมบูรณ์  อะมัลอื่น ๆ ก็ไม่สมบูรณ์ไปด้วย  และให้กับการละหมาดนั้นมีเงื่อนไข(ชะรัต)และองค์ประกอบ(รุกุ่น)ของการละหมาด  ซึ่งหากไม่มีนันการละหมาดก็ไม่ใช่ไม่ได้   ดังนั้นส่วนหนึ่งจากเงื่อนไขของการละหมาด  ก็คือการมีน้ำละหมาด  และส่วนหนึ่งจากองค์ประกอบ(รุ่กุ่น)ของการอาบน้ำละหมาดก็คือ  การล้างเท้าทั้งสองข้างจนถึงตาตุ่ม  ซึ่งเป็นหลักเดิมตามที่อัลกุรอานได้ระบุไว้

แต่ศาสนาได้ผ่อนปรนให้ทำการเช็ดรองเท้าคุฟฟ์ (คือรองเท้าที่ปกปิดตาตุ่มทั้งสองข้างทำจากหนัง)แทนการล้างเท้าทั้งสองข้างได้ในการอาบน้ำละหมาด  ซึ่งอนุญาตให้กระทำได้ทั้งหญิงและชายในทุกกรณี  ทั้งในฤดูร้อน  ฤดูหนาว  ในยามเดินทางหรืออยู่กับบ้าน  ในยามที่มีสุขภาพดีหรือเจ็บป่วย

รายงานตจากญะรีร อัลญะละบีย์  เขากล่าวว่า

‏ رَأَيْتُ رَسُولَ اللَّهِ ‏ ‏صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ ‏ ‏بَالَ ثُمَّ تَوَضَّأَ ‏ ‏وَمَسَحَ عَلَى خُفَّيْهِ

“ฉันได้เห็นท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ปัสสาวะ  หลังจากนั้นท่านได้อาบน้ำละหมาดและได้เช็ดคุฟฟ์ทั้งสองข้างของท่าน” รายงานโดยมุสลิม (401)

ท่านชุร็อยห์ บิน ฮานีอฺ  ได้รายงานว่า

أَتَيْتُ ‏ ‏عَائِشَةَ ‏ ‏أَسْأَلُهَا عَنْ الْمَسْحِ عَلَى الْخُفَّيْنِ فَقَالَتْ عَلَيْكَ ‏ ‏بِابْنِ أَبِي طَالِبٍ ‏ ‏فَسَلْهُ فَإِنَّهُ كَانَ يُسَافِرُ مَعَ رَسُولِ اللَّهِ ‏ ‏صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ ‏ ‏فَسَأَلْنَاهُ فَقَالَ جَعَلَ رَسُولُ اللَّهِ ‏ ‏صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ ‏ ‏ ثَلَاثَةَ أَيَّامٍ ‏ ‏ وَلَيَالِيَهُنَّ لِلْمُسَافِرِ وَيَوْمًا وَلَيْلَةً لِلْمُقِيمِ

“ฉันได้ไปหาท่านหญิงอาอิชะฮ์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮา  เพื่อถามถึงเรื่องการเช็คคุฟฟ์  ท่านหญิงได้ตอบว่า  จงไปหาท่านอะลีเถิด  เพราะเขารู้เรื่องนี้ดีกว่าฉัน  เขาเคยเดินทางไปกับท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ฉันจึงได้ไปถามเขา  และเขาก็ตอบว่า  ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้กำหนดเวลาให้สามวันสามคืนสำหรับผู้ที่เดินทาง  และหนึ่งวันหนึ่งคืนสำหรับผู้ที่ไม่ได้เดินทาง”  รายงานโดยมุสลิม (414)

แต่ปัจจุบันมีคำถามขึ้นว่า  ถุงเท้าที่คนทั่วไปใส่กันในปัจจุบันนั้น  สามารถนำมาปฏิบัติเหมือนกับอุกุ่มการเช็ครองเท้าคุฟฟ์ได้หรือเปล่า? 

ท่านอิมามอันนะวาวีย์   ได้กล่าวว่า  “เงื่อนไขของการเช็ดคุฟฟ์นั้น  คือ  คุฟฟ์ต้องถูกสวมภายหลังจากมีน้ำละหมาดสมบูรณ์แล้ว  , คุฟฟ์ทั้งสองข้างต้องปกปิดทั่วเท้าทั้งสองข้างในบริเวนที่จำเป็นต้องล้างในการอาบน้ำละหมาด  , โดยคุฟฟ์ต้องสะอาด  ,  สามารถเดินติดต่อกันไปกลับเป็นเวลาหนึ่งวันกับหนึ่งคืนสำหรับผู้เดินทางเพื่อทำภารกิจของเขา”  หนังสือมินฮาจญุฏฏอลิบีน หน้า 7

ดังนั้น  หากไม่สวมคุฟฟ์ขณะที่มีน้ำละหมาดสมบูรณ์เสียก่อน  หรือไม่สามารถนำมาใช้เดินติดต่อกันได้เพราะมีความบางหรือไม่ทนทาน  หรือไม่สามารถป้องกันน้ำเข้าได้เหมือนกับถุงเท้าในปัจจุบันที่ผู้คนเขาใส่กัน  ก็ถือว่าไม่อนุญาตให้เช็ดถุงเท้าในลักษณะดังกล่าวแทนการล้างเท้าทั้งสองในการอาบน้ำละหมาด

ท่านอิมามอันนะวาวีย์   ได้กล่าวไว้เช่นกันว่า  “ถือว่าการเช็ดใช้ไม่ได้กับรองเท้าที่ถูกทักที่ไม่สามารถกันน้ำได้ตามทัศนะที่ชัดเจนยิ่งกว่า”  หนังสือมินฮาจญุฏฏอลิบีน หน้า 7

ดังนั้น  ถุงเท้าที่ถูกถักทอจากผ้าฝ้ายในปัจจุบันที่ผู้คนใส่กันนั้น  ไม่ได้อยู่ในฮุกุ่มของคุฟฟ์  เพราะมันมีความบาง   ไม่สามารถใช้เดินทางติดต่อกันได้   เนื่องจากนำมาสวมใส่เพื่อเป็นถุงเท้ารองภายในเท่านั้น  อีกทั้งยังไม่สามารถกันน้ำได้ 

แต่มีฮะดิษหนึ่ง  ซึ่งรายงานโดยท่านอิมามอัตติรมีซีย์   จาก อัลมุฆีเราะฮ์ บิน ชั๊วะบะฮ์   ความว่า

  ‏تَوَضَّأَ النَّبِيُّ ‏ ‏صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ ‏ ‏وَمَسَحَ عَلَى الْجَوْرَبَيْنِ وَالنَّعْلَيْنِ

“ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้ทำการอาบน้ำละหมาดและท่านได้ทำการเช็ดถุงเท้าทั้งสองและรองเท้าทั้งสอง” สุนันอัตติรมีซีย์ (92)  ท่านอัตติรมีซีย์กล่าวว่า ฮะดิษนี้  ฮะซันซอฮิห์ 

ท่านอิมามอันนะวาวีย์กล่าววิจารณ์ว่า  “ตอบจากฮะดิษของอัลมุฆีเราะฮ์นี้  ด้วยหลายหนทางด้วยกัน  (1) ฮะดิษนี้เป็นฮะดิษฏออีฟ  ซึ่งบรรดานักปราชญ์ฮะดิษได้ทำการตัดสินว่าฎออีฟกับมัน  ท่านอัลบัยฮะกีย์ตัดสินว่าเป็นฮะดิษฏออีฟ  และท่านอัลบัยฮะกีย์ได้ทำการถ่ายทอดการตัดสินฎออีฟกับฮะดิษนี้  จาก  ท่านซุฟยาน อัษเษารีย์  ,  ท่านอับดุรเราะห์มาน บิน มะฮ์ดี , ท่านอะห์มัด บิน ฮัมบัล , ท่านอะลี บิน อัลมาดีนีย์ , ท่านยะห์ยา บิน มะอีน , ท่านอิมามมุสลิม บิน อัลฮัจญาจญ์ , ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นเป็นนักปราชญ์ฮะดิษ  หากแม้นว่าท่านอัตติรมีซีย์ตัดสินว่าเป็นฮะดิษฮะซันก็ตาม  แต่การตัดสินของบรรดานักปราชญ์ฮะดิษเหล่านั้น  ย่อมอยู่ก่อนการตัดสินของท่านอัตติรมีซีย์  ยิ่งกว่านั้น  หากแม้นว่าทุก ๆ จากคนหนึ่งคนใดจากนักปราชญ์ฮะดิษเหล่านั้น  ได้ตัดสินเพียงลำพังคนเดียว  ก็ถูกนำมาอยู่ก่อนท่านอัตติรมีซีย์  ด้วยความเห็นพร้องของนักปราชญ์ฮะดิษ (2) หากว่าฮะดิษนี้ซอฮิห์  ก็ให้ตีความว่า  ถุงเท้านั้นต้องสามารถเดินทางติดต่อกันได้  เพื่อรวมระหว่างหลักฐานต่าง ๆ (3) ท่านอัลบัยฮะกีย์ได้ทำการเล่าจากอัลอุซตาซฺ อบีลวะลีด อันนีซาบูรีย์  ว่า  เขาได้ทำการตีความว่า  ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้เช็ดถุงเท้าที่ใช้เดินเป็นรองเท้า (หมายความว่าเป็นถุงเท้าที่คงทนสามาถใช้เดินอย่างติดต่อกันได้) มิใช่หมายความว่าท่านนบีสวมถุงเท้าเป็นเอกเทศน์และใส่รองเท้าเป็นเอกเทศน์  ซึ่งเสมือนเขาได้กล่าวว่า  ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้ทำการเช็ดถุงเท้าของท่านที่ใช้ทำเป็นรองเท้าเดิน  และท่านอัลบัยฮะกีย์ได้ทำการรายงานสิ่งที่บ่งชี้ถึงสิ่งดังกล่าวจากท่านอิมามมาลิก บุตร อะนัส ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ” หนังสือมัจญ์มั๊วะอฺ 1/566

แต่หากเราไปดูคำอธิบายฮะดิษของท่านอัตติรมีซีย์เอง  ท่านได้กล่าวว่า

‏وَهُوَ قَوْلُ غَيْرِ وَاحِدٍ مِنْ أَهْلِ الْعِلْمِ وَبِهِ يَقُولُ ‏ ‏سُفْيَانُ الثَّوْرِيُّ ‏ ‏وَابْنُ الْمُبَارَكِ ‏ ‏وَالشَّافِعِيُّ ‏ ‏وَأَحْمَدُ ‏ ‏وَإِسْحَقُ ‏ ‏قَالُوا يَمْسَحُ عَلَى الْجَوْرَبَيْنِ وَإِنْ لَمْ تَكُنْ نَعْلَيْنِ إِذَا كَانَا ‏ ‏ثَخِينَيْنِ

“ฮะดิษนี้  เป็นทัศนะของนักปราชญ์มิใช่คนเดียว  ซึ่งเป็นตำกล่าวของ  ท่านซุฟยานอัษเษารีย์ , ท่านอิบนุ มุบาร็อก , ท่านอิมามอัชชาฟิอีย์  , ท่านอิมามอะห์มัด , และท่านอิสฮาก  ซึ่งพวกเขากล่าวว่า  ให้ทำการเช็ดถุงเท้าทั้งสองข้าง เมื่อมันทั้งสองมีความหนา (ทนทาน)  และหากมันไม่ใช่เป็นรองเท้าก็ตาม”  หมายถึง  ถุงเท้าที่มีความหนาคงทนสามารถใช้เดินทางติดต่อกันได้ 

ดังนั้น  หลังจากที่ท่านอัตติรมีซีย์  ได้ทำการนำเสนอฮะดิษข้างต้น  ท่านก็ได้ถ่ายทอดเงื่อนไขว่าถุงเท้านั้นต้องมีความหนา  ซึ่งเงื่อนไขนี้  ไม่มีอยู่ที่ถุงเท้าที่ถูกถักมาจากฝ้ายที่นุ่มบอบบางซึ่งผู้คนปัจจุบันทั่วไปเขานิยมใช้กัน  และไม่สามารถใช้เดินทางติดต่อกันได้เป็นเวลาหนึ่งวันกับอีกหนึ่งคืนอีกด้วย

ส่วนรายงานละเอียดของมัซฮับทั้งสี่นั้นนั้น  พอสรุปได้ดังนี้

มัซฮับฮะนะฟีย์

ในหนังสืออัดดุรรุลมุคตาร  ได้กล่าวว่า  “(อนุญาตให้เช็ดบน)ถุงเท้าทั้งสองที่มีความหนา , รองเท้าทั้งสอง , และสิ่งที่ถูกทำมาจากหนัง  กล่าวคือ  ถุงเท้าทั้งสองข้างต้องหนา  สามารถนำมาทางเดินได้ในระยะทาง 1 ฟัรซัก (คือ 5565 เมตร) และสามารถยึดติดกับหน้าแข้งได้ด้วยตัวของมันเอง”  1/269

จากหลักการดังกล่าว  ถุงเท้าในปัจจุบันที่คนทั่วไปใช้สวมใส่กัน  มีความบางไม่หนา  ดังนั้น  จึงใช้ไม่ได้ที่เอาน้ำเช็ดบนถุงเท้าเพื่อแทนการล้างเท้าทั้งสองข้าง

มัซฮับมาลิกีย์

ในหนังสือมุคตะซ็อร อัลค่อลีล  ได้ระบุว่า  “ถูกผ่อนปรนให้แก่ชายและหญิงถึงแม้นว่าจะมีเลือดเสีย(อิสติฮาเฎาะฮ์)ก็ตาม  แม้จะอยู่บ้านหรือเดินทาง  ให้ทำการเช็ดถุงเท้าที่เป็นหนังทั้งภายนอกและภายในได้” หน้า 26

ดังนั้น  ถ้าหากถุงเท้าไม่ใช่ทำมาจากหนัง  ก็ไม่อนุญาตให้ทำการเช็ดแทนการล้างเท้าทั้งสองตามทัศนะของนักปราชญ์มัซฮับมาลิกีย์  เพราะว่าถุงเท้าในปัจจุบันทำมาจากฝ้ายและอื่น ๆ ที่ไม่ใช่หนัง

มัซฮับชาฟิอีย์

ท่านอิมามอันนะวาวีย์  กล่าวว่า  “สำหรับสิ่งที่ไม่สามารถใช้เดินทางอย่างติดต่อกันได้ เพราะว่ามันมีความบางนั้น  ก็ไม่อนุญาตให้ทำการเช็ดบนมัน  โดยไม่มีการขัดแย้งใด ๆ” หนังสืออัลมัจญ์มั๊วะอฺ 1/567

ดังนั้น  ถุงเท้าที่ถูกถักมาจากฝ้ายหรืออื่น ๆ  ที่ผู้คนทั่วไปสวมใส่กันนั้น  มีความบาง  ซึ่งไม่อนุญาตให้ทำการเช็ตบนมันได้ตามทัศนะของมัซฮับชาฟิอีย์

มัซฮับฮัมบาลีย์

ท่านอิมามชัมชุดดีน อิบนุ กุดามะฮ์  อัลมุก็อดดิซีย์   ได้กล่าวว่า  “ถุงเท้านั้นต้องอยู่ในความหมายของคุฟฟ์  เพราะมันสามารถปกปิดบริเวนที่จำเป็นต้องล้างในการอาบน้ำละหมาด  สามารถที่จะใช้เดินติดต่อกันได้  ซึ่งคล้ายกับคุฟฟ์”  หนังสืออัชชัรฮุลกะบีร 1/281

ท่านอิบนุก็อฏฏอน อัลฟาซีย์  ได้กล่าวว่า  “นักปราชญ์ทั้งหมด  ได้ลงมติว่า  ถุงเท้าทั้งสองข้างนั้น  เมื่อทั้งสองไม่มีความหนา  ก็ไม่อนุญาตให้ทำการเช็ดบนทั้งสอง”  หนังสือ อัลอิกนาอฺ  ฟี มะซาอิลิลอิจญ์มาอฺ  มัสอะละฮ์ลำดับที่ 351

จากสิ่งที่ได้นำเสนอมาแล้วนั้น  ปรากฏว่า  เงื่อนไขที่ว่ารองเท้าคุฟฟ์หรือถุงเท้า  ต้องมีความหนาและสามารถเดินทางติดต่อกันได้นั้น  ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่นักปราชญ์อะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์มีมติเห็นพร้องกัน  ดังนั้น  ผู้ใดที่เช็ดบนถุงเท้าที่ไม่มีเงื่อนไขดังกล่าว  ถือว่าการละหมาดของเขาใช้ไม่ได้ตามทัศนะของปวงปราชญ์ส่วนมาก

ดังนั้น  เรื่องการละหมาด  ถือว่าเป็นรุกุ่นสำคัญสุดของศาสนาอิสลาม  เราสมควรเลือกกระทำสิ่งที่ถูกต้องแน่นอน  มีความเข้มงวด  พิถีพิถันในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับละหมาด  ย่อมดีเลิศกว่านั่นเองครับ 

وَاللهُ سُبْحَانَهُ وَتَعَاليَ أعْلىَ وَأَعْلَمُ
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

 

GoogleTagged