بِسْمِ اللهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْمِ
اَلْحَمْدُ للهِ رَبِّ الْعَالَمِيْنَ وَ الصَّلاَةُ وَالسَّلاَمُ عَلىَ سَيِّدِنَا مُحَمَّدٍ وَعَليَ اَلِهِ وَصَحْبِهِ أَجْمَعِيْنَ
การก้มคำนับเพียงศีรษะถือว่ามักโระฮ์ ส่วนการก้มคำนับพร้อมกับโค้งหลังด้วยนั้น ถือว่าเป็นมักโระฮ์อย่างมาก
ท่านอิมามอันนะวาวีย์ ได้กล่าวไว้ในหนังสือ อัลฟะตาวา ของท่านความว่า :
การก้มคำนับให้กันและกันเป็นสิ่งที่มักโระฮ์อย่างมาก (หมายถึงไม่ควรกระทำอย่างยิ่ง) ได้มีฮะดิษยืนยันจากท่านอะนัส เขากล่าวว่า
قَالَ رَجُلٌ يَا رَسُولَ اللَّهِ الرَّجُلُ مِنَّا يَلْقَى أَخَاهُ أَوْ صَدِيقَهُ أَيَنْحَنِي لَهُ قَالَ لَا قَالَ أَفَيَلْتَزِمُهُ وَيُقَبِّلُهُ قَالَ لَا قَالَ أَفَيَأْخُذُ بِيَدِهِ وَيُصَافِحُهُ قَالَ نَعَمْ
มีชายคนหนึ่งกล่าวว่า โอ้ท่านร่อซูลุลลอฮ์ มีชายคนหนึ่งจากเราได้พบกับพี่น้องของเขาหรือเพื่อนของเขา แล้วชายคนนั้นทำการโค้งคำนับจากได้หรือไม่? ท่านนบีตอบว่า "ไม่" เขากล่าวว่า แล้วชายคนนั้นเข้าไปสวมกอดแล้วจูบจะได้หรือไม่? ท่านนบีตอบว่า "ไม่" ชายคนนั้นกล่าวอีกว่า แล้วชายคนนั้นได้ฉวยมือของพี่น้องเขาและทำการสัมผัสจับมือจะได้หรือไม่? ท่านนบีตอบว่า "ได้ซิ" รายงานโดยอัตติรมีซีย์ เขากล่าวว่า เป็นฮะดิษฮะซัน
ฮะดิษนี้ บ่งชัดเจนในการห้ามก้มคำนับ และไม่มีฮะดิษอื่นมาคัดค้านด้วย ดังนั้นฮะดิษนี้จึงไม่มีสิ่งที่มาขัดแย้ง และเขาอย่าลงเชื่อผู้คนมากมายที่ได้ขัดแย้งกับฮะดิษนี้ ที่มาจากผู้อ้างว่าเป็นนักฟิกห์หรืออื่น ๆ เกี่ยวกับเรื่องคุณงามความดี เพราะการเจริญรอยตามนั้น ต้องด้วยการตามท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
อัลเลาะฮ์ตะอาลาทรงตรัสความว่า
وَمَا آتَاكُمُ الرَّسُولُ فَخُذُوهُ وَمَا نَهَاكُمْ عَنْهُ فَانتَهُوا
"สิ่งใดก็ตามที่ศาสนทูตได้นำมาพวกเจ้า พวกเจ้าก็จงยึดมันไว้เกิด ส่วนสิ่งใดที่เขาห้ามพวกเจ้าไว้มิให้กระทำมัน พวกเจ้าก็จงยุติเสีย" อัลฮัชรุ 7
พระองค์ทรงตรัสเช่นกันว่า
فَلْيَحْذَرِ الَّذِينَ يُخَالِفُونَ عَنْ أَمْرِهِ أَن تُصِيبَهُمْ فِتْنَةٌ أَوْ يُصِيبَهُمْ عَذَابٌ أَلِيمٌ
"ดังนั้นผู้ฝ่าฝืนคำสั่งของเขานั้นจงสังวรณ์ไว้เถิดว่า วิกฤติการจะต้องประสบแก่พวกเขา หรือมิฉะนั้นการลงโทษอันทรมารที่สุดก็จะประสบแก่พวกเขา" อันนูร 63
อ้างอิงจากหนังสือ : อัลมะษูร็อต ฟีอุยูนิล มุฮิมมาต (หรือฟะตาวาอิมามอันนะวาวีย์) หน้า 110 - 11
ท่านอิมามอัลค่อฏีบ อัชชัรบีนีย์ ได้กล่าวไว้ในหนังสือ มุฆนีลมั๊วะห์ตาจญ์ 4/231 ความว่า "มักโระฮ์การสวมกอดและจูบบนศีรษะ หากแม้นว่าผู้ทำการจูบหรือผู้ถูกจูบจะเป็นคนมีคุณธรรมก็ตาม เพราะมีฮะดิษห้ามสิ่งดังกล่าว รายงานโดยติรมีซีย์ จากท่านอะนัส เขากล่าวว่า
قَالَ رَجُلٌ يَا رَسُولَ اللَّهِ الرَّجُلُ مِنَّا يَلْقَى أَخَاهُ أَوْ صَدِيقَهُ أَيَنْحَنِي لَهُ قَالَ لَا قَالَ أَفَيَلْتَزِمُهُ وَيُقَبِّلُهُ قَالَ لَا قَالَ أَفَيَأْخُذُ بِيَدِهِ وَيُصَافِحُهُ قَالَ نَعَمْ
มีชายคนหนึ่งกล่าวว่า โอ้ท่านร่อซูลุลลอฮ์ มีชายคนหนึ่งจากเราได้พบกับพี่น้องของเขาหรือเพื่อนของเขา แล้วชายคนนั้นทำการโค้งคำนับจากได้หรือไม่? ท่านนบีตอบว่า "ไม่" เขากล่าวว่า แล้วชายคนนั้นเข้าไปสวมกอดแล้วจูบจะได้หรือไม่? ท่านนบีตอบว่า "ไม่" ชายคนนั้นกล่าวอีกว่า แล้วชายคนนั้นได้ฉวยมือของพี่น้องเขาและทำการสัมผัสจับมือจะได้หรือไม่? ท่านนบีตอบว่า "ได้ซิ" รายงานโดยอัตติรมีซีย์ (2652) เขากล่าวว่า เป็นฮะดิษฮะซัน
นอกจากผู้ที่กลับมาจากการเดินทางหรือนานครั้งได้พบกัน ถือว่าซุนนะฮ์ให้ทำการสวมกอดและจูบบนศีรษะได้ เพราะตามซุนนะฮ์ของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ซึ่งท่านอัตติรมีซีย์ได้รายงานไว้ จากท่านหญิงอาอิชะฮ ์ความว่า
قَدِمَ زَيْدُ بْنُ حَارِثَةَ الْمَدِينَةَ وَرَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فِي بَيْتِي فَأَتَاهُ فَقَرَعَ الْبَابَ فَقَامَ إِلَيْهِ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ عُرْيَانًا يَجُرُّ ثَوْبَهُ وَاللَّهِ مَا رَأَيْتُهُ عُرْيَانًا قَبْلَهُ وَلَا بَعْدَهُ فَاعْتَنَقَهُ وَقَبَّلَهُ
"เซด บุตร ฮาริษะฮ์ ได้เดินทางมาที่มะดีนะฮ์ โดยท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม อยู่ในบ้านของฉัน ดังนั้นเซดได้มาหาท่านร่อซูลุลลอฮ์แล้วเคาะประตู ท่านร่อซูลุลลอฮ์จึงยืนขึ้นไปหาเซด (ด้วยความดีใจ) ในสภาพเปลือยส่วนบน (หมายถึงมิได้สวมเสื้อ) โดยท่านดึงเสื้อคลุมไปไว้บนบ่า ขอยืนยัน ฉันไม่เคยเห็นท่านร่อซูลุลลอฮ์เปลือย(ส่วนบนไม่ใส่เสื้อ)ก่อนวันนี้และหลังจากวันนี้เลย ดังนั้น ท่านร่อซูลุลลอฮ์ได้สวมกอดและจูบเขา" (2665) ท่านติรมีซีย์กล่าวว่า ฮะดิษนี้ฮะซัน
وَاللهُ سُبْحَانَهُ وَتَعَاليَ أعْلىَ وَأَعْلَمُ