ผู้เขียน หัวข้อ: การดะวะห์คือการเผยแพร่ศาสนา  (อ่าน 20315 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ muhibbah

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 268
  • Respect: +7
    • ดูรายละเอียด
Re: การดะวะห์คือการเผยแพร่ศาสนา
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: ธ.ค. 24, 2009, 04:55 AM »
0
จะไปว่าคนที่ออกดะวะห์ไม่ดีอย่างโน้น ไม่ดีอย่างนี้
ชอบเสพยา ดูดบุหรี่ตอนออกดะวะห์
ว่าโน้น ว่านี่กันทำไม

แล้วเรารู้รึยังว่าแต่ก่อนเค้าอยู่ยังไง
บางคนแต่ก่อนไม่เคยรู้จักมัสยิด ไม่เคยรู้การละหมาดซะด้วยซ้ำ
ไม่เคยรู้ศาสนาเลยก้อมี
แล้วมีอีหม่ามคนไหน หรือคนปอเนาะคนใดไปช่วยดึง ลากเค้า...
มีไหมซักคน??????  มีแต่คนรังเกียจและซ้ำเติมพวกเค้า
พอมาตอนนี้ เค้าได้รู้จักมัสยิด ได้ละหมาด ได้อยู่ร่วมกับยามาอะห์
เราก้อไปว่าเค้าอีก ไปด่าเค้า ไปไล่เค้า
ย้อนกลับมาดูตัวเองซิครับ  ว่าเราทำถูกแล้วหรือ?????
หรือว่า ถ้าเกิดเรากลับไปดุอาอฺให้เค้า มันคือทางที่ดีที่สุด
(อยากให้เปิดใจ มองอะไรกว้างๆ)

ทุกคนก้อพยายามหาความสุขกันทั้งนั้น นั่นคือสวรรค์นั่นเอง
ที่ที่มีความสุขตลอดกาล

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
Re: การดะวะห์คือการเผยแพร่ศาสนา
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: ธ.ค. 24, 2009, 03:23 PM »
0
ปัจจุบันนั้น ผมมองว่า หารเผยแพร่ศาสนาทางโลกไซเบอร์ คงจะเป็นอีกวิธีการหนึ่งที่จะเข้าถึงผู้คนแบบชนิดเข้าประชิดตัวเลย โดยเฉพาะคนที่ชอบอยู่แต่หน้าจอ ไม่ไปไหน ดังนั้น คนที่มีความรู้และทำเว็บได้ ก็อาจจะเป็นเครื่องมือหนึ่ง หรือวิธีการหนึ่งที่อาจจะสามารถช่วยเหลือบุคคลข้างต้นได้ เพราะบางคนได้ปิดตัวเองแบบหาตัวยากมาก - วัลลอฮุอะอฺลัม - วัสสลามุอลัยกุม
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ KARKOON

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 29
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: การดะวะห์คือการเผยแพร่ศาสนา
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: ธ.ค. 24, 2009, 04:09 PM »
0
 salam
เมื่อเราดะวะฮ์ทางโลกไซเบอร์เสร็จ :-X
เราต้องดะวะฮ์เหมือนกับนบี(ซล)ด้วยน่ะครับ คือ
บ้านต่อบ้าน ประตูต่อประตู
วัสสลาม

ออฟไลน์ read

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 130
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: การดะวะห์คือการเผยแพร่ศาสนา
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: ธ.ค. 24, 2009, 04:28 PM »
0
        การดะอฺวะฮ์เป็นข้อบังคับทางศาสนาหรือไม่ ?

                ตอบคำถามโดย เชค ดร.มุซัมมิล  ซิดดีกียฺ
                           อัล มุฆีเราะฮฺ แปลและเรียบเรียง 


จาก http://www.islam.in.th/dawah-wajib



คำถาม: ฉันและเพื่อนๆมีเรื่องถกกัน  ในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับการดะอฺวะฮฺ  บางคนกล่าวว่ามันเป็นข้อกำหนดทางศาสนา( ฟัรดู : เช่นการละหมาด 5 เวลา ) ของมุสลิมทุกคน  แต่บางคนกล่าวว่ามันไม่ใช้เรื่องจำเป็น  แต่เป็นสิ่งที่ส่งเสริมให้กระทำ (มุสตะฮับ ) แล้วอะไรคือทรรศนะที่ถูกต้องของอิสลามตามแนวทางของอัลกรุอาน  และสุนนะฮฺ
 

คำตอบ: ช่างเป็นการพูดคุยกันในเรื่องที่ดียิ่งนัก!  ข้าพเจ้ารู้สึกปิติยินดีเมื่อได้ทราบถึงข้อโต้แย้งที่คุณมีกับเพื่อนๆของคุณ  ทุกวันนี้มุสลิมจำนวนมาก ไม่ให้ความสนใจในเรื่องของการดะอฺวะฮฺ  ซึ่งการพูดคุยกันในเรื่องนี้เป็นหัวข้อที่ไม่ค่อยจะได้เจอบ่อยนัก  และที่ซ้ำร้ายก็คือ พวกเขาเสียเวลาและทรัพย์สินไปกับสิ่งที่ไร้สาระ
            ขออัลลอฮฺ อวยพรและตอบแทนรางวัล ให้คุณสำหรับการใคร่ครวญในหัวข้อที่สำคัญนี้
             อันดับแรกเราควรจะเข้าใจก่อนว่า อะไรคือการดะอฺวะฮฺ  การดะอฺวะฮฺ คือการเรียกร้องผู้คนสู่แนวทางของอัลลอฮฺผู้ทรงยิ่งใหญ่  ทำการเรียกร้องพวกเขาสู่สัจธรรม และปฏิบัติตามมัน


การดะอฺวะฮฺด้วยแบบอย่าง: การดะอฺวะฮฺที่ทุกคนต้องทำ
            การดะอฺวะฮฺ สามารถทำได้ 2 วิธี  วิธีแรกคือการดะอฺวะฮฺ ผ่านแบบอย่าง ดังที่อัลกรุอานได้กล่าวไว้ดังนี้  “เพื่อพวกเจ้าจะได้เป็นพยาน(แบบอย่าง)ท่ามกลางมนุษย์ชาติ ”
            มันจึงเป็นหน้าที่สำหรับมุสลิมทุกคน ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง  เด็กหรือคนชรา  จะต้องเป็นพยานแก่อัลลอฮฺผู้ทรงยิ่งใหญ่  ท่ามกลางมนุษยชาติ  เมื่อใครก็ตามที่เขามีโอกาสได้พบกับมุสลิม  พวกเขาควรจะได้พบกับบุคคลที่ดี มีสัจจะ มีความจริงใจและมีคุณธรรม  ชีวิตของมุสลิมแต่ละคนควรเป็นการเปิดทางสู่การเชิญชวนผู้คนให้พบกับความสวย งามของอิสลาม และจริยธรรมและคำสอนของอิสลาม ดังที่อัลลอฮฺได้กล่าวไว้ในอัลกรุอานว่า
             “และในทำนองนั้น  เราได้ให้พวกเจ้าเป็นประชาชาติสายกลาง  เพื่อพวกเจ้าจะได้เป็นพยานแก่มวลมนุษย์ทั้งหลาย ”( อัลบะเกาะเราะฮฺ 143 )
               มุสลิมทุกคนต้องทำการดะอฺวะฮ์ ผ่านชีวิตแห่งอิสลาม ทั้งในระดับปัจเจกบุคคล  ระดับครอบครัว และระดับชุมชน  เมื่อผู้คนเข้ามาติดต่อกับมุสลิม พวกเขาควรจะได้พบกับอิสลามในรูปแบบของความศรัทธาที่มีชีวิตชีวาและสามารถสำผัสได้  ซึ่งจะส่งผลให้ชีวิตของมนุษย์นั้นสูงส่ง


การดะอฺวะฮฺด้วยการทำความเข้าใจอิสลาม: การดะอฺวะฮฺที่สังคมต้องร่วมรับผิดชอบ
           อีกวิธีหนึ่งของการดะอฺวะฮฺคือ โดยผ่านทางการสั่งสอนเผยแพร่  การร่วมสนทนา อภิปราย การเขียนหนังสือหรือบทความ  ดังที่อัลลอฮฺผู้ทรงยิ่งใหญ่ได้กล่าวไว้ในอัลกุรอานว่า 
            “จงเรียกร้องสู่แนวทางของพระเจ้าของสู่เจ้าโดยสุขม  และการตักเตือนที่ดี  และจงโต้แย้งพวกเขาด้วยสิ่งที่ดี ”( อัน-นะฮฺ: 125 ) 
            สนามของการดะอฺวะฮฺนี้ ต้องการผู้มีความเข้าใจที่ลึกซึ้ง  ผู้ที่เตรียมพร้อมและฝึกฝนตัวเองอยู่สม่ำเสมอ  มุสลิมนั้นควรจะใช้วิธีการในการดะวะห์ให้มีประสิทธิภาพและเหมาะสม  ในทุกๆเวลาทุกๆสถานที่  ในทุกวันนี้การดะอฺวะฮฺต้องการสื่อ และวิธีการทันสมัย  เช่น วิทยุ,โทรทัศน์,และอินเทอร์เน็ท เป็นต้น รวมทั้งการพบปะตัวต่อตัว
             ข้าพเจ้า รู้ว่ามุสลิมส่วนใหญ่อาจไม่มีเวลาว่างพอที่จะไปรับการฝึกอบรมและทำงานดะ อฺวะฮ์ในรูปแบบนี้ แต่คนบางกลุ่มก็ต้องเตรียมพร้อมตัวของพวกเขาเอง  และเข้าร่วมในสนามการดะอฺวะฮฺนี้  ดังที่อัลลอฮฺผู้ทรงสูงส่งได้กล่าวไว้ในอัลกรุอานว่า
             “ ไม่บังควรที่ผู้ศรัทธา  จะออกไปสู้รบกันทั้งหมด  ทำไมแต่ละกลุ่มในหมู่พวกเขา  จึงไม่ออกไปหาความเข้าใจในศาสนา  เพื่อจะได้ตักเตือนหมู่คณะของพวกเขา  โดยหวังว่าหมู่คณะของพวกเขาจะได้ระมัดระวัง ” ( อัต เตาบะฮฺ : 122 )
           ดังนั้นการดะอฺวะฮฺที่ผ่านการฝึกฝนที่ถูกต้องและให้ความชำนาญพิเศษ จึงถือว่าเป็นฟัรดูกิฟายะฮฺ(ข้อกำหนดที่สังคมต้องตระเตรียมให้พอเพียง) หมายความว่า ทุกๆชุมชนจะต้องมีบางคนที่ทำการดะอฺวะฮฺอย่างถูกต้อง  อย่างเป็นระบบ แบบแผน  เป็นตัวแทนของสมาชิกทั้งหมดของชุมชน  ถ้ามีบางคนในสังคมได้ทำงานนี้  คนอื่นๆในสังคมก็จะไม่มีความผิด 
          แต่ถ้าหากว่าในสังคมนั้นไม่มีใครทำการดะอฺวะฮฺเลย  ก็จะทำให้มุสลิมทั้งหมดในสังคมนั้นมีความผิด  มันจึงเป็นหน้าที่ของมุสลิมทั้งหลาย  ที่จะต้องสนับสนุนในการดะอฺวะฮฺ ด้วยกับการจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวก  และสนับสนุนเงินทุน  เพื่อที่จะทำให้การดะอฺวะฮฺมีสิทธิภาพสูงสุด



ปัญหาของการดะอฺวะฮฺ
            ปัญหาแรกคือ  มุสลิมส่วนใหญ่นั้นพวกเขาไม่ได้ดำเนินชีวิตให้เป็นแบบอย่าง(คือไม่ได้ทำการดะอฺวะฮฺประเภทแรกที่เป็นข้อบังคับสำหรับทุกคน)  เพื่อที่จะได้เป็นพยานของอัลลอฮฺ ท่ามกลางมนุษย์ทั้งหลาย 
            ปัญหาอีกอย่างหนึ่งก็ คนที่ทำการดะอฺวะฮฺด้วยการทำความเข้าใจอิสลาม(คือการดะอฺวะฮประเภทที่สองที่สังคมต้องร่วมรับผิดชอบ)  ถึงแม้ว่าพวกเขาเป็นผู้ที่มีความบริสุทธิ์ใจ  แต่พวกเขากลับได้รับการฝึกอบรมที่น้อยมาก และสิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นตามมาอีกก็คือ กลุ่มที่มีอยู่น้อยนั้นกลับไม่ได้รับการช่วยเหลือจากพี่น้องมุสลิมด้วยกัน 
           ใน ขณะที่องค์กรเผยแพร่อื่นๆที่ไม่ใช้มุสลิม กลับได้รับการสนับสนุน ในด้านทรัพยากรอย่างท่วมท้น ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นได้ครอบโลกด้วยธุรกิจ  ในทางกลับกันองค์กรมุสลิมมีสภาพเพียงแค่พอจะอยู่รอดไปวันๆ
           ในทุกวันนี้การโฆษณาชวนเชื่อทำให้เกิดภาพที่ตรงข้ามกับความเป็นจริงของอิสลาม  ด้วยเหตุนี้การดะอฺวะฮฺ มันจึงกลายเป็นหน้าที่ของมุสลิมทุกคน รวมทั้งองค์กรมุสลิม รัฐมุสลิม ที่ต้องอุทิศตนและเสียสละ  เพื่อให้ภาพพจน์ของมุสลิมดีขึ้น  ด้วยกับความพยายาม และใช้วิทยปัญญา และวิธีการตอบโตที่ดีกว่า
ขออัลลอฮฺโปรดช่วยเหลือพวกเขาในหนทางของพระองค์
.........................................

       
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธ.ค. 24, 2009, 04:32 PM โดย read »

ออฟไลน์ ADB

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนสนิท (._.")
  • *****
  • กระทู้: 235
  • Respect: +24
    • ดูรายละเอียด
    • ตับลีฆ
Re: การดะวะห์คือการเผยแพร่ศาสนา
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: ธ.ค. 24, 2009, 04:45 PM »
0
 salam

2 ประการที่คนทั่วไปยังเข้าใจผิดเกี่ยวกับดะอฺวะฮฺตับลีฆ

ประการแรก ดะอฺวะฮฺ นั้นมีจุดประสงค์ของการออกดะอฺวะฮฺ  เพื่อไปสอนคนอื่น
ประการที่สอง ดะอฺวะฮฺ นั้นมีเงินทุน ให้คนที่ออก

ประการแรกจุดประสงค์ของการออกที่แท้จริง เพื่อการอิสละฮฺ ตัสกียะฮฺ ปรับปรุงอีหม่าน และอาม้าลของผู้ออกเอง ซึ่งเราหวังจากอัลลอฮฺว่ามันจะส่งผลสะท้อนถึงทุกพื้นที่ทุกหมู่บ้านที่เราไป เหมือนกับที่อัลลอฮฺทรงตรัสไว้ว่า "อัลลอฮฺจะไม่เปลี่ยนแปลงกลุ่มชนหนึ่งกลุ่มชนใด จนกว่าเค้าจะเปลี่ยนแปลงตัวของเค้าเองก่อน" การปรับปรุงดังกล่าวต้องมีสถานที่เพื่อทำการบำบัดฟื้นฟู มีพี่น้องมุสลิม เป็นสนามและบทฝึก การพูดคุยหรือพยายามกับคนอื่น นั้นจะส่งผลโดยตรงผ่านทางความคิด การทุ่มเท เกิดเป็นสิ่งหนึ่ง ที่เรียกว่าฟิเกร และฟิเกรอันนี้เอง เป็นสิ่งเดียวกันกับที่มีในบรรดาอัมบียะห์ คือความเป็นห่วงมนุษย์ชาติ ดังนั้นหากเรายังเข้าใจว่าจุดประสงค์หลักของการออกดะอฺวะฮฺ นั้น คือการไปสอนคนอื่น นั้นเป็นการเข้าใจผิด

ประการที่สอง ที่ว่าดะอฺวะฮฺนั้นมีเงินทุนให้กับคนที่ออก เพราะคิดว่าเราต้องเหมือนกับองค์กรอื่นๆ แต่แท้ที่จริงแล้วงานดะอฺวะฮฺ ต้องการให้ผู้ออก เสียสละทรัพย์สินและเวลาของตัวเอง ถือเป็นเงื่อนไขที่สำคัญในการที่จะได้รับการเปลี่ยนแปลง

เมาลานาสะอั๊ด กล่าวว่า "งานดะอฺวะฮฺ เป็นฟัรฏูกิฟายะห์ สำหรับคนที่คิดจะไปปรับปรุงคนอื่น แต่งานดะอฺวะฮฺ เป็นฟัรฎูอีน สำหรับคนที่คิดจะปรับปรุงตนเอง"

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
Re: การดะวะห์คือการเผยแพร่ศาสนา
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: ธ.ค. 24, 2009, 08:53 PM »
0
องค์กร หรือกลุ่มที่ทำงานดะอ์วะฮ์ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากพี่น้องมุสลิม แต่ในขณะเดียวกันก็ได้รับการต่อต้านจากกันและกัน หรือจากภายนอกจากทั้งสองนั้น พร้อมกันนั้นอาจถือได้ว่าเป็นองค์กรดะอ์วะฮ์ระดับสากลด้วยซ้ำไป และคงไม่ผิดที่จะกล่าวว่า ไม่ว่าคุณจะไปที่ไหนบนโลกใบนี้ คุณจะต้องเจอสองกลุ่มนี้คละเคล้ากันไป คงจะมีไม่กี่ที่ที่อีกกลุ่มได้ครอบพื้นที่และจิตใจของพี่น้องมุสลิมแต่เพียงผู้เดียว ณ สถานที่นั้น สองกลุ่มที่ว่าก็คือ กลุ่มญมาอะฮ์ตับลีฆ และกลุ่มวะฮาบีย์ - วัลลอฮุอะอฺลัม - วัสสลามุอลัยกุม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธ.ค. 25, 2009, 10:23 AM โดย Al Fatoni »
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ read

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 130
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: การดะวะห์คือการเผยแพร่ศาสนา
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: ธ.ค. 25, 2009, 09:42 AM »
0
        การดะอฺวะฮ์เป็นข้อบังคับทางศาสนาหรือไม่ ?

                ตอบคำถามโดย เชค ดร.มุซัมมิล  ซิดดีกียฺ

มันจึงเป็นหน้าที่สำหรับมุสลิมทุกคน ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง  เด็กหรือคนชรา  จะต้องเป็นพยานแก่อัลลอฮฺผู้ทรงยิ่งใหญ่  ท่ามกลางมนุษยชาติ  เมื่อใครก็ตามที่เขามีโอกาสได้พบกับมุสลิม  พวกเขาควรจะได้พบกับบุคคลที่ดี มีสัจจะ มีความจริงใจและมีคุณธรรม  ชีวิตของมุสลิมแต่ละคนควรเป็นการเปิดทางสู่การเชิญชวนผู้คนให้พบกับความสวย งามของอิสลาม และจริยธรรมและคำสอนของอิสลาม ดังที่อัลลอฮฺได้กล่าวไว้ในอัลกรุอานว่า
             “และในทำนองนั้น  เราได้ให้พวกเจ้าเป็นประชาชาติสายกลาง  เพื่อพวกเจ้าจะได้เป็นพยานแก่มวลมนุษย์ทั้งหลาย ”( อัลบะเกาะเราะฮฺ 143 )



        การดะอฺวะฮ์เป็นข้อบังคับทางศาสนาหรือไม่ ?

                ตอบคำถามโดย เชค ดร.มุซัมมิล  ซิดดีกียฺ
                        
  มุสลิมทุกคนต้องทำการดะอฺวะฮ์ ผ่านชีวิตแห่งอิสลาม ทั้งในระดับปัจเจกบุคคล  ระดับครอบครัว และระดับชุมชน  เมื่อผู้คนเข้ามาติดต่อกับมุสลิม พวกเขาควรจะได้พบกับอิสลามในรูปแบบของความศรัทธาที่มีชีวิตชีวาและสามารถสำผัสได้ซึ่งจะส่งผลให้ชีวิตของมนุษย์นั้นสูงส่ง  

 

ออฟไลน์ intellectual

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 62
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: การดะวะห์คือการเผยแพร่ศาสนา
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: ธ.ค. 25, 2009, 03:50 PM »
0
อัสสลามมุอะลัยกุม ครับ











๑. การออกสามวัน สี่สิบวัน สี่เดือนที่ว่าคืออะไร?

การออกไปในลักษณะดังกล่าว เข้าใจว่าน่าจะหมายถึง งานการพยายามรูปแบบที่เมาลานาอิลยาซได้นำเสนอแก่ประชาชาตินี้ครับ เรื่องของเมาลานาอิลยาซ สามารถอ่านได้จากหนังสือ "เมาลานาอิลยาซ นักดะวะฮ์แห่งศตวรรษ" หรือไปที่ http://www.muslimthai.com/forum/index.php?topic=3109.0


จำนวนดังกล่าวไม่ใช่รูปแบบตายตัว สามารถยืดหยุ่นได้ตามความเห็นชอบของผู้รับผิดชอบในแต่ละท้องที่


 ... ทำไมต้องเป็นจำนวนดังกล่าว?

จำนวนสี่สิบวัน บันทึกโดยอับดุลรอซซ๊าก ในหนังสือซุนันของท่าน ในกิตาบบุ้ลญิฮาด บาบว่าด้วยเรื่อง การเฝ้าระวังเขตแดนของมุสลิม เล่ม๕ หน้า ๒๘ จากท่านยะซีด บิน อบรฮุบัยบ์ กล่าวว่า ชายคนหนึ่งได้มาหาท่านอุมัร (ร.ด.) ท่านถามว่า "เจ้าหายไปไหนมา?" เขากล่าวว่า "ฉันไปเฝ้าชายแดนมา" "ท่านไปนานเท่าไหร่?" เขาตอบว่า "สามสิบวัน" ท่านอุมัรจึงกล่าวแก่เขาว่า "จะดีกว่าหากท่านทำจนครบสี่สิบวัน" บันทึกทำนองนี้พบได้ใน กันซุ้ลอุมม้าล เล่ม๒. หน้า ๒๘๘

รายงานจากท่านอบูฮุรอบเราะฮ์เช่นกัน บันทึกโดยอับดุลร็อกซ๊าก และซะอี๊ดบินมันซูร (เป็นฮะดิษมุ๊ตตะซิ้ลจากอบูฮุรอยเราะฮ์) กล่าวว่า "ใครก็ตามที่ได้รับมอบหมายให้เฝ้าระวังเขตแดนมุสลิม และเขาอยู่จนครบเวลาสี่สิบวัน แท้จริงเขาได้ลุล่วงงานของเขาแล้ว"


สี่เดือน เช่น เรื่องราวของท่านอุมัร กับ ซัยยิดะฮ์ฮัฟเซาะฮ์ เกี่ยวกับคำถามที่ว่า "ผู้หญิงสามารถทนต่อการห่างหายไปของสามีได้นานเท่าไหร่?" ท่านหญิงกล่าวเป็นนัยยะว่า สามเดือน และเปลี่ยนเป็นสี่เดือน หาดูได้จากหนังสือ ฮะยาตุ้สซอฮาบะฮ์ โดยเมาลานา ยูซุฟ กานดะเลวีย์ กิตาบบุ้ลญิฮาด อ่านบทที่ว่าด้วยเรื่อง "การออกในหนทางของอัลลอฮ์เป็นเวลาสี่สิบวันติดต่อกันมากกว่าหนึ่งครั้ง" ที่มัรกัสอ่านกันทุกคืนครับ

ส่วนสามวัน ในสมัยท่านเมาลานาอิลยซ ไม่มีการออกลักษณะนี้ครับ :) แต่เพื่อความเหมาะสมจึงเพิ่มลงไปเท่านั้นเอง ... ยังมีออก 24 ชั่วโมง เจ็ดวัน หรือกระทั่ง1ปี ด้วยครับ ... ไม่ใช่สาระของกลุ่มเท่าไหร่ เพราะหากออกสี่เดือน แต่ไม่เกิดการปรับปรุงตัวเองในทางที่ดีขึ้ย ถือว่าล้มเหลวครับ ทางกลับกันกับคนที่ออกสามวัน แต่มีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น :)



i confuse with yo reference la @_@ how related??????????

ออฟไลน์ บาชีร

  • ปีสามสักที
  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2164
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +59
    • ดูรายละเอียด
Re: การดะวะห์คือการเผยแพร่ศาสนา
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: ธ.ค. 25, 2009, 05:12 PM »
0
ถ้าสี่ปีก็เป็นหลักสูตรมหาลัยโดยส่วนใหญ่
นักเรียนปีสาม กฎหมายอิสลาม อัซฮัร ไคโร

ออฟไลน์ intellectual

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 62
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: การดะวะห์คือการเผยแพร่ศาสนา
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: ธ.ค. 25, 2009, 10:58 PM »
0
:@   มาเถียงกันอยู่ได้รำคาญชะมัดเลย


พรุ่งนี้ชีอะฮจะฟันหัวแบะเพื่อรำลึกมุสลิมคนหนึ่ง   พวกเราไปดะวะฮกันเถอะ  พี่น้องชาวพุทธยังถามฉันหลายต่อหลายคำถาม  บางครั้งไปสัมมนาระดับประเทศ  กาเฟรไม่รู้เรื่องอิสลาม  ไม่รู้ว่า ทำไมฉันต้องละหมาด  อะไรคือน้ำละหมาด   ขอถาม ทุกคนว่า  พวกคุณมานั่งเถียงกันมันทำให้ดีขึ้นมั้ย   ทางที่ดีควรเผยแผ่สัจธรรมแก่มวลมนุษยชาติกันเถอะ

ออฟไลน์ a d n a n

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 698
  • เพศ: ชาย
  • "และคำพูดที่ดี เป็นซอดาเกาะฮฺ" (บุคอรียฺ , มุสลิม)
  • Respect: +13
    • ดูรายละเอียด
Re: การดะวะห์คือการเผยแพร่ศาสนา
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: ธ.ค. 26, 2009, 06:39 AM »
0
:@   มาเถียงกันอยู่ได้รำคาญชะมัดเลย


พรุ่งนี้ชีอะฮจะฟันหัวแบะเพื่อรำลึกมุสลิมคนหนึ่ง   พวกเราไปดะวะฮกันเถอะ  พี่น้องชาวพุทธยังถามฉันหลายต่อหลายคำถาม  บางครั้งไปสัมมนาระดับประเทศ  กาเฟรไม่รู้เรื่องอิสลาม  ไม่รู้ว่า ทำไมฉันต้องละหมาด  อะไรคือน้ำละหมาด   ขอถาม ทุกคนว่า  พวกคุณมานั่งเถียงกันมันทำให้ดีขึ้นมั้ย   ทางที่ดีควรเผยแผ่สัจธรรมแก่มวลมนุษยชาติกันเถอะ

นั่นนะสิ ไปดะวะฮ์ด้วยกันมั้ยครับ สนใจติดต่อหลังไมค์ -> อินชาอัลลอฮ  wink:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธ.ค. 26, 2009, 07:16 AM โดย a d n a n »
หากมาอย่าง " ผึ้ง " ก็จะได้ ~o น้ำหวาน o~ กลับไป oOo หากมาอย่าง " แมลงวัน " ก็จะไม่ได้อะไร นอกจาก

ออฟไลน์ intellectual

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 62
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: การดะวะห์คือการเผยแพร่ศาสนา
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: ธ.ค. 27, 2009, 03:50 PM »
0
อัสสลามมุอะลัยกุม ครับ











๑. การออกสามวัน สี่สิบวัน สี่เดือนที่ว่าคืออะไร?

การออกไปในลักษณะดังกล่าว เข้าใจว่าน่าจะหมายถึง งานการพยายามรูปแบบที่เมาลานาอิลยาซได้นำเสนอแก่ประชาชาตินี้ครับ เรื่องของเมาลานาอิลยาซ สามารถอ่านได้จากหนังสือ "เมาลานาอิลยาซ นักดะวะฮ์แห่งศตวรรษ" หรือไปที่ http://www.muslimthai.com/forum/index.php?topic=3109.0


จำนวนดังกล่าวไม่ใช่รูปแบบตายตัว สามารถยืดหยุ่นได้ตามความเห็นชอบของผู้รับผิดชอบในแต่ละท้องที่


 ... ทำไมต้องเป็นจำนวนดังกล่าว?

จำนวนสี่สิบวัน บันทึกโดยอับดุลรอซซ๊าก ในหนังสือซุนันของท่าน ในกิตาบบุ้ลญิฮาด บาบว่าด้วยเรื่อง การเฝ้าระวังเขตแดนของมุสลิม เล่ม๕ หน้า ๒๘ จากท่านยะซีด บิน อบรฮุบัยบ์ กล่าวว่า ชายคนหนึ่งได้มาหาท่านอุมัร (ร.ด.) ท่านถามว่า "เจ้าหายไปไหนมา?" เขากล่าวว่า "ฉันไปเฝ้าชายแดนมา" "ท่านไปนานเท่าไหร่?" เขาตอบว่า "สามสิบวัน" ท่านอุมัรจึงกล่าวแก่เขาว่า "จะดีกว่าหากท่านทำจนครบสี่สิบวัน" บันทึกทำนองนี้พบได้ใน กันซุ้ลอุมม้าล เล่ม๒. หน้า ๒๘๘

รายงานจากท่านอบูฮุรอบเราะฮ์เช่นกัน บันทึกโดยอับดุลร็อกซ๊าก และซะอี๊ดบินมันซูร (เป็นฮะดิษมุ๊ตตะซิ้ลจากอบูฮุรอยเราะฮ์) กล่าวว่า "ใครก็ตามที่ได้รับมอบหมายให้เฝ้าระวังเขตแดนมุสลิม และเขาอยู่จนครบเวลาสี่สิบวัน แท้จริงเขาได้ลุล่วงงานของเขาแล้ว"


สี่เดือน เช่น เรื่องราวของท่านอุมัร กับ ซัยยิดะฮ์ฮัฟเซาะฮ์ เกี่ยวกับคำถามที่ว่า "ผู้หญิงสามารถทนต่อการห่างหายไปของสามีได้นานเท่าไหร่?" ท่านหญิงกล่าวเป็นนัยยะว่า สามเดือน และเปลี่ยนเป็นสี่เดือน หาดูได้จากหนังสือ ฮะยาตุ้สซอฮาบะฮ์ โดยเมาลานา ยูซุฟ กานดะเลวีย์ กิตาบบุ้ลญิฮาด อ่านบทที่ว่าด้วยเรื่อง "การออกในหนทางของอัลลอฮ์เป็นเวลาสี่สิบวันติดต่อกันมากกว่าหนึ่งครั้ง" ที่มัรกัสอ่านกันทุกคืนครับ

ส่วนสามวัน ในสมัยท่านเมาลานาอิลยซ ไม่มีการออกลักษณะนี้ครับ :) แต่เพื่อความเหมาะสมจึงเพิ่มลงไปเท่านั้นเอง ... ยังมีออก 24 ชั่วโมง เจ็ดวัน หรือกระทั่ง1ปี ด้วยครับ ... ไม่ใช่สาระของกลุ่มเท่าไหร่ เพราะหากออกสี่เดือน แต่ไม่เกิดการปรับปรุงตัวเองในทางที่ดีขึ้ย ถือว่าล้มเหลวครับ ทางกลับกันกับคนที่ออกสามวัน แต่มีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น :)



i confuse with yo reference la @_@ how related??????????
คุณยังไม่ได้ตอบคำถามฉันนะ คุณการ์ฟิลด์

ออฟไลน์ read

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 130
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: การดะวะห์คือการเผยแพร่ศาสนา
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: ธ.ค. 28, 2009, 08:53 AM »
0

จำนวนดังกล่าวไม่ใช่รูปแบบตายตัว สามารถยืดหยุ่นได้ตามความเห็นชอบของผู้รับผิดชอบในแต่ละท้องที่



เมื่ออ่านบทข้างหน้าแล้ว คุณก็ไม่ควร confuse หรือ กับ reference  related กับบทข้างหลัง

มันเหมือนกับว่า ตอนคุณเด็ก เมื่อปิดเทอมทำไมต้องไปเข้าค่ายอบรมศาสนา 10 หรือ 20 วัน มันก็เป็นข้อกำหนดของการอบรมของค่ายนั้นๆ

ถามว่าไม่ 3 วัน 40 วัน 4 เดือนได้ไหม  คือมีเวลา 1/2 วัน 1 วัน  7 วัน  20 วัน ได้ไหม
มันก็ได้ครับ แต่ 3 วัน 40 วัน 4 เดือน มันเป็นแค่ ระเบียบข้อบังคับเท่านั้น เพราะทุกองค์กรทุกหน่วยงานต้องมีระเบียบ ถ้าองกรค์หรือหน่วยงานไหนไม่มีระเบียบ (ตัสเตบ) ไม่มีวินัย มันคงไม่อยู่และไม่แพร่หลายมาถึงทุกวันนี้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธ.ค. 28, 2009, 08:56 AM โดย read »

ออฟไลน์ intellectual

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 62
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: การดะวะห์คือการเผยแพร่ศาสนา
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: ธ.ค. 28, 2009, 10:09 PM »
0

จำนวนดังกล่าวไม่ใช่รูปแบบตายตัว สามารถยืดหยุ่นได้ตามความเห็นชอบของผู้รับผิดชอบในแต่ละท้องที่



เมื่ออ่านบทข้างหน้าแล้ว คุณก็ไม่ควร confuse หรือ กับ reference  related กับบทข้างหลัง

อะไรของคุณ  ขอความกระจ่างหน่อย

ออฟไลน์ rayes

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 628
  • Respect: +18
    • ดูรายละเอียด
    • บล็อกผมเอง หุหุ
Re: การดะวะห์คือการเผยแพร่ศาสนา
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: ธ.ค. 28, 2009, 10:25 PM »
0
เหมือนนักศึกษาที่ออกดะวะฮฺ บางคนออกวันเดียว บางคนสองวัน เพราะติดเรียน ไม่มีใครห้ามว่าอย่ากลับ หากไม่ครบ

 

GoogleTagged