ผู้เขียน หัวข้อ: สายรายงานการกล่าว ซัยยิดินา ของท่านอิบนุมัสอูดซอเฮี๊ยะห์หรือไม่  (อ่าน 8537 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ GeT

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 453
  • اللهم اعط منفقا خلفا
  • Respect: +25
    • ดูรายละเอียด
صفة صلاة النبي ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 มักตะบะฮฺอัลมะอาริฟ


โดยรวมก็ไม่ได้ต่างกัน เพราะฉบับเล็กนี้มีการใส่ ( : ) ข้างหลังของคำว่า ومن خطه نقلت ส่วนคำว่า قال رحمه الله ก็เป็นคำพูดของเชคอัลบานีย์เช่นกัน
ข้อสังเกตอีกประการหนึ่งที่บ่งชี้ว่าคำฟัตวานี้เถูกเขียนโดยลูกศิษยืของอัลหาฟิซ (อัลเฆาะรอบีลีย์) คือ คำตอบ ซึ่งเขียนว่า فأجاب رضي الله عنه "แล้วท่าน -เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ - ก็ตอบว่า..."

أصل صفة صلاة النبي (ฉบับสมบูรณ์มีสามเล่ม) ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 1 ปี 1427/2006 มักตะบะฮฺอัลมะอาริฟ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ส.ค. 13, 2008, 03:04 PM โดย GeT »

ออฟไลน์ GeT

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 453
  • اللهم اعط منفقا خلفا
  • Respect: +25
    • ดูรายละเอียด
คำฟัตวาของอัสสะคอวีย์ สอดคล้องกับฟัตวาของอิบนุหะญัร
------------------------------------------------------
ท่านอัลลามะฮฺ  ฮาฟิซฺ  ชัมซุดดีน  อัสสะคอวีย์  อัชชาฟิอีย์    (ฮ.ศ.831-902)  ได้กล่าวถึงเรื่องนี้เอาไว้ในหนังสือ  อัลเกาลุ้ลบะดีอฺ  ฟิซ-ซ่อล่าตี้  อะลา  อัลฮะบีบ  อัชชะฟีอฺ  บทที่  17  หน้า  107  ว่าด้วยการเพิ่มคำว่า  ซัยยิดินาของผู้ละหมาด  ว่า  :  “อัลมัจฺญ์ด์  อัลลุฆ่อวีย์  ได้ระบุไว้โดยสรุปว่า  มีผู้คนเป็นจำนวนมากจะกล่าวว่า  :  อัลลอฮุมม่าซ็อลลิอะลาซัยยิดินาอมุฮำมัด  ในเรื่องดังกล่าวมีข้อพิจารณา

               กล่าวคือ หากเป็นในการละหมาด  สิ่งที่ปรากฏชัด  (اَلظاهر)  นั้นคือ  จะไม่ถูกกล่าว  (เช่นนั้น)  ทั้งนี้เพื่อเป็นการถือตามถ้อยคำที่มีรายงานมาและเป็นการยุติอยู่  ณ  พระวจนะที่ถูกต้อง  ส่วนในกรณีนอกการละหมาดนั้น......  (ท่านฮาฟิซ  อัสสะคอวีย์  ได้ระบุความเห็นของท่านอัลมัจญ์ด์ฯ ในเรื่องนี้ค่อนข้างยาวแล้วทิ้งท้ายว่าท่านชัยค์  อิซซุดดีน  อิบนุ  อับดิสสลาม  มีความเห็นว่า  การนำคำว่า  ซัยยิดินา  มากล่าวก่อนคำว่า  มุฮำมัดนั้น  ที่อัฟฎ้อล  (ดีที่สุด)  นั้นคือการดำเนินตามมารยาทหรือปฏิบัติตามคำสั่ง

               ถ้าถือตามกรณีแรก  (คือเป็นมารยาท)  ก็ถือว่า  ส่งเสริมให้ว่า  (มุสตะฮับ)  โดยกรณีที่สอง  (ปฏิบัติตามคำสั่ง)  ไม่ส่งเสริมให้ว่า  ซึ่งอิหม่ามอัลอัสนะวีย์  ผู้รายงานจากท่านชัยค์  อิซฺซุดดีน  อิบนุ  อับดิสสลามนั้นท่านยังสับสน  (คือไม่แน่ใจ)  ว่ากรณีใด  อัฟฎ้อล  (ดีกว่ากัน)”  (อ้างแล้ว  หน้า  107-108)


ออฟไลน์ GeT

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 453
  • اللهم اعط منفقا خلفا
  • Respect: +25
    • ดูรายละเอียด

แล้วผมก็อยากทราบอีกครับว่า  ลายมือที่ชัยค์อัลบานีนำมาเสนอนั้น  เริ่มตรงใหนและสิ้นสุดตรงใหน? ซึ่งในฉบับที่ผมมีอยู่นั้น  ก็ยังมีเยอะอีกพอควรกว่าชัยค์อัลบานีจะวงเล็บปิดให้กับมัน  เพราะข้อความก่อนจะวงเล็บปิดนั้น  ไม่ค่อยตรงกับความจริงที่เกิดขึ้น  ยังไงก็อย่าลืมชี้แจงอีกประเด็นด้วยครับ

วัสลาม 

ทั้งฉบับเล็กที่คุณอัซฮารีย์ถืออยู่และฉบับสมบูรณ์ เริ่มและจบเหมือนกัน คือจบที่คำพูดต่อไปนี้


ปล. ถ้าใครมีเวลาน่าจะแปลส่วนนี้ด้วย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ส.ค. 13, 2008, 03:37 PM โดย GeT »

ออฟไลน์ abubak

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 79
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
 salam

ผมพยายามอ่านสิ่งที่บังgetนำมาบอกหลายรอบ  ซึ่งบังพยายามนำความแตกต่างในเรื่องคีลาฟระหว่างอุลามะมาเป็นประเด็น

โดยอ้างเหตุผลที่ฮาดิสดังกล่าวไม่ซอเหียะ ดังนั้น กลายเป็นว่าทัศนะที่กล่าวคำว่าซัยยิดินาทั้งนอกและในละหมาด นั้นเป็นบิดอะในอีกของทัศนะหนึ่ง

ด้วยสาเหตุที่ว่า จากการหลักฐานของท่าน อัลมัสอุดี ที่บันทึกมาจากการฟัตวา ของอิบนุหะญัร ซึ่งหลักฐานดังกล่าวนี้เอง ที่เชคอัลบานีย์นำมาเป็นฮุกมตัดสินและกลับกลายเป็นที่โดนใจให้อีกฝ่ายหนึ่ง  และเป็นการเปิดทางให้กับบางทัศนะ ที่ไม่เห็นด้วยในการใช้คำหน้านาม  ท่านร้อซุ้ลลอลลอฮ์  โดยเฉพาะคำว่า ซัยยิดหรือซัยยิดีนาจนกลายเป็นข้อพิพาท

 ตราบใดที่เรายังยึดติดคำพูดของนักปราชญ์บางคนที่เราพอใจและตรงกับทัศนะของตนเองที่มีแนวคิดเดียวกัน


ผมว่า เราน่าจะกลับไปสู่หลักฐานจากอัลกรุอ่านก่อนว่า พระองค์ได้ทรงใช้เรากล่าวคำนำหน้าร้อซุลไว้อย่างไร จากนั้นก็มาดูจากซุนนะของท่านนบี

และบรรดาซอฮ่าบะ และยุคหลังถัดมาในอดีต   ว่าเขาเป็นอย่างไรกันในเรื่องนี้

ดีกว่าจะเอาหลักฐานของท่านผู้รู้ที่เราชอบมานำเสนอและขัดแย้งกกัน


ผมว่าน่าจะเอาหลักๆก่อนนะครับบังๆๆ


ออฟไลน์ Muftee

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1899
  • เพศ: ชาย
  • ตั้งใจเข้าไว้นะ มุฟตีย์น้อย
  • Respect: +190
    • ดูรายละเอียด
ผมจะไม่ขอร่วมเสวนาด้วยนะครับ...แค่ขออ่านอย่างเดียวพอ  ผมขอชมเชยเลยนะครับว่ากระทู้นี้นั้น คุณภาพคับแก้วจริงๆ คับ  ทั้งคุณ GeT ,
คุณ นูรุ้ลอิสลาม , คุณ อัซฮารีย์ , คุณ QorTuBah  คุณ kowee ...ต่างนำเสนอได้ดีมากทั้งนั้นเลยครับ  และบรรยากาศในการมุนากอชะฮฺครั้งนี้
ก็เป็นวิชาการจริงๆ ครับ  ไม่มีการด่าเสียๆ หายๆ ไม่มีการใช้คำที่รุนแรง  ไม่มีการพูดเสียดสีฝ่ายตรงข้าม  ในหัวข้อนี้ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นเช่นไร 
ผมเชื่อว่า  ท่านทั้งหลายที่ผมกล่าวถึงในนี้นั้นคงจะได้รับผลตอบแทนอันใหญ่หลวงจากเอกองค์อัลลอฮฺแน่นอนครับ   loveit:  ขอปรบมือให้ทุกท่านเลยครับ  ขอให้การเสวนาครั้งนี้ดำเนินต่อไปแบบนี้เรื่อยนะครับ  หวังว่าคงไม่มีใครมาทำให้เสียบรรยากาศนะคับ.... yippy: yippy:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ส.ค. 13, 2008, 05:25 PM โดย Muftee »
// อะฮฺลิสสุนนะฮฺ อัล-อะชาอิเราะฮฺ...สักวันนึง เราต้องเป็นอุละมาอฺที่ยิ่งใหญ่ อินชาอัลลอฮฺ //

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
ไม่ทำเสียบรรยากาศหรอกครับ จะขอนั่งอ่านด้วยคน หรอยดีครับ
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ sunnah 50

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 117
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
وقال النووي: والصواب الذي ينبغي الجزم به أن يقال: اللهم صل على محمد وعلى آل محمد, كما صليت على إبراهيم... الحديث
وقد تعقبه جماعة من المتأخرين بأنه ليس في الكيفيتين المذكورتين ما يدل على ثبوت الأفضلية فيهما من حيث النقل, وأما من حيث المعنى فالأفضلية ظاهرة في الأول
والمسألة مشهورة في كتب الفقه, والغرض منها أن كل من ذكر هذه المسألة من الفقهاء قاطبة لم يقع في كلام أحد منهم "سيدنا" ولو كانت هذه الزيادة مندوبة ما خفيت عليهم كلهم حتى أغفلوها, والخيركله في الإتباع, والله أعلم
อิหม่ามนะวาวีย์ กล่าวว่า "และสิ่งที่ถูกต้องที่สมควรจะต้องยึดมันเอาไว้คือ การกล่าวว่า “ขออัลลอฮได้โปรดประทานพรแก่มุหัมหมัดและวงศ์วานของมุหัมหมัด ดังที่พระองค์ได้ทรงประทานแก่อิบรอฮีม ....จนจบหะดิษ
มีบรรดาคนรุ่นหลังกลุ่มหนึ่ง ได้วิจารณ์ไว้ว่า “ในวิธีทั้งสองที่ถูกกล่าวมานั้น ไม่ได้เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงการยืนยันความประเสริฐในทั้งสองนั้น ในแง่การถ่ายทอด และสำหรับในแง่ของความหมายนั้น  ความเป็นสิ่งประเสริฐกว่า ก็ปรากฏชัดเจนในอันแรก
       และประเด็นปัญหานั้น เป็นที่รู้จักกันดี ในบรรดาตำราฟิกฮ  และจุดประสงค์จากมัน คือ  ทุกคนที่ได้กล่าวถึงประเด็นปัญหานี้  จากบรรดานักนิติศาสตร์อิสลาม(ฟุเกาะฮาอฺ)ทั้งหมด จะไม่มีในคำพูดของคนหนึ่งคนใดจากพวกเขาว่า “สัยยิดินา” และหากว่าการเพิ่มเติมนี้(หมายถึงเพิ่มคำว่าสัยยิดินา) เป็นสิ่งที่ได้รับการสนับสนุน(เป็นสุนัต)ให้กระทำ  มันก็จะไม่ถูกปิดบังแก่พวกเขา จนกระทั้งพวกเขาได้ทำให้มันถูกลืมไป  และความดีทั้งปวงนั้น อยู่ที่การเจริญรอยตาม”(ไม่ได้อยู่ที่การอุตริบิดอะฮ- ผู้แปล)
........
วัสสลาม

ออฟไลน์ GeT

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 453
  • اللهم اعط منفقا خلفا
  • Respect: +25
    • ดูรายละเอียด
salam

ผมพยายามอ่านสิ่งที่บังgetนำมาบอกหลายรอบ  ซึ่งบังพยายามนำความแตกต่างในเรื่องคีลาฟระหว่างอุลามะมาเป็นประเด็น

โดยอ้างเหตุผลที่ฮาดิสดังกล่าวไม่ซอเหียะ ดังนั้น กลายเป็นว่าทัศนะที่กล่าวคำว่าซัยยิดินาทั้งนอกและในละหมาด นั้นเป็นบิดอะในอีกของทัศนะหนึ่ง


ทัศนะไหนหรอที่ว่ากล่าวซัยยิดินานอกละหมาดเป็นบิดอะฮฺ ชี้แจงด้วย

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
คำฟัตวาของอัสสะคอวีย์ สอดคล้องกับฟัตวาของอิบนุหะญัร
------------------------------------------------------
ท่านอัลลามะฮฺ  ฮาฟิซฺ  ชัมซุดดีน  อัสสะคอวีย์  อัชชาฟิอีย์    (ฮ.ศ.831-902)  ได้กล่าวถึงเรื่องนี้เอาไว้ในหนังสือ  อัลเกาลุ้ลบะดีอฺ  ฟิซ-ซ่อล่าตี้  อะลา  อัลฮะบีบ  อัชชะฟีอฺ  บทที่  17  หน้า  107  ว่าด้วยการเพิ่มคำว่า  ซัยยิดินาของผู้ละหมาด  ว่า  :  “อัลมัจฺญ์ด์  อัลลุฆ่อวีย์  ได้ระบุไว้โดยสรุปว่า  มีผู้คนเป็นจำนวนมากจะกล่าวว่า  :  อัลลอฮุมม่าซ็อลลิอะลาซัยยิดินาอมุฮำมัด  ในเรื่องดังกล่าวมีข้อพิจารณา

               กล่าวคือ หากเป็นในการละหมาด  สิ่งที่ปรากฏชัด  (اَلظاهر)  นั้นคือ  จะไม่ถูกกล่าว  (เช่นนั้น)  ทั้งนี้เพื่อเป็นการถือตามถ้อยคำที่มีรายงานมาและเป็นการยุติอยู่  ณ  พระวจนะที่ถูกต้อง  ส่วนในกรณีนอกการละหมาดนั้น......  (ท่านฮาฟิซ  อัสสะคอวีย์  ได้ระบุความเห็นของท่านอัลมัจญ์ด์ฯ ในเรื่องนี้ค่อนข้างยาวแล้วทิ้งท้ายว่าท่านชัยค์  อิซซุดดีน  อิบนุ  อับดิสสลาม  มีความเห็นว่า  การนำคำว่า  ซัยยิดินา  มากล่าวก่อนคำว่า  มุฮำมัดนั้น  ที่อัฟฎ้อล  (ดีที่สุด)  นั้นคือการดำเนินตามมารยาทหรือปฏิบัติตามคำสั่ง

               ถ้าถือตามกรณีแรก  (คือเป็นมารยาท)  ก็ถือว่า  ส่งเสริมให้ว่า  (มุสตะฮับ)  โดยกรณีที่สอง  (ปฏิบัติตามคำสั่ง)  ไม่ส่งเสริมให้ว่า  ซึ่งอิหม่ามอัลอัสนะวีย์  ผู้รายงานจากท่านชัยค์  อิซฺซุดดีน  อิบนุ  อับดิสสลามนั้นท่านยังสับสน  (คือไม่แน่ใจ)  ว่ากรณีใด  อัฟฎ้อล  (ดีกว่ากัน)”  (อ้างแล้ว  หน้า  107-108)


ยังมีคำกล่าวของท่านอัศศ่อคอวีย์  ที่ชัดเจนกว่าในการยอมรับการกล่าวซัยยิดินาเป็นทัศนะของท่าน  และท่านก็บอกว่าเป็นทัศนะของอุลามาอ์มุฮักกิกกีน(อุลามาอ์ผู้แน่นแฟ้นในความรู้) ที่เป็นครูเป็นอาจารย์ของท่านอัศศ่อคอวีย์เอง

ท่านอัลฮาฟิซฺ  อัศศ่าคอวีย์  ศิษย์คนสำคัญของท่าน อัลฮาฟิซฺ  อิบนุ  ฮะญัร  และได้อยู่ร่วมและร่ำเรียนกับท่านอัลฮาฟิซฺ อิบนุ ฮะญัร  นานยิ่งกว่าท่านมุฮัมมัด อัลฆ่อรอบีลีย์  ได้กล่าวไว้ในหนังสือ  “เกาลุลบะเดียอฺ  ฟีสศ่อลาติ  อะลัลฮะบีบ  อัชชะฟีอฺ”  หน้า 108  ความว่า  “ฉันได้อ่านการบันทึกด้วยมือของบรรดาปราชญ์(ผู้เป็นอาจารย์ของฉัน)บางส่วนที่มีความแน่นแฟ้นในความรู้  จากผู้ที่ฉันได้รับเอาความรู้มาจากเขา  มีสิ่งที่ได้ระบุไว้ว่า  “การแสดงออกซึ่งมารยาทกับผู้ที่ถูกเอ่ยนามขึ้น  ด้วยการกล่าว ว่า  ซัยยิด  ถูกใช้ให้กระทำตามหลักของศาสนา  ดังนั้นในฮะดิษที่รายงานโดยบุคอรีและมุสลิม  ที่ว่า  “พวกท่านจงยืนให้แก่หัวหน้า(ซัยยิด)ของพวกท่านเถิด” หมายถึง  ท่านสะอัด บิน มุอาซฺ  และการเป็นหัวหน้าแกนนำของท่านสะอัด บิน มุอาซฺ นั้น  คือ  ในแง่ของความรู้และเคร่งครัดในศาสนา  และคำกล่าวของผู้ทำการละหมาด  ที่ว่า

اللهم صل علي سيدنا محمد

“อัลลอฮุ้มม่า  ซ็อลลิ  อะลา  ซัยยิดินา  มุฮัมมัด”

ในคำกล่าวนี้  เป็นการนำมาซึ่งสิ่งที่เราได้ถูกบัญชาใช้  และเพิ่มการบ่งบอกถึงความเป็นจริงที่เกิดขึ้น (คือท่านนบีเป็นซัยยิดินาเป็นนายและหัวหน้าของเรา)  นั่นก็คือ  การแสดงออกซึ่งมารยาท  ซึ่งย่อมเป็นสิ่งที่ الأفضل ประเสริฐกว่าจากการละทิ้งการกล่าวซัยยิดินา  อันเนื่องจากความชัดเจนของฮะดิษดังกล่าว” 

วัลลอฮุอะลัม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ส.ค. 13, 2008, 08:19 PM โดย al-azhary »
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ทั้งฉบับเล็กที่คุณอัซฮารีย์ถืออยู่และฉบับสมบูรณ์ เริ่มและจบเหมือนกัน คือจบที่คำพูดต่อไปนี้


 และประเด็นปัญหานั้น เป็นที่รู้จักกันดี ในบรรดาตำราฟิกฮ  และจุดประสงค์จากมัน คือ  ทุกคนที่ได้กล่าวถึงประเด็นปัญหานี้  จากบรรดานักนิติศาสตร์อิสลาม(ฟุเกาะฮาอฺ)ทั้งหมด จะไม่มีในคำพูดของคนหนึ่งคนใดจากพวกเขาว่า “สัยยิดินา” และหากว่าการเพิ่มเติมนี้(หมายถึงเพิ่มคำว่าสัยยิดินา) เป็นสิ่งที่ได้รับการสนับสนุน(เป็นสุนัต)ให้กระทำ แน่นอนมันก็จะไม่ซ่อนเร้นบนพวกเขา จนกระทั้งพวกเขาได้ทำให้ลืม(ที่จะกล่าวถึง)มัน  และความดีทั้งปวงนั้น อยู่ที่การเจริญรอยตาม”

ฟัตวาดังกล่าวอ้างว่า ไม่มีอุลามาอ์ก่อนจากนั้น (คือก่อนจากท่านอิบนุฮะญัร) ได้กล่าวเรื่องซัยยิดินาไว้  เพราะถ้าการกล่าวเป็นสิ่งที่ส่งเสริมให้กระทำจริง  ย่อมไม่ซ่อนเร้นอันใดที่พวกเขาจะนำมากล่าว  แต่ความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้คือ  มีอุลามาอ์ก่อนหน้านั้น(ก่อนสมัยท่านอิบนุฮะญัร)  ได้กล่าวเรื่องการสนับสนุนให้กล่าวซัยยิดินาเอาไว้  นั่นคือ  ซุลฏอน อัลอุลามาอ์ อิซซุดดีน อับดุสสลาม! ซึ่งท่านอัลอุบัยย์  ได้กล่าวนำเสนอย้ำไว้ในหนังสือ ชัรห์ซอฮิห์มุสลิมของท่าน

ท่านชัยค์  อิซซุดดีน  อิบนุ  อับดิสสลาม  มีความเห็นว่า  การนำคำว่า  ซัยยิดินา  มากล่าวก่อนคำว่า  มุฮำมัดนั้น  ที่อัฟฎ้อล  (ดีที่สุด)  นั้นคือการดำเนินตามมารยาทหรือปฏิบัติตามคำสั่ง

สรุปได้ว่า  ฟัตวาที่อ้างถึงท่านอิบนุฮะญัรนั้น  มีเนื้อหาที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง

เพราะท่านอัชเชากานีย์  ได้กล่าวไว้ในหนังสือนัยลุลเอาฏ็อรของท่านความว่า

وقد روي عن ابن عبد السلام أنه جعله من باب سلوك الأدب وهو مبني على أن سلوك طريق الأدب أحب من الامتثال‏.‏ ويؤيده حديث أبي بكر حين أمره صلى اللَّه عليه وآله وسلم أن يثبت مكانه فلم يمتثل وقال ما كان لابن أبي قحافة أن يتقدم بين يدي رسول اللَّه صلى اللَّه عليه وآله وسلم وكذلك امتناع علي عن محو اسم النبي صلى اللَّه عليه وآله وسلم من الصحيفة في صلح الحديبية بعد أن أمره بذلك وقال لا أمحو اسمك أبدًا وكلا الحديثين في الصحيح فتقريره صلى اللَّه عليه وآله وسلم لهما على الامتناع من امتثال الأمر تأدبًا مشعر بأولويته‏

"แท้จริงได้ถูกรายงานจากท่านอิบนุ อับดิสสลาม  ว่า  ท่านได้นำมัน(คือทำการศ่อลาวาตโดยใส่ซัยยิดินาก่อนจากคำว่ามุฮัมมัด) มาเป็นส่วนหนึ่งจากเรื่องการแสดงถึงความมีมารยาท  คือขึ้นอยู่บนหลักการที่ว่า  การดำเนินแนวทางของความมีมารยาทนั้นย่อมเป็นที่รักยิ่งกว่าการปฏิบัติตาม และได้สนับสนุนหลักการดังกล่าวโดยฮะดิษของท่านอบูบักร  ขณะที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมได้ใช้ให้เขายืนอยู่สถานที่เดิม  แต่ทว่าท่านอบูบักรไม่ยอมปฏิบัติตาม  และท่านอบูบักรกล่าวว่า  ไม่บังควรแก่(อบูบักร)อิบนุอบีกุฮาฟะฮ์ ทำการล้ำหน้าท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  และเฉกเช่นเดียวกับสิ่งดังกล่าว  คือท่านอะลีไม่ยอมลบชื่อของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จากสารฉบับหนึ่งเกี่ยวกับสัญญาประณีประณอมฮะดัยบียะฮ์หลังจากที่ท่านนบีได้ใช้ให้ลบ  และท่านอะลีก็กล่าวว่าฉันจะไม่ลบชื่อขอท่านตลอดไป  และทั้งสองฮะดิษนี้ระบุไว้ในซอฮิห์  ดังนั้น  การให้การยอมรับต่อท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  แก่ท่านอบูบักรและท่านอะลีต่อการไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งใช้เพื่อแสดงถึงมารยาทนั้น  บ่งชี้ให้รู้ว่า  การแสดงออกถึงมารยาทย่อมดีกว่า"  หนังสือ  นัยลุลเอาฏ็อร 2/377
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ส.ค. 15, 2008, 04:41 AM โดย al-azhary »
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ขอทบทวนย้ำประเด็นสักนิดครับ  หากเสวนาประเด็นอื่นเข้ามาเสริม  ก็อย่าลืมประเด็นหลักด้วยครับ 

ความจริงอุละมาอ์เขามีความขัดแย้งเรื่องปีที่อัลมัสอูดีย์เสียชีวิตระหว่างปี 156 - 160 ส่วนกรณีที่ว่าที่คุฯนูรุ้ลกล่าวมาพอจะให้ข้อสังเกตได้ดังนี้
1. คำพูดของอุละมาอ์ที่ระบุว่า "อัลมัสอูดีย์มีความจำสับสน 1 - 2 ปีก่อนเสียชีวิต" เป็นเพียงการเทียบเคียง ซึ่งความเป็นจริงอาจจะมากกว่านั้นก็ได้
2. อันนี้สำคัญมาก อุละมาอ์ระบุว่า การรายงานของอัลมุสอูดีย์ที่บัฆดาดนั้นเป็นการรายงานในช่วงที่ท่านสับสนแล้ว หมายความว่า อัลมุสอูดีย์เริ่มมีความจำที่สับสนนับจากวันที่ท่านเข้าไปพำนักอยู่ที่บัฆดาดจวบจนกระทั่งท่านเสียชีวิต ไม่ว่าท่านจะพำนักอยู่ที่นั่นกี่ปีก็ตาม จากจุดนี้ ไม่ว่าท่านจะเสียชีวิตปี 156 ซึ่งหมายความว่าระยะเวลาของความสับสนก่อนที่จะเสียชีวิตมีเพียงแค่สองปี  ในกรณีที่ท่านเริ่มสับสนในปี 154หรือเสียชีวิตในปี 160 ซึ่งมีระยะเวลาของความสับสนนานถึง 6 ปี ก็ตาม ก็หนีไม่พ้นจากความสับสนของท่านได้ เพราะถ้าขึ้นชื่อว่ารับรายงานจากท่านที่บัฆดาดc]h; ก็ถือว่าเป็นการรับรายงานจากท่านในช่วงที่ท่านสับสนแล้ว วัลลอฮุอะอฺลัม

เหตุใดคุณเก็ตถึงสมมุติ  การให้พบและรายงานระหว่าง ซิยาด กับ อัลมัสอูดีย์  มีเพียงรายงานที่แบกแดดแค่ 6 ปีละครับ  และซิยาดเสียชีวิตปี 183 คือเขายังมีชีวิตอยู่อีก 13 ปีหลังจากที่อัลมัสอูดีย์เสียชีวิต  ดังนั้น 6 + 13 เท่ากับ 19 ปี  แต่หลักการในการรับฮะดิษนั้นน้อยสุด เด็ก 5 ขวบก็รับฟังการรายงานได้แล้ว ก็ให้รวมช่วงอายุที่ไม่ควรรายงานจากอัลมัสอูดีย์ คือ 6 + 13 + 5 เท่ากับ 24  ดังนั้น  หากซิยาดมีอายุไข 60 ปี เขาก็มีสิทธิ์ที่จะรับการรายงานจากอัลมัสอูดที่กูฟะฮ์ถึง 36 ปี   และถ้าซิยาดมีอายุไข 65 ปี  เขาก็มีสิทธิ์ได้รับฮะดิษจากอัลมัสอูดที่กูฟะฮ์ถึง 41 ปี  ดังนั้น  ทำไมคุณเก็ตถึงไปจำกัดการพบกันระหว่างทั้งสองแค่ 6 ปี มันไม่เป็นการกีดกันช่วงเวลาอันมากมายนั้นออกไปดอกหรือ?  ฉะนั้น  หากคุณบอกว่าเป็นไปได้ที่ในเวลา 6 ปี ซิยาดได้ทำการรับรายงานจากอัลมัสอูด  ผมก็ขอกล่าวว่า  ซิยาดมีสิทธิ์ได้รายงานจากอัลมัสอูดีย์ที่กูฟะฮ์ถึง 30 - 40 ปี  และอีกกรณีหนึ่งก็คือ  ซิยาดได้ไปที่แบกแดดนั้น  มิใช่ไปเน้นรับฮะดิษจากคนอื่นแต่ไปเป็นอาจารย์เน้นเล่าฮะดิษให้ผู้คนที่แบกแดดทราบ

ดังนั้น  การรายงานของซิยาดจากอัลมัสอูดีย์นั้น  ไม่สับสนและผิดพลาดหรอก  เพราะมีอีก 2 สายงานของ อบูสะละมะฮ์ และฮุชัยม์  มายืนยันสนับสนุนทั้งสายรายงานและตัวบท

ท่านอัลมิซซีย์  ได้กล่าวว่า

وقال أبو أحمد بن عدي ولزياد أحاديث صالحة وقد روى عنه الثقات من الناس وما أرى برواياته بأسا وقال مطين في تاريخ وفاته كما قال محمد بن سعد روى له البخاري حديثا واحدا مقرونا بغيره ومسلم والترمذي وابن ماجة

"อบูอะห์มัด บิน อะดีย์  กล่าวว่า  ให้กับซิยาดนั้นมีบรรดาฮะดิษที่ดี (เหมาะสำหรับการพิจารณาและนำมาเป็นหลักฐาน) บรรดานักปราชญ์ฮะดิษที่เชื่อถือได้ได้ทำการรายงานจากเขา  และฉันเห็นบรรดาการรายงานของเขานั้นไม่เป็นไร  และท่านมะฏีนได้กล่าวไว้ในประวัติการตายของเขาไว้เหมือนกับที่มุฮัมมัด บิน สะอัด ได้กล่าวไว้  ท่านอัลบุคอรีได้รายงานฮะดิษหนึ่งของเขาโดยอยู่พร้อมกับฮะดิษอื่น(ที่มาสนับสนุน) และท่านมุสลิม  ท่านติรมีซีย์  และอิบนุมาญะฮ์  ก็ได้รายงานฮะดิษของเขา" ตะซีบุลกะมาล นักรายงานลำดับที่ 2053

ดังนั้นในกรณีของซิยาด บิน อับดิลลาฮ์  หากจะใช้หลักการรายงานของท่านบุคคอรีย์ที่มีต่อซิยาดโดยรายงานพร้อมกับสายรายงานอื่นมาสนับสนุนค้ำจุนนั้น   แน่นอนว่าสายรายงานของท่านอิบนุมัสอูดที่รายงานโดยซิยาด  ก็อยู่พร้อมกับสายรายงานอื่นมาสนับสนุนเช่นกันถึง 2 รายงานด้วยเช่นกัน  ที่ไม่ได้กระจุกอยู่ที่อัลมัสอูดีย์และซิยาดเพียงเท่านั้น  ฉะนั้นอาษารของท่านอิบนุมัสอูดไม่ฎออีฟอย่างแน่นอน

คุณเก็ตเห็นว่าอย่างไร  ช่วยนำเสนอแก้ต่างหรือนิ่ง ซึ่งก็อาจจะหมายถึงเป็นการยอมรับ และผมจะรอให้คุณเก็ตวิจารณ์ 2 รายงานที่มาสนับสนุนในเชิงฮะดิษครับ  เพื่อเราจะดำเนินการเสวนาต่อไป 

วัลลอฮุอะลัม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ส.ค. 13, 2008, 09:32 PM โดย al-azhary »
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
อุสตาสเคยเล่าว่า ชาวหมู่บ้านนัจญเด็น ชอบเรียกชื่อเต็มๆของนบี ทั้งๆที่คนอื่นเขาจะเรียกกันว่า รอซูลลุลลอฮ หรืออะไรประมาณนั้น





ไม่รู้เกี่ยวกันหรือเปล่า
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ almadany

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 346
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
salam

ผมพยายามอ่านสิ่งที่บังgetนำมาบอกหลายรอบ  ซึ่งบังพยายามนำความแตกต่างในเรื่องคีลาฟระหว่างอุลามะมาเป็นประเด็น

โดยอ้างเหตุผลที่ฮาดิสดังกล่าวไม่ซอเหียะ ดังนั้น กลายเป็นว่าทัศนะที่กล่าวคำว่าซัยยิดินาทั้งนอกและในละหมาด นั้นเป็นบิดอะในอีกของทัศนะหนึ่ง


ทัศนะไหนหรอที่ว่ากล่าวซัยยิดินานอกละหมาดเป็นบิดอะฮฺ ชี้แจงด้วย

จากที่ได้อ่านการนำเสนอทัศนะ...ของนักปราชญ์ผู้จำฮะดิษ (อัลฮุฟฟาซฺ) ไม่มีใครบอกว่าการกล่าวซัยยิดินาในละหมาดและนอกละหมาดเป็นสิ่งที่ต้องห้าม...แต่พวกเขาให้ทัศนะในแง่ของอันใหนจะดีกว่า...อันใหนมีน้ำหนักมากกว่า...แค่นั้นเอง...

เท่าที่อ่านในกระทู้นี้...รู้สึกว่าจุดที่จะทำให้กระทู้หาข้อสรุปได้...ก็คือหลักการพิจารณาฮะดิษดังนี้...

ดังนั้น  การรายงานของซิยาดจากอัลมัสอูดีย์นั้น  ไม่สับสนและผิดพลาดหรอก  เพราะมีอีก 2 สายงานของ อบูสะละมะฮ์ และฮุชัยม์  มายืนยันสนับสนุนทั้งสายรายงานและตัวบท

ท่านอัลมิซซีย์  ได้กล่าวว่า

وقال أبو أحمد بن عدي ولزياد أحاديث صالحة وقد روى عنه الثقات من الناس وما أرى برواياته بأسا وقال مطين في تاريخ وفاته كما قال محمد بن سعد روى له البخاري حديثا واحدا مقرونا بغيره ومسلم والترمذي وابن ماجة

"อบูอะห์มัด บิน อะดีย์  กล่าวว่า  ให้กับซิยาดนั้นมีบรรดาฮะดิษที่ดี (เหมาะสำหรับการพิจารณาและนำมาเป็นหลักฐาน) บรรดานักปราชญ์ฮะดิษที่เชื่อถือได้ได้ทำการรายงานจากเขา  และฉันเห็นบรรดาการรายงานของเขานั้นไม่เป็นไร  และท่านมะฏีนได้กล่าวไว้ในประวัติการตายของเขาไว้เหมือนกับที่มุฮัมมัด บิน สะอัด ได้กล่าวไว้  ท่านอัลบุคอรีได้รายงานฮะดิษหนึ่งของเขาโดยอยู่พร้อมกับฮะดิษอื่น(ที่มาสนับสนุน) และท่านมุสลิม  ท่านติรมีซีย์  และอิบนุมาญะฮ์  ก็ได้รายงานฮะดิษของเขา" ตะซีบุลกะมาล นักรายงานลำดับที่ 2053

ดังนั้นในกรณีของซิยาด บิน อับดิลลาฮ์  หากจะใช้หลักการรายงานของท่านบุคคอรีย์ที่มีต่อซิยาดโดยรายงานพร้อมกับสายรายงานอื่นมาสนับสนุนค้ำจุนนั้น   แน่นอนว่าสายรายงานของท่านอิบนุมัสอูดที่รายงานโดยซิยาด  ก็อยู่พร้อมกับสายรายงานอื่นมาสนับสนุนเช่นกันถึง 2 รายงานด้วยเช่นกัน  ที่ไม่ได้กระจุกอยู่ที่อัลมัสอูดีย์และซิยาดเพียงเท่านั้น  ฉะนั้นอาษารของท่านอิบนุมัสอูดไม่ฎออีฟอย่างแน่นอน

คุณเก็ตเห็นว่าอย่างไร  ช่วยนำเสนอแก้ต่างหรือนิ่ง ซึ่งก็อาจจะหมายถึงเป็นการยอมรับ และผมจะรอให้คุณเก็ตวิจารณ์ 2 รายงานที่มาสนับสนุนในเชิงฮะดิษครับ  เพื่อเราจะดำเนินการเสวนาต่อไป 

วัลลอฮุอะลัม

คือ  หากคุณ GeT ทำการวิจารณ์ทั้ง 2 สายรายงาน...ที่มาสนับสนุนแล้วผลออกมาดออีฟทั้ง 2 รายงานเลย...ก็จะทำให้การกล่าวซัยยิดินาในศ่อลาวาต...มีน้ำหนักลดลงไปทันที...ผมเข้าใจเช่นนั้นน่ะ...วัสลาม

ออฟไลน์ คะลัคคะลุย

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 670
  • เรื่อยไป
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
ผมเชื่อว่า  ท่านทั้งหลายที่ผมกล่าวถึงในนี้นั้นคงจะได้รับผลตอบแทนอันใหญ่หลวงจากเอกองค์อัลลอฮฺแน่นอนครับ   

เห็นด้วยอย่างแรง  party:
اللهم صل علي سيدنا محمد وعلي آل محمد وصحبه وسلم

 

GoogleTagged