ผู้เขียน หัวข้อ: ชัยค์อัลบานีกับสถานะภาพการเป็นนักฮะดิษ  (อ่าน 8969 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ GeT

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 453
  • اللهم اعط منفقا خلفا
  • Respect: +25
    • ดูรายละเอียด
Re: ชัยค์อัลบานีกับสถานะภาพการเป็นนักฮะดิษ
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: ก.ย. 27, 2008, 10:07 AM »
0
ท่าน Qortubah ครับ

เช่น เชค อัลบานีย์ยอมรับว่า บิสมินละฮีรรอมานีรรอฮีม ฯในซูเราะอัลฟาติหะนั้น เป็นอายะหนึ่ง และสายรายงานซอเหียะ

แต่ท่านกลับลำว่า   เวลาละหมาดดัง  นั้นให้อ่านเสียงค่อยเท่านั้น   

ผมขอถามคุณว่า   

ทำไม  ท่านจึงห้ามไม่ให้อ่านบิสมิลลา.................เสียงดังด้วย....มีเหตุผลอันใด  ในเมือท่านอีม่ามชาฟีอี ยวินิจฉัยแล้วว่า สามารถอ่านบิสมิลลา....เสียงดังในทุกครั้งที่ละหมาดดัง....

เห็นว่าท่านกุรตุบะฮฺกำลังเดินทาง ดังนั้นจึงขอแจมพลางๆก่อนก็แล้วกัน แบบสั้นๆ (อาจจะยาวก็ได้นะ)
1. อัลบานีย์ยอมรับว่าบิสมิลลาฮฺเป็นอายะฮิหนึ่งในสูเราะฮฺอัลฟาติหะฮฺ เพราะมีสายรายงานที่ซอเหียะ (ตามทัศนะของท่าน) มาระบุเช่นนั้น หมายความว่าที่ท่านยึดเช่นนั้น เพราะมีหะดีษมากำกับว่าบิสมิลลาฮฺ เป็นหนึ่งในเจ็ดอายะฮฺของสุเราะฮฺอัลฟาติหะฮฺ อันนี้เคลียร์
2. แต่เวลาละหมาดดัง ท่านกลับ (ลำ) ว่าให้อ่านบิสมิลลาฮฺค่อยเท่านั้น ถามว่าทำไม มีเหตุอันใด
คำตอบ
1. ที่จริงเชคอัลบานีย์ไม่ได้กลับลำนะ ใช่ท่านยอมรับว่าบิสมิลลาฮฺเป็นอายะฮฺหนึ่งในสูเราะฮิอัลฟาติหะฮฺ เพราะมีหลักฐานที่ถูกต้อง (ตามทัศนะของท่าน) มารับรอง
2. เหตุผลที่ท่านมีทัศนะว่าสุนนะฮฺให้อ่านค่อยในละหมาดดัง เพราะมีหลักฐานที่ถูกต้องและมีน้ำหนักกว่า (ตามทัศนะของท่าน) มารับรองเช่นกัน จะขอยกหะดีษที่ท่านใช้เป็นหลักฐานอ้างว่ามีสุนนะฮฺให้อ่านค่อยเฉพาะตัวบทก็แล้วกัน ดังนี้
ท่านกล่าวในศิฟาตเศาะลาตของท่านว่า
ثم يقرأ : { بِسْمِ اللَّهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيمِ } ولا يجهر بها
แล้วท่านก็ยกหลักฐานดังต่อไปนี้มาสนับสนุน
1. عن شعبة عن قتادة عن أنس :
أن النبي صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ ، وأبا بكر ، وعمر رضي الله عنهما كانوا يفتتحون الصلاة بـ : { الحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ العَالَمِينَ } .
أخرجه البخاري (2/180) من " صحيحه " وفي " جزء القراءة " (12) ، ومسلم
(2/12) ، { وأبو عوانة [2/122] } ، والطحاوي (1/119) ، والدارقطني (119) ، والبيهقي
(2/51) ، والطيالسي (266) ، وأحمد (3/179 و 273 و 275) من طرق عنه به ، واللفظ
للبخاري

ولفظ مسلم ، { وأبي عوانة } ، والدارقطني ، والبيهقي، وأحمد في رواية :
صليت مع رسول الله صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ ، وأبي بكر ، وعمر ، وعثمان ، فلم أسمع أحداً منهم يقرأ : { بِسْمِ اللَّهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيمِ } .
وكذلك لفظ الطحاوي ، إلا أنه قال :
يجهر بـ : { بِسْمِ اللَّهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيمِ } . وهو رواية للدارقطني له . وفي لفظ لأحمد :
فكانوا لا يجهرون بـ : { بِسْمِ اللَّهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيمِ } .
وكذلك رواه ابن حبان في " صحيحه " ، وزاد :
ويجهرون بـ : { الحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ العَالَمِينَ } - كما في " نصب الراية " (1/327) -

ورواه النسائي (1/144) من طريق عُقبة بن خالد قال : ثنا شعبة وابن أبي عروبة
عن قتادة عن أنس به ، بلفظ :
فلم أسمع أحداً منهم يجهر بـ : { بِسْمِ اللَّهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيمِ }

ขอยกสายรยงานเดียวพอ ที่เหลือหาอ่านได้ในหนังสืออัศลศิฟะตุสเศาะลาตของอัลบานีย์
หลังจากนั้น ท่านได้รวมหะดีษที่ปฏิเสธการอ่านและหะดีษที่ระบุว่าอ่านค่อยโดยยกเอาคำพูดของอัลหาฟิซอิบนุหะญัรในฟัตหุลบารีย์ (2/181) ว่า
" فطريق الجمع بين هذه الألفاظ حملُ نفي القراءة على نفي السماع ، ونفي السماع
على نفي الجهر ، وتؤيده رواية منصور بن زاذان : فلم يسمعنا قراءة : { بِسْمِ اللَّهِ الرَّحْمَنِ
الرَّحِيمِ } . وأصرح من ذلك رواية الحسن عن أنس : كانوا يسرُّون بـ : { بِسْمِ اللَّهِ الرَّحْمَنِ
الرَّحِيمِ } . فاندفع بهذا تعليل من أعله بالاضطراب - كابن عبد البر - ؛ لأن الجمع إذا
أمكن ؛ تعين المصير إليه " .
แล้วท่านก็สรุปในตอนท้ายว่า
وبذلك يتبين أن حديث أنس حجة في كونه صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ كان يسر بالبسملة ، وكذلك
أصحابه الثلاثة ، ومثله حديث عبد الله بن مغفل . وقد قال الترمذي :
" والعمل عليه عند أكثر أهل العلم من أصحاب النبي صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ ؛ منهم : أبو بكر وعمر
وعثمان ، وغيرهم ، ومن بعدهم من التابعين ، وبه يقول سفيان الثوري وابن المبارك ،
وأحمد ، وإسحاق ؛ لا يرون أن يجهر بـ : { بِسْمِ اللَّهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيمِ } ؛ قالوا : ويقولها
في نفسه " .
قلت : وهو مذهب أبي حنيفة ، وصاحبيه - كما حكاه الطحاوي وغيره - ، ونص
عليه الإمام محمد في " الآثار " (15 - 16) ، وبه قال أكثر أصحاب الحديث - كما قال الحازمي (56)
وخالفهم الإمام الشافعي ، وأصحابه ، وبعض من سبقه من الصحابة
والتابعين ؛ فقالوا بالجهر بها ، وأنه السنة
หลังจากนั้นท่านก็ยกหลักฐานต่างๆที่อิหม่ามอัชชาฟิอีย์ใช้เป็นหลักฐานและทำพากษ์ สรุปคำวิพากษ์ของท่านคือ หลักฐานของอิหม่ามอัชชาฟิอีย์ มีสองประเภท 1. หะดีษที่เศาะรีหฺ ระบุอย่างชัดเจนว่าท่านนบีอ่านดัง แต่สายรายงานอ่อน 2. หะดีษที่มีสายรายงานเศาะหีห แต่กลับไม่เศาะรีหฺ ไม่มีการระบุว่าอ่านบิสมิลลาฮิดัง ในละหมาดหรือนอกละหมาด
ดังนั้น ท่าจึงสรุปว่า ที่ถูกต้องคือทัศนะของอุละมาอ์ส่วนใหญ่ที่ระบุสุนนะฮฺในการอ่านบิสมิลลาฮฺ คืออ่านค่อยไม่ใช่ดัง
فالحق ما ذهب إليه الجمهور
من أن السنة الإسرار بها .
ومع هذا ؛ فالصواب أن ما لا يجهر به ، قد يشرع الجهر به لمصلحة راجحة ؛ فيشرع
للإمام أحياناً لمثل تعليم المأمومين ، ويسوغ للمصلين أن يجهروا بالكلمات اليسيرة أحياناً
3. ทำไมท่านจึงห้ามไม่ให้อ่านบิสมิลลาฮฺดัง
ท่านไม่ได้ห้ามในเชิงที่ว่า ถ้าทำแล้วเป็นบาป หรือละหมาดไม่เศาะหฺ หรือต้องสูญุดสะหฺวี ท่านเพียงแต่เห็นว่า การอ่านบิสมิลลาฮฺค่อยน่าจะสอดคล้องกับสุนนะนบีมากกว่า และอัฟฎ็อลกว่าเท่านั้นเอง ถึงแม้ว่าบิสมิลลาฮฺจะเป็นหนึ่งในอายะฮฺของอัลฟาติหะฮฺ แต่ในเมื่อสุนนะฮฺที่มีน้ำหนักกว่า (ตามทัศนะของท่าน) ระบุว่าท่านนบีอ่านค่อย ท่านจึงมีความเห็นว่าอัฟฎอลอ่านค่อย ส่วนการอัลหัมดุลิลลาฮฺ ไปจนถึงท้ายอายะฮฺ มีสุนนะฮฺว่านบีอ่านดัง ดังนั้น ท่านจึงระบุว่าสุนนะฮฺให้อ่านดัง ด้วยประการฉะนี้ 

ออฟไลน์ คนอยากรู้

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 621
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
Re: ชัยค์อัลบานีกับสถานะภาพการเป็นนักฮะดิษ
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: ก.ย. 27, 2008, 10:36 AM »
0
 salam

พี่น้องครับ สิ่งที่ผมถามนั้น ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด แต่เป็นเรื่อง ที่เชค อัลบานีย์ ได้ทำการวินิจฉัย ใน ประเด็น ที่อีม่ามชาฟีอีและอุลามะของท่าน ได้ให้การยอมรับ

 ว่า ในละหมาดดัง นั้น  การอ่านบิสมิลลา...ของท่านและในแนวทางของท่านนั้นหลังจากได้ทำการวินิจฉัยแล้ว  ถือว่า ถูกต้องแล้ว   แต่ ทำไม  ตอนแรก เชค  อัลบานีย์ ว่า

เป็นฮาดิส ที่ท่านอีม่ามชาฟีอี(รด)  นำมาอ้างนั้น ดออีฟ  แต่ ท่านถูกวิจารณ์อย่างหนักจากบรรดาอุลามะด้วยกันว่า หลักฐานที่ท่านกล่าวอ้างมันอ่อนเกินไป

เมื่อท่านทำการวิเคราะห์ใหม่อีกครั้ง และสุดท้ายท่านอัลบานีย์ยอมรับ ว่า สายรายงานถูกต้อง    และท่านเชค อัลบานีย์ กลับยอมรับ ว่า บิสมิลลา.....นั้น

เป็นอายะหนึ่ง  ของซุเราะ อัลฟาตีหะ   คือยอมรับว่า    มี7  อายะ และสามารถอ่านดังได้ ในละหมาดดัง  แต่ยกเว้นคำว่า

บิสมิลลา ฮีรรอมานีรรอฮีม   ท่านบอกว่า ให้อ่านเสียงค่อย    นี่คือสิ่งที่ผม   งงงวย   กับการฮุกมของท่านเชคผู้นี้ครับ mycry

ส่วน ท่านQortubah ออกมาปกป้องท่านเชค ในดวงใจนั้น ผมไม่ตำหนิอะไรครับ   เพียงแต่ ท่าน กุรตาบะ  นั้นไม่เป็นธรรมในการนำเสนอ ที่เป็นกลาง  

ท่านQortubahจะตักลีดหรือรักท่านเชคฯผู้นี้อย่างไรไม่มีใครว่า  แต่ท่านน่าจะนำหลักฐาน ของอีกฝ่ายที่บอกว่า สามารถอ่านบิสมิลลา....เสียงดัง  มาพร้อมๆกัน กับการวิเคราะห์

แต่ท่านกลับยกหลักฐานอีกทัศนหนึ่ง มาอ้าง  เพราะมันโดนใจ หรืออะไรนั้นผมไม่รู้.....บอกแล้วว่า ผมไม่ได้ คัดค้านในสิ่งที่มัสหับฮัมบาลีย์ได้ วินิจฉัยผ่าไปแล้ว

แต่ผมไม่เห็นด้วยในสิ่งที่ท่าน  เชค อัลบานีย์ของท่าน Qortubah ออกมายอมรับว่า การอ่านบิสมิ้ลลา.ดัง......นั้นฮาดิสซอเหียะและยอมรับว่ามันเป็น อายะเดียวกัน กับซุเราะอัลหัมดุ

ท่านมีหลักเกณท์อย่างไรในการห้าม
  loveit:

นี่คือสิ่งที่ผมอยากทราบครับ

ขอบคุฯท่านGet.ในเงาของ Qoretubahครับที่ออกมาชี้แจง  แต่ผมอยากฟังคำอธิบายของตัวท่านเองนะครับ

ออฟไลน์ คนอยากรู้

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 621
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
Re: ชัยค์อัลบานีกับสถานะภาพการเป็นนักฮะดิษ
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: ก.ย. 27, 2008, 10:48 AM »
0
ญาซกกัลลออ์ครับ ท่านQet   กับข้อมูล 


ไหนๆท่าน getก็เข้า =uhc0'ให้ ท่านQortubah c]h;   งั้นเพื่อความเป็นกลาง.ในการนำเสนอ ผมรบกวนให้ ท่าน get  ยก คำวินิจฉัยพร้อมสายรางงานของท่านอีม่ามชาฟีอีมาพร้อมด้วยเลยครับ


ขอคุณครับ     mycool:

ออฟไลน์ al-fantazy

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 270
  • สูบบุหรี่เป็นสีแก่ปาก สูบมากๆ ระวังปากจะไม่มีสี
  • Respect: +4
    • ดูรายละเอียด
Re: ชัยค์อัลบานีกับสถานะภาพการเป็นนักฮะดิษ
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: ก.ย. 27, 2008, 11:12 AM »
0

2- ส่วนที่อัลบานีย์ กล่าวว่า นบีอีซาจะไม่ตัดสินด้วยฟิกฮฺหะนะฟีย์ นั้น ท่านไม่ได้หมายความว่า "มัซฮับของท่านอิมามอะบูหะนีฟะฮฺ นั้น เป็นสิ่งที่ขัดแย้งกับอัลกุรอาน และ สุนนะฮฺ" เหมือนที่บางท่านในนี้คาดเดาไปเอง แต่อย่างใด แต่มีที่มาที่ไปจากคำพูดของอุละมาอ์มัซฮับหะนะฟีย์ บางท่าน ที่ตะอัศศุบต่ออิหม่ามอบูหะนีฟะฮฺจนเกินเหตุ ดังต่อไปนี้


" والحاصل أَنَّ أَبَا حَنِيفَةَ النُّعْمَانَ مِنْ أَعْظَمِ مُعْجِزَاتِ الْمُصْطَفَى بَعْدَ الْقُرْآنِ ، وَحَسْبُك مِنْ مَنَاقِبِهِ اشْتِهَارُ مَذْهَبِهِ مَا قَالَ قَوْلًا إلَّا أَخَذَ بِهِ إمَامٌ مِنْ الْأَئِمَّةِ الْأَعْلَامِ ، وَقَدْ جَعَلَ اللَّهُ الْحُكْمَ لِأَصْحَابِهِ وَأَتْبَاعِهِ مِنْ زَمَنِهِ إلَى هَذِهِ الْأَيَّامِ ، إلَى أَنْ يَحْكُمَ بِمَذْهَبِهِ عِيسَى عَلَيْهِ السَّلَامُ –"

"สรุปคือ อิหม่ามอบูหะนีฟะฮฺอันนุอฺมาน คือมัวะญิซะฮฺที่ยิ่งใหญ่ที่สุดข้อหนึ่งของท่านนบีรองลงมาจากอัลกุรอาน! สิ่งหนึ่งที่เป็นการเพียงพอที่จะยืนยันความประเสริฐของท่านก็คือ การที่มัซฮับของท่านเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย และท่านไม่กล่าวทัศนะหนึ่งทัศนะใดเว้นแต่ จะมีอุละมาอ์ท่านใดท่านหนึ่งยึดตาม และอัลลอฮฺตะอาลาได้ให้อำนาจการปกครองแก่บรรดาสหายของท่าน และบรรดาผู้ที่ตามท่าน ตั้งแต่ยุคสมัยของท่าน จนถึง ณ ปัจจุบันนี้ และจนถึงวันที่นบีอีซาอะลัยฮิสสลามจะทำการตัดสินด้วยมัซฮับของท่าน!" (อัดดุรรุลมุคตาร ของอัลหัศกะฟีย์ 1/55-56)


นี่ครับ ที่มาที่ไปของคำพูดดังกล่าว อัลบานีย์ไม่ได้พูดขึ้นมาลอยๆ หรือจะเปรียบเปรยว่าฟิกฮฺหะนะฟีย์ไม่ตรงตามกุรอานสุนนะฮฺ อย่างที่บางท่านเข้าใจ (ไปเอง) หรอกครับ และที่ท่านยกตัวอย่างฟิกฮฺหะนะฟีย์ ก็อาจเป็นเำพราะท่านเติบโตและคุ้นเคยอยู่กับฟิกฮฺหะนะฟีย์มาตั้งแต่เล็ก จึงอาจจะเคยได้่ยินเรื่องราวเหล่านี้มา





บัง QorTuBah คับ แฟนต้า อยากทราบว่า คำกล่าวที่ว่า

" والحاصل أَنَّ أَبَا حَنِيفَةَ النُّعْمَانَ مِنْ أَعْظَمِ مُعْجِزَاتِ الْمُصْطَفَى بَعْدَ الْقُرْآنِ ، وَحَسْبُك مِنْ مَنَاقِبِهِ اشْتِهَارُ مَذْهَبِهِ مَا قَالَ قَوْلًا إلَّا أَخَذَ بِهِ إمَامٌ مِنْ الْأَئِمَّةِ الْأَعْلَامِ ، وَقَدْ جَعَلَ اللَّهُ الْحُكْمَ لِأَصْحَابِهِ وَأَتْبَاعِهِ مِنْ زَمَنِهِ إلَى هَذِهِ الْأَيَّامِ ، إلَى أَنْ يَحْكُمَ بِمَذْهَبِهِ عِيسَى عَلَيْهِ السَّلَامُ –"

"สรุปคือ อิหม่ามอบูหะนีฟะฮฺอันนุอฺมาน คือมัวะญิซะฮฺที่ยิ่งใหญ่ที่สุดข้อหนึ่งของท่านนบีรองลงมาจากอัลกุรอาน! สิ่งหนึ่งที่เป็นการเพียงพอที่จะยืนยันความประเสริฐของท่านก็คือ การที่มัซฮับของท่านเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย และท่านไม่กล่าวทัศนะหนึ่งทัศนะใดเว้นแต่ จะมีอุละมาอ์ท่านใดท่านหนึ่งยึดตาม และอัลลอฮฺตะอาลาได้ให้อำนาจการปกครองแก่บรรดาสหายของท่าน และบรรดาผู้ที่ตามท่าน ตั้งแต่ยุคสมัยของท่าน จนถึง ณ ปัจจุบันนี้ และจนถึงวันที่นบีอีซาอะลัยฮิสสลามจะทำการตัดสินด้วยมัซฮับของท่าน!" (อัดดุรรุลมุคตาร ของอัลหัศกะฟีย์ 1/55-56)


....คำกล่าวนี้อะครับ  อยู่ในหนังสือ (อัดดุรรุลมุคตาร ของอัลหัศกะฟีย์ 1/55-56)
หนังสือเล่มนี้คนเขียนเป็นคนมัซฮับหะนะฟีย์หรือเปล่าคับ  หรือว่าเป็นสะละฟีย์ ตามแนวทางของ อัลบานีย์
ช่วยตอบหน่อยครับ...????  คุณ GeT ก็ได้คับ  ช่วยตอบแทนคุณ บัง  QorTuBah  หน่อยคับ......
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 27, 2008, 11:24 AM โดย al-fantazy »

ออฟไลน์ คนอยากรู้

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 621
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
Re: ชัยค์อัลบานีกับสถานะภาพการเป็นนักฮะดิษ
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: ก.ย. 27, 2008, 11:33 AM »
0
 
อ้างถึง
หลังจากนั้นท่านก็ยกหลักฐานต่างๆที่อิหม่ามอัชชาฟิอีย์ใช้เป็นหลักฐานและทำพากษ์ สรุปคำวิพากษ์ของท่านคือ หลักฐานของอิหม่ามอัชชาฟิอีย์ มีสองประเภท 1. หะดีษที่เศาะรีหฺ ระบุอย่างชัดเจนว่าท่านนบีอ่านดัง แต่สายรายงานอ่อน 2. หะดีษที่มีสายรายงานเศาะหีห แต่กลับไม่เศาะรีหฺ ไม่มีการระบุว่าอ่านบิสมิลลาฮิดัง ในละหมาดหรือนอกละหมาด

ดังนั้น ท่านจึงสรุปว่า ที่ถูกต้องคือทัศนะของอุละมาอ์ส่วนใหญ่ที่ระบุสุนนะฮฺในการอ่านบิสมิลลาฮฺ คืออ่านค่อยไม่ใช่ดัง فالحق ما ذهب إليه الجمهور
من أن السنة الإسرار بها .
ومع هذا ؛ فالصواب أن ما لا يجهر به ، قد يشرع الجهر به لمصلحة راجحة ؛ فيشرع
للإمام أحياناً لمثل تعليم المأمومين ، ويسوغ للمصلين أن يجهروا بالكلمات اليسيرة أحياناً
3. ทำไมท่านจึงห้ามไม่ให้อ่านบิสมิลลาฮฺดัง
ท่านไม่ได้ห้ามในเชิงที่ว่า ถ้าทำแล้วเป็นบาป หรือละหมาดไม่เศาะหฺ หรือต้องสูญุดสะหฺวี ท่านเพียงแต่เห็นว่า การอ่านบิสมิลลาฮฺค่อยน่าจะสอดคล้องกับสุนนะนบีมากกว่า และอัฟฎ็อลกว่าเท่านั้นเอง ถึงแม้ว่าบิสมิลลาฮฺจะเป็นหนึ่งในอายะฮฺของอัลฟาติหะฮฺ แต่ในเมื่อสุนนะฮฺที่มีน้ำหนักกว่า (ตามทัศนะของท่าน) ระบุว่าท่านนบีอ่านค่อย ท่านจึงมีความเห็นว่าอัฟฎอลอ่านค่อย ส่วนการอัลหัมดุลิลลาฮฺ ไปจนถึงท้ายอายะฮฺ มีสุนนะฮฺว่านบีอ่านดัง ดังนั้น ท่านจึงระบุว่าสุนนะฮฺให้อ่านดัง ด้วยประการฉะนี้ 


ทำไมท่าน Get ด่วนสรุปละครับ  ว่าสิ่งที่ท่าน อัลบานีย์ กล่าวนั้นมันถูกต้อง ฝ่ายเดียวละครับ  โดยไม่ทำการณ์พิจราณาสายงานอื่นอย่างเป็นบ้าง  การที่ท่านอัลบานีย์กล่าวว่า

หลักฐานของอิหม่ามอัชชาฟิอีย์ มีสองประเภท 1. หะดีษที่เศาะรีหฺ ระบุอย่างชัดเจนว่าท่านนบีอ่านดัง แต่สายรายงานอ่อน

ในเมื่อ ท่านgetได้ตักลีดตามท่านอัลบานีย์แล้ว ผมก็อยากให้ท่านยก หลักฐานที่ว่า หะดิสดังกล่าวสายรายงานช่วงไหนที่ระบุว่า สายรายงานอ่อนครับ   

ผมจะรออีกครั้งครับ
...ง

แต่เท่าที่ผมรู้มาอุลามะของเรากล่าวว่าอย่างนี้ครับ

ท่าน อะนัส บิน มาลิก กล่าวว่า

صليت خلف النبى صلى الله عليه وسلم وأبى بكر وعمر وعثمان فكانوا يفتتحون القراءة بالحمد لله رب العالمين

"ฉันได้ละหมาดตามหลังท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม , ท่านอบูบักร , ท่านอุมัร , ท่านอุษมาน  ซึ่งพวกเขาได้ทำการเริ่มอ่าน อัลฮัมดุลิลลาฮิร๊อบบิลอาละมีน"  ซอฮิหฺ บุคคอรีย์ เล่ม 2 หน้า 265

ท่านอิมาม อัตติรมีซีย์  ได้กล่าวหลังจากรายงานหะดิษนี้ว่า

قال الشافعى : إنما معنى الحديث أن النبى صلى الله عيه وسلم وأبا بكر وعمر وعثمان كانوا يفتتحون القراءة بـ(الحمد لله رب العالمين) معناه : أنهم كانوا يبدءون بقرأة فاتحة الكتاب قبل السورة وليس معناه أنهم كانوا لا يقراءون (بسم الله الرحمن الرحيم) وكان الشافعى يرى أن يبدأ بـ( بسم الله الرحمن الرحيم ) وأن يجهر بها إذا جهر بالقراءة

"ท่านอิมามอัชชาฟิอีย์ กล่าวว่า แท้จริง ความหมายของหะดิษ คือ แท้จริง ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม , ท่านอบูบักร , ท่านอุมัร , ท่านอุษมาน นั้น พวกเขาได้เริ่มอ่าน อัลฮัมดุลิลลาฮิร๊อบบิลอาละมีน  ซึ่งหมายถึง  พวกเขาได้เริ่มอ่าน อัลฟาติหะฮ์ก่อนจากอ่านซูเราะฮ์  แต่หะดิษไม่ใช่หมายความว่า พวกเขาไม่ได้อ่าน บิสมิลลาฮิรเราะหฺมานิรร่อฮีม และท่านอัชชาฟิอีย์ มีทัศนะว่า ให้เริ่มอ่าน บิสมิลลาฮิรเราะหฺมานิรร่อฮีม และให้อ่านดังด้วยกับมัน เมื่อเขาได้(ละหมาดที่ให้)อ่านดัง" ดู สุนัน อัตติรมีซีย์ เล่ม 2 หน้า 16

ท่านอิมาม อัลค่อฏีบ อัชชัรบีนีย์  กล่าวว่า

وأجيب بأن معني الأول كانوا يفتتحون بسورة الحمد ، ويبينه ما صح عن أنس كما قال الدارقطنى : إنه كان يجهر بالبسملة ، وقال لا ألو أن أقتدى بصلاة النبي صلى الله عليه وسلم

"ตอบจากความหมายหะดิษแรก(ดังกล่าว) คือ พวกเขาเหล่านั้น  ได้เริ่มการอ่าน ซูเราะฮ์ อัลฮัมดฺ  และได้อธิบายกับความหมายหะดิษแรก(ดังกล่าว) โดยสิ่งที่มีรายงานซอฮิหฺจากท่านอะนัส ตามที่ท่านอัดดารุกุฏนีย์ ได้กล่าวว่า "แท้จริงท่านอะนัสได้อ่าน บิสมิลลาฮิรเราะหฺมานิรร่อฮีม เสียงดัง  และกล่าวว่า ฉันไม่บกพร่องกับการเจริญรอยตาม การละหมาดของท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม" ดู  หนังสือ มุฆนีย์ อัลมั๊วะตาจญ์ เล่ม 1 หน้า 308

ได้มีการยืนยันว่า  ท่านอะนัส บิน มาลิก ได้ทำการอ่าน บิสมิลลาฮิรเราะหฺมานิรร่อฮีม  ซึ่งอิมามอัลบุคอรีย์  ได้รายงานว่า  ท่านอะนัสถูกถามเกี่ยวกับการอ่านของท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ท่าน อะนัสกล่าว่า

كانت مداَ ثمّ قرأ بسم الله الرحمن الرحيم يمد ببسم الله ويمد بالرحمن ويمد بالرحيم

"การอ่านของท่านนบีนั้นลากยาว หลังจากนั้น  ท่านนบีได้อ่าน  บิสมิลลาฮิรเราะหฺมานิรร่อฮีม  โดยอ่านยาวกับ บิสมิลลาฮ์ และอ่านยาวกับ อัรเราะฮ์มาน และอ่านยาวกับ อัรร่อฮีม"  ดู  ฟัตหุลบารีย์ เล่ม 9 หน้า 91

ออฟไลน์ قطوف من أزاهير النور

  • ดุนยา..มาเพื่อไป
  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1582
  • อยากเป็นเด็กดีของอัลลอฮฺ
  • Respect: +9
    • ดูรายละเอียด
    • แวะไปเม้นหน่อยน่า ^^
Re: ชัยค์อัลบานีกับสถานะภาพการเป็นนักฮะดิษ
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: ก.ย. 27, 2008, 12:04 PM »
0


ทำไมแฟนต้าซีย์ กลายเป็นแฟนต้ายุวทูตคนงามไปได้ล่ะเนี่ย  ;D ;D
يَا بُنَيَّ إِنْ قَدَرْتَ أَنْ تُصْبِحَ وَتُمْسِيَ لَيْسَ فِي قَلْبِكَ غِشٌّ لِأَحَدٍ فَافْعَلْ
 ثُمَّ قَالَ لِي يَا بُنَيَّ وَذَلِكَ مِنْ سُنَّتِي وَمَنْ أَحْيَا سُنَّتِي فَقَدْ أَحَبَّنِي وَمَنْ أَحَبَّنِي كَانَ مَعِي فِي الْجَنَّةِ

"โอ้ลูกรัก ถ้าหากเจ้าสามารถที่จะตื่นขึ้นมาในเวลาเช้าจนถึงเวลาเย็น โดยที่เจ้าไม่คิดร้ายต่อผู้ใด เจ้าจงกระทำเถิด
หลังจากนั้นท่านได้กล่าวแก่ฉันอีกว่า โอ้ลูกรัก และนั่นแหละเป็นแนวทางของฉัน
ผู้ใดฟื้นฟูแนวทางของฉันแสดงว่าเขารักฉัน และผู้ใดรักฉัน เขาได้อยู่กับฉันในสวรรค์"
(บันทึกโดย อัตติรมีซี)

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: ชัยค์อัลบานีกับสถานะภาพการเป็นนักฮะดิษ
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: ก.ย. 27, 2008, 12:55 PM »
0
ใช่ มาแปลกด้วยพี่ เห็นทุกทีไม่ใช่จะมีสาระได้ขนาดนี้ สงสัยจะไม่สบาย
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ GeT

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 453
  • اللهم اعط منفقا خلفا
  • Respect: +25
    • ดูรายละเอียด
Re: ชัยค์อัลบานีกับสถานะภาพการเป็นนักฮะดิษ
« ตอบกลับ #37 เมื่อ: ก.ย. 27, 2008, 01:54 PM »
0
....คำกล่าวนี้อะครับ  อยู่ในหนังสือ (อัดดุรรุลมุคตาร ของอัลหัศกะฟีย์ 1/55-56)
หนังสือเล่มนี้คนเขียนเป็นคนมัซฮับหะนะฟีย์หรือเปล่าคับ  หรือว่าเป็นสะละฟีย์ ตามแนวทางของ อัลบานีย์
ช่วยตอบหน่อยครับ...????  คุณ GeT ก็ได้คับ  ช่วยตอบแทนคุณ บัง  QorTuBah  หน่อยคับ......

อัดดุรรุลมุคตาร มีชื่อเต็มว่า อัดดุรรุลมุคตาร ชัรหฺ ตันวีร อัลอับศอร วะญามิอฺ อัลบิหารฺ ฟี ฟุรูอฺ อัลฟิกฮฺ อัลหะนะฟีย์
ผู้แต่งชื่อ มุหัมมัด บิน อาลี บิน มุหัมมัด อัลหะนะฟีย์ อัลหัสกะฟีย์
ต่อมาได้มีการตะลีกและเพิ่มเติมโดยอุละมาอ์รุ่นหลังที่เป็นที่รู้จักในนามของอิบนุอาบิดีน และนักวิชาการเรียกขานหนังสือของท่านว่า หาชิยะฮฺ อิบนุอาบิดีน
ซึ่งชื่อจริงของมันคือ ร็อดดุลมุหฺตาร อะลา อัดดุรรุลมุคตารฺ ชัรหฺ ตันวีรฺ อัลอับศอร

ออฟไลน์ GeT

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 453
  • اللهم اعط منفقا خلفا
  • Respect: +25
    • ดูรายละเอียด
Re: ชัยค์อัลบานีกับสถานะภาพการเป็นนักฮะดิษ
« ตอบกลับ #38 เมื่อ: ก.ย. 27, 2008, 02:43 PM »
0
ทำไมท่าน Get ด่วนสรุปละครับ  ว่าสิ่งที่ท่าน อัลบานีย์ กล่าวนั้นมันถูกต้อง ฝ่ายเดียวละครับ 

เอ คำพูดของผมส่วนไหนหรอที่ทำให้เข้าใจว่า ผมได้ด่วนสรุปว่า "ทัศนะของอัลบานีย์ฝ่ายเดียวที่ถูกต้อง"

ในเมื่อ ท่านgetได้ตักลีดตามท่านอัลบานีย์แล้ว ผมก็อยากให้ท่านยก หลักฐานที่ว่า หะดิสดังกล่าวสายรายงานช่วงไหนที่ระบุว่า สายรายงานอ่อนครับ   
1. ผมไม่ได้ตักลีดตามอัลบานีย์ ส่วนตัวถ้าละหมาดคนเดียวจะอ่านบิสมิลลาฮฺดัง ถ้าละหมาดเป็นอิหม่ามที่มัสยิดคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะรู้เรื่องความขัดแย้งก็จะอ่านดัง ตามทัศนะของอิหม่ามอัชชาฟิอีย์
ถ้าละหมาดที่มัสยิดที่พอจะรับรู้เรื่องความขัดแย้งเหล่านี้ผมจะอ่านค่อย เพื่อให้ทราบว่า อ่านค่อยก็ทำได้
แต่ถ้าละหมาดที่มัสยิดของกลุ่มที่เป็นที่รู้จักว่าเป้นกลุ่มวะฮาบีย์ผมก็จะอ่านดัง เพื่อเตือนให้ทราบว่า การอ่านดังก็ทำได้ อย่าไปปฏิเสธ
2. ส่วนเรื่องยกหลักฐานว่าสายรายงานไหนอ่อน อันนี้ ถ้าผมเองเป็นคนตัดสินแบบนั้น ก็คงจะสะดวก แต่นี่เป็นทัศนะของท่านอัลบานีย์ ดังนั้น ผมจึงขอแนะนำให้ไปอ่านหนังสือ อัศลฺ ศิฟะตุสเศาะลาตของท่านก็แล้วกัน เพราะท่านได้ยกหลักฐานของทั้งสองฝ่าย พร้อมกับคำวิจารย์

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: ชัยค์อัลบานีกับสถานะภาพการเป็นนักฮะดิษ
« ตอบกลับ #39 เมื่อ: ก.ย. 27, 2008, 08:37 PM »
0
 salam

กระทู้นี้พูดถึงเรื่องสถานะการเป็นนักฮะดิษ  ไม่ใช่เรื่องฟิกห์  ดังนั้นเรื่องจะบิสมิลลาฮ์ดัง  หรือค่อย  หรือไม่บิสมิลลาฮ์  ล้วนอยู่ในมัซฮับทั้ง 4 ที่ให้การรับรองจากอุมมะฮ์อิสลาม

วัสลาม 
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ ad-dalawy

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 193
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ชัยค์อัลบานีกับสถานะภาพการเป็นนักฮะดิษ
« ตอบกลับ #40 เมื่อ: ก.ย. 28, 2008, 01:01 AM »
0

เพราะฉะนั้น บังกุรตุบะฮฺ จึงงงเป็นไก่ตาแตกกับคำพูดของน้องแฟนต้ายุวทูตที่ว่า

"ถ้าเป็นอย่างนี้ก็แสดงว่า ท่านอัลบานีย์ เองก็ตะอัศศุบกับหุก่มของตัวเองด้วยนะสิครับ   เพราะ กล้าที่จะยืนยันว่า ท่านนบีอีซา จะลงมาแล้วตัดสินด้วยกับหุก่มที่อัลบานีย์ยึดอยู่  เพราะท่านกล่าวว่าตัดสินด้วยหุก่มของเรา ไม่ใช่แนวทางหะนะฟีย์"

งง ว่าคุณน้องไป استنباط มาจากไหน? แต่เดาว่า คุณน้องคงแปลคำว่า بشرعنا (ด้วยบทบัญญัติของเรานั่นคือบทบัญญัติอิสลามที่ลงมายังท่านนบีมุหัมมัดศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม) ว่าอัลบานีย์ หมายถึง บทบัญญัติของตัวท่านเอง?

เหอๆ ถ้าอัลบานีย์ คิดว่าตัวเองชะเราะอฺ (บัญญัติ) บทบัญญัติใดๆขึ้นมาได้ ก็เข้าขั้นกุฟุรแล้วละครับน้อง แล้วอย่างนี้ ถ้ามีคนบอกว่า ديننا الإسلام (ศาสนาของเราคือศาสนาอิสลาม) น้องแฟนต้าจะไม่เข้าว่าคนนั้นเค้ากล่าวว่า เค้าเป็นคนคิดศาสนาขึ้นมาเอง หรอกหรือครับ?


หากอัลบานีหมายถึง  บทบัญญัติหรือหลักชารีอัตของนบีมุฮัมมัดของเรา  แสดงว่ามัซฮับฮะนะฟีย์ก็ไม่ใช่หลักชารีอัตนะครับ  เพราะอัลบานีบอกว่าอินญีลและมัซฮับฮะนะฟีย์นั้นไม่ใช่  แต่อย่างไรก็ตามคุณกุรตุบะฮ์ก็พยายามตีความในแง่ที่ดีไว้ก่อน  ก็ไม่เสียหาย  แต่สำนวนของอัลบานีค่อนข้างชัดเจนเนื่องจากเอาอินญีลไปเหมือนกับมัซอับฮะนะฟีย์

ออฟไลน์ al-fantazy

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 270
  • สูบบุหรี่เป็นสีแก่ปาก สูบมากๆ ระวังปากจะไม่มีสี
  • Respect: +4
    • ดูรายละเอียด
Re: ชัยค์อัลบานีกับสถานะภาพการเป็นนักฮะดิษ
« ตอบกลับ #41 เมื่อ: ก.ย. 28, 2008, 03:36 PM »
0


ทำไมแฟนต้าซีย์ กลายเป็นแฟนต้ายุวทูตคนงามไปได้ล่ะเนี่ย  ;D ;D


เพราะว่า แฟนต้าอะ  งามทั้งภานนอกและภายในไงละค๊าบบ  เหมือนนางสาวไทยไง  หุหุ  loveit:



ใช่ มาแปลกด้วยพี่ เห็นทุกทีไม่ใช่จะมีสาระได้ขนาดนี้ สงสัยจะไม่สบาย


ขอนอกเรื่องนิดนึงเดี๋ยวจะมาเข้าในเรื่องต่อ... เปล่า !!!!  ก็ไม่มีไร  แฟนต้าก็แค่อยากจะมุนากอชะฮฺ
กับ บัง QorTuBah  สุดหล่อของแฟนต้าก็เท่านั้นแหละ บังเค้าวิชาการสูงดี ได้ความรู้ดีน๊า  ช๊อบ ชอบ อะ หุหุ... loveit: loveit:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 28, 2008, 03:38 PM โดย al-fantazy »

ออฟไลน์ al-fantazy

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 270
  • สูบบุหรี่เป็นสีแก่ปาก สูบมากๆ ระวังปากจะไม่มีสี
  • Respect: +4
    • ดูรายละเอียด
Re: ชัยค์อัลบานีกับสถานะภาพการเป็นนักฮะดิษ
« ตอบกลับ #42 เมื่อ: ก.ย. 29, 2008, 03:22 AM »
0
อัดดุรรุลมุคตาร มีชื่อเต็มว่า อัดดุรรุลมุคตาร ชัรหฺ ตันวีร อัลอับศอร วะญามิอฺ อัลบิหารฺ ฟี ฟุรูอฺ อัลฟิกฮฺ อัลหะนะฟีย์
ผู้แต่งชื่อ มุหัมมัด บิน อาลี บิน มุหัมมัด อัลหะนะฟีย์ อัลหัสกะฟีย์
ต่อมาได้มีการตะลีกและเพิ่มเติมโดยอุละมาอ์รุ่นหลังที่เป็นที่รู้จักในนามของอิบนุอาบิดีน และนักวิชาการเรียกขานหนังสือของท่านว่า หาชิยะฮฺ อิบนุอาบิดีน
ซึ่งชื่อจริงของมันคือ ร็อดดุลมุหฺตาร อะลา อัดดุรรุลมุคตารฺ ชัรหฺ ตันวีรฺ อัลอับศอร


ที่คุณ บัง GeT บอกมานั้นถูกต้องทุกอย่างครับ ไม่ว่าจะเป็นชื่อหนังสือหรือว่าผู้แต่ง หรือคนที่ทำการอธิบายเพิ่มเติม ถูกต้องทุกอย่างเลยครับ หุหุ       งั้นแฟนต้า ขอสงสัยต่อนะคับ เราจะเห็นได้ว่า  ตำราที่ชื่อว่า " อัดดุรรุลมุคตาร ชัรหฺ ตันวีร อัลอับศอร วะญามิอฺ อัลบิหารฺ ฟี ฟุรูอฺ อัลฟิกฮฺ อัลหะนะฟีย์  เป็นของผู้แต่งที่ชื่อว่า มุหัมมัด บิน อาลี บิน มุหัมมัด อัลหะนะฟีย์ อัลหัสกะฟีย์"    ไม่ใช่ ท่านอัลบานีย์ แต่งแน่นอน   เมื่อครั้งก่อนคุณบัง QorTuBah  ที่น่ารักของแฟนต้าเนี๊ยะ ถามแฟนต้าว่า


แหม สงสัยว่าคุณน้องแฟนต้ายุวทูต จะอ่านคำพูดของอัลบานีย์ไม่เคลียร์นะครับ? ประโยคไหนหรือครับที่บ่งบอกว่าอัลบานีย์ "กล้าที่จะยืนยันว่า ท่านนบีอีซา จะลงมาแล้วตัดสินด้วยกับหุก่มที่อัลบานีย์ยึดอยู่" ? เง็งจริงๆ ไหนลองมาทวนประโยคกันใหม่นะ



งั้นแฟนต้าขอถามบังกลับมั้งว่า  แล้วประโยคไหนละครับที่ท่าน เชค อัลบานีย์ บอกว่า .................

1- เป็นการโต้ความเชื่อของคริสเตียน ที่ว่านบีอีซาจะใช้อินญีลปกครองและตัดสิน ซึ่งจริงๆแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะท่านจะตัดสินด้วยบทบัญญัติกุรอานและสุนนะฮฺที่ลงมายังท่านนบีมุหัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม


2- ส่วนที่อัลบานีย์ กล่าวว่า นบีอีซาจะไม่ตัดสินด้วยฟิกฮฺหะนะฟีย์ นั้น ท่านไม่ได้หมายความว่า "มัซฮับของท่านอิมามอะบูหะนีฟะฮฺ นั้น เป็นสิ่งที่ขัดแย้งกับอัลกุรอาน และ สุนนะฮฺ" เหมือนที่บางท่านในนี้คาดเดาไปเอง แต่อย่างใด แต่มีที่มาที่ไปจากคำพูดของอุละมาอ์มัซฮับหะนะฟีย์ บางท่าน ที่ตะอัศศุบต่ออิหม่ามอบูหะนีฟะฮฺจนเกินเหตุ ดังต่อไปนี้



" والحاصل أَنَّ أَبَا حَنِيفَةَ النُّعْمَانَ مِنْ أَعْظَمِ مُعْجِزَاتِ الْمُصْطَفَى بَعْدَ الْقُرْآنِ ، وَحَسْبُك مِنْ مَنَاقِبِهِ اشْتِهَارُ مَذْهَبِهِ مَا قَالَ قَوْلًا إلَّا أَخَذَ بِهِ إمَامٌ مِنْ الْأَئِمَّةِ الْأَعْلَامِ ، وَقَدْ جَعَلَ اللَّهُ الْحُكْمَ لِأَصْحَابِهِ وَأَتْبَاعِهِ مِنْ زَمَنِهِ إلَى هَذِهِ الْأَيَّامِ ، إلَى أَنْ يَحْكُمَ بِمَذْهَبِهِ عِيسَى عَلَيْهِ السَّلَامُ –"

"สรุปคือ อิหม่ามอบูหะนีฟะฮฺอันนุอฺมาน คือมัวะญิซะฮฺที่ยิ่งใหญ่ที่สุดข้อหนึ่งของท่านนบีรองลงมาจากอัลกุรอาน! สิ่งหนึ่งที่เป็นการเพียงพอที่จะยืนยันความประเสริฐของท่านก็คือ การที่มัซฮับของท่านเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย และท่านไม่กล่าวทัศนะหนึ่งทัศนะใดเว้นแต่ จะมีอุละมาอ์ท่านใดท่านหนึ่งยึดตาม และอัลลอฮฺตะอาลาได้ให้อำนาจการปกครองแก่บรรดาสหายของท่าน และบรรดาผู้ที่ตามท่าน ตั้งแต่ยุคสมัยของท่าน จนถึง ณ ปัจจุบันนี้ และจนถึงวันที่นบีอีซาอะลัยฮิสสลามจะทำการตัดสินด้วยมัซฮับของท่าน!" (อัดดุรรุลมุคตาร ของอัลหัศกะฟีย์ 1/55-56)


นี่ครับ ที่มาที่ไปของคำพูดดังกล่าว อัลบานีย์ไม่ได้พูดขึ้นมาลอยๆ หรือจะเปรียบเปรยว่าฟิกฮฺหะนะฟีย์ไม่ตรงตามกุรอานสุนนะฮฺ อย่างที่บางท่านเข้าใจ (ไปเอง) หรอกครับ และที่ท่านยกตัวอย่างฟิกฮฺหะนะฟีย์ ก็อาจเป็นเำพราะท่านเติบโตและคุ้นเคยอยู่กับฟิกฮฺหะนะฟีย์มาตั้งแต่เล็ก จึงอาจจะเคยได้่ยินเรื่องราวเหล่านี้มา



แฟนต้าเองก็ไม่เห็น ท่านเชค อัลบานีย์พูดเหมือนกัน  นี่เป็นสิ่งที่บัง QorTuBah  เอามาอ้างไว้เองต่างหาก เพื่อปกป้องท่านเชค  ไม่เห็นท่านเชค อัลบานีย์ กล่าวอ้างไว้เลยในขณะที่ทำการอธิบายเพิ่มเติมหะดิษนั้น  ในเมื่อทำการอธิบายแล้วทำไมไม่อธิบายให้กระจ่างแจ้งละครับ 

แล้วเราลองไปดูคำกล่าวของท่านเชค อัลบานีย์ อีกทีครับ ที่บัง QorTuBah  อุตส่าห์ไปเอามาจากตำราเลย  ท่าน เชค อธิบายว่า ....



هَذا صَرِيْحٌ في أَنَّ عيسى عَليهِ السَّلامِ يَحْكُمُ بِشَرْعِنَا وَيَقْضِيْ بِالكتِاَب وَالسُنَّةِ

นี่เป็นการชัดเจน ว่านบีอีซา อะลัยฮิสสลาม จะปกครองด้วยบทบัญญัติของเรา (บทบัญญัติอิสลาม) และจะตัดสินด้วยกิตาบและสุนนะฮฺ

لا بِغَيْرِهِمَا مِنْ الإِنْجِيْلِ أَوِ الفِقْهِ الحَنَفِي وَنَحْوِهِ

ไม่ใช่ด้วยอินญีล (ซึ่งเป็นคัมภีร์ที่ถูกประทานลงมายังท่าน) หรือ ด้วยฟิกฮฺหะนะฟีย์ (ตามการกล่าวอ้างของอุละมาอ์หะนะฟีย์บางท่านที่ตะอัศศุบจนเกินเหตุดังที่นำเสนอไปข้างต้น) หรืออะไรทำนองนั้น



เราลองอ่านกันดีๆ นะครับ .. อ่านดีๆ นะครับ  เห็นได้ชัดว่า  ท่านเชค อัลบานีย์ นั้น ท่อนแรกท่านกล่าวด้วยประโยคบอกเล่าว่า " จะปกครองด้วยบทบัญญัติของเราและจะตัดสินด้วยกิตาบและสุนนะฮฺ"    พอมาท่อนที่สอง  ท่านก็กล่าวด้วยกับประโยคปฏิเสธ นั่นก็คือ  "ไม่ใช่ด้วยอินญีล หรือ ด้วยฟิกฮฺหะนะฟีย์ หรืออะไรทำนองนั้น"

เราจะเห็นได้ว่าท่านเชค อัลบานีย์ ได้รวมเอา อัลอิลญีน เข้าอยู่ร่วมประโยคเดียวกันกับ ฟิกหะนะฟีย์ ซึ่งเป็นประโยคปฏิเสธ ที่บอกว่าไม่ใช่ด้วยกับสิ่งสองสิ่งนี้  หากว่าท่าน อัลบานีย์ ต้องการจะหมายถึงว่า "ไม่ใช่ฟิกหะนะฟีย์อย่างที่ พวกมุตะอัศศิบ(ผู้ที่คลั่งไคล้ต่อมัซฮับอย่างเกินเลย)หะนะฟีย์ กล่าวอ้าง"  แล้วทำไมท่านถึงไม่บอกไปละครับว่า "ไม่ใช่ฟิกหะนะฟีย์อย่างที่ พวกมุตะอัศศิบ หะนะฟีย์ กล่าวอ้าง"  แต่ทำไมถึงพูดว่า ฟิกหะนะฟีย์เฉยๆ ละครับ

แล้วยิ่งบัง   QorTuBah   มาอธิบายคำว่า بِشَرْعِنَا  ว่าหมายถึง "(บทบัญญัติอิสลาม)" ก็ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ครับ  เพราะในท่อนหลังนั้น เป็นประโยคปฏิเสธ  นั่นจะทำให้กลายเป็นว่า  ฟิกฮฺหะนะฟีย์ ไม่ใช่บทบัญญัติแห่งอิสลามไปสะงั้น...แล้วแบบนี้จะทำไงต่อละครับบัง QorTuBah  ช่วยชี้แจงที.. loveit:

ออฟไลน์ قطوف من أزاهير النور

  • ดุนยา..มาเพื่อไป
  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1582
  • อยากเป็นเด็กดีของอัลลอฮฺ
  • Respect: +9
    • ดูรายละเอียด
    • แวะไปเม้นหน่อยน่า ^^
Re: ชัยค์อัลบานีกับสถานะภาพการเป็นนักฮะดิษ
« ตอบกลับ #43 เมื่อ: ก.ย. 29, 2008, 08:41 AM »
0
 salam

คคห. ที่หายไป ขออนุญาตลบนะคะ เพื่อให้การเสวนาวิชาดำเนินต่อ

วัสลาม
يَا بُنَيَّ إِنْ قَدَرْتَ أَنْ تُصْبِحَ وَتُمْسِيَ لَيْسَ فِي قَلْبِكَ غِشٌّ لِأَحَدٍ فَافْعَلْ
 ثُمَّ قَالَ لِي يَا بُنَيَّ وَذَلِكَ مِنْ سُنَّتِي وَمَنْ أَحْيَا سُنَّتِي فَقَدْ أَحَبَّنِي وَمَنْ أَحَبَّنِي كَانَ مَعِي فِي الْجَنَّةِ

"โอ้ลูกรัก ถ้าหากเจ้าสามารถที่จะตื่นขึ้นมาในเวลาเช้าจนถึงเวลาเย็น โดยที่เจ้าไม่คิดร้ายต่อผู้ใด เจ้าจงกระทำเถิด
หลังจากนั้นท่านได้กล่าวแก่ฉันอีกว่า โอ้ลูกรัก และนั่นแหละเป็นแนวทางของฉัน
ผู้ใดฟื้นฟูแนวทางของฉันแสดงว่าเขารักฉัน และผู้ใดรักฉัน เขาได้อยู่กับฉันในสวรรค์"
(บันทึกโดย อัตติรมีซี)

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
Re: ชัยค์อัลบานีกับสถานะภาพการเป็นนักฮะดิษ
« ตอบกลับ #44 เมื่อ: ก.พ. 07, 2009, 05:05 PM »
0
ไม่ทราบว่ามีหนังสือ หรือบทความเกี่ยวกับการวิเคราะห์แนวการตัครีจหะดีษ หรือวิเคราะห์หะดีษของท่านอัลอัลบานีย์บ้างครับ ขอเป็นภาษามลายู หรืออังกฤษนะครับ หากอาหรับก็รบกวนแปลนำเสนอด้วยก็จะดียิ่ง  loveit: - วัสสลาม
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

 

GoogleTagged