ผู้เขียน หัวข้อ: ความหลากหลายของอะมัลนั้นเพราะเหตุความหลากหลายของสภาวะจิตใจ (บทเรียนฮิกัม)  (อ่าน 2730 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com

بسم الله الرحمن الرحيم

ท่านอิมามอิบนุอะฏออิลและฮ์  กล่าวว่า

تَنَوعَتْ أَجْنَاسُ الأَعْمَال بتَنَوع وَاردات الأَحْوَال

“บรรดาของชนิดอะมัลที่มีหลากประเภท  ก็ด้วยเหตุความหลากหลายของสภาวะต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในจิตใจ”

คำว่า  الأحوال  “อัลอะห์วาล” เป็นพหูพจน์ของคำว่า  الحال  “อัลฮ้าล” คือสภาพการณ์หรือสภาวการณ์ของจิตใจที่ผ่านเข้ามาที่มนุษย์  จากนั้นมันก็ผ่านไปโดยมิได้มั่งคงอยู่ที่ตัวเขา

สภาวการณ์ของจิตใจ  ตามทัศนะของอุลามาอ์ตะเซาวุฟ  หมายถึง  บรรดาความรู้สึกภายในจิตใจที่มันผ่านเข้ามาแล้วก็ผ่านไปโดยมิได้มั่นคงอยู่ที่ตัวเขา  อันเป็นผลมาจากความรู้และมีการพิจารณาใคร่ครวญคุณลักษณะ(ซีฟาต)และพระนามบางส่วนของอัลเลาะฮ์  อันเนื่องมาจากจิตใจได้รับอิทธิพลจากคุณลักษณะ (ซีฟาต) เหล่านั้น  ซึ่งเป็นสิ่งที่ผลักดันเขาให้ปฏิบัติอะมัลที่เหมาะสมแก่ตัวเขา  และผลของอิทธิพลดังกล่าวก็จะมาควบคุมจิตใจของเขา  เช่น  ผลของสภาวะจิตใจหนึ่งที่ได้ผ่านเข้ามาที่มีบุคคลหนึ่งซึ่งเขาได้เคยห่างไกลจากคำสั่งใช้ของอัลเลาะฮ์และจมปลักอยู่กับสิ่งที่ฮะรอม  หลังจากนั้นสภาวการณ์ดังกล่าวได้ผ่านพ้นเขาไป  แล้วอัลเลาะฮ์ก็ทรงให้เขาได้รับความเพิ่มพูน  ความเกรงกลัวในการลงโทษของอัลเลาะฮ์  และจิตใจมีความเจ็บปวดจากการหวนรำลึกถึงอดีตที่เขาได้เคยละเมิดต่อพระองค์

จึงขอยกตัวอย่างบุคคลที่มีคุณธรรมบางส่วน  ที่คุณลักษณะความเมตตา  ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่  มีการปฏิบัติดีต่อผู้อื่น  และการอภัย  ได้มามีอิทธิพลเหนือจิตใจของเขาและคุณลักษณะทั้งหมดนี้  เป็นคุณลักษณะที่เป็นผลอันได้รับมาจากพระนามอันวิจิตบางส่วนของอัลเลาะฮ์ตะอาลา  เช่น  พระองค์ผู้มีนามว่าอัรเราะห์มาน (ผู้ทรงเมตตายิ่ง)  มีนามว่าอัลกะรีม (ผู้เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ยิ่ง)  และอัลฆ่อฟูร (ผู้ทรงอภัยยิ่ง)  ดังนั้นภารกิจทางศาสนาใด ๆ ที่เขาได้กระทำก็จะมีความงดงามที่ขึ้นอยู่บนพื้นฐานอันมั่นคงที่มาจากความหวังในอัลเลาะฮ์ตะอาลา

ดังนั้น  สภาวะจิตใจเช่นนี้  เขาเรียกว่า  الأحوال  (อัลอะห์วาล)  เพราะมันจะเกิดขึ้นกับบุคคลที่มีสภาวะจิตใจเช่นนี้  แล้วสภาวะจิตใจก็คงอยู่  แล้วมันก็ผ่านพ้นไป  หลังจากนั้นมันก็หวนกลับมาอีก  ซึ่งมันไม่ถูกกำหนดเวลาในระยะเวลาคงอยู่ที่เฉพาะ  บางครั้งมันสภาวะจิตใจที่อยู่นานแต่บางครั้งก็ไม่นาน  แล้วมันก็ผ่านไป

ตัวอย่างเช่น  ท่านอัลฟุฏัยล์ บิน อะยาฎ  ซึ่งท่านได้ทำการวุกูฟที่อะรอฟะฮ์พร้อมกับบรรดาผู้ทำฮัจญ์  ท่านมิได้ทำการขอดุอาอ์เหมือนกับพวกเขา  หรือทำการกล่าวซิกรุลลอฮ์หรืออ่านวิริดต่าง ๆ ณ สถานที่วุกูฟดังกล่าว  เนื่องจากสถาวะจิตใจของเขาได้หวนรำลึกถึงอดีตที่ผ่านมาซึ่งเขาได้ทำการละเมิดต่อตัวเขาเอง  ดังกล่าว  ทำให้เขามีบรรดาความรู้สึกละอายต่ออัลเลาะฮ์ตะอาลา  และบรรดาความรู้สึกนั้นทำให้เขาหยุดยั้งจากความสนใจในการขอดุอาอ์  อ่านวิริด  หรือกล่าวซิกรุลลอฮ์   ท่านอิสฮาก บิน อิบรอฮีม อัลฏ่อบะรีย์  รายงานว่า  เขาได้ทำการวุกูฟพร้อมกับท่าน อัลฟุฎัยล์ บิน อิยาฏ  ที่อะรอฟะฮ์  เขาไม่ได้ยินการดุอาจากท่านอัลฟุฏัยล์เลย  นอกจากได้เอามือขวาวางบนแก้มและก้มศีรษะร้องไห้สะอื้นเบา ๆ  เขายังคงเป็นเช่นนั้นจนกระทู้ร้องไห้พรั่งพรูออกมา  แล้วเงยศีรษะขึ้นยังฟากฟ้าแล้วกล่าวว่า  “ขอสาบานต่ออัลเลาะฮ์  ฉันมีความละอายต่อพระองค์เหลือเกิน  หากแม้นพระองค์จะอภัยให้แก่ฉันแล้วก็ตาม”  ท่านกล่าวถึงสามครั้ง ( ดู หนังสือซิฟะตุศศ็อฟวะฮ์  ของท่านอิบนุ อัลเญาซีย์ 2/239  และหนังสือมุคตะซ็อรร่อรีค ของท่านอิบนุอะซากีร 20/326

ยังมีนักปราชญ์บางส่วน  ที่สภาวะจิตใจของเขานั้น  ทำให้เขาต้องทำการอิสติฆฟาร  ซึ่งผิวเผินแล้วถือว่าเป็นอิบาดะฮ์และเป็นการภักดี  เช่น  ท่านซะรีย์  อัสซักฏีย์  ซึ่งท่านได้กล่าวว่า  “ตั้งแต่ 30 ปีมาแล้ว  ฉันได้ทำการกล่าวอิสติฆฟารต่ออัลเลาะฮ์  เพียงเพราะครั้งหนึ่งฉันได้กล่าวว่า  “อัลฮัมดุลิลลาฮ์!”  จึงถูกกล่าวถามแก่เขาว่า  “ดังกล่าวมันเป็นเช่นไรหรือ?”  เขากล่าวว่า  “ได้เกิดไฟไหม้ที่กรุงแบกแดด  แล้วมีชายคนหนึ่งได้มาพบกับฉัน  และกล่าวแก่ฉันว่า  “ร้านค้าของฉันปลอดภัย”  ฉันจึงกล่าวว่า  “อัลฮัมดุลิลลาฮ์”  ตั้งแต่วันนั้นมาฉันจึงรู้สึกเสียใจต่อสิ่งที่ฉันได้กล่าวออกไป  เนื่องจากฉันคิดว่าตัวฉันนั้นดีกว่าจากสิ่งที่ได้ประสบแก่บรรดามุสลิมีน  คือร้านค้าของพวกเขาถูกไฟไหม้แต่ร้านของฉันรอดปลอดภัย”  ดู หนังสืออัรริซาละฮ์ อัลกุชัยรียะฮ์ 1/86

และยังมีนักปราชญ์ตะเซาวุฟบางคนทำการละศีลอดในตอนกลางวัน  เช่น  ท่านมะอฺรูฟ  อัลกัรคีย์  ซึ่งเขากำลังถือศีลอดและได้เดินผ่านผู้ที่คอยบริการน้ำ  ท่านมะอฺรูฟได้ยินเขากล่าวว่า  ขออัลเลาะฮ์ทรงเมตตาผู้ที่มาดื่มน้ำจากฉัน  ท่านมะอฺรูฟ  อัลกัรคีย์  จึงเดินไปที่เขาและดื่มน้ำจากมือของเขา  ดังนั้นจึงมีคนถามท่านมะอฺรูฟ  ว่า  “ท่านไม่ได้ถือศีลอดกระนั้นหรือ?”  เขาตอบว่า  “หามิได้  แต่ฉันดื่มน้ำเพื่อหวังในดุอาของเขาต่างหาก” ดู หนังสือร่อซาละฮ์อัลกุชัยรียะฮ์ 1/82

ดังนั้น  การกระทำของบรรดานักปราชญ์ตะเซาวุฟเหล่านี้  บางครั้งอาจจะได้รับการวิพากษ์วิจารณ์  จากผู้ที่มองเห็นเพียงแค่ภายนอกของอิบาดะฮ์แต่ไม่รู้ถึงสภาวะจิตใจข้างในของพวกเขา  ฉะนั้นการมองเช่นนี้ถือว่าเป็นการมองที่ผิดพลาด  ยิ่งกว่านั้นอาจเป็นอันตรายซึ่งควรต้องระวัง  และนี้ก็คือสิ่งที่ท่านอิบนุอะฏออิลและฮ์ได้อธิบายเกี่ยวกับฮิกัมนี้  ซึ่งท่านได้กล่าวว่า  “บรรดาของชนิดอะมัลที่มีหลากประเภท  ก็ด้วยเหตุความหลากหลายสภาวะต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในจิตใจ”

เรื่องของการปฏิบัติอะมัลนั้น  เพียงเราเห็นแค่ภายนอกมิได้หมายความว่ามันเป็นเหตุให้ได้ผลบุญและถูกตอบรับจากอัลเลาะฮ์ตะอาลา  แต่ทว่าเหตุที่ทำให้ได้ผลบุญนั้นก็คือสิ่งที่สภาวะจิตใจที่ผ่านเข้ามาในมุสลิมคนหนึ่งที่มุ่งทุ่มเทตัวของเขาทั้งหมดไปสู่อัลเลาะฮ์ต่างหาก 

ดังนั้นประเภทของอะมัลที่สภาวะจิตใจของท่าน อัลฟุฎัยล์ บิน อิยาฎ  ได้ผลักดันให้กระทำมันขึ้นมานั้น  ก็เนื่องจากเขาได้ทำการวุกูฟที่อะรอฟะฮ์พร้อมกับบรรดาผู้ทำฮัจญ์ทั้งหลาย  ซึ่งเขาได้อยู่ในสภาวะจิตใจที่ดื่มด่ำอยู่ในความรู้สึกละอายต่ออัลเลาะฮ์  เพราะเขาได้หวนรำลึกถึงพฤติกรรมในอดีตที่ฝ่าฝืนและห่างไกลจากอัลเลาะฮ์ตะอาลา!  ดังนั้นจึงไม่สงสัยเลยว่า  ผลบุญของการดื่มด่ำอยู่ในความรู้สึกละอายต่ออัลเลาะฮ์ตะอาลานั้น  ก็คือผลบุญของผู้ที่รำลึกและวอนขอดุอาต่ออัลเลาะฮ์ตะอาลานั่นเอง

ส่วนการปฏิบัติอะมัลที่สภาวะจิตใจของท่าน อัสซะรีย์  อัสซักฏีย์  ได้ได้ผลักดันให้กระทำมันขึ้นมานั้น  เนื่องจากเขาเสียใจและละอายต่ออัลเลาะฮ์  เพราะการสรรเสริญพระองค์ด้วยการกล่าว “อัลฮัมดุลิลลาฮ์” นั้นได้แสดงถึงความดีใจด้วยกับสิ่งที่เขามีความโดดเด่นเหนือบรรดาพี่น้องคนอื่น ๆ ที่อยู่ในตลาด  บรรดาร้านค้าของพวกเขาถูกไฟไหม้  แต่คงเหลือร้านของท่านอัสซะรีย์   อัสซักฏีย์  รอดปลอดภัย  ดังนั้นเขาจึงทำการเน้นอิสติฆฟารอย่างสม่ำเสมอเพราะเหตุที่เคยคิดว่าตนเองดีกว่าคนอื่น

สำหรับการปฏิบัติอะมัลที่สภาวะจิตใจของท่าน อัสซะรีย์  อัสซักฏีย์  ได้ผลักดันให้กระทำมันขึ้นมานั้น  คือในขณะที่เขาได้ยินผู้บริการน้ำดื่มกล่าวว่า  “ขออัลเลาะฮ์ทรงเมตตาผู้ที่ดื่มน้ำจากฉัน” ขณะที่เขามั่นใจว่าผู้บริการน้ำดื่มเป็นผู้มีคุณธรรม  จิตใจของท่านมะอฺรูฟ อัลกัรคีย์  ปราถนาที่จะเป็นหนึ่งจากผู้ที่อัลเลาะฮ์ทรงเมตตาด้วยเหตุดุอาของเขา  ดังนั้นท่านมะอฺรูฟ อัลกัรคีย์  จึงไปหาเขาและทำการละศีลอดด้วยการดื่มน้ำจากมือผู้ที่คอยบริการน้ำดื่มคนนั้น  เพราะฉะนั้นจะไม่ถูกกล่าวแย้งว่า  มีบรรดานักปราชญ์ฟิกห์บางส่วนกล่าวว่า  การเริ่มทำอิบาดะฮ์สุนัตนั้นจำเป็นต้องปฏิบัติให้ลุล่วงเรียบร้อย  เพราะบรรดานักปราชญ์ฟิกห์นั้นเมื่อพวกเขาทำการวินิจฉัย  พวกเขาก็จะมีทัศนะความเห็นในสิ่งดังกล่าว  เฉกเช่นเดียวกันกับกรณีของท่านมะอฺรูฟ อัลกัรคีย์  ซึ่งเมื่อสภาวะจิตใจของเขาที่เข้ามามีอิทธิพลนั้นได้ชี้นำไปยังการวินิจฉัยที่เขาได้โน้มเอียง

เมื่อท่านรู้ถึงข้อเท็จจริงที่ท่านอิบนุอะฏออิลและฮ์ได้ทำให้เราทราบและรู้ถึงสิ่งที่เราได้อธิบายและนำเสนอตัวอย่างจากสภาวะจิตใจของนักปราชญ์ผู้มีคุณธรรม  แน่นอนว่าลิ้นของท่านก็จะไม่ละเมิดและกล่าววิจารณ์ในสิทธิของบรรดาปราชญ์ผู้มีคุณธรรมและปราชญ์ร็อบบานียีน  ซึ่งสภาวะจิตใจของพวกเขาที่อยู่กับอัลเลาะฮ์เสมอนั้นจะน้อมนำให้ไปฏิบัติบรรดาอะมัลที่หลากหลายและแตกต่างกันไปนั่นเอง

والله تعالي أعلي وأعلم
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ almadany

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 346
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ส่วนการปฏิบัติอะมัลที่สภาวะจิตใจของท่าน อัสซะรีย์  อัสซักฏีย์  ได้ได้ผลักดันให้กระทำมันขึ้นมานั้น  เนื่องจากเขาเสียใจและละอายต่ออัลเลาะฮ์  เพราะการสรรเสริญพระองค์ด้วยการกล่าว “อัลฮัมดุลิลลาฮ์” นั้นได้แสดงถึงความดีใจด้วยกับสิ่งที่เขามีความโดดเด่นเหนือบรรดาพี่น้องคนอื่น ๆ ที่อยู่ในตลาด  บรรดาร้านค้าของพวกเขาถูกไฟไหม้  แต่คงเหลือร้านของท่านอัสซะรีย์   อัสซักฏีย์  รอดปลอดภัย  ดังนั้นเขาจึงทำการเน้นอิสติฆฟารอย่างสม่ำเสมอเพราะเหตุที่เคยคิดว่าตนเองดีกว่าคนอื่น

ซุบฮานัลลอฮ์...เพราะเพียงแค่กล่าวคำว่า...อัลฮัมดุลิลลาฮ์...คำเดียว...ท่านอัซซะรีย์...ถึงต้องกล่าวอิสติฆฟารขออภัยโทษต่ออัลเลาะฮ์...อย่างเสมอ...นั่นก็เพราะท่านอัซซะรีย์...ไปคิดว่าตนเองดีกว่าคนอื่นแค่เวลานิดเดียว...ขณะกล่าวว่าอัลฮัมดุลิลลาฮ์...ท่านอัซซะรีย์จึงมีสภาวะจิตใจที่เน้นการอิสติฆฟาร...แล้วพวกเราล่ะ...เคยคิดว่าตนเองดีกว่าคนอื่นมาเท่าไหร่แล้ว...ขออัลลอฮ์ทรงปกป้องเราด้วยเถิด....

ออฟไลน์ มุคลิศ

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 159
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
จึงขอยกตัวอย่างบุคคลที่มีคุณธรรมบางส่วน  ที่คุณลักษณะความเมตตา  ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่  มีการปฏิบัติดีต่อผู้อื่น  และการอภัย  ได้มามีอิทธิพลเหนือจิตใจของเขาและคุณลักษณะทั้งหมดนี้  เป็นคุณลักษณะที่เป็นผลอันได้รับมาจากพระนามอันวิจิตบางส่วนของอัลเลาะฮ์ตะอาลา  เช่น  พระองค์ผู้มีนามว่าอัรเราะห์มาน (ผู้ทรงเมตตายิ่ง)  มีนามว่าอัลกะรีม (ผู้เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ยิ่ง)  และอัลฆ่อฟูร (ผู้ทรงอภัยยิ่ง)  ดังนั้นภารกิจทางศาสนาใด ๆ ที่เขาได้กระทำก็จะมีความงดงามที่ขึ้นอยู่บนพื้นฐานอันมั่นคงที่มาจากความหวังในอัลเลาะฮ์ตะอาลา

ไม่ทราบว่าสังคมมุสลิมบ้านเราที่มีการขัดแย้งขึ้นเวทีด่าทอกัน  เขียนบทความตัดศิษย์ตัดอาจารย์กันนั้น  มีสภาวะจิตใจอันใหนหนอ  หรือว่าพระนาม อัลมุตะกั๊บบิร (ทรงอวดความยิ่งใหญ่) ที่ต้องห้ามนำมาอยู่ที่บ่าวนั้น  ได้ถูกขโมยนำมาใช้กับตนเองกันหรือเปล่า  เพราะพระนามของอัลเลาะฮ์บางส่วนก็ห้ามนำมาใช้กับบ่าว

 

GoogleTagged