บิสมิลลาฮิรเราะห์มานิรร่อฮีม
อีกนามหนึ่งซึ่งคนมากมายด้วยกันขโมยมาไว้ในตัวของเขา ก็คือ مُتَكَبِّرٌ (มู่ต้ากั้บบิ้ร) "ผู้มีความยิ่งใหญ่เกรียงไกร มีเกียรติยศ มีศักดิ์ศรี" เพราะว่าสันดานตามธรรมชาติของมนุษย์นั้น ความรู้สึกที่มีเกียรติ มียี่ห้อนั้น มีขึ้นตั้งแต่เกิด เพราะฉะนั้นยากนักที่จะทำจิตใจให้รู้สึกว่าไม่มีเกียรติ ไม่มียี่ห้อในตัวของเขา และเพราะว่าท่านทั้งหลายได้ถือคำพังเพยที่ว่า เกียรติศักดิ์รักของข้าเทิดไว้เหนือหัว เสียชีวิตอย่าเสียสัตย์ เสียชีพอย่างเสียศักดิ์ เพราะฉะนั้นท่านจึงเป็นคนรักเกียรติ รักยี่ห้อ ถ้าหากมีคนดูหมิ่นประมาทหยามเกียรติต่อตัวท่าน ท่านก็จะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมาทันที เพราะท่านได้เป็นผู้โขมยนามชื่อนี้มาไว้กับตัวท่าน และอีกอย่างหนึ่งการเมาเกียรติและบ้ายี่ห้อนั้น มันร้ายแรงกว่าเมาหล้าเมาสุรา เพราะเมื่อเมาสุราท่านก็ไม่มีความคิด ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะทำร้ายใคร แต่ถ้าท่านเมาเกียรตินี้แล้ว ท่านจะทะเลาะเบาะแว้ง และฆ่าคนโดยไม่คิดยำเกรงต่อความผิดที่จะเกิดขึ้นแก่ตัวท่าน เพื่อรักษาเกียรติไว้กับตัวท่าน เพราะฉะนั้นจึงมีบรรดานักศาสนาและบรรดาอาจารย์จำนวนมากได้ขัดแย้งกันในเรื่องปัญหาศาสนาซึ่งกันและกัน แต่ละฝ่ายได้ถกเถียงปัญหาศาสนากัน โดยเมื่อตนเองเป็นฝ่ายที่มีหลักฐานอ่อนแอต้องยอมจำนนแล้ว ก็ไม่ยอมกลับคำและไม่ยอมรับความจริง เป็นเพราะบ้าเกียรติ ความรู้ที่เขามีอยู่หาได้เป็นประโยชน์แก่ตัวเขาไม่ ซ้ำยังให้โทษอีก ถ้าหากอาจารย์ทั้งสองฝ่ายซึ่งไม่มีหลักวิชานี้ได้โต้แย้งถกเถียงกันโดยบ้าเกียรติ หวังเอาชนะซึ่งกันและกัน มีการประณามซึ่งกันและกัน อีกทั้งประชาชนที่ต่างก็เข้าข้างฝ่ายอาจารย์ของพวกตน ก็เป็นผู้ที่ไม่มีหลักการวิชานี้เหมือนกัน ถ้าหากเหตุการณ์ดำเนินไปอย่างนี้แล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ "เมื่อช้างใหญ่ตกมันสองเชือกเข้าประสานงากัน แน่นอนที่สุดหญ้าแพรกก็ย่อมแหลกราญ" หมายความว่า เมื่ออาจารย์ซึ่งบ้างเกียรติสองท่านได้ถกเถียงกัน ลูกศิษย์ทั้งสองฝ่ายก็พลอยทะเลาะกันไปด้วยเพราะฉะนั้นถึงจะแพ้หรือชนะก็พังทลายย่อยยับกันทั้งสองฝ่าย นี่แหละคือส่งที่ได้เกิดขึ้น และกำลังเกิดขึ้นในสังคมประเทศของเราอยู่ทุกวันนี้ เพราะฉะนั้นการทะเลาะเบาะแว้ง การอิจฉาริษยา การลอบทำร้าย การฆ่าฟัน ก็มีอยู่ทั่วทุกสารทศ ด้วยสาเหตุมาจากเมาเกียรติ บ้ายี่ห้อ เป็นส่วนมากนั่นเอง
วิธีการดับความรู้สึกเมาเกียรติ บ้ายี่ห้อ ฯลฯ ก็คือขอให้ท่านจะเพ่งเล็งว่า เกียรติยศ ศักดิ์ศรี ยี่ห้อ อันยิ่งใหญ่ทั้งหลายนั้น อันแท้จริงแล้วเป็นของอัลเลาะฮ์เท่านั้น ส่วนเกียรติ ยศถาบรรดาศักดิ์ และยี่ห้อที่ท่านมีอยู่นี้ ก็เพราะอัลเลาะฮ์ได้ประทานเนี๊ยะอ์มัตให้เท่านั้น และการบริหารตามหน้าที่ อาชีพ ยศ เกียรติ ของท่านนั้นก็เป็นการชั่วคราวเท่านั้น ไม่นานท่านก็ต้องทิ้งไป ท่านจงมองพื้นดินซึ่งอยู่ภายใต้ฝ่าเท้าของท่านซิ ท่านลองคิดดูซิว่าภายใต้ฝ่าเท้าของท่านนั้น มีผู้ที่มียศถาบรรดาศักดิ์เป็นจำนวนมากเท่าไรซึ่งได้ตายไป เช่น พระราชา ผู้นำ บุคคลชั้นนำต่างๆ และต่อไปอีกไม่นานท่านเองก็จะตกอยู่ในสภาพดังกล่าวเหมือนกัน กล่าวคือจะต้องอยู่ใต้ฝ่าเท้าของผู้อื่นอีกเหมือนกัน
เมื่อท่านพยายามคิดอย่างนี้ ความรู้สึกในการเมาเกียรติก็จะค่อยๆ จางไปจากจิตของท่าน แต่การที่จะปฏิบัติให้เกิดความรู้สึกว่าท่านนั้นเป็นผู้ไร้เกียรติได้โดยเร็วนั้น มันฝืนต่อธรรมชาติ เพราะความรู้สึกว่าท่านในเรื่องเกียรตินั้นมันติดมากับตัวท่านตั้งแต่เกิด และเป็นสันดานธรรมชาติจนท่านเติบใหญ่ ดังนสั้นการที่จะให้เกิดผล จึงต้องใช้การฝึกฝนอย่างจริงจังตามวิธีการดังกล่าวมาแล้ว และจะต้องค่อยเป็นค่อยไปจนสำเร็จสู่ชัยชนะ