ผู้เขียน หัวข้อ: ....กลุ่มโรฮิงญ่า...คือใคร?????  (อ่าน 13036 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ muhibbah

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 268
  • Respect: +7
    • ดูรายละเอียด
....กลุ่มโรฮิงญ่า...คือใคร?????
« เมื่อ: ม.ค. 28, 2009, 01:59 PM »
0

อยากทราบประวัติศาสตร์ของกลุ่มโรฮงญ่าอ่ะคับ

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด
Re: ....กลุ่มโรฮิงญ่า...คือใคร?????
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ม.ค. 28, 2009, 02:52 PM »
0
 salam

ประวัติศาสตร์และสถานการณ์ในพม่าชาวโรฮิงยาส์



ชาวโรฮิงยาส์เป็นประชาชนที่นับถือศาสนาอิสลาม อาศัยอยู่ทางตอนเหนือของรัฐอารากัน (ยะไข่) ในตอนเหนือของประเทศพม่าติดกับชายแดนประเทศบังกลาเทศ ซึ่งส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเมือง Maungdaw, Buthidaung, Rathedaung, Akyab และ Kyauktaw ชาวโรฮิงยาส์มีภาษาเป็นของตัวเอง คือ ภาษาอินดิค(Indic language) ที่มีความคล้ายกับภาษาเบงกาลีที่ใช้พูดในประเทศบังกลาเทศและอินเดีย (ชาวโรฮิงยาส์ไม่ได้พูดภาษามาลายูหรือภาษายาวีตามที่นักข่าวไทยบางสำนักซึ่งทำข่าวเรื่องโรฮิงยาส์อ้าง แต่พูดภาษาชิตตาโกเนี่ยน - Chittagonian ซึ่งเป็นภาษาคล้ายกับภาษาในพื้นที่ Chittagong ในประเทศบังกลาเทศ) ประชากรของชาวโรฮิงยาส์มีประมาณ 7 แสนถึง 1.5 ล้านคนในรัฐอารากันที่มีประชากรมากถึง 3 ล้านคน (ดู Myanmar - The Rohingya Minority: Fundamental Rights Denied รายงานของสำนักงานใหญ่ องค์กรนิรโทษกรรมสากล ประจำกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร http://web.amnesty.org/library/Index/ENGASA160052004)

ประวัติศาสตร์ของชาวโรฮิงยาส์ยังมีความหลากหลายมากในปัจจุบัน มีรายงานและงานวิจัยหลายส่วนที่ให้ข้อมูลไว้ว่าเป็นผู้คนที่อยู่ในตอนเหนือ รัฐอารากันมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 7-12 และได้นับถือศาสนาอิสลามเนื่องจากพื้นที่ทางตอนเหนือของรัฐอารากันมีพ่อค้า ชาวอาหรับเข้ามาค้าขายเป็นเวลายาวนาน

แต่ในมุมมองของรัฐบาลเผด็จการทหารพม่า ชาวโรฮิงยาส์เป็นประชาชนที่ "ลี้ภัยอย่างผิดกฎหมาย" และอพยพมากจากประเทศบังกลาเทศในสมัยที่พม่าตกอยู่ภายใต้อาณานิคมของจักรวรรดินิยมอังกฤษ ดังนั้นด้วยทัศนคติเช่นนี้ของรัฐบาลเผด็จการพม่าทำให้ประชาชนชาวโรฮิงยาส์ไม่ได้รับการรวมเข้าไปในกลุ่มชนพื้นเมือง (Indigenous groups) ในรัฐธรรมนูญพม่า ส่งผลให้ไม่ได้รับสัญชาติพม่า

การที่ชาวโรฮิงยาส์ไม่ได้รับสัญชาติทำให้ไม่ได้รับการคุ้มครองใดๆ จากรัฐบาล ทั้งยังถูกคุกคามอย่างต่อเนื่องมากกว่าชนกลุ่มน้อยหรือประชาชนเชื้อชาติ อื่นๆ โดยเฉพาะจากความแตกต่างทางศาสนาและเชื้อชาติ ได้รับการคุกคามและเลือกปฏิบัติในทุกระดับจากรัฐบาลเผด็จการทหาร ซึ่งรวมถึงสิทธิที่จะนับถือศาสนา การเข้าถึงการศึกษา สิทธิในการรักษาโรค จนถึงไม่สามารถแต่งงานได้ ถูกบังคับให้เป็นทำงานโดยไม่ได้รับค่าตอบแทน และไม่สามารถเดินทางออกนอกเพื่อไปประกอบอาชีพนอกพื้นที่ได้ ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่มีสภาพความเป็นอยู่ที่ยากจนมาก

นอกจากนี้ชุมชนชาวโรฮิงยาส์ยังได้รับการปราบปรามอย่างต่อเนื่องโดยมีเหตุการณ์สำคัญในปี ค.ศ. 1962 1978 และ 1991 ทำให้มีผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงยาส์หลบหนีภัยเข้าไปในบังกลาเทศ ปากีสถาน ซาอุดิอาราเบีย เป็นหลัก โดยที่ประเทศรองลงมา คือ สหรัฐอาหรับเอมิเรด มาเลเซีย และประเทศไทย (ดูรายละเอียดสั้น ๆ เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และภาษาที่เกี่ยวกับชาวโรฮิงยาส์ได้ที่ http://en.wikipedia.org/wiki/Rohingya)

ชาวโรฮิงยาที่มาอยู่ประเทศไทยมีฐานะเป็นคนไร้รัฐ เพราะพม่าไม่ยอมรับ ประเทศไทยก็ไม่รับรู้ และส่วนใหญ่ไม่มีเอกสารยืนยันตัวเอง กลายเป็นคนที่ไม่มีเอกสาร (undocumented persons) ระบุว่าเกิดเมื่อไหร่ ที่ไหน คนที่มีเอกสารบ้างก็จะเป็นใบรับรองขอลี้ภัยทางการเมืองจากสำนักงานข้าหลวง ใหญ่ผู้ลี้ภัยเท่านั้น ดังนั้น แม้หางานทำได้ นายจ้างก็ไม่สามารถนำไปขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวได้เหมือนคนพม่าทั่วไป ส่วนใหญ่จึงประกอบอาชีพขายของ สำหรับคนที่เข้ามาอยู่นานและแต่งงานกับคนไทย ไม่สามารถจดทะเบียนสมรสได้ บุตรที่เกิดมาจึงมิได้สัญชาติไทย ฐานะโรฮิงยาจึงเป็นคนเข้าเมืองผิดกฎหมาย ถูกตำรวจจับกุมอยู่เนืองๆ และถูกละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และสิทธิมนุษยชนต่างๆอยู่เป็นประจำ

ประเด็นนี้ควรจะเป็นประเด็นหนึ่งที่ได้รับการศึกษาเพิ่มเติ่ม เพราะภาคประชาชนไทยที่ทำงานกับองค์กรประชาธิปไตยพม่าจะมีบทบาทสำคัญในการ ผลักดันเรื่องสิทธิของชาวโรฮิงยาส์เข้าไปในการถกเถียงกับองค์กรพม่าด้วย   การไม่มีความรู้เกี่ยวกับความเป็นมาของประชาชนโรฮิงยาส์ของประชาชนไทยนั้น เห็นได้จากการเข้าใจผิดๆ ว่าประชาชนชาวโรฮิงยาส์พูดภาษามาลายูหรือเป็นกลุ่มนักรบรับจ้าง ซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่มีข้อเท็จจริงสนับสนุนแต่อย่างใด


พี่น้องของเรา....

ออฟไลน์ กูปีเยาะฮฺสะอื้น

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1679
  • เพศ: ชาย
  • ที่สุดแห่งชีวิต
  • Respect: +14
    • ดูรายละเอียด
Re: ....กลุ่มโรฮิงญ่า...คือใคร?????
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ม.ค. 28, 2009, 03:02 PM »
0
 mycry mycry mycry
มีหลักเกณฑ์ ยึดหลักการ มีหลักฐาน มั่นหลักธรรม

ออฟไลน์ muhibbah

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 268
  • Respect: +7
    • ดูรายละเอียด
Re: ....กลุ่มโรฮิงญ่า...คือใคร?????
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ม.ค. 28, 2009, 04:10 PM »
0
 salam

ญาซากัลเลาะฮ์คุณ zaifuddeen

ที่มาให้ข้อมูล

ออฟไลน์ IamCrying

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 376
  • เพศ: ชาย
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ....กลุ่มโรฮิงญ่า...คือใคร?????
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ม.ค. 28, 2009, 11:15 PM »
0
ปัญหา ความมั่นคงใหม่ ของสังคมโลก อันเนื่องมาจาก แนวคิดที่อยู่บนฐานของวัตถุนิยม
คราหนึ่งยกย่องมนุษย์เป็นพระเจ้า สามารถกระทำ สร้างใดๆได้ด้วยความสามารถของตน (หลังยุคกลางยุโรป) มองอีกด้าน เกิดการกดขี่ข่มเห่งมนุษย์อีกเช่นกัน เพราะแนวคิดเรื่องชาตินิยม เผ่าพัุ์นธุ์

ความจริงที่จริงกว่า ในแบบนี้ จึงไม่ปรากฏให้เห็น เมื่อเรามองลึกเข้าไป เพราะจริงๆ แล้วมันเป็นเพียงมายาภาพที่ถูกสร้างเพื่อรองรับอำนาจอีกอย่างหนึ่ง
เมื่อมนุษย์แต่ละคน ต่างอ้างว่า เราต่างมีอำนาจอธิปไตยสูงสุด หมายความว่า อำนาจอธิปไตย นั้น มีมากมาย หมายศูนย์ ความเอกภาพจึงไม่มี
ความปั่นป่วนจึงตามมา เพราะการคิดแบบที่ว่า มนุษย์มีอำนาจนั้นสมบูรณ์
Closer than veins : Invite to the Way of thy Lord with wisdom... Qur.16:125

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด
Re: ....กลุ่มโรฮิงญ่า...คือใคร?????
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ก.พ. 20, 2009, 03:47 PM »
0
 salam

เปลือยชีวิต ชาวโรฮิงญา กับชีวิตที่มากกว่าคำว่า..โหดร้าย (คมชัดลึก)

          "อยู่ที่รัฐอาระกัน ก็เหมือนรอคอยความตาย สู้บากหน้ามาหาความหวังใหม่ดีกว่า"

          "โรฮิงญา" ชนกลุ่มน้อยในประเทศพม่า เชื้อชาติอาระกัน เอ่ยปากเล่าถึงชีวิตที่สุดแสนจะโหดร้ายของพวกเขา ในเขตพื้นที่จังหวัดหม่องดอ และจังหวัดสิดอ ในรัฐอาระกัน ประเทศพม่า

          มามุต ฮุดเซ็น อายุ 50 ปี เล่าถึงครอบครัวของเขาที่จังหวัดหม่องดอ ทางตอนเหนือของประเทศพม่า ติดกับประเทศบังกลาเทศ ว่า มีเมีย 1 คน ลูกชาย 1 คน ผู้หญิง 3 คน มีอาชีพทำนา ซึ่งเป็นอาชีพหลักของชาวโรฮิงญาในย่านดังกล่าว "ลำบากมากๆ" มามุต บ่น เนื่องจากบางวันแทบจะไม่มีอะไรกินเลย เพราะความยากจน และยังถูกกลั่นแกล้งจากทหารพม่า ที่มักจะเข้ามาในหมู่บ้าน เก็บเกี่ยวผลผลิตของชาวบ้านไปหน้าตาเฉย ใครขัดขืนก็จะโดนเฆี่ยนด้วยหวาย หรือบางรายถึงขั้นโดนฆ่าทิ้งก็มีให้เห็นบ่อยๆ เมื่อใครไปขายของได้เงินแล้วหากทหารพม่ารู้ ก็จะเข้ามาถามก่อนที่จะแย่งเงินเหล่านั้นไปทันที

          "ไม่มีสภาพความเป็นคน หรือเป็นมนุษย์เลย พวกเราอยู่อย่างไร้อนาคต โดนกดดันจากทหารพม่าตลอดเวลา ไม่สามารถเดินทางไปไหนมาไหน โดยเฉพาะการเดินทางข้ามเขตที่ไม่สามารถทำได้เลย จะเดินทางไปมาได้ก็เฉพาะภายในจังหวัดที่ตั้งถิ่นฐานอยู่เท่านั้น เพราะหากออกนอกพื้นที่ไม่เฉพาะทหารพม่าที่คอยจับจ้อง ชาวพม่าก็ไม่ชอบขี้หน้าพวกเรา และบ่อยครั้งที่พวกเราโดนทำร้ายร่างกายโดยชาวพม่า หรือโดนดูถูกเหยียดหยาม ถ่มน้ำลายใส่ก็มี"

          ฮามิด ดูซัน ชายหนุ่มอาระกัน วัย 19 ปี กล่าวว่า พวกเรายากจนมาก ซ้ำร้ายโดนกลั่นแกล้งตลอดเวลา ออกไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่ได้ เนื่องจากเป็นชนกลุ่มน้อย ทั้งยังเป็นชนกลุ่มที่รัฐบาลพม่ารังเกียจมากที่สุด ถึงขั้นไม่ยอมรับว่ามีพวกเราอยู่ในประเทศ พวกเราไม่มีสิทธิอะไรเลย ทั้งที่ดิน การศึกษา การรักษาพยาบาล

          "น้อยใจครับ ผมเกิดในจังหวัดหม่องดอ รัฐอาระกัน ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศพม่า แม้ว่าผมจะมีเชื้อสายบังกลาเทศ แต่การที่เกิดที่รัฐอาระกัน ก็มีความรักและความผูกพันต่อแผ่นดินเกิด แต่แผ่นดินที่ผมเกิดกลับไม่ต้อนรับผม ผมไม่เข้าใจครับ โดยเฉพาะการตั้งข้อรังเกียจต่อพวกเราของรัฐบาลทหารพม่า"

          ฮามิด เล่าอีกว่า ชาวโรฮิงญา แม้ว่าจะมีประวัติศาสตร์ที่ไม่ดีกับชาวพม่าสมัยรัฐบาลอังกฤษเป็นเจ้าอาณานิคมในย่านนี้ แต่หลังจากอังกฤษออกไปแล้ว พวกเราถือเป็นชนกลุ่มน้อยที่ไม่เคยต่อสู้ หรือเรียกร้องอะไรจากรัฐบาลทหารพม่าเลย นอกจากเรียกร้องขอ  “สิทธิความเป็นคน” ให้ทัดเทียมกับชาวพม่าทั่วไปแค่นั้นพวกเราก็พอใจแล้ว

          เชย ลี ฮัน ดา อายุ 25 ปี จากจังหวัดมุสิดอ กล่าวว่า ตอนที่โดนจับตัวอยู่ที่ สภ.ปากน้ำ จ.ระนอง และได้รับอาหารจากตำรวจไทย เชื่อไหมว่า เมื่อได้กินข้าวคำแรกน้ำตาไหลออกมาทันที และหลายคนก็มีความรู้สึกเช่นเดียวกัน คือ นอกจากจะซาบซึ้งในน้ำใจของคนไทยที่ต่างจากชาวพม่าที่โดนจับ และโดนทำร้ายที่เกาะแห่งหนึ่งในพม่า

          "พวกเราโดนควบคุมตัวไว้ถึง 5 วัน ไม่ได้กินอะไรเลย"

          ฮัน ดา เล่าขณะน้ำตาคลอเบ้าว่า อีกเหตุผลที่ทำให้น้ำตาร่วง คือ คิดถึงลูกเมียที่บ้าน บ่อยครั้งที่พวกเราอดข้าว ไม่มีอะไรจะกิน บางครั้งกินแค่วันละมื้อ จะกินครบ 3 มื้อเช่นคนทั่วไปก็น้อยเต็มที โดยเฉพาะหลายครั้งที่ต้องอด เนื่องจากต้องการให้ลูกเมียอิ่มก่อน ส่วนเราผู้ชายอดทนได้

          "ทุกคนรักบ้านเกิดครับ ไม่มีใครที่ต้องการดิ้นรน หรือดั้นด้นเดินทางออกจากบ้านเกิด มีแต่ทุกคนดิ้นรนเพื่อที่จะอาศัยอยู่ในบ้านเกิดหรือถิ่นฐานที่ตนถือกำเนิด แต่จากความโหดร้ายที่พวกเราได้รับ มันสุดที่จะบรรยายให้เห็นหรือให้รับรู้ได้ หากไม่เจอด้วยตนเองยากที่จะบรรยายจริงๆ ผมถามเพื่อนๆ ถึงความรู้สึกตอนนี้ ทราบว่าทุกคนห่วงเมีย ห่วงลูกที่อยู่ที่รัฐอาระกัน โดยเฉพาะอาจจะถูกทำร้ายอีกหลังจากที่ทหารพม่าทราบว่าพวกเราหายตัวไป"

          มามัด จอคิด อายุ 24 ปี จากจังหวัดมุสิดอ ซึ่งยังนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลระนอง หลังจากโดนทหารพม่าทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะเรือที่เดินทางกำลังลอยลำบริเวณจังหวัดมะริด ประเทศพม่า "ทันทีที่ทุกคนเห็นทหารพม่า ซึ่งนั่งเรือรบมาทั้งหมด 4 ลำ ล้อมรอบพวกเรา กลัวมากครับ เพราะทุกคนรู้ถึงกิตติศัพท์ความโหดร้ายของทหารพม่าเป็นอย่างดี"

          บางคนตัวสั่นเทาไปหมด และแล้วในที่สุดพวกเราก็ได้รับการทำทารุณกรรมจริงๆ ตั้งแต่ทหารพม่าลงมาควบคุมตัว จะแตะ ต่อย ตบหน้า ถีบ จนกระทั่งนำตัวพวกเราไปยังเกาะแห่งหนึ่ง ทุกคนจึงถูกลงโทษโบยด้วยแส้จนได้รับบาดเจ็บ และใช้ผ้าพันชุบน้ำมันจุดไฟเผามาลน ตนเองโชคร้ายที่สุด เพราะเป็นแผลฉกรรจ์ที่ขา "เจ็บมากๆ ครับ แต่พวกเราทุกคนทนได้ เพราะความเจ็บปวดแค่นี้ เมื่อเทียบกับความโหดร้ายที่เราได้รับอยู่ทุกวันมันเทียบกันไม่ได้เลย"

          มามัด จอคิด เล่าต่อว่า หลังจากพวกเรานอนทนทุกข์ทรมานอยู่ถึง 4 คืน 5 วัน ทหารพม่าจึงปล่อยลงเรือ และให้เดินทางต่อจนถูกทหารไทยจับตัว “ทุกคนดีใจ กราบพระอัลเลาะห์ทันทีที่เห็นทหารไทย เพราะทุกคนรู้ว่านั่นคือ รอดแล้วจากความรู้สึกในตอนนั้น” พวกเราไม่เคยคิดที่จะมาทำให้คนไทยยุ่งยาก เพียงแต่ไม่รู้ว่าจะไปไหน ทุกประเทศล้วนรังเกียจพวกเรา

          "แม้ผมจะถูกควบคุมตัวในเมืองไทย โดนจองจำในห้องขัง ในเรือนจำ หรือที่ไหนๆ พวกเราดีใจเพราะนั่นเป็นชีวิตที่สุขสบายที่สุดที่ได้พบเจอ ตอนนี้ผมนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลระนอง คุณรู้ไหมว่าความรู้สึกผมเหมือนอยู่โรงแรมชั้น 1 อยู่ห้องพักดีๆ ได้กินอาหารอิสลามที่อร่อยที่สุดในชีวิตของผม ทั้งๆ ที่ผมน่าจะเป็นทุกข์กับสภาพบาดแผลที่ผมได้รับ แต่ความรู้สึกเป็นสุขมันมีมากกว่าจริงๆ ครับ ผมอิจฉาคนไทยจริงๆ ที่ได้เกิดมาบนผืนดินแห่งนี้ ผืนแผ่นดินที่มีแต่ความสุข ไม่เป็นผืนแผ่นดินที่มีแต่ความทุกข์เช่นผืนแผ่นดินของพวกผม" มามัด จอคิด กล่าวในที่สุด



พี่น้องของเรา...

ออฟไลน์ Almujahid

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 108
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
Re: ....กลุ่มโรฮิงญ่า...คือใคร?????
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ก.พ. 20, 2009, 04:06 PM »
0
ตอนเรียนฮาฟิสอยู่ที่แม่สอดยังจำได้ว่ามีเพื่อนคนหนึ่งเป็นคนพม่า เขาบอกว่าขนาดบางมุสลีมพม่าเองก็ยังดูถูกพวกนี้เลย น่าสงสารจริงๆ

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด
Re: ....กลุ่มโรฮิงญ่า...คือใคร?????
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ม.ค. 23, 2010, 03:16 PM »
0
 salam

งานโยร์ที่ผ่านมา พี่น้องชาวโรฮิงญ่ามากันเยอะมากๆ loveit:

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: ....กลุ่มโรฮิงญ่า...คือใคร?????
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: ม.ค. 23, 2010, 05:19 PM »
0
^
ไปมาหรือ
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: ....กลุ่มโรฮิงญ่า...คือใคร?????
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: ม.ค. 15, 2013, 09:57 PM »
0
ขุดค่ะ...ขุด...

เพราะวันนี้ก็ได้ฟังข่าวเกี่ยวกับกลุ่มโรฮิงญา...
ได้เห็นภาพข่าวแล้วน้ำตาแทบไหล...

ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ กำแพงแห่งของคำว่า"ประเทศ"
จะหมดไปเสียที...มนุษย์เราอาจจะได้พึ่งพากันและกัน
ได้มากกว่านี้ก็ได้ค่ะ หากไม่มีกำแพงดังกล่าว...

ซึ่งบางที...มันอาจทำให้เราอาจจะได้รู้จัก
และสัมผัสคำว่า"พี่น้อง"ได้มากกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้...

ปัจจุบันโลกเราทั่วถึงกันหมด เหมือนจะไร้เส้นพรมแดนใดๆ
แต่ก็ยังมีคนที่ไม่มีบ้าน...ไม่มีที่ซุกหัวนอน
ไม่มีข้าวกิน...

หรืออาจเป็นเพราะพรมแดนที่แท้จริงมันซ่อนตัวอยู่ใน
หัวใจของคนเรา...พรมแดนที่ไม่รู้ว่าจะต้องใช้อะไร
เป็นตัวเชื่อม

และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ในหัวใจคนเราจะไร้ซึ่งพรมแดน

"กลุ่มโรฮิงญา"ถูกมองว่าไร้สัญชาติ...
แต่เขาก็ยังคงเป็น"ชาวโลก"

จะไม่มีที่ไหนบนโลกใบนี้ให้พวกเขาเหล่านี้ได้พักพิง
ได้ทำมาหากินอย่างสบายใจเลยหรือ...

...เขามีสิทธิ์ทำกินบนโลกใบนี้มิใช่หรือ...
...ในเมื่อพวกเขาถือกำเนิดมาบนโลกนี้...
...เขาก็ควรมีสิทธิ์ทำกินในที่ที่เขาเกิดมามิใช่หรือ...
...หรือเราจะผลักใสเขาไปอยู่นอกโลก...

...ทำไมมนุษย์(บางคน)ช่างเห็นแก่ตัวเหลือเกิน...
...ตัวเองเป็นเจ้าของโลกใบนี้หรือก็ไม่ใช่สักหน่อย...

บอกตามตรงค่ะว่าเห็นอย่างนี้แล้วรับไม่ได้จริงๆ...
ต่อให้มีเรื่องพวกค้ามนุษย์เข้ามามีส่วนก็ตาม...
แต่การที่มนุษย์ไม่ว่าจะใครก็ตามโดนขับไล่ออกจาก
พื้นที่ที่ตัวเองถือกำเนิดมา ข้าน้อยมองว่า...
คนที่กระทำแบบนั้น ช่างใจดำเหลือเกิน...
แล้วคนที่เขาต้องการจะมาขอพักพิงก็ยังผลักใสต่อไป...
...หยดน้ำใจช่างแห้งแล้ง...ไม่แปลกเลยถ้าอัลลอฮฺ
จะให้มนุษย์เราได้ลิ้มลองกับภัยพิบัติต่างๆ...
ไม่แปลกใจเลยสักนิดเดียว...

...เพราะความรักระหว่างเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
มันน้อยลงเรื่อยๆ...

วัสลามค่ะ

"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ BasemDeen

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 260
  • Respect: +9
    • ดูรายละเอียด
Re: ....กลุ่มโรฮิงญ่า...คือใคร?????
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: ม.ค. 15, 2013, 10:22 PM »
0
อ่านแล้วปวดใจ อยากจะฉีกร่างคนที่มันไร้มนุษยธรรมให้มันแหลกเหลวไม่มีชิ้นดีกระจากหัวใจตับม้ามมันออกมาขยี้ให้แหลกลาญปานของเหลว ถลกหนังหัวมันออกแล้วกินสมองมันซะ fouet: fouet: fouet: fouet: fouet:

ออฟไลน์ sklp

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 47
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
Re: ....กลุ่มโรฮิงญ่า...คือใคร?????
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: ม.ค. 16, 2013, 09:54 PM »
0
นี่เเหละที่การต่อสู้ในอิสลามนั้น จะมีจนถึงวันกียามัติ เพื่่อรักษาไว้ศาสนาของอัลลอฮ์ ชีวิต ทรัพย์สิน พี่่น้องโรฮิงยา ตอนนี้ชะตากรรมก็ไม่ต่าง เท่าไหร่กับพี่น้องที่ ปาเลสไตล์ พวกเขามีสิทธ์ที่จะต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮ์ เนื่องจากพวกเขาโดน ข่มเหง ละเมิดสิทธิต่างๆ และที่สำคัญต้องโดนเนรเทศ ออกจากบ้านเกิดเมืองนอน ช่างน่าหดหู่ใจยิ่งนัก พวกสมควรอย่างยิ่งต้องของดุอาห์ ให้มากๆ ให้พี่น้องของเราอยู่ในบ้านเกิดอย่างสงบสุขและได้ปฏิบัติในสิ่งที่ศาสนาใช้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ อินชา อัลลอฮ์

ออฟไลน์ as lainarla

  • เพื่อนแรกพบ (^^)/
  • *
  • กระทู้: 3
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ....กลุ่มโรฮิงญ่า...คือใคร?????
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: ม.ค. 17, 2013, 12:32 AM »
0
วันนี้ไม่เพียงพอหรอก น้ำตาที่เราเสียออกไป เมื่อได้ยินเรื่องราวของพวกเขา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ม.ค. 17, 2013, 11:18 AM โดย as lainarla »

ออฟไลน์ pudpong

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 10
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ....กลุ่มโรฮิงญ่า...คือใคร?????
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: มี.ค. 19, 2013, 09:30 PM »
0
 salam
 :salam: ขอบคุณครับ สำหรับข้อมูล myGreat:

 

GoogleTagged