นี่คือสิ่งที่ผมแปลนะครับ
ผิดถูกยังงัยช่วยแก้ และท้วงติงได้นะครับ เพื่อเป็นความรู้แก่ผมด้วย เนื้อหาที่แปลนั้น อิงจากภาษามลายูเป็นหลัก และอาหรับประกอบรองมา ดังนั้น สำนวนอาจจะแปลกๆ หน่อย
ใบหน้า หมายถึง อวัยวะหนึ่งที่อยู่ตรงส่วนหน้าของบุคคลหนึ่งๆ
ขอบเขตความยาวของใบหน้าคือ อวัยวะที่อยู่ระหว่างขอบผม (เหนือหน้าผากของคน) ปกติทั่วไป จนถึงส่วนท้ายของคาง หรือ (ด้วยคำนิยามอื่นคือ) เริ่มจากระหว่างพื้นว่างของหน้าผากจนถึงส่วนใต้ของคาง ในส่วนของคางนั้นก็คือ ที่ๆ งอกของเคราตรงบริเวณกระดูกขากรรไกรส่วนล่าง ในขณะเดียวกันนั้น สองกระดูกขากรรไกรนั้นก็คือ สองกระดูกตรงบริเวณที่งอกฟันด้านล่างของบุคคลหนึ่งๆ และอวัยวะที่ถูกรวม เข้าเป็นส่วนหนึ่งของใบหน้านั้นก็คือ เมาฎิอุลฆ็มัม (مَوضِع الغَمَم) คือหน้าผากของบุคคลหนึ่งๆ ตรงส่วนที่งอกของผม, แต่สองส่วนว่างที่ mengimbangi กับหน้าผากด้านบน (النـزعتان) จะไม่ถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของใบหน้า อันนัซฺอะตาน ถือเป็นส่วนหนึ่งของศีรษะ เพราะทั้งสองนั้นอยู่ในขอบเขตทรงกลมของศีรษะด้วย
ขอบเขตความกว้างของใบหน้าคือ บริเวณที่อยู่ระหว่างติ่งหูทั้งสอง ตามทัศนะที่มีน้ำหนักยิ่ง (الراجِح) จากกลุ่มอุละมาอ์มัฑฮับหะนะฟีย์และชาฟิอีย์นั้น : ที่ว่างระหว่างจอนผม (- عِذارekor pipit) กับหูนั้นถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของใบหน้า แต่อุละมาอ์มัฑฮับมาลิกีย์และหันบาลีย์มีความเห็นว่า มัน (ที่ว่างระหว่างจอนผมกันหู) นั้นถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของศีรษะ เช่นเดียวกันนั้น ตามทัศนะของกลุ่มอุละมาอ์มัฑฮับหันบาลีย์ เช่นที่ถูกบันทึกในหนังสืออัลมุฆนีย์ (ทัศนะที่อศ็อหฺใน الْمُغنِيّ),: ด้านข้างของหน้าผากส่วนบนที่งอกผมบางๆ ซึ่งอยู่ระหว่างจอนผมกับ suluhan dahi, นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ตรงนั้นเป็นส่วนหนึ่งของใบหน้า แต่ท่านอิมามนวาวีย์กล่าวว่า ตามที่ถือว่าศ็อหฺ ตามญุมฮูรฺอุละมาอ์มัฑฮับชาฟิอีย์นั้น เมาฎิอุ้ตตะหฺฑีฟ นั้น ถือเป็นส่วนหนึ่งจากศีรษะ เพราะผมของมันได้เชื่อมต่อกับผมของศีรษะ, ผู้เขียนหนังสือ กชาฟุ้ลก็นาอฺ จากมัฑฮับหันบาลีย์ กล่าวว่า เมาฎิอุ้ตตะหฺฑิฟ (ขอบผม) ไม่ถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของใบหน้า, แต่มันจะถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของศีรษะ
ส่วนที่ว่างบนหูทั้งสองที่เชื่อมต่อกับจอนผมทั้งสองนั้น ถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของศีรษะ เพราะทั้งสองถูกรวมเข้าอยู่ในทรงกลมของศีรษะด้วย (ดังนั้น) จึงสมควรที่จะต้องรวมส่วนที่เล็กน้อยนั้นของศีรษะเป็นส่วนหนึ่งของใบหน้าด้วย เพื่อหุกุมวาญิบในการล้างจะได้สมบูรณ์ เพราะหุกุมวาญิบในการล้างใบหน้าจะไม่สมบูรณ์ เว้นแต่ต้องล้างส่วนนั้นด้วย อุละมาอ์มัฑฮับหันบาลีย์มีความเห็นว่า สุนัตให้ล้าง เมาฎิอุ้ลมัฟศ็อล นั่นก็คือ ส่วนที่อยู่ระหว่างเครากับหู เพราะมันถูกรวมเข้ากับอวัยวะที่ผู้คนมักจะลืม อุละมาอ์มัฑฮับชาฟิอีย์ ก็ได้กล่าวเช่นกันว่า สุนัตให้ล้าง เมาฎิอุ้ลศ็อลอฺ ด้วย นั่นก็คือ ส่วนของศีรษะที่โล้น, เมาฎิอุ้ตตะหฺฑีฟ นั่นก็คือ sulah dahi ทั้งสอง และ ruang kosong ที่ถูกวางอยู่บนหู, เพื่อให้เกิดความสวยงามในความแตกต่างทางทัศนะเกี่ยวกับหุกุมวาญิบในการล้างส่วนต่างๆ นั้น (ดังนั้น) ขณะที่ทำการล้างในหน้า วาญิบต้องล้างส่วนเล็กน้อยจากศีรษะ, คอ (leher), ส่วนล่างของกระดูกขากรรไกรและหูทั้งสอง เช่นเดียวกันนั้น วาญิบให้เหลื่อมล้ำไปอีกในการล้างมือทั้งสองและเท้าทั้งสอง หลักฐานที่ทำให้เป็นหุกุมวาญิบในการล้างทั้งสองเหล่า นั้น เพราะสิ่งๆ หนึ่งจะไม่สมบูรณ์ซึ่งวาญิบ เว้นแต่ด้วยกับมัน ดังนั้นมันจึงเป็นวาญิบ
รบกวนช่วยตรวจหน่อยนะครับ บางคำมันงงมากๆ แปลไม่ออก
วัสสลามุ อลัยกุม