ผู้เขียน หัวข้อ: อะซานอิมซาก  (อ่าน 6941 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

haa.

  • บุคคลทั่วไป
อะซานอิมซาก
« เมื่อ: ก.ย. 19, 2008, 08:59 AM »
0

ที่มัสยิดใกล้บ้านมีการอะซานบอกเวลาอิมซากด้วย ซึ่งบ้างทีคนอื่นก็เข้าใจว่าถึงเวลาละหมาดซุบฮ์แล้ว ในที่นี้มีหลักฐานได้ระบุไว้อย่างไรบ้าง

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: อะซานอิมซาก
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ก.ย. 25, 2008, 07:26 PM »
0
بِسْمِ اللهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْمِ

اَلْحَمْدُ للهِ رَبِّ الْعَالَمِيْنَ وَ الصَّلاَةُ وَالسَّلاَمُ عَلىَ سَيِّدِنَا مُحَمَّدٍ وَعَليَ اَلِهِ وَصَحْبِهِ أَجْمَعِيْنَ

เป็นที่ทราบดีตามหลักฟิกห์อิสลามว่า  การอะซานซุบฮินั้นอนุญาตให้มี 2 ครั้ง  กล่าวคืออะซานครั้งแรกนั้นเพื่อบอกเตือน  ส่วนการอะซานครั้งที่สองนั้นคือขณะที่แสงอรุณจริง (ฟะญัรศอดิก) ก็ถือว่าเข้าเวลาละหมาดซุบฮิแล้ว  และจำเป็นต้องอิมซากด้วยการหยุดรับประทานอาหารและสิ่งที่ทำให้เสียศีลอด ดังที่อัลกุรอานได้ระบุยืนยันไว้ว่า

وَكُلُواْ وَاشْرَبُواْ حَتَّى يَتَبَيَّنَ لَكُمُ الْخَيْطُ الأَبْيَضُ مِنَ الْخَيْطِ الأَسْوَدِ مِنَ الْفَجْرِ ثُمَّ أَتِمُّواْ الصِّيَامَ إِلَى الَّليْلِ

"และท่านทั้งหลายจงกินและจงดื่ม  จนกว่าเส้นด้ายสีขาว  จากเส้นด้ายสีดำ  ของแสงอรุณจะปรากฏแก่พวกท่าน  จากนั้นให้พวกท่านจงถือศีลอดให้ครบถึงกลางคืนเถิด" อัลบะกอเราะฮ์ 187

คำว่าเส้นด้ายสีขาว  คือแสงอรุณจริงของกลางวัน  คำที่ว่าเส้นด้ายสีดำ  คือความมืดของเวลากลางคืน  คำที่ว่าแสงอรุณ  หมายถึงแสงอรุณที่ขอบฟ้าซึ่งเป็นสิ่งบ่งบกว่าสิ้นสุดเวลากลางคืนและเริ่ม เข้าสู่กลางวัน  ดังนั้นเมื่อแสงอรุณจริงขึ้นแล้ว แสดงว่าเข้าเวลาช่วงกลางวันแล้ว และเข้าเวลาอิมซากแล้วนั่นเอง

และฮะดิษที่มีการอะซานซุบฮิสองครั้งนั้น  ท่านอัลบุคอรีย์ได้รายงานด้วยสายรายงานของท่านถึงท่านอิบนุอุมัร จากท่านอุมัร ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ  เขากล่าวว่า

‏أَنَّ رَسُولَ اللَّهِ ‏ ‏صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ ‏ ‏قَالَ ‏ ‏إِنَّ ‏ ‏بِلَالًا ‏ ‏يُؤَذِّنُ بِلَيْلٍ فَكُلُوا وَاشْرَبُوا حَتَّى يُنَادِيَ ‏ ‏ابْنُ أُمِّ مَكْتُومٍ ‏ ‏ثُمَّ قَالَ وَكَانَ رَجُلًا أَعْمَى لَا يُنَادِي حَتَّى يُقَالَ لَهُ أَصْبَحْتَ أَصْبَحْتَ ‏

"แท้จริงท่าน ร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้กล่าวว่า  แท้จริงบิล้าลได้ทำการอะซานในช่วงกลางคืนอยู่  ดังนั้นพวกท่านทั้งหลายจงกินและจงดื่มเถิด  จนกระทั่งอิบนุอุมมุมักตูมได้ทำการอะซาน หลังจากท่านได้กล่าวว่า  อิบนุอุมมุมักตูมเป็นชายตาบอด  ซึ่งจะทำการอะซานจนกว่าถูกบอกให้แก่เขาว่า ท่านอยู่ในเวลาซุบฮ์แล้ว  ท่านอยู่ในเวลาซุบฮ์แล้ว" รายงานโดยบุคอรีย์ (582)

ในฮะดิษนี้บ่งชี้ให้เราทราบว่า  การอะซานซุบฮ์นั้นมี 2 ครั้ง  คืออะซานตอนที่แสงอรุณไม่จริงขึ้น (ฟัจญ์กาซิบ) และอะซานช่วงที่แสงอรุณจริงขึ้น (ฟัจญ์ศอดิก) ซึ่งเมื่อแสงอรุณนั้นถือว่าเข้าเวลาซุบฮ์นั่นเอง  ดังนั้นท่านบิล้าลได้ทำการอะซานในช่วงที่แสงอรุณไม่จริงขึ้นคือยังอยู่ใน ช่วงเวลากลางคืนอยู่  ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จึงใช้ให้บรรดาซอฮาบะฮ์ทำการกินและดื่มต่อไป จนกระทั่งท่านอิบนุอุมมุมักตูมได้อะซานนั่นแหละจึงหยุดรับประทาน

ส่วนบางพื้นที่มีการอะซานครั้งแรกเพื่อบอกอิมซากนั้น  หมายถึงการอิมซากแบบอัลเอี๊ยะห์ตะยาฏ(เผื่อป้องกันเอาไว้)ด้วยการหยุดรับประทานอาหาร  ทำการแปรงฟัน  และยกฮะดัษหรืออาบน้ำละหมาดให้เรียบร้อย  ซึ่งการอิมซากแบบอัลเอี๊ยะห์ตะยาฏ(เผื่อป้องกันเอาไว้)นี้ มีนักปราชญ์มีการขัดแย้งกันว่าวายิบหรือไม่?  แต่มัซฮับอัชชาฟิอีย์ของเราถือว่าไม่วายิบ  ดังนั้นเพื่อที่จะออกจากการขัดแย้ง(คิลาฟ)ประเด็นนี้  เราจึงสมควรอิมซากก่อนซุบฮิเล็กน้อยเพื่อให้การถือศีลอดของเรามีความแน่นอนและพิถีพิถัน  ส่วนการที่บางคนเข้าใจว่าอะซานครั้งแรกนั้นเข้าเวลาซุบฮิแล้ว  เขาก็ต้องทราบถึงธรรมเนียมของพื้นนั้นให้ดีด้วยว่าอะซานครั้งแรกคืออะไรและอะซานครั้งที่สองคืออะไรนะครับ

وَاللهُ سُبْحَانَهُ وَتَعَاليَ أعْلىَ وَأَعْلَمُ
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

 

GoogleTagged