ผู้เขียน หัวข้อ: ขอหลักฐานไม่อนุญาติให้อ่าน รูก่นคุตบะห์เป็นภาษาไทย  (อ่าน 5701 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ฮุ้นปวยเอี๊ยง

  • رَبِّ زدْنِيْ عِلْماً
  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 994
  • เพศ: ชาย
  • وَارْزُقْنِيْ فَهْماً
  • Respect: +116
    • ดูรายละเอียด

คือมีคนที่บ้านผมเขาบอกว่าอ่านได้

เช่น คำว่า อิตตากุลลอฮ์ ให้อ่านเป็น ภาษาไทย เป็น จงตักวาต่ออัลลอฮ์

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com

بِسْمِ اللهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْمِ

اَلْحَمْدُ للهِ رَبِّ الْعَالَمِيْنَ وَ الصَّلاَةُ وَالسَّلاَمُ عَلىَ سَيِّدِنَا مُحَمَّدٍ وَعَليَ اَلِهِ وَصَحْبِهِ أَجْمَعِيْنَ

ให้อ่านเป็นภาษาอาหรับนะครับ  กล่าวคือรุ่กุ่นของคุฏบะฮ์นั้น  ให้อ่านเป็นภาษาอาหรับ  หากหลังจากทำการร่ำเรียนภาษาอาหรับแล้วและไม่มีความสามารถเข้าใจและอ่านภาษาอาหรับได้  ก็ให้อ่านภาษาไทยนอกจากอายะฮ์อัลกุรอานเท่านั้นที่ต้องเป็นภาษาอาหรับ  ดังกล่าวก็เพื่อเจริญรอยตามท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  เจริญรอยตามสะลัฟและค่อลัฟ  คือให้กล่าวเป็นภาษาอาหรับในรุ่กุ่นคุฏบะฮ์ทั้ง  5  ประการดังนี้

1.  กล่าวอัลฮัมดุลิลลาฮ์

2.  กล่าวศ่อลาวาตต่อท่านนบี

3.  กล่าวกำชับให้มีความยำเกรง  เช่นคำว่า อูซีกุ้มบิตักวัลลอฮ์ (ข้าพเจ้าขอกำชับพวกท่านให้มีความยำเกรงต่ออัลเลาะฮ์)  หรือกล่าวถ้อยคำอื่นก็ได้ที่กำชับให้มีความยำเกรงและส่งเสริมให้มีการฏออัตต่ออัลเลาะฮ์  เช่นกล่าวว่า  อะฏีอุลลอฮ์ (พวกท่านจงภักดีต่ออัลเลาะฮ์) โดยไม่ต้องมีคำว่า "อูซีกุ้ม" ก็ได้

4.  อ่านอัลกุรอานสักหนึ่งอายะฮ์เป็นอย่างน้อยที่สามารถให้ความเข้าใจ 

5.  การขอดุอาให้แก่บรรดามุสลิมีน

ท่านอิมามอันนะวาวีย์  ร่อฮิมะฮุลลอฮ์  ได้กล่าวไว้ในหนังสือ มินฮาจญุฎฎอลีบีนของท่านความว่า

وَيُشْتَرَطُ كُوْنُهَا عَرَبِيَّةً

ً"ถูกวางเงื่อนไขกับการที่คุฏบะฮ์นั้นเป็นภาษาอาหรับ" 

ท่านอัชชัยค์ อัลค่อฏีบ อัชชัรบีนีย์  กล่าวอธิบายว่า  "ถูกวางเงื่อนไขให้รุ่กุ่นต่าง ๆ ของคุฏบะฮ์ทั้งสองนั้นเป็นภาษาอาหรับ  เพื่อเจริญรอยตามสะลัฟและค่อลัฟ  และเพราะคุฏบะฮ์นั้นคือซิกิรที่เป็นฟัรดู  จึงถูกวางเงื่อนไขเหมือนกับตักบีร่อตุลเอี๊ยะห์รอม(ซึ่งต้องเป็นภาษาอาหรับ) ดังนั้นหากมีความสามารถร่ำเรียนภาษาอาหรับได้  ก็จำเป็นบนทั้งหมดต้องร่ำเรียนบนหนทางของฟัรดูกิฟายะฮ์  ฉะนั้นจึงถือว่าเพียงพอสำหรับร่ำเรียนเพียงคนเดียวจากพวกเขาตามหลักการของฟัรดูกิฟายะฮ์  ดังนั้นหากคนใดจากพวกเขาไม่กระทำการร่ำเรียน  ถือว่าพวกเขาทำการฝ่าฝืนและไม่มีการละหมาดญุมอะฮ์สำหรับพวกเขาแต่ให้ทำการละหมาดซุฮ์ริ  และหากมีคำถามขึ้นว่า  อะไรคือประโยชน์ของคุฏบะฮ์เป็นภาษาอาหรับในเมื่อผู้คนทั้งหลายไม่เข้าใจภาษาอาหรับ  ขอตอบว่า  แท้จริงประโยชน์ของการคุฏบะฮ์เป็นภาษาอาหรับนั้น  เพื่อให้รู้ว่ามีการตักเตือนโดยแบบสรุป  และบรรดาอุลามาอฺได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนว่า  เมื่อพวกเขาได้ยินคุฏบะฮ์โดยไม่เข้าใจความหมายของมัน  ก็ถือว่าคุฏบะฮ์ใช้ได้(เซาะห์)  แต่ถ้าหากว่าไม่มีความสามารถในการเรียนภาษาอาหรับแล้วจริงๆ   ก็ให้เขาทำการคุฏบะฮ์ด้วยภาษาของเขา(ของค่อฏีบ)  หากแม้นว่าบรรดาผู้คนไม่เข้าใจภาษาที่ใช้คุฎบะฮ์ก็ตาม  ดังนั้น  ถ้าหากว่าเขาไม่สามารถร่ำเรียนพูดภาษาใดให้ดีได้เลย(แม้ภาษาไทยก็ไม่ได้)  ก็ไม่ต้องญุมอะฮ์สำหรับพวกเขา  เนื่องจากขาดซึ่งเงื่อนไข"  หนังสือมุฆนิลมั๊วะห์ตาจญ์ : 1/523

ท่านอัชชัยค์มุฮัมมัดสะอีด อัลบาอิชั่น  เจ้าของหนังสือชุรออัลก่อรีม  กล่าวว่า  "รุ่กุ่นของคุฏบะฮ์ทั้งสองนั้นต้องด้วยภาษาอาหรับ  หากแม้ว่าทั้งหมดเป็นชนที่ไม่ใช่ชาวอาหรับก็ตาม  เพื่อที่จะเจริญรอยตามท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  แต่ว่า  หากไม่มีผู้ใดในหมู่พวกเขารู้ภาษาอาหรับได้เป็นอย่างดี  และไม่สามารถร่ำเรียนในช่วงเวลาอ่านสั้น  ก็ให้เขาทำการอ่านคุฏบะฮ์เป็นภาษาของพวกเขานอกจากอายะฮ์อัลกุรอาน(ต้องเป็นภาษาอาหรับ)...และผลประโยชน์ของการคุฏบะฮ์ด้วยภาษาอาหรับทั้งที่พวกเขาไม่เข้าใจ  ก็เพื่อให้รับรู้โดยสรุปว่ามีการตักเตือนและวายิบต้องรับฟังหากแม้ว่าจะไม่รู้จักภาษาอาหรับก็ตาม" หนังสือบุชรออัลกะรีม บิชัรฮิมะซาอิลิลิตตะลีม : 2/6

ท่านอิมามอัลบาญูรีย์  กล่าวว่า  "คุฏบะฮ์นั้นต้องเป็นภาษาอาหรับ  และสถานที่ถูกวางเงื่อนไขว่าต้องอ่านคุฏบะฮ์เป็นภาษาอาหรับก็คือ  หากในกลุ่มชนนั้นมีชาวอาหรับอยู่  หากไม่มีคนอาหรับเลย  ก็ให้อ่านคุฏบะฮ์เป็นภาษาที่อื่นจากอาหรับ  นอกจากในอายะฮ์อัลกุรอาน  ซึ่งต้องอ่านเป็นภาษาอาหรับ  และวายิบให้คนหนึ่งจากลุ่มชนนั้นทำการร่ำเรียนภาษาอาหรับ  เพราะหากไม่มีผู้ใดร่ำเรียน  ถือว่าพวกเขาทั้งหมดได้ทำการฝ่าฝืน  และญุมอะฮ์ของพวกเขาก็ใช้ไม่ได้หากพร้อมกับมีความสามารถที่จะร่ำเรียน" หนังสือฮาชียะฮ์อัลบาญูรีย์ : 1/228

ดังนั้น  ผู้บอกว่าอ่านคำว่า อิตตะกุลลอฮ์ ให้อ่านเป็นภาษาไทยว่า จงตักวาต่ออัลเลาะฮ์ นั้น  ถือว่ายังไม่รัดกุม  เพราะถ้าหากเรารู้ภาษาอาหรับ  สามารถอ่านคำว่า  อิตตะกุลลอฮ์หรืออะฏีอุลลอฮ์ ได้  ก็จำเป็นต้องอ่านเป็นภาษาอาหรับ  แต่หากไม่รู้ภาษาอาหรับกันเลย  ฝึกร่ำเรียนแล้วยังอ่านไม่ได้  ก็ให้เป็นภาษาไทยหรือภาษาที่ไม่ใช่อาหรับ นอกจากอ่านอายะฮ์อัลกุรอานเท่านั้นที่ต้องเป็นภาษาอาหรับครับ

และด้วยเหตุนี้แหละ  ที่แต่ละหมู่บ้านต่างส่งเสริมลูกหลานให้ร่ำเรียนทางศาสนากัน  เพราะหากว่าไม่ส่งให้ร่ำเรียนกันเลย  ก็จะวิบัติกันทั้งหมู่บ้าน 

وَاللهُ سُبْحَانَهُ وَتَعَاليَ أعْلىَ وَأَعْلَمُ
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

 

GoogleTagged