bos101ผมอ้างในคำนำกระทู้ว่า
อนึ่ง ได้มีการเตือนอ.มุรีดแล้วหลังจากบทความนี้ถูกเผยแพร่ ในบอร์ดคุยกับมุรีดคำถาม
เลขที่ 7106 ลงวันที่ 30/6/2007 แต่ระยะเวลาปีกว่าบทความไม่ได้ถูกแก้ไขและไม่มีคำชี้แจงใดๆ
http://www.mureed.com/mr_talk/bview.asp?id=7106--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
คำถามที่ : 7106
คำถาม : อันเนื่องมาจาก "เมื่อนิยายปรัมปรากลายเป็นคำสอนของศาสนา
อัสลามุอะลัยกุมครับอาจารย์ มุรีด
อันเนื่องมาจาก "เมื่อนิยายปรัมปรากลายเป็นคำสอนของศาสนา จากญะมาอะฮ์ตับลีฆความจริงที่ต้องรู้ 5
ผมอยากให้ทบทวนบทความดังกล่าวครับ เนื่องจาก
1. อ.บอกว่าไม่พบว่าท่านซาบิตเป็นนักรายงานที่มีชื่อตามสายรายงานต่างๆ เป็นการตอกย้ำให้ชาวบ้านเข้าใจผิดว่าเป็นเรื่องนิยายอย่างที่อ.เองก็มักใช้คำๆนี้ในเรื่องที่อ.ไม่พบ
2. ท่านซาบิตเป็นนักรายงานที่โด่งดังมาก ไม่มีนักศึกษาวิชาหะดีษคนไหนไม่รู้จัก ยิ่งกับอ.ที่มีชื่อเสียงและมีอะมานะฮ์สอนชาวบ้านด้วยแล้วยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รู้จัก
3. การที่อัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลาให้โอกาสบ่าวผู้ใดได้ทำอิบาดะฮ์นั้นถือเป็นกะรอมะฮ์สำหรับเขา ฮะดีษที่ยกมาเกี่ยวกับการงานของลูกหลานอาดัมขาดตอนนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับเรื่องนี้ เพราะการงานดังกล่าวมาในฐานะตักลีฟ แต่การอิบาดะฮ์ได้หลังจากการตายไปแล้วเป็นกะรอมะฮ์ ไม่มีเรื่องของผลบุญเข้ามาเกี่ยวข้องจึงไม่เกี่ยวกับหะดีษที่อ.ยกมา และการได้มีการทำอิบาดะฮ์หลังจากได้ตายไปแล้วเป็นสิ่งที่มีรายงานมาจากบรรดานบี และเท่าที่ผมพอจะศึกษามาบ้างยังไม่ทราบว่ามีนักวิชาการท่านใดคัดค้านความเป็นไปได้นี้
4. ในคำคัดค้านนี้ผมไม่ได้ยกหลักฐานใดๆเนื่องจากไม่ใช่กระดานเสวนา และคิดว่าหากอ.ต้องการจะศึกษาจริงๆแล้วก็จะสามารถหาศึกษาเรื่องราว หรือมัสอะละฮ์นี้ได้ หากอ.ต้องการความถูกต้องจริงๆ มันก็คงไม่เหลือบ่ากว่าแรง
ถ้าในกรณีที่ อ. เห็นว่าสิ่งที่ผมพูดไปมีส่วนจริงผมอยากเสนอให้ลบบทความดังกล่าวออก และชี้แจงด้วย
ส่วนหาก อ. จะไม่ศึกษาประเด็นแบบนี้เพิ่มเติมแล้วผมคงบังคับ อ. ไม่ได้ เพราะผมก็เตือน อ. แล้วนะครับ
ปล. ผมไม่ใช่ตับลีฆนะครับ
อัสสลามุอะลัยกุม
by: รั้วของอิสลาม - - 30/6/2007