ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยว่าชีอะห์หรือวะฮบี ใครกันแน่ที่ตานซุนนะที่แท้จริง คนตายก้ตายนะครับ ไม่มีพันธะ คำว่าพันธะในที่นี้หมายตัวเขากับพระเจ้าในเรื่องบาปบุญคุณโทที่เขาเอง ไม่สิ่งที่สามนั้นเข้าใจไหมครับ เขาตายไปแล้วจะทำอะไรได้อีกครับ นอกจากคนที่ยังไม่ตายหนึ่งในสามประการที่พาได้ทำให้เท่านั้น ใหนล่ะพันธะ หรือว่าตายไปแล้ว ยังห่วงลูกหลานที่บ้านอย่างนั้นหรือ นั่นมันเป็นแนวคิดของพรามฮินดู และพุทธเขา
การละหมาดของผู้ตายที่เป็นคนมีคุณธรรมในกุบูรที่มีสายรายงานซอฮิห์นี้ มันเป็นเรื่องกะรอมัต ไม่ใช่เรื่องชะรีอัตที่ทำให้ได้บุญ ดังนั้นเรื่องกะรอมัตมันเป็นเรื่องอะกีดะฮ์ ซึ่งอัลเลาะฮ์สามารถกระทำให้เกิดขึ้นได้ตามที่พระองค์ทรงประสงค์ (ใครปฏิเสธว่าอัลเลาะฮ์ทำให้เกิดขึ้นไม่ได้ถือว่าเป็นกาเฟร)
ส่วนกรณีที่ละหมาดในกุบูรของผู้มีคุณธรรมนี้ มันเป็นมิใช่เป็นพันธะเกี่ยวกับระหว่างตัวเขากับอัลเลาะฮ์ (หมายถึงการตักลีฟหรือภาระหน้าที่ที่เขายังเกี่ยวพันอยู่ระหว่างเขากับอัลเลาะฮ์ ทำแล้วได้บุญหากไม่ทำได้โทษ) เพราะความจริงแล้วกะรอมัตในเรื่องการละหมาดในกุบูรของผู้มีคุณธรรมท่านนี้ มันเป็นเรื่องการตักรีม تكريم (การอัลเลาะฮ์ทรงให้เกียรติกะรอมัตแก่เขา แม้กระทั่งอยู่ในกุบูรแล้วอัลเลาะฮ์ก็ทรงให้เขาได้นมัสการกราบกรานต่อพระองค์) ซึ่งการละหมาดเช่นนี้ถือว่าไม่ได้บุญเลย มันไม่เกี่ยวกับบุญอะไรเลย แต่เขาได้รับเกียรติเท่านั้น
ดังนั้นการกล่าวว่า เหตุการณ์นี้มันไปขัดกับฮะดิษ 3 ประการที่จะติดตัวผู้ตายไปนั้นถือว่า คนละเรื่องและเป็นการเข้าใจผิดที่ไม่สามารถแยกแยะระหว่างเรื่องการ ตักลีฟ กับ การตักรีม นะคัรบ