พวกคุณเข้าใจความหมายของคำว่าญาณวิสัยหรือเปล่าครับ ญาณวิสัยคือสิ่งที่ปัญญารับรูได้ไม่หนือสติปัญญาที่รับรู้ได้ อ่าวถามหน่อย คุณเคยเห็นคนตายละหมาดหรือป่าว ถ้าเคยเห็นน่ะครับเอารูปหรือวิดิโอมาให้ดูด้วย
ส่วนเรื่องการขอดุอาอ์ของท่านต่ออัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ให้ท่านได้ละหมาดในหลุมศพท่านมีที่มาดังนี้
อิบนุ ซะอ์ดฺ ได้กล่าวว่า
أخبرنا عفان بن مسلم قال حدثنا حماد بن سلمة عن ثابت قال إن كنت أعطيت أحدا الصلاة في قبره فأعطني الصلاة في قبري
ท่านอัฟฟาน อิบนุ มุสลิมได้เล่ากับเราว่า ท่านฮัมมาด อิบนุ ซะละมะฮ์ได้เล่าจากท่านซาบิต ว่าท่านกล่าวว่า
หากพระองค์จักทรงให้บ่าวคนใดได้ละหมาดในหลุมศพของเขาได้แล้ว โปรดทรงให้ข้าพระองค์ได้ละหมาดในหลุมศพของข้าพระองค์ด้วยเถิด ดู อิบนุ ซะอ์ดฺ - อัฎฎอบากอตุลกุบรอ เล่ม 7 หน้า 232 และ อัลมิซซีย์ ตะฮ์ซีบุลกะมาล เล่ม 4 หน้า 348 ด้วยสายรายงานเดียวกัน
สายรายงานดังกล่าวนี้เพียงพอแล้ว และหนังสือระดับอัฏฏอบากอต หรือตะฮ์ซีบุลกะมาลก็ย่อมเพียงพอ แต่ในมุสนัด อลี อิบนุล ญะอ์ดฺ ก็มีเช่นกัน
حدثنا الوليد بن شجاع نا ضمرة نا بن شوذب قال سمعت ثابتا البناني يقول : اللهم إن كنت أعطيت أحدا أن يصلي في قبره فأعطني ذلك
حدثنا علي بن مسلم نا سيار نا جعفر قال سمعت ثابتا البناني يقول : اللهم إن كنت أذنت لأحد أن يصلي في قبره فأذن لي أن أصلي في قبري
ทั้งสองรายงานนี้พูดถึงการขอดุอาอ์ของท่านซาบิตดังกล่าวเช่นเดียวกัน ดู มุสนัด อลีย์ อิบนุล ญะอ์ดฺ เล่ม 1 หน้า 209
และของอัลบัยฮะกีย์
أخبرنا أبو الحسين بن الفضل القطان أنا عبد الله بن جعفر قال ثنا يعقوب بن سفيان ثنا سعيد بن أسد ثنا حمزة عن ابن شوذب قال : سمعت ثابت البناني
يقول : اللهم إن كنت أعطيت أحدا من خلقك يصلي لك في قبره فاعطينه
جعفر بن سليمان الضبعي
قال : و سمعت ثابتا يقول : اللهم إن كنت أذنت لأحد أن يصلي في قبره فأذن لي
ท่านซาบิต กล่าวว่า ข้าแต่อัลลอฮ์ หากพระองค์ทรงอนุญาตให้ผู้ใดได้ละหมาดในหลุมฝังศพแล้ว ขอพระองค์ทรงอนุญาตให้แก่ข้าพระองค์ ดู อัลบัยฮะกีย์ ชุอะบุล อีมาน เล่ม 3 หน้า 155 และมีอ้างอิงถึงใน อัลมุดฮิช ของอิบนุล เญาซีย์ หน้า 335 เช่นกัน และอิบนุ อะบีด ดุนยา ในอัตตะฮัจจุด วะกิยามุลลัย หน้า 444
ส่วนเรื่องที่มีคนเห็นท่านยืนละหมาดในกุบูรนั้นมีที่มาดังนี้
حدثنا عثمان ابن محمد العثماني قال ثنا اسماعيل بن الكرابيسني قال حدثني محمد بن سنان القزاز قال ثنا شيبان بن جسر عن أبيه قال أنا والله الذي لا إله إلا هو أدخلت ثابتا البناني لحده ومعي حميد الطويل أو رجل غيره شك محمد قال فلما سوينا عليه اللبن سقطت لبنة فإذا أنا به يصلي في قبره فقلت للذي معي ألا ترى قال اسكت فلما سوينا عليه وفرغنا أتينا ابنته فقلنا لها ما كان عمل أبيك ثابت فقالت وما رأيتم فأخبرناها فقالت كان يقوم الليل خمسين سنة فاذا كان السحر قال في دعائه اللهم إن كنت أعطيت احدا من خلقك الصلاة في قبره فأعطنيها فما كان الله ليرد ذلك الدعاء
จากชัยบาน อิบนุ ญิซร์ จากพ่อของเขาได้กล่าวว่า
ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ผู้ซึ่งไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ ฉันเป็นคนที่นำร่างท่านซาบิต อัลบุนานีย์ ลงหลุมฝังศพ โดยมีท่านหุมัยด์ อัฏฏอวีล หรือคนอื่น (มุฮำหมัดนักรายงานคนหนึ่งไม่แน่ใจ) เมื่อเราได้ทำการกลบดินนั้นมีดินก้อนหนึ่งร่วงออกมา(จากข้างหลุม-ผู้แปล) ทันใดนั้นฉันได้เห็นท่านกำลังละหมาดอยู่ในหลุมของท่าน ฉันจึงกล่าวกับผู้ที่อยู่กับฉันว่า ท่านเห็นเหมือนกันรึเปล่า? เขาตอบว่า เงียบๆ... เมื่อเราฝังท่านเสร็จ เราจึงไปหาลูกสาวของท่าน แล้วเราก็ถามเธอว่า พ่อของเธอทำอะมั้ลอะไรบ้าง เธอตอบว่า แล้วพวกท่านเห็นอะไรมากันเล่า? พวกเราจึงเล่าให้เธอฟัง เธอจึงบอกว่า ท่านเคยละหมาดในตอนกลางคืนอยู่ 50 ปี เมื่อครั้นถึงเวลารุ่งสางท่านจะขอดุอาอ์ว่า ข้าแต่อัลลอฮ์ หากพระองค์ทรงให้บ่าวคนใดได้ละหมาดในหลุมศพของเขาแล้ว โปรดทรงให้แก่ข้าพระองค์ด้วยเถิด และแน่นอนว่าพระองค์อัลลอฮ์จะไม่ทรงผลักไสคำวิงวอนดังกล่าวเป็นแน่...
ดู อบู นุเอม หิลยะตุลเอาลิยาอ์ เล่ม 4 หน้า 1405 และอัลฮาฟิซ อิบนุ รอญับ อัลฮัมบะลีย์ ได้อ้างอิงจากอบู นุเอม อีกทีหนึ่ง จาก ยะซาร อิบนุ หุบัยช์ จากพ่อของเขา ด้วยตัวบทดังกล่าว... ดู อิบนุ รอญับ อะฮ์วาลุลกุบูร หน้า 68
เชคอัลอัลบานีย์ รอหิมะหุลลอฮ์ ได้กล่าวไว้ใน อะห์กามุลญะนาอิซ วะบิดะอุฮา ว่า
وقول ابن التين : ( هو من شراح (( صحيح البخاري )) واسمه عبد الواحد ) (( الموتى لا يصلون )) . ليس بصحيح ،
لانه لم يرد نص في الشرع بنفي ذلك ، وهو من الامور الغيبية التي لا ينبغي البت فيها إلا بنص ، وذلك مفقود ،
بل قد جاء ما يبطل إطلاق القول به ، وهو صلاة موسى عليه الصلاة والسلام في قبره كما رآه رسول الله صلى الله عليه وسلم
ليلة أسري به على ما رواه مسلم في(( صحيحه)) ، وكذلك صلاة الانبياء عليهم الصلاة والسلام مقتدين به
في تلك الليلة كما ثبت في (( الصحيح)) بل ثبت عنه صلى الله عليه وسلم أنه قال: (الانبياء أحياء في قبورهم يصلون)
أخرجه أبو يعلى باسناد جيد ،وقد خرجته في ( الاحاديث الصحيحة ) (622) . بل قد جاء عنه صلى الله عليه وسلم ما هو أعم مما ذكرنا ،
وذلك في حديث أبي هريرة في سؤال الملكين للمؤمن في القبر فيقال له اجلس ، فيجلس قد مثلت له الشمس وقد آذنت للغروب ،
فيقال له : أرأيتك هذا الذي كان فيكم ما تقول فيه ؟ وماذا تشهد عليه ؟ فيقول : دعوني حتى أصلي ، فيقولان : إنك ستفعل ) .
أخرجه ابن حبان في ( صحيحه) (781) والحاكم (1/379-380) وقال ( صحيح على شرط مسلم ) ووافقه الذهبي ! وإنما هو حسن فقط ، لان فيه محمد بن عمرو ولم يحتج به مسلم وإنما روى له مقرونا أو متابعة .
فهذا الحديث صريح في أن المؤمن أيضا يصلي في قبره ، فبطل بذلك القول بأن الموتى لا يصلون
เชคอัลอัลบานีย์กล่าวว่า"คำกล่าวของอิบนุตตีนที่ว่าคนตายจะไม่ละหมาดนั้นไม่ถูกต้อง เพราะไม่มีหลักฐานในศาสนาปฏิเสธเรื่องดังกล่าว เรื่องนี้เป็นเรื่องเหนือการรับรู้ที่หากจะฟันธงต้องมีหลักฐานเท่านั้นซึ่งมันไม่มี(หมายถึงหลักฐานที่ว่าคนตายจะไม่ละหมาด-ผู้แปล) ตรงกันข้ามกลับมีหลักฐานที่มาหักล้างคำพูดดังกล่าว นั่นก็คือท่านนบีมูซาที่ละหมาดในหลุมศพของท่านที่ท่านรอซูล ศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวัซัลลัม ได้เห็นในคืนอิสรออ์ซึ่งบันทึกอยู่ในศอเฮียฮ์มุสลิม และการที่บรรดาอัมบิยาอ์ละหมาดตามหลังท่านนบีในคืนเดียวกันที่ถูกบันทึกอยู่ในศอเฮียฮ์
ยิ่งกว่านั้นยังมีรายงานจากท่านที่ว่า "บรรดานบีนั้นมีชีวิตอยู่ในหลุมศพของพวกท่านและละหมาดอยู่" บันทึกโดยอบู ยะอ์ลา เป็นสายสืบที่ดี...ยิ่งกว่านั้นยังมีรายงานจากท่านอีกที่กว้างกว่าที่ได้เสนอไว้ข้างต้น นั่นก็คือหะดีษท่านอบู ฮุรอยเราะฮ์ ในเรื่องที่มะลาอิกะฮ์ทั้งสองได้มาสอบสวนมุอ์มินในกุบูร...(หะดีษที่อ้างไว้แล้ว-ผู้แปล)...
หะดีษนี้ถือเป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่ามุอ์มินทั่วไปก็สามารถละหมาดในกุบูรได้เช่นกัน ดังนั้นคำกล่าวที่ว่าคนตายจะไม่ละหมาดนั้นถือเป็นอันตกไป"อะห์กามุลญะนาอิซ
------------------------------
แต่คุณ 0123 ไม่เชื่อ เพราะต้องมีหลักฐานวีดีโอ มายืนยันก่อน 