ผู้เขียน หัวข้อ: คนตายละหมาดในกุบูร เขาว่าเป็นนิยายปรัมปรา? โดย bos101  (อ่าน 15847 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ۞QolbunSaleem۞

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 168
  • เพศ: ชาย
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด


************

เจอคนใช้คำพูดก้าวร้าวแบบนี้เยอะในบอร์ด แม้กระทั่งไม่ได้เป็นอีเมลส่วนตัวก็ตาม
สังเกตนานแล้ว แต่ไม่อยากบอก ปล่อยให้เขาสนุกปากกันไป ดูความสะใจของคนที่มีวุฒิภาวะทางคำพูดต่ำ
สงสารก็แต่ท่านเว็ปมาสเตอร์ ที่คอยมาตามลบ คอยรักษาหน้าของคนโพส ซึ่งดูจากจำนวนการโพสแล้วก็ไม่ต่ำกว่าพันครั้ง แต่การโพสแต่ละครั้งหาสาระที่คนอ่านได้แง่คิดเตือนสติหรือได้อะไรดีๆไม่ได้เลย


ไม่อยากเจอคำด่าที่ก้าวร้าวแบบนี้ในบอร์ดอีก  ฝากท่านอ.อัลอัซฮารีตักเตือนลูกศิษย์ในบอร์ดด้วยหน่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ต.ค. 02, 2008, 09:18 AM โดย قطوف من أزاهير النور »


ออฟไลน์ قطوف من أزاهير النور

  • ดุนยา..มาเพื่อไป
  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1582
  • อยากเป็นเด็กดีของอัลลอฮฺ
  • Respect: +9
    • ดูรายละเอียด
    • แวะไปเม้นหน่อยน่า ^^
 salam

ขออนุญาตลบข้อความนั้น ๆ ออกแล้วกันค่ะ มาอัฟที่ตามอ่านไม่ทั่วถึง
เรื่องการตักเตือนกันจะรับไว้ค่ะ อินชาอัลลอฮฺ
เสวนาวิชาการต่อนะคะ

วัสลาม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ต.ค. 02, 2008, 09:20 AM โดย قطوف من أزاهير النور »
يَا بُنَيَّ إِنْ قَدَرْتَ أَنْ تُصْبِحَ وَتُمْسِيَ لَيْسَ فِي قَلْبِكَ غِشٌّ لِأَحَدٍ فَافْعَلْ
 ثُمَّ قَالَ لِي يَا بُنَيَّ وَذَلِكَ مِنْ سُنَّتِي وَمَنْ أَحْيَا سُنَّتِي فَقَدْ أَحَبَّنِي وَمَنْ أَحَبَّنِي كَانَ مَعِي فِي الْجَنَّةِ

"โอ้ลูกรัก ถ้าหากเจ้าสามารถที่จะตื่นขึ้นมาในเวลาเช้าจนถึงเวลาเย็น โดยที่เจ้าไม่คิดร้ายต่อผู้ใด เจ้าจงกระทำเถิด
หลังจากนั้นท่านได้กล่าวแก่ฉันอีกว่า โอ้ลูกรัก และนั่นแหละเป็นแนวทางของฉัน
ผู้ใดฟื้นฟูแนวทางของฉันแสดงว่าเขารักฉัน และผู้ใดรักฉัน เขาได้อยู่กับฉันในสวรรค์"
(บันทึกโดย อัตติรมีซี)

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
อย่าไปโทษท่านแอดมีนีนทั้งหลายเลย เขาคงเตือนปากเปียกปากแฉะหลายครั้งแล้วแหละมั้ง ไอคนโพสต์มันคงไม่คิด ไม่รู้จักจำเอง



เชิญเสวนากันต่อตามสบายครับ
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ 0123

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 27
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
พวกคุณเข้าใจความหมายของคำว่าญาณวิสัยหรือเปล่าครับ  ญาณวิสัยคือสิ่งที่ปัญญารับรูได้ไม่หนือสติปัญญาที่รับรู้ได้ อ่าวถามหน่อย คุณเคยเห็นคนตายละหมาดหรือป่าว  ถ้าเคยเห็นน่ะครับเอารูปหรือวิดิโอมาให้ดูด้วย  ญาณวิสัยไม่ใช่เรื่อง5 กม 10 กม สักหน่อย เข้าใจผิดไปใหญ่แล้ว  ถ้าคุณจะให้ผมเชื่อน่ะ  เอาหลักฐานที่ตรงๆไม่ใช่อ้อมโลกแบบนี้มาอ้าง  ถ้าคุณอ้างถึงอายإن الله علي كل شيء قدير ะฮฺนี้  ถ้างั้นคนบีเกิดขึ้นมาอีกเป็นร้อยอ่ะ  ก็ในเมื่อพระองค์ส่งเหนือทุกสิ่ง  ทำได้ทุกอย่า  เราก็อ้างได้ทั้งนั้น  ทั้งๆที่มันขัดแย้งกับสติปัญญา  มันก็ไม่ต่าอะไรกับนิยายที่เทพเจ้าอวตาลมาเกิดใหม่ 

ออฟไลน์ 0123

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 27
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
คุณกำลังจะบอกว่าคนที่ตายแล้วละหมาดในกุโบนั่นน่ะ ทำตามนบีอย่างนั้นหรือ  ผมไม่ได้บอกว่าไม่เชื่อฮาดิษนั่นฮาดิษที่กล่าวถึงนบีโดยตรง เอาแบบว่าคนธรรมดาอย่างเราๆนี่แหละไม่ใช่นบี  ส่วนเรื่องการเดินทางของนบีจากมักกะฮฺไปยังอัลอักซอนั้นมันคนละเรื่องกันครับ  เข้าประเด็นหน่อยซิครับ ผมไม่ได้ไม่เชื่อที่นบีพูด  แล้วมีใหมครับที่นบีพูดว่า คนตายละหมาดในกูโบร์ได้  คนตายที่เป็นคนธรรมดาไม่ใชมะอฺซูม   เอามาด้วยถ้านบีไม่เคยพูดแสดงไม่สามารถเกิดขึ้นจริงได้  หรือคุณกำลังยกระดับคนธรรมเท่ากับมะอฺซูมอย่างนั้นหรือครับ  คิดดีๆน่ะครับ ย้ำน่ะครับ  แล้วซูเราะ อิสรอเอลอายะ85 นั่นล่ะ  ที่ความหมายว่า(ประมาณนี้นะ)เจ้ารู้เรื่องวิญญาณนั้นเป็นแค่ส่วนที่น้อยนิดมาก เสมือนเอานิ้วจุ่มลงไปในมหาสมุทรมีอะไรติดขึ้นมาบ้างนั่นและคือส่วนที่เจ้ารู้
แล้วอายะนี้ลงมาที่มาดีน่ะตอนที่นบีอยู่ยามเฝ้าแนวป้อมปราการพอดี  แล้วมียิวเข้ามาถามนบีเกียวกับวิญญาณ แล้วนบีก็กล่าวอายะนี้ลงมา บอกว่าเรื่องวิญญาณนั้นเรารูแค่นิดเดียวแต่คนที่รู้มากที่สุดนั่นน่ะคือพระองค์
แล้วเรารูได้ไงเล่าว่าคนตายละหมาดได้เราเห็นหรือ
ในทัศนะของผมน่ะครับการอมะนั่นน่ะ ต้องไม่ใช่เรื่องที่พ้นญาณวิสัย เหนื่อธรรมชาติแต่สติปัญญารับได้รูได้ว่ามันไม่ธรรมดา เช่นเรื่องราวที่นบีฟันฝ่าสุปสรรคมาทั้งหมดไม่ว่าเรื่องแยกทะเล อยู่ในท้องปลาวาฬ  เหตุหารณ์เหล่านี้เกิดขึ้นในลักษณะที่ญาณวิสัยของมนุษย์รับรู้ได้นั่นจึงจะใช้إن الله علي كل شيء قدير

"แท้จริงอัลเลาะฮ์ทรงสามารถเหนือทุกๆ สิ่ง"ตัวนี้ได้
 


 ไม่งั้นก็คุณก็อธิบายอายะนี้มาก่อนน่ะครับ  อัลกรุอานไม่ใช่ฮาดิษ  หรือว่าคุณจะปฏิเสธ  คนที่ปฏิเสธฮาดิษเป็นกาเฟร  แต่มันฎออีฟล่ะครับ  กาเฟรไหมครับ แล้วถ้าคนที่ปฏิเสธอัลกรุอานคือออะไรครับ  คุณอะไรครับฮาดิษกับอัลกรุอาน

ส่วนเรื่องที่ผมแสดงทัศนะออกไป ผิดด้วยหรือครับ  คนเรียนน่ะครับไม่ใช่ยาฮีลที่จะแสดงไม่ได้  ไม่จำเป็นต้องเรียนกี่ปี จึงจะแสดงทัศนะได้ ถ้ามีความรู้  มีหลักฐาน เราก็แสดงทัศนะได้  หรือจะเอาแต่ของโตะครูพูด ทั้งๆที่บางทีโต๊ะครูพูดนั้นไม่มีหลักฐาน  คุณจะเอาอย่างนั้นหรือครับ 

เรียนถึบังal-fantazy  น่ะครับผมไม่ได้ดื้อ  จะอันตรายยังไงก็ไม่กลัว ผมกำลังศึกษาอยู่นี่ครับ  ไม่ได้มาลบล้างของใคร  แค่เรามาโต้เถียงทางวิชาการกันเราไม่ใช่ศัตรูกันนี่ครับ  เรามาแสดงความคิดเห็นกันไม่ใช่มาตีกันสักหน่อย ผมก้ยกหลักฐานของผมมาแล้วคุณจะโต้อย่างไรล่ะครับ ไม่ใช่โต้ดิ  เราจะแลกเปลี่ยนกันยังไงต่อ 
ไงก็ฝากอายะนี้ด้วยน่ะครั อิสรอเอลอายะ85 นั่นล่ะ

ออฟไลน์ 0123

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 27
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
อย่าไปโทษท่านแอดมีนีนทั้งหลายเลย เขาคงเตือนปากเปียกปากแฉะหลายครั้งแล้วแหละมั้ง ไอคนโพสต์มันคงไม่คิด ไม่รู้จักจำเอง
คุณILHAM ครับ  ก็ต้องขอมาอัฟด้วยน่ะครับหากทำอะไรให้ไม่เข้าทางคุณ
สิ่งที่โพสต์ไปทุกอย่างก็มาจากมันสมองของมนุษย์คนนึที่พระเจ้าประทานปัญญาให้ แล้วมนุษย์ก็คิดพิเคราะห์แล้วว่า มันต้องเปิดผยไง  แต่รับไม่ได้ก็ไม่ว่ากัน  ยังๆงแล้วความจริงคือสิ่งที่ไม่ตาย อันใหนมีหลักฐานไม่มีหลักฐาน  เราก็มาแลกเปลี่ยนกันไม่ใช่มาใส่สีใส่กันเสียนี่ 

ออฟไลน์ ad-dalawy

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 193
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
พวกคุณเข้าใจความหมายของคำว่าญาณวิสัยหรือเปล่าครับ  ญาณวิสัยคือสิ่งที่ปัญญารับรูได้ไม่หนือสติปัญญาที่รับรู้ได้ อ่าวถามหน่อย คุณเคยเห็นคนตายละหมาดหรือป่าว  ถ้าเคยเห็นน่ะครับเอารูปหรือวิดิโอมาให้ดูด้วย  ญาณวิสัยไม่ใช่เรื่อง5 กม 10 กม สักหน่อย เข้าใจผิดไปใหญ่แล้ว  ถ้าคุณจะให้ผมเชื่อน่ะ  เอาหลักฐานที่ตรงๆไม่ใช่อ้อมโลกแบบนี้มาอ้าง  ถ้าคุณอ้างถึงอายإن الله علي كل شيء قدير ะฮฺนี้  ถ้างั้นคนบีเกิดขึ้นมาอีกเป็นร้อยอ่ะ  ก็ในเมื่อพระองค์ส่งเหนือทุกสิ่ง  ทำได้ทุกอย่า  เราก็อ้างได้ทั้งนั้น  ทั้งๆที่มันขัดแย้งกับสติปัญญา  มันก็ไม่ต่าอะไรกับนิยายที่เทพเจ้าอวตาลมาเกิดใหม่ 

สรุปว่า คุณ 0123 เชื่อว่า อัลเลาะฮ์สามารถทำให้คนฟื้นขึ้นมาในกุบูรและทำการละหมาดได้  ทั้งที่สิ่งดังกล่าวเป็นเรื่องมุมกิน(เป็นไปได้) ไม่ใช่เรื่องมุสตะฮีล(เป็นไปไม่ได้) ดังนั้นขอถามบัง อัลอัซฮะรีย์หน่อยซิครับว่า คนที่บอกว่าอัลเลาะฮ์ไม่สามารถทำให้คนตายฟื้นขึ้นมาแล้วกระทำการละหมาดนั้นเป็นกาเฟรหรือเปล่าค๊าบ.......

ออฟไลน์ ADB

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนสนิท (._.")
  • *****
  • กระทู้: 235
  • Respect: +24
    • ดูรายละเอียด
    • ตับลีฆ
 salam

ถ้าเป็นคอมพิวเตอร์ เออเร่อแบบนี้ ผมจะซอฟรีเซทเครื่องใหม่ ถ้าไม่หาย ลบโปแกรมออก แล้วลงใหม่ แต่ถ้าอาการหนักจริงๆ คงต้องฟอแมทสถานเดียว
บางทีผมว่า กับบางคน รวมถึงตัวผมเองอาจต้องเรียนชะฮาดะฮฺกันใหม่ ศึกษารุก่นอีหม่านกันใหม่เลยดีไหม ถ้าไม่ศึกษาให้เข้าใจวันนี้เราเล่นเน็ตไม่ได้หรอก เพราะในกุรอานไม่มีอายะห์ ไหนอนุญาตให้เล่นเน็ตตรงๆเลย  เรื่องนบีอิบรอฮีม ดำรงชีพอยู่ในกองไฟ เรื่องนบีมูซาตีไม้เท้าในทะเล สิ่งเหล่านี้มันไม่อยู่ในญาณวิสัยที่คนทั่วไปจะเข้าใจได้เลย มันเป็นเรื่องอีหม่าน เราเชื่อเราศรัทธา เพราะอัลลอฮฺบอก นบีบอก อย่าใช้ตรรกะ ปรัชญา กับเรื่องศาสนาเลย ความคิดเราไปไม่ถึงหรอก

ออฟไลน์ ad-dalawy

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 193
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
พวกคุณเข้าใจความหมายของคำว่าญาณวิสัยหรือเปล่าครับ  ญาณวิสัยคือสิ่งที่ปัญญารับรูได้ไม่หนือสติปัญญาที่รับรู้ได้ อ่าวถามหน่อย คุณเคยเห็นคนตายละหมาดหรือป่าว  ถ้าเคยเห็นน่ะครับเอารูปหรือวิดิโอมาให้ดูด้วย 

ส่วนเรื่องการขอดุอาอ์ของท่านต่ออัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ให้ท่านได้ละหมาดในหลุมศพท่านมีที่มาดังนี้

อิบนุ ซะอ์ดฺ ได้กล่าวว่า

أخبرنا عفان بن مسلم قال حدثنا حماد بن سلمة عن ثابت قال إن كنت أعطيت أحدا الصلاة في قبره فأعطني الصلاة في قبري

“ท่านอัฟฟาน อิบนุ มุสลิมได้เล่ากับเราว่า ท่านฮัมมาด อิบนุ ซะละมะฮ์ได้เล่าจากท่านซาบิต ว่าท่านกล่าวว่า “หากพระองค์จักทรงให้บ่าวคนใดได้ละหมาดในหลุมศพของเขาได้แล้ว โปรดทรงให้ข้าพระองค์ได้ละหมาดในหลุมศพของข้าพระองค์ด้วยเถิด” ดู อิบนุ ซะอ์ดฺ - อัฎฎอบากอตุลกุบรอ เล่ม 7 หน้า 232 และ อัลมิซซีย์ – ตะฮ์ซีบุลกะมาล เล่ม 4 หน้า 348 ด้วยสายรายงานเดียวกัน

สายรายงานดังกล่าวนี้เพียงพอแล้ว และหนังสือระดับอัฏฏอบากอต หรือตะฮ์ซีบุลกะมาลก็ย่อมเพียงพอ แต่ในมุสนัด อลี อิบนุล ญะอ์ดฺ ก็มีเช่นกัน

حدثنا الوليد بن شجاع نا ضمرة نا بن شوذب قال سمعت ثابتا البناني يقول :  اللهم إن كنت أعطيت أحدا أن يصلي في قبره فأعطني ذلك

حدثنا علي بن مسلم نا سيار نا جعفر قال سمعت ثابتا البناني يقول :  اللهم إن كنت أذنت لأحد أن يصلي في قبره فأذن لي أن أصلي في قبري

ทั้งสองรายงานนี้พูดถึงการขอดุอาอ์ของท่านซาบิตดังกล่าวเช่นเดียวกัน ดู มุสนัด อลีย์ อิบนุล ญะอ์ดฺ เล่ม 1 หน้า 209

และของอัลบัยฮะกีย์

أخبرنا أبو الحسين بن الفضل القطان أنا عبد الله بن جعفر قال ثنا يعقوب بن سفيان ثنا سعيد بن أسد ثنا حمزة عن ابن شوذب قال : سمعت ثابت البناني

يقول :  اللهم إن كنت أعطيت أحدا من خلقك يصلي لك في قبره فاعطينه

جعفر بن سليمان الضبعي

قال : و سمعت ثابتا يقول :  اللهم إن كنت أذنت لأحد أن يصلي في قبره فأذن لي

ท่านซาบิต กล่าวว่า “ข้าแต่อัลลอฮ์ หากพระองค์ทรงอนุญาตให้ผู้ใดได้ละหมาดในหลุมฝังศพแล้ว ขอพระองค์ทรงอนุญาตให้แก่ข้าพระองค์” ดู อัลบัยฮะกีย์ – ชุอะบุล อีมาน เล่ม 3 หน้า 155 และมีอ้างอิงถึงใน อัลมุดฮิช ของอิบนุล เญาซีย์ หน้า 335 เช่นกัน และอิบนุ อะบีด ดุนยา ในอัตตะฮัจจุด วะกิยามุลลัย หน้า 444

ส่วนเรื่องที่มีคนเห็นท่านยืนละหมาดในกุบูรนั้นมีที่มาดังนี้

حدثنا عثمان ابن محمد العثماني قال ثنا اسماعيل بن الكرابيسني قال حدثني محمد بن سنان القزاز قال ثنا شيبان بن جسر عن أبيه قال أنا والله الذي لا إله إلا هو أدخلت ثابتا البناني لحده ومعي حميد الطويل أو رجل غيره شك محمد قال فلما سوينا عليه اللبن سقطت لبنة فإذا أنا به يصلي في قبره فقلت للذي معي ألا ترى قال اسكت فلما سوينا عليه وفرغنا أتينا ابنته فقلنا لها ما كان عمل أبيك ثابت فقالت وما رأيتم فأخبرناها فقالت كان يقوم الليل خمسين سنة فاذا كان السحر قال في دعائه اللهم إن كنت أعطيت احدا من خلقك الصلاة في قبره فأعطنيها فما كان الله ليرد ذلك الدعاء

จากชัยบาน อิบนุ ญิซร์ จากพ่อของเขาได้กล่าวว่า ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ผู้ซึ่งไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ ฉันเป็นคนที่นำร่างท่านซาบิต อัลบุนานีย์ ลงหลุมฝังศพ โดยมีท่านหุมัยด์ อัฏฏอวีล หรือคนอื่น (มุฮำหมัดนักรายงานคนหนึ่งไม่แน่ใจ) เมื่อเราได้ทำการกลบดินนั้นมีดินก้อนหนึ่งร่วงออกมา(จากข้างหลุม-ผู้แปล) ทันใดนั้นฉันได้เห็นท่านกำลังละหมาดอยู่ในหลุมของท่าน ฉันจึงกล่าวกับผู้ที่อยู่กับฉันว่า ท่านเห็นเหมือนกันรึเปล่า? เขาตอบว่า เงียบๆ... เมื่อเราฝังท่านเสร็จ เราจึงไปหาลูกสาวของท่าน แล้วเราก็ถามเธอว่า พ่อของเธอทำอะมั้ลอะไรบ้าง เธอตอบว่า แล้วพวกท่านเห็นอะไรมากันเล่า? พวกเราจึงเล่าให้เธอฟัง เธอจึงบอกว่า ท่านเคยละหมาดในตอนกลางคืนอยู่ 50 ปี เมื่อครั้นถึงเวลารุ่งสางท่านจะขอดุอาอ์ว่า “ข้าแต่อัลลอฮ์ หากพระองค์ทรงให้บ่าวคนใดได้ละหมาดในหลุมศพของเขาแล้ว โปรดทรงให้แก่ข้าพระองค์ด้วยเถิด” และแน่นอนว่าพระองค์อัลลอฮ์จะไม่ทรงผลักไสคำวิงวอนดังกล่าวเป็นแน่...

ดู อบู นุเอม – หิลยะตุลเอาลิยาอ์ เล่ม 4 หน้า 1405 และอัลฮาฟิซ อิบนุ รอญับ อัลฮัมบะลีย์ ได้อ้างอิงจากอบู นุเอม อีกทีหนึ่ง จาก ยะซาร อิบนุ หุบัยช์ จากพ่อของเขา ด้วยตัวบทดังกล่าว... ดู อิบนุ รอญับ – อะฮ์วาลุลกุบูร หน้า 68

เชคอัลอัลบานีย์ รอหิมะหุลลอฮ์ ได้กล่าวไว้ใน อะห์กามุลญะนาอิซ วะบิดะอุฮา ว่า

وقول ابن التين : ( هو من شراح (( صحيح البخاري )) واسمه عبد الواحد ) (( الموتى لا يصلون )) . ليس بصحيح ،

 لانه لم يرد نص في الشرع بنفي ذلك ، وهو من الامور الغيبية التي لا ينبغي البت فيها إلا بنص ، وذلك مفقود ،

بل قد جاء ما يبطل إطلاق القول به ، وهو صلاة موسى عليه الصلاة والسلام في قبره كما رآه رسول الله صلى الله عليه وسلم

 ليلة أسري به على ما رواه مسلم في(( صحيحه)) ، وكذلك صلاة الانبياء عليهم الصلاة والسلام مقتدين به

 في تلك الليلة كما ثبت في (( الصحيح)) بل ثبت عنه صلى الله عليه وسلم أنه قال: (الانبياء أحياء في قبورهم يصلون)

أخرجه أبو يعلى باسناد جيد ،وقد خرجته في ( الاحاديث الصحيحة ) (622) . بل قد جاء عنه صلى الله عليه وسلم ما هو أعم مما ذكرنا ،

 وذلك في حديث أبي هريرة في سؤال الملكين للمؤمن في القبر  فيقال له اجلس ، فيجلس قد مثلت له الشمس وقد آذنت للغروب ،

 فيقال له : أرأيتك هذا الذي كان فيكم ما تقول فيه ؟ وماذا تشهد عليه ؟ فيقول : دعوني حتى أصلي ، فيقولان : إنك ستفعل ) .

 أخرجه ابن حبان في ( صحيحه) (781) والحاكم (1/379-380) وقال ( صحيح على شرط مسلم ) ووافقه الذهبي ! وإنما هو حسن فقط ، لان فيه محمد بن عمرو ولم يحتج به مسلم وإنما روى له مقرونا أو متابعة .

فهذا الحديث صريح في أن المؤمن أيضا يصلي في قبره ، فبطل بذلك القول بأن الموتى لا يصلون

เชคอัลอัลบานีย์กล่าวว่า

"คำกล่าวของอิบนุตตีนที่ว่าคนตายจะไม่ละหมาดนั้นไม่ถูกต้อง เพราะไม่มีหลักฐานในศาสนาปฏิเสธเรื่องดังกล่าว เรื่องนี้เป็นเรื่องเหนือการรับรู้ที่หากจะฟันธงต้องมีหลักฐานเท่านั้นซึ่งมันไม่มี(หมายถึงหลักฐานที่ว่าคนตายจะไม่ละหมาด-ผู้แปล) ตรงกันข้ามกลับมีหลักฐานที่มาหักล้างคำพูดดังกล่าว นั่นก็คือท่านนบีมูซาที่ละหมาดในหลุมศพของท่านที่ท่านรอซูล ศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวัซัลลัม ได้เห็นในคืนอิสรออ์ซึ่งบันทึกอยู่ในศอเฮียฮ์มุสลิม และการที่บรรดาอัมบิยาอ์ละหมาดตามหลังท่านนบีในคืนเดียวกันที่ถูกบันทึกอยู่ในศอเฮียฮ์

ยิ่งกว่านั้นยังมีรายงานจากท่านที่ว่า "บรรดานบีนั้นมีชีวิตอยู่ในหลุมศพของพวกท่านและละหมาดอยู่" บันทึกโดยอบู ยะอ์ลา เป็นสายสืบที่ดี...ยิ่งกว่านั้นยังมีรายงานจากท่านอีกที่กว้างกว่าที่ได้เสนอไว้ข้างต้น นั่นก็คือหะดีษท่านอบู ฮุรอยเราะฮ์ ในเรื่องที่มะลาอิกะฮ์ทั้งสองได้มาสอบสวนมุอ์มินในกุบูร...(หะดีษที่อ้างไว้แล้ว-ผู้แปล)...หะดีษนี้ถือเป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่ามุอ์มินทั่วไปก็สามารถละหมาดในกุบูรได้เช่นกัน ดังนั้นคำกล่าวที่ว่าคนตายจะไม่ละหมาดนั้นถือเป็นอันตกไป"

อะห์กามุลญะนาอิซ

------------------------------

แต่คุณ 0123 ไม่เชื่อ  เพราะต้องมีหลักฐานวีดีโอ มายืนยันก่อน  hehe

ออฟไลน์ ad-dalawy

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 193
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
นบีบอก อย่าใช้ตรรกะ ปรัชญา กับเรื่องศาสนาเลย ความคิดเราไปไม่ถึงหรอก

ผมว่าเราสามารถใช้สติปัญญาและตรรกะได้นะครับ แต่ใช้ให้อยู่ในหลักการศาสนาและไม่ขัดกับอัลกุรอานและซุนนะฮ์  แต่บางคนใช้หลักสติปัญญาและตรรกะที่ขัดกับหลักศาสนาจนต้องกล่าวกะลีเมาะฮ์ใหม่ไปเลยก็มีน่ะคัฟ......

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
ด้วยเหตุนี้ เราจึงต้องเรียนวิชา มันติก ที่พวกซาอุเขาไม่เรียนกัน
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ ad-dalawy

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 193
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
เชคอัลอัลบานีย์กล่าวว่า

"คำกล่าวของอิบนุตตีนที่ว่าคนตายจะไม่ละหมาดนั้นไม่ถูกต้อง เพราะไม่มีหลักฐานในศาสนาปฏิเสธเรื่องดังกล่าว"


ขนาดท่าน เชคอัลอัลบานีย์ ที่บรรดาวะฮาบีย์เค้ายอมรับนับถือกัน  ยัง เชื่อว่า  คนตายละหมาดในกุโบรได้เลยอะ...งั้น ผมว่า สงสัย คุณ 0123 ต้องไปขอคลิปวิดีโอคนตายละหมาดในกุโบร  จากท่านอัลบานีย์ด้วยสะแล้วละครับ หุหุ  loveit: loveit:

ออฟไลน์ 0123

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 27
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ท่านทั้งหลายอย่ารีบร้อนในการฮุก่มผมเป็นกาเฟรซิครับ  คุณอธิบายอายะที่85ซูเราะอิสรออีลก่อนซิว่ายังไง  ผมอ่านอายะฮฺนี้แล้วผมจึงเชื่อว่าเราไม่สามารถรับรู้ได้ว่าคนตายไปแล้วทำอะไรได้บ้าง  อยู่ยังไงในอาลัมบัรซัก  เพราะอัลลอฮตรัสไว้เองว่า  ไม่ใครรู้เรื่องวิญญาณ มากไปกว่าพระองค์ ในส่วนที่มนุษย์รู้นั้นเป้นเพียงนิดเดียวหากเทียบกับความรู้ทั้งหมดในเรื่องวิญญาณ เสมือนเอาเข็มไปจุ่มในมหาสมุทรแล้วยกขึ้นมาแฃ้วเจ้ามองดูว่าอะไรติดขึ้นมาบ้าง  ดังนั้นผมจึงไม่เชื่อว่าคนตายจะหมาดในกุโบได้
ถึงได้ ก็ไม่มีมนุษย์หน้าใหนมองเห็น  เพราะเขา(คนตายไปแล้วนั้น)กับเราอยู่กันคนละโลก  ไม่สามารถสื่อสารหรือมองข้ามมิติได้  ดังนั้นการที่มีคนมาบอกผมว่าคนตายละหมาดในกุโบร์ได้นั้น  อาจจะเป็นจริง ณ ที่อัลลอฮไม่ใช่ ณ ที่มนุษย์จะรับรู้ได้  เพราะหลักฐานชัดเจนอยู่แล้วว่า อาลัมดุนยากับอาลัมบัรซักนั้นอยู่ละโลกกันคนละส่วนกัน  จึงเป็นไปไม่ได้ที่คนจะรับรู้หรือเห็นได้กับสองลูกตาของเรานี้ว่าคนตายละหมาดในกุโบร์ 

สรุกแล้วก็คือในตอนนี้ 
ผมอาจจะเชื่อว่าคนตายละหมาดในกุโบร์  แต่ไม่เชื่อหากใครมาพูดว่าเห็นคนนั้นคนนี้ตายแล้วละหมาดในกุโบร์ เพราะเรากับคนตายอยู่ละโลกแบ่งอย่างชัดเจน จึงไม่สามารถสื่อสารกันรับรุ้กันได้ สัมผัสกันได้  เราอยู่ในอาลัมดุนยา  ไม่อาจที่ไม่รับรู้(สัมผัสหรือพบเห็นนอกจากการเรียนรู้ตามกีตาบุลลอฮ) แล้วคนจะเห็นได้อย่างไร ขอย้ำน่ะครับว่าบัรซักกับดุนยาคนละส่วนกัน ไม่สามารถเหลื่อมล้ำกันได้  ไปมาหาสู่กันไม่ได้  ไม่มีรถเมย์สายบัรซักดุนยาหรอกครับพี่น้อง  วิญญาณผู้ตายก็อยู่ในอาลัมบัรซักไม่ได้อยู่ในดุนยา เรายังไม่ตายก็อยู่ในดุนยาไม่ได้อบยู่ในบัรซัก  อาลัมแต่ละอาลัมนั้นไม่สามารถข้ามเขตแดนกันได้น่ะครับ  เราจะรับรู้สิ่งที่พ้นญาณวิสัยได้นั้นต้องมาจากกีตาบุลลอฮและซุนนะฮฺใช่ไหมครับ  หากมีหลักฐานยืนยันเช่นนี้ว่าคนตายละหมาดในกุโบร์ได้ ผมต้องยอมเชื่ออยู่ดีแหละครับ  แต่คนจะมองเห็นได้นั้นยังไงผมก็ไม่เชื่อ  อย่ามาอ้างว่านบีเห็นแล้วจะเห็นได้ด้วยน่ะครับ

ขอแสดงจุดยืนอีกครั้งน่ะครับ  ผมไม่ได้มาทะเลาะน่ะครับ ผมไม่ได้มาเถียงกับพี่ๆในบอร์ดนี้น่ะครับแต่ผมมาเพื่อต้องการแลกเปลี่ยนครับคงเข้าใจผมน่ะครับ หากมีข้อผิดพลาดประการใดขอให้พี่ในบอร์ดตักเตือนด้วยน่ะครับ ศาสนาคือการตักเตือน  แล้วจะนำไปแก้ไขต่อไปครับ  ผมจะเข้ามาในเว็บนี้เฉพาะเรื่องอากีดะฮฺเท่านั้นครับผมไม่คุยเรื่องฟิกฮฺที่เป็นปัญหาคีลาฟียะฮฺน่ะครับ 
  ช่วงนี้สอบยังไม่เสร็จจึงเข้ามาไม่บ่อย   ขอขอบคุณเว็บนี้น่ะครับที่ทำให้ผมได้ความเพิ่มเติมมากขึ้น เป้นการดีที่ผมจะเข้ามารับข้อมูลและรวบรวมใว้จากมันสมองที่พระเจ้าประทานมาให้เราทั้งหลายโดยเฉพาะคนที่มาคุยกับผมในบอร์ด และนำหลักฐานมา  และผู้ที่แสดงทัศนะด้วยน่ะครับ  ยาซากุมุลลอฮครับ   ยืนยันอีกครั้งมาเพื่อศึกษา ไม่ได้มาทะเลาะเดี๋ยวจะเข้าใจผิดฮูก่มผมเป้นการเฟรไปได้
แต่ผมคิดว่าเราต้องคุยในกระทู้นี้อีกยาวน่ะครับ
ต้องยาซากัลลอฮสำหรับหลักฐานน่ะครับ 
วัซซาลามครับ

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ท่านทั้งหลายอย่ารีบร้อนในการฮุก่มผมเป็นกาเฟรซิครับ  คุณอธิบายอายะที่85ซูเราะอิสรออีลก่อนซิว่ายังไง  ผมอ่านอายะฮฺนี้แล้วผมจึงเชื่อว่าเราไม่สามารถรับรู้ได้ว่าคนตายไปแล้วทำอะไรได้บ้าง  อยู่ยังไงในอาลัมบัรซัก  เพราะอัลลอฮตรัสไว้เองว่า  ไม่ใครรู้เรื่องวิญญาณ มากไปกว่าพระองค์ ในส่วนที่มนุษย์รู้นั้นเป้นเพียงนิดเดียวหากเทียบกับความรู้ทั้งหมดในเรื่องวิญญาณ เสมือนเอาเข็มไปจุ่มในมหาสมุทรแล้วยกขึ้นมาแฃ้วเจ้ามองดูว่าอะไรติดขึ้นมาบ้าง  ดังนั้นผมจึงไม่เชื่อว่าคนตายจะหมาดในกุโบได้
ถึงได้ ก็ไม่มีมนุษย์หน้าใหนมองเห็น  เพราะเขา(คนตายไปแล้วนั้น)กับเราอยู่กันคนละโลก  ไม่สามารถสื่อสารหรือมองข้ามมิติได้  ดังนั้นการที่มีคนมาบอกผมว่าคนตายละหมาดในกุโบร์ได้นั้น  อาจจะเป็นจริง ณ ที่อัลลอฮไม่ใช่ ณ ที่มนุษย์จะรับรู้ได้  เพราะหลักฐานชัดเจนอยู่แล้วว่า อาลัมดุนยากับอาลัมบัรซักนั้นอยู่ละโลกกันคนละส่วนกัน  จึงเป็นไปไม่ได้ที่คนจะรับรู้หรือเห็นได้กับสองลูกตาของเรานี้ว่าคนตายละหมาดในกุโบร์ 

เรื่องวิญญาณ  เป็นเรื่องของอัลเลาะฮ์  พระองค์จะทรงกระทำอย่างไรก็ได้ตามที่พระองค์ทรงต้องการ  และพระองค์จะให้ผู้ใดเห็น  ก็แล้วแต่พระองค์ทรงประสงค์ ไม่ใช่ว่าคนอื่นได้เห็นคนละหมาดในกุบูร  แล้วเราจะต้องเห็นด้วย 

เอาเป็นว่าสายรายงานต่าง ๆ ที่พี่น้องได้ยกมานั้น  ไม่บังคับให้เชื่อ  แต่ผู้ใดก็ตามที่กล่าวและเชื่อว่า  อัลเลาะฮ์ไม่สามารถให้คนตายฟื้นขึ้นมาแล้วทำการละหมาดในกุบูรเพื่อเป็นเกียตริ(กะรอมัตแก่ผู้มีคุณธรรม)นั้น  ถือว่าเขาเป็น "กาเฟร" ครับ วัลอิยาซุบิลลาฮ์

วัลลอฮุอะลัม
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ 0123

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 27
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
คนตายฟื้นขึ้นมาได้ไงครับ  หลักบอกว่าคนเราตายแค่ครั้งเดียว ไม่ใช่สองครั้ง ส่วนในกุโบเขาจะทำอะไรเรามิอาจรับรู้ได้ เป็นการคิดเอาเองว่าน่ะจะอย่างนั้นอย่างนี้  ไม่ได้เชื่ออัลลอฮทำไม่ได้  แต่คนตายไปแล้วไม่มีทางที่จะฟื้นขึ้นมานอกจากวันปรโลกเท่านั้นครับพี่น้อง  คนตายแล้วฟื้นขึ้นมาในวันปรโลก  เท่านั้น  แต่วิญญานในกุโบรที่รอการสอบสวนจะทำอะไรนั้นอยู่ยังไงนั้นไม่มีทางที่เราจะรู้ได้เพราะแยกส่วนชัดเจนครับพี่น้อง

 

GoogleTagged