อัสสลามุ อลัยกุม
ทุกครั้งที่ผมไปละหมาดมัสญิดของมหาลัย ก็มีภาพของผู้คนละหมาดเป็นย่อมๆ กลุ่มๆ ให้เห็นเสมอ เนื่องจากการทำละหมาดญมาอะฮฺแรกได้เสร็จไปแล้ว ซึ่งคนที่ไม่ทันก็จะรวมกันทำใหม่ และมัสญิดนั้น มีรูปทรงแปดเหลี่ยม คล้ายๆ กุบบาตุศศ็อคเราะฮ์, ปาเลสไตน์ แต่ประเด็นอยู่ที่ว่า ขณะที่คนกลุ่มหนึ่งกำลังละหมาดอยู่ ผู้คนที่ละหมาดเสร็จ หรือต้องการออกจากมัสญิด แทนที่จะอ้อมไปอีกด้านหนึ่ง เพื่อเลี่ยงการตัดหน้าคนที่กำลังละหมาดอยู่ แต่พวกเขาก็ตัดหน้าคนที่กำลังละหมาดเฉยเลย และตัดหน้ากันเป็นว่าเล่น เหมือนกับเป็นสิ่งที่อนุญาตให้ทำได้ หากการกระทำดังกล่าวเป็นของผู้คนทั่วๆ ไปมันก็น่าให้อภัย ด้วยความรู้ของเขา แต่การณ์มิเป็นเช่นนั้น กลับมีผู้คนระดับผู้รู้สะเอง เดินตัดหน้า ตัดซึ่งๆ หน้า ผ่านคนที่กำลังละหมาดอยู่ และบ่อยมากๆ บ่อยจนชินตา ทำให้ น.ศ.ที่มองพฤติกรรมนี้ก็พลอยคิดว่า เป็นสิ่งที่ไม่เป็นไร (อนุญาต) ให้ทำได้ บางครั้งภาพการเดินตัดหน้าคนที่ละหมาดอยู่ ทำให้บรรายายในมัสญิดมันดูพลุกพล่าน ยังกะตลาด มาชาอัลลอฮฺ
ดังนั้น จึงขอฝากผู้รู้ ช่วยทำการวิจารณ์และนำเสนอทางวิชาการชี้แจงเรื่องนี้หน่อยครับ และหลักในปฏิบัติเมื่อมีคนตัดหน้า หรือเราจำเป็นต้องผ่านทางนั้น ซึ่งไม่มีทางอื่นแล้ว ฝากด้วยนะครับ ผมระอาที่มองภาพเหล่านี้ทุกๆ วันเต็มทีละ ถือว่าไม่ให้เกียรติต่อผู้กราบไหว้พระผู้ทรงอภิบาลเลย
วัสสลามุ อลัยกุม
ท่านมุสลิมได้รายงานว่า อบูญุฮัยม์ได้ถูกถามว่าสิ่งใดบ้านที่เขาได้รู้จากท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เกี่ยวกับผู้เดินผ่านหน้าผู้กำลังทำละหมาดอยู่ ดังนั้นท่านอบูญุฮัยม์ จึงกล่าวตอบว่า
قَالَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ لَوْ يَعْلَمُ الْمَارُّ بَيْنَ يَدَيْ الْمُصَلِّي مَاذَا عَلَيْهِ لَكَانَ أَنْ يَقِفَ أَرْبَعِينَ خَيْرًا لَهُ مِنْ أَنْ يَمُرَّ بَيْنَ يَدَيْهِ
"ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมได้กล่าวว่า หากผู้เดินทางหน้าผู้ทำการละหมาดรู้ว่า อะไรคือ(โทษ)ที่จะเกิดขึ้นบนเขา แน่นอนการที่เขาหยุด 40 ปีนั้น ย่อมดียิ่งกว่าสำหรับจากการเดินทางหน้าผู้ทำการละหมาด" รายงานโดยมุสลิม (785)
ท่านอิมามอันนะวาวีย์กล่าวอธิบายว่า
مَعْنَاهُ لَوْ يَعْلَم مَا عَلَيْهِ مِنْ الْإِثْم لَاخْتَارَ الْوُقُوف أَرْبَعِينَ عَلَى اِرْتِكَاب ذَلِكَ الْإِثْم , وَمَعْنَى الْحَدِيث النَّهْي الْأَكِيد وَالْوَعِيد الشَّدِيد فِي ذَلِكَ
"ความหมายของฮะดิษคือ หากเขารู้ว่าบาปใดที่จะเกิดขึ้นแก่เขา แน่นอนว่าเขาจะเลือกหยุดเดินผ่าน 40 ปี ต่อการกระทำบาปดังกล่าว และความหมายฮะดิษก็คือมีการเน้นห้ามและสัญญาจะลงโทษอย่างรุนแรงในการเดินผ่านผู้ทำการละหมาดดังกล่าว" หนังสือชัรห์ซอฮิห์มุสลิม
ดังนั้นเวลาเราละหมาด ก็สุนัตให้มีสิ่งที่มากั้น (ซุตเราะฮ์) เช่นการทำการละหมาดโดยมีฝาหรือกำแพงอยู่ข้างหน้า หรือมีเสาอยู่ข้างหน้า หรือมีไม้เท้าปักอยู่ หรือปูญัดญาดะฮ์ หรือขีดเส้นข้างหน้าไว้ หรือเอากระเป๋าใส่หนังสือวางไว้ หรือเอาตำราหนังสือวางไว้ (การวางนั้นคือให้วางข้างหน้าโดยวางให้อยู่ข้างขวาหรือข้างซ้าย อย่าวางตรงข้างหน้า) ดังนั้น หากเรามีซุตเราะฮ์แล้ว ก็ถือว่าฮะรอมเดินผ่าน และหากมีคนเดินผ่าน ก็สุนัตให้ผู้ละหมาดผลักอกเขาอย่าให้เดินผ่านเข้ามา หากเดินเข้ามาอีกก็ผลักอีก หากยังดันทุรังเดินเข้ามาอีก ก็จัดการรบกับเขาเลย
ท่านอบูซะอีด อัลคุฎรีย์ กล่าวว่า
سَمِعْتُ رَسُولَ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ يَقُولُ إِذَا صَلَّى أَحَدُكُمْ إِلَى شَيْءٍ يَسْتُرُهُ مِنْ النَّاسِ فَأَرَادَ أَحَدٌ أَنْ يَجْتَازَ بَيْنَ يَدَيْهِ فَلْيَدْفَعْ فِي نَحْرِهِ فَإِنْ أَبَى فَلْيُقَاتِلْهُ فَإِنَّمَا هُوَ شَيْطَانٌ
"ฉันได้ยินท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า เมื่อคนใดจากพวกท่านทำการละหมาดไปยังสิ่งหนึ่งที่มากั้นเขาจากผู้คน แล้วมีคนหนึ่งต้องการจะเดินผ่านข้างหน้าเขา ดังนั้นเขาจงผลักอกของเขา หากเขายังฝ่าฝืน เขาก็จะรบกับเขา เพราะแท้จริงเขาคือชัยฏอน" รายงานโดยมุสลิม(783)
นั่นคือกรณีที่เราละหมาดแล้วมีของมากั้น
ส่วนกรณีที่เราทำการละหมาด โดยไม่มีสิ่งมากั้น ก็ถือว่าเป็นความบกพร่องของเราเอง อย่าไปโทษคนที่เดินผ่านเลย (หนังสือมุฆนิลมั๊วะห์ตาจญ์ : 1/380) และไม่ฮะรอมด้วยหากไม่มีสิ่งมากั้น ดังนั้นผู้เดินผ่านจะกระทำบาป เมื่อเขาได้เดินผ่านหน้าผู้ละหมาดที่มีของกั้นหรือมีสิ่งใดที่นำมาเป็นซุตเราะฮ์
วัลลอฮุอะลัม