การใช้ของหอมของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม

[al-azhary]

Tweet

ท่านอัตติรมีซีย์  ได้กล่าวรายงานว่า

عَنْ مُوسَى بْنِ أَنَسِ بْنِ مَالِكٍ ، عَنْ أَبِيهِ ، قَالَ : كَانَ لِرَسُولِ اللهِ صلى الله عليه وسلم سُكَّةٌ يَتَطَيَّبُ مِنْهَا

จากอะบีมูซา บิน อะนัส บิน มาลิก  จากบิดาของเขา  ได้กล่าวว่า  "ปรากฏว่าให้กับท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมนั้น  มีซุกกะฮ์  ใช้นำมาเป็นของหอม" อัชชะมาอิลอัลมุฮัมมะดียะฮ์ (216)

ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  มีของหอมซุกกะฮ์ คือชนิดของหอมที่มีสีดำแล้วผสมด้วยกับของหอมชมดเชียง 

ท่านอัตติรมีซีย์  ได้กล่าวรายงานว่า

عَنْ ثُمَامَةَ بْنِ عَبْدِ اللهِ ، قَالَ : كَانَ أَنَسُ بْنُ مَالِكٍ ، لا يَرُدُّ الطِّيبَ ، وَقَالَ أَنَسٌ : إِنَّ النَّبِيَّ صلى الله عليه وسلم كَانَ لا يَرُدُّ الطِّيبَ

จากษุมามะฮ์ บิน อับดิลลาฮ์ เขากล่าวว่า  "ท่านอะนัส บิน มาลิก  ไม่เคยปฏิเสธของหอม(ที่ถูกฝากเป็นของกำนัล)  และท่านอะนัสกล่าวว่า  แท้จริงท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม นั้นท่านไม่เคยปฏิเสธ(ในการรับของกำนัลที่เป็น)ของหอม" อัชชะมาอิลอัลมุฮัมมะดียะฮ์ (217)

ท่านอะนัส บิน มาลิก ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ  ไม่ปฏิเสธของหอมเมื่อมีคนใดได้มอบให้แก่ท่าน  และดังกล่าวนั้นก็เพราะเจริญรอยตามท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ซึ่งไม่ทำการปฏิเสธของหอมที่มอบเป็นของฝากกำนัลมาให้  และท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยอิวะซัลลัมเอง  ก็จะไม่ปฏิเสธของหอมเพราะไม่ต้องการทำลายน้ำใจของผู้มอบของกำนัล

วัลลอฮุอะลัม

[ILHAM]

ถ้าผมไม่ชอบน้ำหอมเนี่ยจะผิดหรือเปล่าครับ แบบว่าบางกลิ่นมันอยากจะอ้วก บางกลิ่นก็มึนเลย

[บาชีร]

ของหอมก็ชอบ

ถ้าคัดจมูกก็ขอยาดมด่วน

ว่าแต่ยาดมเนี่ย จะเรียกว่าเป็นของหอมรึปล่าวนะ

[al-azhary]

ของหอมก็ชอบ  ถ้าคัดจมูกก็ขอยาดมด่วน ว่าแต่ยาดมเนี่ย จะเรียกว่าเป็นของหอมรึปล่าวนะ

ของหอมภาษาอาหรับเรียกว่า الطِّيْبُ  "อัฏฏีบ" คือ "สิ่งที่มีกลิ่นหอมซึ่งอัลเลาะฮ์จะให้มีประโยชน์แก่ผู้เป็นเข้าของและผู้อื่นด้วย  และของหอมนี้ไม่ได้เจาะจงเพียงแค่หอมสำหรับผู้เป็นเจ้าของของหอมนั้น  แต่เป้าหมายก็คือเพื่อให้ตนเองและผู้อื่นได้มีส่วนร่วมในการได้รับกลิ่นหอมด้วย

ดังนั้นยาดมก็เป็นของหอมน่ะ  แต่ให้ผู้อื่นได้รับกลิ่นหอมนั่นด้วยก็จะดียิ่ง

[al-azhary]

ถ้าผมไม่ชอบน้ำหอมเนี่ยจะผิดหรือเปล่าครับ แบบว่าบางกลิ่นมันอยากจะอ้วก บางกลิ่นก็มึนเลย

ของหอม ไม่จำเป็นต้องเป็น "น้ำหอม" เพียงอย่างเดียว  คืออะไรก็ได้ที่หอม เช่นแป้งหอมแบบผู้ชาย ก็ถือว่าตามซุนนะฮ์นบีแล้ว หากเราเจตนาตามซุนนะฮ์นบีน่ะ 

[ILHAM]

แล้วน้ำมันต่างๆล่ะครับ เรียกว่าของหอมได้หรือเปล่า แบบว่าน้ำมันมวย หรืออะไรประมาณนั้น

[al-azhary]

ท่านอัตติรมีซีย์ กล่าวรายงานว่า

عَنِ ابْنِ عُمَرَ ، قَالَ : قَالَ رَسُولُ اللهِ صلى الله عليه وسلم : ثَلاثٌ لا تُرَدُّ : الْوَسَائِدُ ، وَالدُّهْنُ ، وَاللَّبَنُ

รายงานจากท่านอิบนุอุมัร เขากล่าวว่า  "ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า  สามอย่างที่ไม่ถูกปฏิเสธ  คือหมอนหนุนศีรษะ น้ำมัน(หอม)  และนม" อัชชะมาอิล (218)

ของกำนัลสามอย่าง  เมื่อบุคคลหนึ่งได้ถูกมอบให้เป็นของกำนัล  เขาสมควรตอบรับและไม่ควรปฏิเสธ  ก็คือ หมอนหนุนศีรษะขณะนอน  น้ำมันที่มีกลิ่นหอม  และนม  ซึ่งทั้งสามอย่างนี้ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ไม่เคยปฏิเสธที่จะรับเป็นของกำนัล

[al-azhary]

แล้วน้ำมันต่างๆล่ะครับ เรียกว่าของหอมได้หรือเปล่า แบบว่าน้ำมันมวย หรืออะไรประมาณนั้น

ส่วนมากน้ำหอมนั้น  ก็เอามาจากน้ำมันหอมนั่นเองครับ  ส่วนน้ำมันมวยนั้นหากคนทั่วไปเขาเรียกว่าหอมก็เป็นของหอม  หากเขาไม่เรียกของหอมก็ไม่ใช่ของหอม  เพราะของหอมคือสิ่งที่ให้ประโยชน์แก่เจ้าของและผู้อื่นได้มีส่วนร่วมในการได้รับกลิ่นหอมนั้น 

[al-azhary]

ท่านอัตติรมีซีย์  ได้กล่าวรายงานว่า

عَنْ أَبِي هُرَيْرَةَ ، قَالَ : قَالَ رَسُولُ اللهِ صلى الله عليه وسلم : طِيبُ الرِّجَالِ مَا ظَهَرَ رِيحُهُ ، وَخَفِيَ لَوْنُهُ ، وَطِيبُ النِّسَاءِ مَا ظَهَرَ لَوْنُهُ وَخَفِيَ رِيحُهُ

จากท่านอะบูฮุร็อยเราะฮ์  เขากล่าวว่า  ท่านร่อซูลุลลอฮ์  ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้กล่าวว่า "ของหอมสำหรับผู้ชายนั้น  กลิ่นของมันจะปรากฏและสีของมันจะซ่อนเร้น  และของหอมสำหรับสตรีนั้น  คือสิ่งที่ปรากฏสีและซ่อนเร้นกลิ่น" หนังสืออัชชะมาอิลมุฮัมมะดียะฮ์ (212)

ฮะดิษนี้บ่งชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างในการใช้ของหอมระหว่างผู้หญิงกับผู้ชายขณะที่ออกจากบ้าน  ซึ่งสำหรับผู้ชายแล้ว  กลิ่นหอมจะปรากฏให้ผู้อื่นได้กลิ่นแต่ซ่อนเร้นซึ่งสี  ส่วนสตรีนั้นเมื่อออกจากบ้านก็ต้องซ่อนกลิ่นน้ำหอมเอาไว้  แต่สีไม่เป็นไร  เช่นสีของหญ้าฟรั่นที่มีสีเหลือง  เป็นต้น

สำหรับกรณีที่สตรีอยู่ในบ้าน  ก็สามารถใช้น้ำหอมหรือของหอมตามที่ต้องการ  ไม่ว่าจะปรากฏกลิ่นหอมหรือไม่ก็ตามเพื่อสามีจะได้เชยชมได้รับกลิ่น  ยิ่งตอนที่ร่วมหลับนอนนั้นก็สมควรอย่างยิ่งที่สามีภรรยาต้องใส่น้ำหอม  เพื่อจะได้มีความรัญจวญใจระหว่างทั้งสอง 

วัลลอฮุอะลัม

[al-azhary]

ท่านอัตติรมีซีย์  ได้กล่าวรายงานว่า

عَنْ أَبِي عُثْمَانَ النَّهْدِيِّ ، قَالَ : قَالَ رَسُولُ اللهِ صلى الله عليه وسلم : إِذَا أُعْطِيَ أَحَدُكُمُ الرَّيْحَانَ فَلا يَرُدُّهُ ، فَإِنَّهُ خَرَجَ مِنَ الْجَنَّةِ

จากอะบี อุษมาน อันนะฮ์ดี  เขากล่าวว่า  ท่านร่อซูลุลลอฮ์  ศ็อลลั้ลลอฮุอะลัยฮิวะซั้ลลัม  กล่าวว่า  "เมื่อคนใดจากพวกเขาถูกมอบต้นร็อยฮาน  เขาก็จงอย่าปฏิเสธ  เพราะต้นร็อยฮานนั้นได้ออกมาจากสวนสวรรค์" อัชชะมาอิลมุฮัมมะดียะฮ์

ต้นร็อยฮาน  เป็นต้นไม้ที่มีกลิ่นหอม  เป็นพืชที่มีต้นกำเหนิดจากสวนสวรรค์  ดังนั้นต้นร็อยฮานได้ถูกสร้างมาในโลกดุนยาด้วย  ก็เพื่อให้มนุษย์ได้กล่าวถึงมันและได้หวนรำลึกถึงสวรรค์  และทำอะมัลที่ดีงามเพื่อให้ได้รับความโปรดปรานของอัลเลาะฮ์ตะอาลา  ซึ่งหนึ่งในนั้นคือสวรรค์นั่นเอง

[al-azhary]

ต้นร็อยฮาน  เป็นต้นไม้ที่มีกลิ่นหอม  เป็นพืชที่มีต้นกำเหนิดจากสวนสวรรค์  ดังนั้นต้นร็อยฮานได้ถูกสร้างมาในโลกดุนยาด้วย  ก็เพื่อให้มนุษย์ได้กล่าวถึงมันและได้หวนรำลึกถึงสวรรค์  และทำอะมัลที่ดีงามเพื่อให้ได้รับความโปรดปรานของอัลเลาะฮ์ตะอาลา  ซึ่งหนึ่งในนั้นคือสวรรค์นั่นเอง

ต้นร็อยฮาน  الريحان  "คือต้นใบโหระพาหรือต้นแมงลัก" บ้านเรานั่นเอง  อันนี้ผมไม่รู้ชัดเจนว่าเป็นอันใดจากทั้งสองนี้ เรามาดูรูปของต้นร็อยฮานก็ดีกว่าแล้วบอกว่าเป็นต้นอะไรกันแน่

[al-firdaus~*]

อะจึ๋ย   

เพิ่งเอามาใส่ใน  ผัดเครื่องแกงหอยลาย

เมื่อเช้านี้เอง 

[ILHAM]

อะจึ๋ย   

เพิ่งเอามาใส่ใน  ผัดเครื่องแกงหอยลาย

เมื่อเช้านี้เอง 

ไม่เอามาแบ่งกันมั่งเลย เบื่อมาม่าปลากระป๋องแล้ว

[al-firdaus~*]

หมดแระ

เหลือแต่ใบร็อยฮาน    เอาป่าว   

[al-firdaus~*]

สำหรับกรณีที่สตรีอยู่ในบ้าน  ก็สามารถใช้น้ำหอมหรือของหอมตามที่ต้องการ  ไม่ว่าจะปรากฏกลิ่นหอมหรือไม่ก็ตามเพื่อสามีจะได้เชยชมได้รับกลิ่น  ยิ่งตอนที่ร่วมหลับนอนนั้นก็สมควรอย่างยิ่งที่สามีภรรยาต้องใส่น้ำหอม  เพื่อจะได้มีความรัญจวญใจระหว่างทั้งสอง 

สงสัยค่ะ....

หากว่าสตรีใส่น้ำหอมในบ้าน เพื่อสามีจะได้เชยชมดมกลิ่น (แบบใส่เต็มที่เลย)

ต่อมาซักครู่ มีธุระต้องเดินทางออกนอกบ้าน  กะทันหัน  กลิ่นน้ำหอมก็ยังคงมีอยู่

แล้วกลิ่นน้ำหอมดันไปเตะจมูกของชายอื่น  สตรีผู้นั้นจะบาปหรือไม่

หรือขึ้นอยู่กับเจตนาเดิมของสตรีผู้นี้