ผู้เขียน หัวข้อ: แตกประเด็นจากการดูเดือนด้วยดาราศาสตร์อิสลาม  (อ่าน 1224 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Haytham

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 91
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด

                      หมายเหตุ  กระทู้นี้มิได้มีเจตนาที่จะสร้างความบั่นทอนความน่าเชื่อถือของผู้ใดหรือสร้างความแตกแยกใดๆทั้งสิ้น
  หากแต่หวังจะได้ข้อมูลเชิงวิพากษ์อย่างสร้างสรรค์ว่าเกิดกรณีเช่นนี้ได้อย่างไร         
             
เดิม
ปกติ       นายสวาสดิ์ สุมาลยศักดิ์ จุฬาราชมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ได้ออกประกาศเรื่องกำหนดวันอีดิ้ลอัดฮา ประจำปีฮิจญเราะห์ศักราช 1428 โดยระบุว่า “อาศัยอำนาจจุฬาราชมนตรี ผู้นำกิจการศาสนาอิสลามขอประกาศว่า วันที่ 10 ของเดือนซุ้ลฮิจยะห์ ซึ่งเป็นวันอีดิ้ลอัดฮาตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 20 ธันวาคม พ.ศ.2550”
           ทำให้ อังคารที่ 8 มค.51 =29 ซุลฮิจญะฮ์ 1428
                     พุธที่ 9  มค.51    =30 ซุลฮิจญะฮ์ 1428
           และ พฤหัสบดีที่ 10  มค.51=1 มุฮัรรอม 1429
 
           กลับกัน   รัฐบาลซาอุดิอาราเบีย ได้ประกาศผลการดูจันทร์เสี้ยวข้างขึ้นเพื่อกำหนดวันที่ 1 ของเดือนซุลฮิจญะห์ว่า ในเย็นวันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม เวลาหลังตะวันลับขอบฟ้า ปรากฏมีผู้เห็นจันทร์เสี้ยว
ฉะนั้นวันที่ 1 ของเดือนซุลฮิจญะห์ในปีนี้ จึงตรงกับวันจันทร์ที่ 10 ธันวาคม 2550 และวันวุกูฟ
วันอะรอฟะห์ ตรงกับวันอังคารที่ 18 ธันวาคม 2550
ดังนั้นวันอีดิ้ลอัฏฮาในปีนี้จึงตรงกับวันพุธที่ 19 ธันวาคม 2550   สำหรับนักวิชาการมุสลิมบางคนที่ยึดตามประกาศของรัฐบาลซาอุดีออกอีดวันพุธที่ 19 ธันวาคม 2550   ในประเทศไทย

                 แต่เมื่อ
                                     
                                      http://www.spa.gov.sa/details.php?id=516299  จากซาอุดี เพรส เอเจนซี่
بسم الله الرحمن الرحيم

وكالة الأنباء السعودية تحييكم وتبدأ إرسالها معكم ليوم
الخميس 1 محرم 1429هـ الموافق 10 يناير 2008م 0603 ت م


                   ทำให้

                                                                         http://www.mureed.com/mr_talk/bview.asp?id=8938  จาก web อ.มูรีด
คำถามที่ : 8938
คำถาม : 1 มุหัรรอม 1429 ตรงกับวันที่ 9 มกราคม 2551 จริงหรือ 
อยากให้อาจารย์เสนอหลักฐานที่บอกว่าวันที่ 1 มุหัรรอม 1429 ตรงกับวันที่ 9 มกราคม 2551 มีคนเห็นจันทร์เสี้ยวที่ไหน ประเทศไหนเห็น ประกาศรับรองโดยหน่วยงานไหน มีภาพด้วยยิ่งดี เพื่อให้มีความน่าเชื่อถือมากขึ้นนะครับ by: Ali - - 14/1/2008 

คำตอบ : อัสสลามุอะลัยกุมครับ
 คืออย่างนี้ครับ ผมเองก็ติดตามข่าวจากเว็บไซต์ๆ และจากพี่น้องที่สามารถติดต่อกับต่างประเทศเพื่อสอบถามวันที่ 1 มุหัรฺร็อม

ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่า เราตามวันกำหนดของวันอะเราะฟะฮฺ ฉะนั้นวันที่ 29 ของเดือนซุลหิจญะฮฺของเราก็จะเร็วกว่าหนึ่งวัน ซึ่งปรากฎว่าในวันที่ 29 ซุลหิจญะฮฺไม่มีการเห็นเดือน ปฏิทินซาอุฯ นับ 30 วัน ดังนั้นวันที่ 1 มุหัรฺร็อม จึงตรงกับวันพุธที่ 9 มกราคม 51, วันอาชูรอจึงตรงกับวันศุกร์ที่ 18 มกราคม 51 นั่นเองครับ. والله أعلم 

ออฟไลน์ Haytham

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 91
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
http://www.mureed.com/article/Eid_No_Wait/Eid_No_Wait.htm

เหตุผลที่ไม่ปฏิบัติตามที่ท่านจุฬาราชมนตรีประกาศวันอีดิลอัฎฮา มีเหตุผมดั่งนี้ครับ

     1. สำนวนที่กล่าวว่า " มุสลิมอยู่ในประเทศไหนๆ ต้องตามผู้นำประเทศนั้นๆ " ต้องถามก่อนนะครับว่า ผู้นำประเทศมุสลิมนั้นๆ ที่เราจะต้องปฏิบัติตามเขานั้น เป็นผู้นำประเภทไหน? หากเป็นผู้นำอย่างประเทศซาอุดิอาระเบีย นั่นแน่นอนครับที่เราต้องตาม เพราะผู้นำของเขามีอำนาจสั่งการต่างๆ เช่นสั่งการให้ลงโทษผู้ที่กระทำความผิดหลักการของศาสนา เช่น หากทำซินา ก็ให้เฆี่ยนเป็นต้น เช่นนี้ไม่ตามไม่ได้ครับ วาญิบต้องตามครับ, แต่ผู้นำมุสลิมในเมืองไทยเป็นผู้นำที่ทางรัฐบาลกำหนดให้มีตำแหน่งผู้นำมุสลิมโดยให้ชื่อว่า ตำแหน่งจุฬาราชมนตรี ซึ่งเป็นผู้นำมุสลิมที่ไม่สามารถออกกฎหมายหรือลงโทษผู้หนึ่งผู้ใดหากใครทำผิดหลักการของศาสนา ผู้นำประเภทนี้ไม่วาญิบต้องตามนะครับ อีกทั้งทางรัฐบาลยังกำหนดบทบาทของตำแหน่งจุฬาราชมนตรีไว้แค่เป็นผู้นำของปวงมุสลิมในประเทศไทย และเป็นผู้ประกาศการเห็นดวงจันทร์เท่านั้นนะครับ ส่วนการยกหลักฐานหะดีษของท่านรสูลุลลอฮฺที่กล่าวว่า " إنما جعل الإمام ليؤتم به "  ความว่า "แท้จริงอิมามถูกแต่งตั้ง (นำนมาซ) เพื่อถูกตาม" (บันทึกโดยมุสลิม) เป็นเรื่องหน้าที่ของอิมามนำนมาซฟัรฺฎูไม่ใช่ ผู้นำประเทศ หรือ ไม่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งการตามจุฬาราชมนตรีแม้แต่น้อยนะครับคนละประเด็นกัน, ถ้าหากนำหะดีษข้างต้นมาเป็นหลักฐานอ้างอิงว่าจะต้องตามผู้นำในเมืองไทยแล้วไซร้ ถ้าเช่นนั้นสมมติว่า ท่านจุฬาฯ หรือสำนักจุฬาราชมนตรีของเราไปออกตราหะลาล (حلال) ให้กับยาดองเหล้ายี่ห้อหนึ่ง (สมมตินะครับ)  ถามว่ามุสลิมในประเทศไทยสามารถซื้อยาดองเหล้ายี่ห้อนั้นมาดื่มได้หรือไม่? ถ้าเราบอกว่าเราตามผู้นำ หรือตามสำนักจุฬาราชมนตรีเราก็ต้องซื้อมาดื่มนะซิครับ ทั้งๆ ที่รู้ว่ายาดองเหล้านั้น เป็นเหล้าชนิดหนึ่ง ดื่มแล้วทำให้มึนเมา เมื่อเป็นสิ่งมึนเมาศาสนาถือว่าหะรอม (حرام), ฉันใดก็ฉันนั้น วันวุกูฟ หรือวันอะเราะฟะฮฺมีอยู่ที่เดียวบนโลกดุนยานี้เท่านั้น เมื่อทางรัฐบาลซาอุฯ ประกาศว่าวันศุกร์ที่ 29 ธันวาคม 2549 ตรงกับวันอะเราะฟะฮฺ อีกทั้งสุนนะฮฺของท่านนบีก็กำชับให้ถือศีลอดในวันดังกล่าว ถัดจากวันดั่งกล่าวก็เป็นวันอีดิลอัฎฮา การที่เราทำเช่นนี้เราทำตามตัวบทหลักฐาน (ดั่งที่ผมกล่าวมาแล้วข้างต้น) ปฏิบัติสุนนะฮฺของท่านนบีทุกประการ เมื่อทำตามหลักการข้างต้นแล้วจะไม่ตรงกับคำประกาศของสำนักจุฬาราชมนตรีก็ไม่มีปัญหาแต่ประการใด เพราะหลักการของศาสนาจะต้องมีความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด

     ตัวอย่างการไม่ปฏิบัติผู้นำโดยเห็นว่าคำสั่งของผู้นำที่ขัดกับหลักการของศาสนา หรือมีทัศนะไม่ตรงกับผู้นำ

     "ท่านอิมามอะหฺมัด อิบนุฮัมบัล เป็นอุละมาอฺหนึ่งในสี่มัซฮับโดยรู้จักในนาม "มัซฮับฮัมบะลีย์" ท่านอิมามอะหฺมัดอยู่ในยุคของเคาะลีฟะฮฺอัลมะมูน แห่งราชวงศ์อัลอับบาสียะฮฺ ซึ่งยึดมั่นในมัซฮับมุอฺตะซิละฮฺ โดยเขามีความคิดว่า อัลกุรฺอานคือมัคลูกฺ ( مخلوق  สิ่งถูกสร้าง) แล้วเขาก็นำเสนอแนวคิดข้างต้นให้กับประชาชาน และบรรดาอุละมาอฺในยุคนั้น จนกระทั่งอุละมาอฺในยุคนั้นต่างพากันเห็นด้วยในแนวคิดของเคาะลีฟะฮฺท่านนั้น โดยเขาส่งสาส์นไปยังบรรดาอุละมาอฺในยุคนั้น เหล่าบรรดาอุละมาอฺในยุคนั้นต่างก้มหัวและยอมรับความคิดเห็นของเคาะลีฟะฮฺท่านนั้นด้วยความเกรงกลัวอำนาจและอิทธพล รวมทั้งเกรงว่าจะถูกทรมารถ้าหากแสดงความเห็นใดๆ ไปในทำนองคัดค้านออกมา, ส่วนท่านอิมามอะหฺมัดกลับปฏิบัติตรงกันข้าม กล่าวคือ อิมามอะหฺมัดปฏิเสธไม่ยอมน้อมรับความเห็นเช่นนั้น โดยยืนหยัดอยู่บนแนวทางอันเที่ยงตรงและถูกต้อง โดยไม่หวาดเกรงต่ออำนาจอิทธิพลใดๆ ของเคาะลิฟะฮฺท่านนั้น ท่านอิมามอะหฺมัดยังคงยืนยันว่า อัลกุรฺอานนั้นคือ กะลามุลลอฮฺ ( كلام الله ) กล่าวคือ คัมภีร์อัลกุรฺอ่าน คือคำดำรัสของพระองค์อัลลอฮฺ ฉะนั้นอัลกุรฺอานจึงไม่ใช่สิ่งถูกสร้างจากอัลลอฮฺ เพราะหากเข้าใจเช่นนั้นเป็นการเข้าใจที่ผิดไปจากอะกีดะฮฺที่ถูกต้อง , เมื่อเคาะลิฟะฮฺทราบเรื่องก็สั่งให้จับกุมท่านอิมามอะหฺมัด แต่ระหว่างการคุมตัวอยู่นั้น เคาะลีฟะฮฺมะมูนก็สิ้นชีวิตเสียก่อน, แต่ลูกชายของเขาคือมะอฺตะซิมเป็นผู้ตัดสินอิมามอะหฺมัดแทนพ่อของเขา โดยพ่อของเขาได้สั่งเสียไว้เช่นนั้น , ครั้นเคาะลีฟะฮฺมะอฺตะซิมสอบถามท่านอิมามอะหฺมัดถึงอัลกุรฺอานว่าเป็นอะไร? ท่านอิมามก็ยืนยันเช่นเดิมว่า อัลกุรฺอานคือ คำดำรัสของพระองค์อัลลอฮฺ, เมื่อเคาะลีฟะฮฺรู้ว่าไม่สามารถเปลี่ยนใจอิมามอะหฺมัดได้เลย, เขาจึงสั่งเฆี่ยนท่านอิมามอะหฺมัดจนสลบหมดสติ กระทำเช่นนั้นอยู่หลายครั้ง แล้วยังคุมขังอิมามอะหฺมัดเป็นเวลานานถึง 2 ปี 6 เดือน แล้วพวกเขาจึงปล่อยอิมามอะหฺมัดเป็นอิสระ" หวังว่าตัวอย่างของท่านอิมามอะหฺมัด บุตรของฮัมบัลจะทำให้มุสลิมในเมืองไทยแยกแยะออกนะครับว่า ระหว่างคำสั่งของผู้นำ กับความถูกต้องของหลักการศาสนาเราจะเลือกสิ่งไหน?     

     ส่วนที่อ้างว่าผู้นำยึดถือมัซฮับใด หรือตัดสินปัญหาใด มุสลิมในประเทศนั้นต้องปฏิบัติเพราะความสามัคคีเป็นหนึ่งเดียว ถ้าเช่นนั้นช่วยยกตัวบทหลักฐานจากอัลกุรฺอาน หรือหะดีษให้ผมฟังหน่อยซิครับว่า วาญิบต้องตามมัซฮับเหมือนผู้นำประเทศ หากมีหลักฐานผมคนหนึ่งจะปฏิบัติเช่นนั้น หากไม่มีแล้วมากล่าวลอยๆ ให้ชาวบ้านหลงเชื่อได้อย่างไร?, อีกทั้งเจ้าของมัซฮับเองยังบอกเลยว่า อย่ามาตามฉัน หากฉันพูดขัดกับสุนนะฮฺของท่านนบีก็ให้ยึดสุนนะฮฺของท่านนบีไว้และละทิ้งคำพูดของฉันเสีย. ใช่แต่เท่านั้น พระองค์อัลลอฮฺตรัสไว้ในอัลกุรฺอานว่า "ผู้ศรัทธาทั้งหลายจงเชื่อฟังอัลลอฮฺ และเชื่อฟังรสูลเถิด และผู้ปกครองในหมู่พวกเจ้าด้วย, แต่ถ้าพวกเจ้าขัดแย้งกันในสิ่งหนึ่ง ก็จงนำสิ่งนั้นกลับไปยังอัลลอฮฺและรสูล" (สูเราะฮฺอันนิสาอฺ : 59) โปรดพิจารณาคำสั่งของอัลลอฮฺนะครับ พระองค์ตรัสว่า หากพวกเราขัดแย้งกันในเรื่องหนึ่ง ให้นำเรื่องนั้นไปกลับไปหาอัลลอฮฺและรสูลของพระองค์ ทั้งๆ ที่สำนวนอัลกุรฺอ่านก่อนหน้านี้กล่าวถึงให้เชื่อฟังอัลลอฮฺ, เชื่อฟังรสูล และให้ปฏิบัติตามผู้นำ แต่พอมีปัญหาพระองค์อัลลอฮฺทรงให้บ่าวของพระองค์กลับไปหาอัลลอฮฺ และรสูลเท่านั้นไม่พูดถึงผู้นำแม้แต่น้อย เพราะผู้นำเป็นมนุษย์อาจจะฟัตวา (ตัดสินปัญหา) โดยตัดสินเข้าข้างตนเอง หรือพรรคพวกของตนเองก็ได้, ฉะนั้นการอ้างอิงผิดที่จึงทำให้ชาวบ้านเข้าใจผิดอย่างไม่ต้องสงสัยนะครับ

     2. พระองค์อัลลอฮฺตรัสไว้ในอัลกุรฺอานว่า "ผู้ศรัทธาทั้งหลายจงเชื่อฟังอัลลอฮฺ และเชื่อฟังรสูลเถิด และผู้ปกครองในหมู่พวกเจ้าด้วย, แต่ถ้าพวกเจ้าขัดแย้งกันในสิ่งหนึ่ง ก็จงนำสิ่งนั้นกลับไปยังอัลลอฮฺและรสูล" (สูเราะฮฺอันนิสาอฺ : 59) ดังนั้น ผู้นำจะต้องเชื่อฟังอัลลอฮฺ และเชื่อฟังรสูลซึ่งเป็นเงื่อนไขของผู้นำมุสลิม, ท่านรสูลุลลอฮฺกล่าวว่า " لا طاعة لمخلوق في معصية الخالق" ความว่า "ไม่มีการเชื่อฟังในเรื่องการฝ่าฝืนอัลลอฮฺ" (บันทึกโดยอะหฺมัด) ฉะนั้นผู้ตามไม่อนุญาตให้ตามผู้นำที่สั่งใช้ในเรื่องที่ขัดกับหลักการของศาสนาอย่างแน่นอน นี่คือประเด็นหนึ่งที่เป็นเงื่อนไขของการตาม, ส่วนกรณีที่ท่านจุฬาราชมนตรีประกาศว่าวันอีดิลอัฎฮา (ปี 2549) ตรงกับวันอาทิตย์นั้น ผมขอชี้แจงดั่งนี้ว่า ไม่มีจุฬาราชมนตรีท่านใดครับ แม้กระทั่งจุฬาราชมนตรีคนปัจจุบันที่ระบุว่า พี่น้องมุสลิมทุกคนในประเทศไทยต้องเข้าบวชหรือออกบวชตรงกับสำนักจุฬาราชมนตรี หรือต้องนมาซอีดิลอัฎฮาตรงกับสำนักจุฬาฯ ไม่ได้มีข้อบังคับเช่นนั้น เพราะอะไร? เพราะท่านรสูลุลลอฮฺกล่าวไว้ว่า " يوم عرفة ويوم النحر وأيام التشريق عيدنا أهل الإسلام وهي أيام أكل وشرب " ความว่า "วันอะเราะฟะฮฺและวันนะหฺริและวันตัชรีก คือวันอีดของพวกเราชาวอิสลาม คือวันแห่งการกินและการดื่ม" (บันทึกโดยใครนั้นอ้างแล้วก่อนหน้านี้) เมื่อวันอีดิลอัฎฮาเป็นวันอีดสำหรับมุสลิมทุกคนซึ่ง เป็นคำสอนของท่านนบีมุหัมมัดที่ชัดเจนที่สุดอีกทั้งยังมีหลักฐานสนับสนุนอีกจำนวนมากซึ่งอ้างมาแล้วก่อนหน้านี้ เมื่อหลักฐานยืนยันชัดเจนเยี่ยงนั้น ไม่มีความจำเป็นอีกแล้วสำหรับมุสลิมที่จะไปเลือกแนวทางอื่นมาปฏิบัติ ด้วยเหตุผลข้างต้น เราก็ปฏิบัติตามตัวบทของหะดีษข้างต้นที่ว่าไว้ด้วยการรับฟังการประกาศวันอะเราะฟะฮฺ และวันอีดิลอัฎฮาดั่งที่ศาสนาระบุไว้นั้น แม้ว่าการประกาศนั้นจะไม่ตรงกับสำนักจุฬาก็ตามเถิด ฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลยที่เราจะปฏิบัติตามศาสนาที่เรายึดว่านั่นคือความเข้าใจที่ใกล้เคียงถูกต้องตรงกับสุนนะฮฺมากที่สุด แล้วมากล่าวหาเราว่าไม่เชื่อฟังผู้นำ ซึ่งคนละประเด็นกัน ต้องย้ำว่า คนละเรื่องกันเลยครับ ส่วนการไปเปรียบเทียบกับอิมามนำนมาซก็เป็นอีกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับสิ่งที่กล่าวมาข้างต้น เพราะสิ่งที่เรากล่าวถึงคือเราต้องการปฏิบัติสิ่งที่ถูกต้องตรงกับสุนนะฮฺของท่านรสูลให้มากที่สุดเท่านั้นเอง ฉะนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่มุสลิมจะยอมเชื่อฟังผู้นำเพียงเพราะความสามัคคีแต่เรื่องความถูกต้องตรงกับสุนนะฮฺของท่านนบีฉันไม่ต้องพิจารณา หรือฉันให้ความสำคัญความถูกต้องนั้นเป็นอันดับรอง. والله أعلم بالصواب والسلام

ออฟไลน์ Haytham

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 91
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
        ส่วนข้างล่างนี้เป็นวิธีคิดและความเข้าใจของผู้ที่ตักลีดตาม
http://www.islaminside.com/Lufee/1322/%B5%E9%CD%A7%B5%D2%C1%BC%D9%E9%B9%D3%3F+%E1%C1%E9%C7%E8%D2%C1%D1%B9%BC%D4%B4%A1%C3%D0%B9%D1%E9%B9%CB%C3%D7%CD%3F%3F%3F.html
         ทั้งๆที่ใครๆก็รู้ว่า
อีดอัดฮานั้นต้องตามเมกกะ   แต่ก็ยังมีการอีดตามจุฬาฯ??ท   ทำไมสังคมเราต้องเป็นอย่างนี้และต้องเป็นแบบนี้อีกถึงเมื่อไรกัน   
รู้ว่าผิด ยังไปตามเขา รู้ว่าไม่ถูก แต่ก็ไม่กล้าพูด รู้ว่าเฟอะฟะ แต่ก็ยังนับถือเป็นผู้นำ

ไม่เข้าใจเลยจริงๆ

พวกนาซอรอ และยาฮูดีนั้น ดูถูกชาวไทย หาว่าไทย ล้าหลัง คอรับชั่นเยอะที่สุดหนึ่งใน5อันดับแรก และ ฯลฯ

แต่เราก็ต้องถูกผู้ที่ไม่ใช่มุสลิมดูถูกเข้าไปอีก ว่า แม้แต่พวกเดียวกันยังแตกคอกัน

อันที่จริง ในเมื่อเรารู้ว่า คนบางคนไม่เหมาะเป็นผู้นำ

เราไม่จำเป็นต้องตามเขาก็ได้นี่นา เราตามกุรอานและซุนนะสิ

ทำไมต้องรายอ 2 วัน?

ทำไมต้องแตกแยก?

ทำไมจึงจมปลักอยู่กับความงมงายในตัวผู้คน?

และทำไม คนที่รู้ความจริง จึงไม่กล้าบอก

หรือต้องเป็นอยู่อย่างนี้ อีกสัก 100 ปีแล้วค่อยพัฒนา?

หรือต่อไป เขาบอกอะไรก็ต้องตาม เงียบไว้ จะได้ไม่แตกแยก???

หรือต่อไป ต้องเชื่อฟังเขา แม้สิ่งนั้นจะผิด

เพราะเขาคือ ผู้นำ??????????????????

 



ออฟไลน์ Haytham

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 91
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
                          เมื่อรัฐบาลซาอุดีประกาศวันที่ พฤหัสบดีที่ 10  มค.51=1 มุฮัรรอม 1429
                          ทำให้เดือนซุลฮิจญะฮ.มี31 วัน

                          เกิดอะไรขึ้น
                 

ออฟไลน์ Goddut

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 854
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
แล้วพวกเขาก็กล่าวหลังจากเมื่อเขาตอบไม่ได้ว่า... เขาไม่ตามเพราะผู้นำ...

มันทำให้...
คนเอาวาม ที่ไม่มีความรู้
ผู้รู้ ที่ไม่เข้าใจสถานะผู้นำ
ผู้คน ที่ไม่รู้จักผู้นำเป็นการส่วนตัว

คนเหล่านี้ น่าสงสาร เพราะเขาอาจจะกำลัง ฮุก่มคนๆ หนึ่ง แบบผิดๆ ด้วยกับความรู้เท่าไม่ถึงการ



นะอูซุบิลลา
วัสลาม...

ออฟไลน์ colidlayla

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 111
  • Respect: -1
    • ดูรายละเอียด
        ส่วนข้างล่างนี้เป็นวิธีคิดและความเข้าใจของผู้ที่ตักลีดตาม
http://www.islaminside.com/Lufee/1322/%B5%E9%CD%A7%B5%D2%C1%BC%D9%E9%B9%D3%3F+%E1%C1%E9%C7%E8%D2%C1%D1%B9%BC%D4%B4%A1%C3%D0%B9%D1%E9%B9%CB%C3%D7%CD%3F%3F%3F.html
         ทั้งๆที่ใครๆก็รู้ว่า
อีดอัดฮานั้นต้องตามเมกกะ   แต่ก็ยังมีการอีดตามจุฬาฯ??ท   ทำไมสังคมเราต้องเป็นอย่างนี้และต้องเป็นแบบนี้อีกถึงเมื่อไรกัน   
รู้ว่าผิด ยังไปตามเขา รู้ว่าไม่ถูก แต่ก็ไม่กล้าพูด รู้ว่าเฟอะฟะ แต่ก็ยังนับถือเป็นผู้นำ

ผมว่าคุณเข้าใจผิดแล้วล่ะ เขียนก็ผิด นะตอนที่คุณละหมาดอีดนั้น ที่ซาอุ บางคนยังไม่ตื่นเลยนะผมว่า เวลาคุณจะบอกกล่าวไห้คนอื่นฟังไห้เข้าใจอย่างถ่องแท้ คุณต้องบอกว่าเราต้องนำ
ซาอุนะเพราะเราเริ่มละหมาดก่อนเรานียัตถือศีลอดก่อนเราเชือดกุรบ่านก่อน  ถึงจะถูกหรืออัฟด้อล กว่าหรือเปล่า หรือทำก่อนได้เปรียบ
พอทีหลังเขียนก็จะบอกได้ว่าเรา นำซาอุ ไม่ไช่ตาม ซาอุ

ออฟไลน์ Goddut

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 854
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
เปิดไปเปิดมา ดันกลับมาเจอ
เอ้า ถาม จขกท หน่อยว่า
รู้ไหมว่า วันนึงมี 24 ชม.  เอาแค่นั้น ตีโจทย์นี้ให้แตก แล้วจะรู้ว่า ตามซาอุ เขาตามกันยังไง

วัสลาม...