ท่านอัลหาฟิซฺ อัซซัยิด อะห์มัด บิน มุฮัมมัด บิน อัศศิดดีก อัลฆุมารีย์
ท่านคือ อัซซัยิด อะห์มัด บิน มุฮัมมัด บิน อัศศิดดีก บิน อะห์มัด บิน มุฮัมมัด บิน กอซิม บิน มุฮัมมัด บิน มุฮัมมัด บิน อับดุลมุอ์มิน โดยเชื้อสายของเขาสิ้นสุดไปยัง ท่านอิดรีส อัลอักบัร ผู้เปิดเมืองมอร๊อกโค(มัฆริบ) ซึ่งท่านเป็น บุตร ของอับดุลเลาะฮ์ อัลกามิล บุตร ท่านอัลหะซัน อัลมุซันนา บุตร ของท่าน อัลหะซัน (หลานของท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) บุตร ของท่านอะลี บิน อบีฏอลิบ
ท่านมีนามฉายาว่า อบี ฟัยฏ์ และอบี อัลค๊อยร์ คุณตาของท่าน เป็นอิมาม นักตัฟซีรอัลกุรอาน อีกทั้งเป็นนักปราชญ์ตะเซาวุฟ คือท่าน อัซซัยยิด อะห์มัด อิบนุ อะญีบะฮ์ อัลหะสะนีย์ ผู้อธิบายหนังสือ ฮิกัม อิบนุ อะฏออิลลาฮ์ ซึ่งท่านก็มีเชื้อสายทางท่าน ซัยยิดินา อัลหะซัน เช่นนั้น ดังนั้น ท่านซัยยิด อะห์มัด อัลฆุมารีย์ จึงมีเชื้อสายท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ทั้งทางด้านของบิดาและมารดา
ท่านเกิดที่เผ่าบนีสะอีด ซึ่งเป็นเครือญาติของเผ่าฆุมาเราะฮ์ ท่านเกิดในวันศุกร์ ที่ 7 เดือน รอมะฏอน ปี ฮ.ศ. 1320 หลังจากเกิดได้สองเดือน บิดาของท่านจึงกลับไปยังฏ๊อนญะฮ์ และในขณะที่ท่านอายุได้ 5 ขวบ บิดาของท่านได้พายังสถาบันท่องจำอัลกุรอาน
หลังจากที่ท่านได้ท่องจำอัลกุรอานและรู้หลักวิธีการอ่านอย่างสมบูรณ์แล้ว ท่านจึงท่องจำ หนังสืออัลอะญูรูมียะฮ์ , หนังสืออัลมุรชิด อัลมุอีน , หนังสือบุลูฆุลมะรอม , หนังสืออัซซะนูซีย์ , หนังสืออัลฟียะฮ์ อิบนุ มาลิก , หนังสือ เญาฮะเราะฮ์ อัตเตาฮีด , หนังสือ อัลบัยกูนียะฮ์ , และบางส่วนของหนังสือ มุกตะซ๊อร ค่อลีล และอื่น ๆ
หลังจากนั้น ท่านได้ทำการศึกษากับอาจารย์ของท่าน คือ บูดุรเราะฮ์ เกี่ยวกับ วิชา นะห์ฮู , ซ๊อรฟ์ , ฟิกห์มัซฮับมาลิกีย์ , เตาฮีด , และศึกษากับบิดาของท่าน ใน ญาเมี๊ยะอ์ อัลก่อบีร กับวิชา นะห์ฮู , ฟิกห์ , หะดิษ , บิดาของท่านมีความเข้มงวดในเรื่องของศึกษาของท่าน ซัยยิด อัลฆุมารีย์ เป็นอย่างมาก ท่านได้ทำการสอนทบทวนหลากหลายวิชาด้วยกัน บิดาของท่านได้ส่งเสริมให้ทุ่มเทและพากเพียรแสวงหาความรู้ อีกทั้งเล่าประวัติของบรรดาอุลามาอ์ทั้งหลาย เพื่อให้เป็นแบบอย่างและดำเนินตามแนวทางของพวกเขา
ในปี ฮ.ศ.1339 ท่านเดินทางถึง กรุงไคโร เพื่อทำการศึกษากับบรรดาอุลามาอ์ อัล-อัซฮัร ตามคำแนะนำของบิดา ท่านได้อ่านตำรากับบรรดาชัยค์ผู้ทรงความรู้ทั้งหลาย เช่น ท่านชัยค์ มุฮัมมัด อิมาม บิน อิบรอฮีม อัศศะกอ อัชชาฟิอีย์ ซึ่งท่านได้สอน ชัรฮ์ อัลกุฟรอวีย์ (อธิบายหนังสือ อัลอะญูรุมียะฮ์) , หนังสือ อิบนุ อะกีล , หนังสือ อัลอัชมูนีย์ , หนังสืออัสสุลลัม อธิบายโดย ท่านอัลบาญูรีย์ , หนังสือ เญาฮะเราะฮ์ อัตเตาฮีด , หนังสือ ชัรห์ อัตตะห์รีร ของท่านชัยคุลอิสลาม อัชชั๊รกอวีย์ เกี่ยวกับฟิกห์มัซฮับชาฟิอีย์ และอื่น ๆ
อาจารย์ของท่านมีความทึ่งและประทับใจในความเฉลียวฉลาด ความเข้าใจอย่างรวดเร็ว และความพากเพียรในการศึกษาของท่านเป็นอย่างมาก อาจารย์ของท่านกล่าวว่า "บิดาของท่านต้องเป็นคนมีคุณธรรมอย่างยิ่ง นี้คงเป็นความศิริมงคล(บะรอกัต)ของเขา" เพราะบรรดานักศึกษาทั้งหลาย จะยังไม่สามารถเข้ามาเรียนหนังสือ อัลอัชมูนีย์ ที่อธิบายท่านอัซซ๊อบบาน ได้ นอกจากต้องศึกษาวิชา นะห์ฮูถึง 6 ปี อ่านหนังสืออัลอะญูรุมียะฮ์ ก่อตาร์ และอื่น ๆ เสียก่อน แต่ท่านสามารถพ้นระดับนั้นมาได้เพียงแค่ 3 เดือนเท่านั้นเอง ซึ่งสิ่งดังกล่าวนี้เป็นที่เลื่องลือในหมู่อุลามาอ์ทั้งหลาย
ส่วนหนึ่งจากบรรดาอาจารย์ของท่านที่อียิปต์ เช่น ชัยค์ของนักปราชญ์อัชชาฟิอียะฮ์ คือท่านอัชชัรกอวีย์ ที่รู้จักในนาม ท่านอันนัจญ์ดีย์ , ชัยค์ของบรรดาอุลามาอ์ทั่วโลก มุฟตีแห่งประเทศอียิปต์ คือท่านชัยค์ มุฮัมมัด บะคีต อัลมุฏีอีย์ , ชัยค์ มุฮัมมัด อัซซะมัลลูฏีย์ อัลมาลิกีย์ , ชัยค์นักปราชญ์มัซฮับมาลิกีย์ คือท่าน อะห์มัด บิน นัสร์ อัลอะดะวีย์ , ท่านชัยค์ มุฮัมมัด หัสนัยน์ มัคลูฟ อัลอะดะวีย์ อัลมาลิกีย์ , ท่านชัยค์ มะห์มูด ค๊อฏฏ๊อบ อัศศุบกีย์ อัลมาลิกีย์ , และท่านอื่น ๆ
และท่านมีบรรดาอาจารย์เกี่ยวกับ การได้ยินและรับสายรายงานหะดิษ เช่น ท่านอัซซัยยิด อัลมุหัดดิษ มุฮัมมัด บิน ญะอ์ฟัร อัลกิตตานีย์ , ท่านอัซซัยยิด มุฮัมมัด บิน อิดรีส อัลกอดิรีย์ , ท่านอัซซัยยิด อะห์มัด บิน อัลค๊อยยาฏ อัซซุการีย์ , และนักปราชญ์หะดิษแห่งยุค ท่านอัซซัยยิด อะห์มัด ร่อเฟี๊ยะอ์ อัฏเฏาะฮ์ฏอวีย์ , และอื่น ๆ
ในระหว่างที่ท่านอยู่ที่กรุงไคโร ท่านจำต้องกลับมัฆริบ(โมร๊อคโค)ด่วน อันเนื่องจากมารดาของท่านได้เสียชีวิต
หลังจากท่านกลับมายังกรุงไคโร ท่านได้ทำการศึกษาร่ำเรียนที่อัล-อัซฮัรต่อไป หลังจากนั้น ท่านได้มุ่งศึกษาวิชาอัลอุซูลุลฟิกห์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น จากนั้น ท่านจึงอยู่แต่ในบ้าน เพื่อศึกษาวิชาหะดิษ ทำการท่องจำ และวิเคราะห์สายรายงานหะดิษ ท่านอยู่ภายในบ้านของท่านถึง 2 ปี ท่านจะไม่ออกจากบ้านนอกจากละหมาดญุมุอะฮ์เท่านั้น ท่านจะไม่นอนตอนกลางคืนจนทั่งละหมาดดุฮาเสร็จเรียบร้อยเสียก่อน และท่านก็คงอยู่ในลักษณะเช่นนี้ จนกระทั่งบิดาของท่านเดินทางมาประชุมอัลคิลาฟะฮ์ ในปี ฮ.ศ. 1344 จากนั้น ท่านจึงเดินทางพร้อมกับบิดาของท่าน ไปยังเมืองดะมัชก์ เพื่อเยี่ยมท่าน อัซซัยิด มุฮัมมัด บิน ญะฟัร อัลกิตตานีย์ หลังจากนั้น ก็เดินทางกลับมัฆริบ(โมร๊อคโค)
ท่านอัซซัยิด อะห์มัด อัลฆุมารีย์ ได้อาศัยได้ที่ มัฆริบ(โมร๊อคโค) ประมาณ 4 ปี ท่านจึงมุ่งค้นคว้า ท่องจำ ประพันธ์ เกี่ยวกับวิชาอัลหะดิษ ทำการสอนหนังสือ นัยลุลเอาฏ๊อร และหนังสืออัชชะมาอิล อัลมุฮัมมะดียะฮ์
จากนั้น ปี ฮ.ศ. 1349 ท่านได้เดินทางกลับกรุงไคโร พร้อมกับน้องชาย 2 คน คือท่าน อัซซัยยิด อับดุลเลาะฮ์ และท่านอัซซัยิด มุฮัมมัด อัซซัมซะมีย์ เพื่อทำการศึกษาร่ำเรียนที่ไคโร ในระหว่างที่ท่านอยู่ที่กรุงไคโรครั้งนี้ ท่านได้ประพันธ์ตำรามากมาย ซึ่งเป็นสิ่งสะท้อนให้เห็นถึง ความมั่นคง ความปราดเปรื่องของท่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับวินิจฉัย(อิจญฮาด)ในด้านของอัลหะดิษ

อัซซัยยิด อับดุลเลาะฮ์ บิน มุฮัมมัด อัลฆุมารีย์
บรรดาอุลามาอ์มากมายได้วนเวียนมาเยี่ยมเยือนและขอคำแนะนำเกี่ยวกับวิชาความรู้กับท่าน ทั้งที่ท่านอายุยังน้อย มีอุลามาอ์กลุ่มหนึ่งได้ของให้ท่านอ่านหนังสือฟัตหุลบารีย์พร้อมกับพวกเขา และขอให้ท่านอธิบายหนังสือ มุก๊อดดิมะฮ์ อิบนุ อัศศ่อลาห์แก่พวกเขา จากนั้น ท่านได้ทำการเขียนอัลหะดิษที่มัสยิด อัลหุซัยน์และมัสยิด อัลกิคยา และทำการศึกษาประวัติของนักจำหะดิษ(อัลหุฟฟาซฺ)และนักวิจารณ์หะดิษทั้งหลาย บรรดาอุลามาอ์และนักศึกษาทั้งหลายต่างมีความทึ่งในความจำและความเข้าใจของท่าน และบางครั้ง บรรดาคณาจารย์ของท่านยังต้องการพึ่งพาเกี่ยวกับหะดิษ เช่นท่านชัยค์ บะคีต อัลมุฏีอีย์ , ท่านชัยค์ อัลค่อฏิร หุซัยน์ , ท่านอัซซัยิด อะห์มัด ร่อเฟี๊ยะอ์ อัฏเฏาะฮ์เฏาะวีย์ และท่านอื่น ๆ
ในปี ฮ.ศ. ที่ 1354 ท่านได้เดินทางกลับไปโมร๊อคโค เนื่องจากบิดาของท่านได้เสียชีวิต ท่านจึงรับช่วงทำการสอนแทนบิดาของท่าน ซึ่งท่านได้เน้นสอนเกี่ยวกับวิชาอัลหะดิษ
ท่านอัซซัยยิด อะห์มัด อัลฆุมารีย์ ไม่ใช่เป็นนักปราชญ์ที่เผยแพร่วิชาความรู้เท่านั้น แต่ท่านยังเป็นนักญิฮาดต่อสู้ ท่านได้ต่อสู้และต่อต้านพวกล่าอาณานิคม และพวกเขาพยายามเนรเทศท่านออกจากโมร๊อคโค และท่านเป็นแกนนำในการประท้วงพวกสเปนครั้งแรกในปี ฮ.ศ. 1355 และครั้งที่สอง ในปี ฮ.ศ. 1369 จนในที่สุดท่านถูกตัดสินจำคุก 3 ปีครึ่ง และท่านก็เคยต่อต้านพวกฝรั่งเศสเช่นเดียวกัน
หลังจากที่ท่านถูกปล่อยจากการถูกจำคุก การก่อกวนของพวกล่าอาณานิคมไม่ยอมลดละกับท่านเลย พวกเขาพยายามมุ่งร้ายต่อท่าน ดังนั้น ท่านจึงถูกเชิญให้ออกจากโมร๊อคโค และถึงกรุงไคโร เดือน ร่อเบี๊ยะอ์ ปี ฮ.ศ. 1377 ท่านได้รับการต้อนรับจากสมเกียรติ และท่านมุ่งเน้นให้ความสนใจเกี่ยวกับการประพันธ์หนังสือ จากนั้น ท่านได้เดินทางไปที่หิญาซฺ (ซึ่งขณะนั้นยังไม่ถูกเรียกว่าซาอุฯ) เพื่อไปทำฮัจญ์และอุมเราะฮ์สองครั้ง และเดินทางไปดิมัชก์และหะลับ(ซีเรีย) ปรากฏว่าท่านได้รับการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ บรรดาอุลามาอ์ให้เฉลิมฉลองและให้เกียรติกับท่าน ในขณะที่ท่านเดินไปถึง มีผู้คนมาก ๆ คอยให้การต้อนรับยาวเป็นระยะทางถึง 100 กิโลเมตร และบรรดาอุลามาอ์ทั้งหมด ได้ขอรับอิญาซะฮ์(อนุญาตสารายงานหะดิษจากท่านจนไปถึงท่านนบี) หลังจากเยี่ยมเยือนชาม(ซีเรีย)แล้ว ท่านได้เดินทางยังไปซูดานและผู้คนมาก ๆ ให้การต้อนรับท่านอย่างยิ่งใหญ่
เมื่อท่านกลับมาที่กรุงไคโร ท่านล้มป่วยอย่างหนัก ดังนั้น ท่านได้กลับไปสู่ความเมตตาของอัลเลาะฮ์ ตะอาลา ในวัน อาทิตย์ ต้นเดือน ญะมาดิลอาคิร ปี ฮ.ศ. 1380 ถูกฝังที่กรุงไคโร
นับว่าตลอดชีวิตของท่าน อัซซัยิด อะห์มัด อัลฆุมารีย์ นั้น ท่านได้รับใช้ศาสนาของอัลเลาะฮ์ ท่านเป็นบุรุษนักต่อสู้ ไม่ว่าจะด้วยแรงกาย , คำพูด , ความคิด , การเขียนด้วยปากกา , และทุ่มเทความสามารถทั้งหมดของท่าน เพื่อวิถีทางของอัลเลาะฮ์ ตะอาลา ดังนั้น อัลเลาะฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงประทานความมเกียรติ ความโปรดปราณ คุ้มครองท่าน และทรงโปรยวิทยาการและความเข้าใจต่าง ๆ ที่สติปัญญายังต้องพิศวง
ดังนั้น ท่านอัซซัยยิดอะห์มัด จึงเป็นบุคคลที่โดดเด่นแห่งศตวรรษที่ 14 หลังจากศักยภาพต่าง ๆ ทางด้านความรู้เหล่านี้ได้ขาดหายมาเป็นระยะเวลานาน จนกระทั่งผู้คนคิดกันว่า ยุคสมัยนี้คงไม่มีนักปราชญ์หะดิษเฉกเช่นนี้อีกแล้ว การกล่าวประวัติของท่าน อิมาม อะห์มัด อัลฆุมารีย์นี้ เพื่อเป็นการรำลึกถึงท่าน อิบนุ อัศศ่อลาห์ , ท่านอิมามอันนะวาวีย์ , ท่านอิบนุนาซิรุดดีน , ท่านอิบนุหะญัร อัลอัสเกาะลานีย์ , ท่านอัศศ่อคอวีย์ ซึ่งยุคสมัยหลังจากพวกเขาเหล่านั้น บรรดาผู้คนทั้งหลายขาดนักปราชญ์หะดิษและผู้ชำนาญการเกี่ยวกับหะดิษ จนกระทั่งท่านอัลหาฟิซฺ อะห์มัด อัลฆุมารีย์ คือนักปราชญ์หะดิษแห่งยุคโดยไม่มีผู้ใดโต้แย้ง ท่านได้ดำเนินตามแนวทางของนักปราชญ์หะดิษยุคแรก โดยไม่ได้ตักลีดตามผู้ใดเกี่ยวกับอัลหะดิษ
วัลลอฮุอะลัม