อัสลามุอะลัยกุ้มครับ
คำถามที่ : 2104 และ 587อัสสลามุอาลัยกุม
เรียนถามอาจารย์หน่อยครับ
1.ละหมาดตัสเบี้ยะหฺมีหลักฐานที่มามั้ยครับ ซอเฮียะหฺมั้ย
2.ขณะยืน อิอติดาลนั้น ก่อนสูยุด ให้เราปล่อยแขนตรงข้างลำตัว หรือ วางมือกอดอก เหมือนการยืนละหมาดครับ มีหลักฐานว่าอย่างไรครับ
ยาซากุมุลลอฮ
วัสลาม
โต๊ะครูมัซฮับวะฮาบีย์ตอบ1. นมาซตัสบีหฺคืออะไรและนมาซอย่างไร,นมาซตอนไหน? คำตอบคือ นมาซตัสบีหฺ คือการนมาซสุนนะฮฺประเภทหนึ่งนะครับ แต่ทว่าบรรดานักวิชาการมีทัศนะว่าด้วยหะดีษที่รายงานเกี่ยวกับการนมาซตัสบีหฺแตกต่างกันครับ
ฝ่ายหนึ่งมีทัศนะว่า นมาซตัสบีหฺถือว่าไม่มี เพราะสายงานหะดีษขาดตอน (มุงเกาะฏีอฺ) นั่นเอง หนึ่งในทัศนะนั้นคือ เชคบินบาซ (رحمه الله) ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งระบุว่าหะดีษเกี่ยวกับนมาซตัสบีหฺอยู่ในขั้นหะดีษหะสัน ซึ่งถือว่านำมาเป็นหลักฐานได้ครับ หนึ่งในทัศนะนั้นคือ เชคนาศิรุดดีน อัลบานีย์
ฉะนั้นคุณนาเดียมั่นใจในหลักฐานของฝ่ายไหน? ก็ให้ปฏิบัติไปตามสิ่งที่คุณนาเดียมั่นใจนะครับ, ส่วนทัศนะส่วนตัวผมเห็นด้วยกับทัศนะของฝ่ายแรกนะครับ
2. คำถาม ขณะยืนอิอติดาลนั้น ก่อนสูญูดให้เราปล่อยแขนตรงข้างลำตัว หรือ วางมือกอดอก เหมือนการยืนนมาซครับ มีหลักฐานว่าอย่างไรครับ?
คำตอบ กรณีที่เงยจากรุกูอฺขึ้นมายืนในสภาพที่ตรง โดยแขนทั้งสองปล่อยข้างลำตัว หรือนำมือทั้งสองมากอดอกเสมือนก่อนการรุกูอฺนั้น นักวิชาการมีทัศนะที่แตกต่างกันนะครับ
นักวิชาการฝ่ายหนึ่ง (หนึ่งในนั้นคือเชคอัลบานีย์) ระบุว่าไม่พบหลักฐานว่าท่านนบี (صلى الله عليه وسلم ) เมื่อเงยจากรูกุอฺ แล้วนำมือมากอดอกเสมือนก่อนการรุกูอฺ เมื่อไม่มีหลักฐานให้ทำเช่นนั้นเราก็ต้องปล่อยมือของเราไว้ข้างลำตัว
นักวิชาการอีกกลุ่มหนึ่งก็มีทัศนะว่า (หนึ่งในนั้นคือเชคบินบาซ) เมื่อเงยจากรุกูอฺให้นำมากอดอกเสมือนก่อนการรุกูอฺ โดยตีความหะดีษบทหนึ่งที่เศาะหาบะฮฺท่านหนึ่งรายงานว่าเห็นท่านนบียืนในสภาพที่กอดอก นั่นหมายรวมว่า หากยืนนมาซก็ต้องยืนในสภาพที่กอดอก ดังนั้นเมื่อเงยจากรุกูอฺก็ต้องมายืนในสภาพที่กอดอกเช่นกัน อีกทั้งยังชี้แจงอีกว่า ก็ไม่พบหลักฐานเหมือนกันว่าท่านนบีเงยจากรุกูอฺแล้วให้นำมือมาวางไว้ข้างลำตัว
ฉะนั้นเมื่อเป็นแนวทัศนะซึ่งแบ่งออกเป็นสองฝ่าย เช่นนี้ผมก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ผู้อ่านเลือกว่าจะปฏิบัติตามทัศนะของนักวิชาการท่านใด ซึ่งเป็นสิทธิของแต่ละบุคคลที่เห็นว่าทัศนะของใครมีน้ำหนักมากว่า, ส่วนตัวผมเห็นด้วยกับทัศนะที่ระบุว่าให้ปล่อยมือไว้ข้างลำตัวภายหลังที่เงยจากรุกูอฺแล้วนะครับ
ข้อสังเกตุน่ะครับ...เมื่ออุลามาอฺวะฮาบีขัดแย้งกันเองในประเด็นใดประเด็นหนึ่ง โต๊ะครูวะฮาบีคนนี้ก็จะไม่กล้าฮุกุ่มบิดอะฮ์ฝ่ายใด แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานจากนบี(ซ.ล.)ก็ตาม!! และมัสอะละฮ์ใดที่อุลามาอฺของวะฮาบีขัดแย้งกันแม้จะเเป็นฮะดิษฏออีฟสายรายงานขาดตอน ก็ไมยอมฮุกุมบิดอะฮ์อีกทัศนะหนึ่งของอุลามาอ์วะฮาบีที่เขาเคารพ.......
...แต่เรื่องกุนูตซุบฮ์นั้น ก็คิลาฟนั้นอิมามชาฟิอีและอิมามาลิกบอกว่าซุนนะฮ์ให้กระทำ แต่โต๊ะครูวะฮาบีคนนี้บอกว่าบิดอะฮ์ไม่มีซุนนะฮ์นบีระบุไว้เลย เวลาถามเรื่องละหมาดฮายัต โต๊ะครูวะฮาบีคนนีและชาววะฮาบีทั่วไปบอกว่า การละหมาดฮาญัตไม่มีในอิสลาม!! ทั้งที่มีฮะดิษซอเฮี๊ยะห์บอก และหากแม้นว่าเป็นฮะดิษดออีฟ ทำไมต้องไปฮุกุ่มบิดอะฮ์ลุ่มหลงและไม่มีในอิสลามด้วย
แต่เวลาอุลามาอ์ตัวเองขัดแย้งกัน ก็ให้เลือกกระทำทั้งที่ไม่มีหลักฐานมาระบุและมีหลักฐานที่ดออีฟ..........ดังกล่าวนี้กระผมจึงเชื่อว่าโต๊ะครูวะฮาบีคนนี้ ไม่มีความเป็นธรรมในเรื่องศาสนา แต่เขาตะฮัศศุบและเทิดทูนอุลามาอ์วะฮาบีของตนเท่านั้นเอง....
วัสลามน่ะ