หนังสือคุณค่าอามั้ล(เล่มเขียว)

[AhlZran]

Tweet

 salam   จากกการที่หลายๆท่าน ต้องการความชัดเจนจากสายรายงาน ในฮะดิษ ของสุมดเล่มเขียว หรือหนังสือ คุณค่าอามั้ลนั้น ท่าน
สามารถหา ซื้อ หนังสือ อัลมุซตะค็อฟฮะดิษ  มาเป็นหนังสือประกอบอีกเล่มก็ได้ นะครับเพราะจะมี บอกถึงสายรายงาน ที่ซอแฮะ ทั้งหมด
 เพราะหนังสือ คุณค่าอามั้ลนั้น อาจจะมีข้อผิดพลาด    
และอีก ประการนึงท่านสังเกตุ หรือพิเคราะห์ จารณาไหม ว่าทำไมเมื่อเราอ่านหนังสือคุณค่าอามั้ล แล้วเรามีความต้องการที่จะปฎิบัติ อามั้ล
เพราะกว่าจะทำการรวบรวมออกมาเป็นเล่มนั้น ผู้ทำการรวบรวมจัดพิม แต่ละฮาดิษแต่ละ บท  ท่านได้ละหมาดเป็นพันๆรอกาอัต เพราะกลัวที่จะผิดพลาดทำให้หนังสือเล่มนี้มี บารอกัต
ด้วยเหตุนี้ทำให้เมื่อได้ อ่านหรือได้ฟัง ทำให้หนังสือเล่มนี้ จึงมีความอยาก มีความต้องการ ที่จะ ปฎิบัติ อิบาดะ แตกต่างจากหนังสือ ของ นักบรรยาย นักอัตถธิบาย  บางท่าน ที่ฟัตวาตามความรู้ของตนเอง จัดพิมหนังสือโดย หวังในสิ่งใดกัน มีความ(อิคลาส)เพื่อ อ.ล รึเปล่า  (กระผมมิขอเอ่ยชื่อ) เพราะนี่เป็นความคิดเห็น ของผมและ พี่น้องร่วม กะลีมะฮฺ  กลุ่มหนึ่งที่ได้ตั้งข้อสังเกตุ   ครับ


ผิดพลาดประการใด ขอมาอัฟ ทุกคนนะครับ          วัสลาม

[al-firdaus~*]

 salam

"ด้วยเหตุนี้ทำให้เมื่อได้ อ่านหรือได้ฟัง ทำให้หนังสือเล่มนี้ จึงมีความอยาก มีความต้องการ ที่จะ ปฎิบัติ อิบาดะ"

เป็นเช่นนี้จริงๆ  อ่านแล้วทำให้เรามีความกระตือรือร้น ที่จะทำอิบาดะห์  กระตือรือร้นที่จะอ่านอัลกุรอาน  ซิเกร

ซาบซื้งใจต่อบรรดาซอฮาบะห์ ที่เสียสละเพื่ออิสลาม 

เหมือนขัดเกลาจิตใจของเราให้มุ่งตรงต่ออัลลอฮฺ

[۞QolbunSaleem۞]

salam   จากกการที่หลายๆท่าน ต้องการความชัดเจนจากสายรายงาน ในฮะดิษ ของสุมดเล่มเขียว หรือหนังสือ คุณค่าอามั้ลนั้น ท่าน
สามารถหา ซื้อ หนังสือ อัลมุซตะค็อฟฮะดิษ  มาเป็นหนังสือประกอบอีกเล่มก็ได้ นะครับเพราะจะมี บอกถึงสายรายงาน ที่ซอแฮะ ทั้งหมด
 เพราะหนังสือ คุณค่าอามั้ลนั้น อาจจะมีข้อผิดพลาด    
และอีก ประการนึงท่านสังเกตุ หรือพิเคราะห์ จารณาไหม ว่าทำไมเมื่อเราอ่านหนังสือคุณค่าอามั้ล แล้วเรามีความต้องการที่จะปฎิบัติ อามั้ล
เพราะกว่าจะทำการรวบรวมออกมาเป็นเล่มนั้น ผู้ทำการรวบรวมจัดพิม แต่ละฮาดิษแต่ละ บท  ท่านได้ละหมาดเป็นพันๆรอกาอัต เพราะกลัวที่จะผิดพลาดทำให้หนังสือเล่มนี้มี บารอกัตด้วยเหตุนี้ทำให้เมื่อได้ อ่านหรือได้ฟัง ทำให้หนังสือเล่มนี้ จึงมีความอยาก มีความต้องการ ที่จะ ปฎิบัติ อิบาดะ แตกต่างจากหนังสือ ของ นักบรรยาย นักอัตถธิบาย  บางท่าน ที่ฟัตวาตามความรู้ของตนเอง จัดพิมหนังสือโดย หวังในสิ่งใดกัน มีความ(อิคลาส)เพื่อ อ.ล รึเปล่า  (กระผมมิขอเอ่ยชื่อ) เพราะนี่เป็นความคิดเห็น ของผมและ พี่น้องร่วม กะลีมะฮฺ  กลุ่มหนึ่งที่ได้ตั้งข้อสังเกตุ   ครับ


ผิดพลาดประการใด ขอมาอัฟ ทุกคนนะครับ          วัสลาม

ความบะรอกัตมาจากอัลลอฮไม่ใช่หรอครับ ไม่ใช่ว่าใครจะมอบให้ใครหรือเห็นใครทำอามัลมากๆก็ยกย่องว่าคนนั้นมีบารอกัต แล้วเทียบกับหนังสือศอเฮียะห์บุคอรีกับศอเฮียะห์มุสลิมหรือหนังสือริยาฎุสซอลีฮีนของท่านอีหม่ามนาวาวีย์ คิดว่าหนังสือไหนมีบารอกัตมากกว่ากันครับ  ส่วนตัวของผมยกให้ริยาฎุสซอลีฮีนของอีหม่ามนาวาวีย์มากกว่าเล่มเขียว เพราะล้วนแล้วประกอบด้วยหะดีษที่ถูกต้องไม่คลุมเคลือ คนไม่ได้เรียนศาสนา(อย่างผม)อ่านแล้วสบายใจ ส่วนเล่มเขียวนั้น คนรู้น้อยอย่างผมก็แยกแยะไม่ออกว่าหะดีษไหนใช่ หะดีษไหนไม่ใช่ อ่านริยาฎุซซอลีฮีนของอีหม่ามนาวาวีย์แล้วกระผมก็มีความกระตือรือร้นที่จะทำอิบาดะห์ ที่จะอ่านอัล-กุรอานที่จะซิกรุลลอฮ ไม่แพ้กว่าอ่านเล่มเขียวเหมือนกัน

[AhlZran]

 salam  ครับผม  ดังที่กระผมเขียนไว้ อันนี้เป็นความคิดส่วนตัวของกระผมและ พี่น้อง ร่วม กะลิมะฮฺ ในกลุ่มของพวกกระผมเพียงเท่านั้น
และดังที่กล่าวไว้ข้าง ต้น ว่าถ้าท่านต้องการ ทราบถึงสายรายงานของ ฮะดิษในเล่มเขียว หรือ คุณค่าอามั้ล นั้น ให้ท่าน หาอ่านได้ใน หนังสือ
อัลมุซตะค้อฟฮะดิษ ครับ ซึ่งตอนนี้อาจยังไม่สมบูรณ์ แต่ก็มีสายรายงานชัดเจนครับ  และส่วนใหญ๋เป็นสายรายงานโดย อุลามะฮฺ ชั้นนำ เช่น  ตริมีซี  มุสลิม  อบูดาวุด  เป็นต้น ครับ  เพราะหนังสือ  อัลมุซตะค้อฟฮะดิษ นั้นเป็นหนังสือที่ จัดทำออกมาเพื่อ ความชัดเจนในการรายงานฮะดิษในเล่มเขียว โดยเฉพาะครับ 

[ad-dalawy]

ความบะรอกัตมาจากอัลลอฮไม่ใช่หรอครับ ไม่ใช่ว่าใครจะมอบให้ใครหรือเห็นใครทำอามัลมากๆก็ยกย่องว่าคนนั้นมีบารอกัต แล้วเทียบกับหนังสือศอเฮียะห์บุคอรีกับศอเฮียะห์มุสลิมหรือหนังสือริยาฎุสซอลีฮีนของท่านอีหม่ามนาวาวีย์ คิดว่าหนังสือไหนมีบารอกัตมากกว่ากันครับ  ส่วนตัวของผมยกให้ริยาฎุสซอลีฮีนของอีหม่ามนาวาวีย์มากกว่าเล่มเขียว เพราะล้วนแล้วประกอบด้วยหะดีษที่ถูกต้องไม่คลุมเคลือ คนไม่ได้เรียนศาสนา(อย่างผม)อ่านแล้วสบายใจ ส่วนเล่มเขียวนั้น คนรู้น้อยอย่างผมก็แยกแยะไม่ออกว่าหะดีษไหนใช่ หะดีษไหนไม่ใช่ อ่านริยาฎุซซอลีฮีนของอีหม่ามนาวาวีย์แล้วกระผมก็มีความกระตือรือร้นที่จะทำอิบาดะห์ ที่จะอ่านอัล-กุรอานที่จะซิกรุลลอฮ ไม่แพ้กว่าอ่านเล่มเขียวเหมือนกัน

พี่น้องตับลีฆที่เป็นอาหรับอียิปต์จะมีหนังสือริยาดุศศอลิฮีนของอิมามอันนะวาวีย์นำมาอ่านตะลีมหลังละหมาดครับ  ส่วนหนังสือเล่มเขียวเมืองไทยนิยมนำมาอ่านกัน  อย่างไรก็ตามหนังสือที่นำมาสอนผู้อื่นแล้วผู้ฟังสามารถนำไปปฏิบัติอะมัลได้  ถือเป็นความดีงามอันยิ่งใหญ่  แต่ต้องหลีกห่างจากฮะดิษเมาฏั๊วะน่ะคร๊าบ....

[ILHAM]

นี่ถ้าพวกนั้นเขาไม่ต้านหนังสือเล่มนี้นะ ผมก็ไม่ค่อยสนเท่าไหร่หรอกหนังสือนี้ ส่วนตะเล็มนั้นถ้าว่างก็นั่งฟังไป แต่เพราะว่าเขาต้าน เลยพยายามหาซื้อมาเก็บไว้ 55555 อ่านเองคนเดียวทุกคืนที่หอ



















ด้วยเหตุการณ์นี้เลยทำให้เจอท่านแอดมิน

[AhlZran]

ครับ อันที่จริงไม่ว่าจะอ่านหนังสืออะไร ก็เป็นการดี แต่ที่บอกว่าเล่มเขียวนี้ดีนั้น  ก็เพราะมันสามารถอ่านได้ทุกเพศทุกวัย มิใช่เฉพาะต้องเป็น คนอาเล่ม คนที่ไปเรียนต่างประเทศ แต่ทุกคนสามารถ อ่านและฟังเพื่อให้เรามี พลังในการปฎิบัติ อาม้าลได้  อันที่จริงไม่ว่าจะอ่านเล่มไหน แต่หากเรามีการอาม้าล การตะเล็มอยู๋บ่อยๆ ทั้งตะเล็มที่บ้าน และมัสยิด เราก็จะสามารถ รักษาอีหม่าน เพิ่มพูน อีหม่านและอาม้าลได้   ครับ

[ActionMask]

คุณค่า อาม้าล คืออ่านแล้วจะได้รู้ถึงคุณค่าแล้วก็จะได้รู้สึกอยากทำอาม้าลมังครับ เขาเลยเอามาให้อ่านเพื่อที่จะอยากปฏิบัติ ไม่ใช่ว่าเป็นหนังสือวิเศษสุดยอด แต่อย่างใด

อันนี้ผมเดาเองนะครับ

[บาชีร]

หนังสือเล่มเขียวนี่ละครับสุดยอด

หลังจากที่ผมไม่ได้หนังสือเล่มนี้นาน

เนื่องจากอ่านแต่หนังสืออรับนาน

แต่พอได้กลับไปอ่าน หนังสือฟะฎออีลอะอฺมาล อันนี้ต้องยอมรับเลยครับว่าสุดยอดจริงๆ

ในแง่ของสำนวน ในแง่ของจิตใจ ในแง่ของแนวคิด

ถือว่าไม่ธรรมดาจริงๆ

อันนี้ละดีอยู่แล้ว

ไม่ต้องเปลี่ยนเล่มหรอกครับ

อย่าให้คณะใหม่ที่มีอะกิดะฮฺไม่ถูกต้องมาทำให้เราเข้าใจผิดเลยครับ

ฮะดีษดออีฟนั้น อิหม่ามนะวะวี ถือว่าเป็นอิตฟากว่าใช้ในฟะดออีลอะมาลได้

[AhlZran]

หนังสือเล่มเขียวนี่ละครับสุดยอด

หลังจากที่ผมไม่ได้หนังสือเล่มนี้นาน

เนื่องจากอ่านแต่หนังสืออรับนาน

แต่พอได้กลับไปอ่าน หนังสือฟะฎออีลอะอฺมาล อันนี้ต้องยอมรับเลยครับว่าสุดยอดจริงๆ

ในแง่ของสำนวน ในแง่ของจิตใจ ในแง่ของแนวคิด

ถือว่าไม่ธรรมดาจริงๆ

อันนี้ละดีอยู่แล้ว

ไม่ต้องเปลี่ยนเล่มหรอกครับ

อย่าให้คณะใหม่ที่มีอะกิดะฮฺไม่ถูกต้องมาทำให้เราเข้าใจผิดเลยครับ

ฮะดีษดออีฟนั้น อิหม่ามนะวะวี ถือว่าเป็นอิตฟากว่าใช้ในฟะดออีลอะมาลได้

 
 
 แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล    บันทึกการเข้า 

--------------------------------------------------------------------------------
 


ครับ....ยาซากั้ลลอฮฺ    ที่ผมบอกว่า การอ่านเล่มไหนก็ได้นั้น เพราะหากไม่มีเล่มนี้เล่มไหนๆ ก็อ่านได้เพื่อรักษา อาม้าล การอ่าน ตะเล็มครับ และที่ท่าน ActionMask   กล่าวมาก็มีเหตุผล ครับ และผมก็เห็นด้วย นะครับ  แพยงแต่หนังสือคุณ ค่าอาม้าลนั้นเป็นหนังสือที่ ได้รับการเรียบเรียง และจัดพิม มิใช่เพื่อเฉพาะ คนเพียงบางกลั่ม ที่สนใจเท่านั้น แต่เพื่อทุกคน ทุกชนชั้น เมื่อ อ่านแล้วมีความเข้าใจ มีความต้องการที่จะ ปฎิบัติ อาม้าล ครับ จะเห็นได้ว่าหนังสือ บางเล่มเป็นเพียงหนังสือเฉพาะผู้ อาเล่ม ที่เรียน ภาษามาหรือ เฉพาะผู้ที่ ชื่นชอบ อาจารย์ ท่านนั้น ท่าน นี้ แต่หนังสือเล่มนี้ หากเราสังเกตุ  ทุกๆมัสยิด เกือบทั้งประเทศ ตะเล็มกัน และ ต่างประเทศ เช่น  ปากีฯ  อินเดีย  บังกลา  ศรีลังกา และในแถบ โซนเอเชียใต้  หรือแม้ กระทั่งประเทศในแถบ ยุโรป  และ อเมริกาเอง ก็ ใช้หนังสือเล่มนี้ ครับ  ดังที่ท่าน Bashir ได้กล่าวข้างต้น
  แต่พอได้กลับไปอ่าน หนังสือฟะฎออีลอะอฺมาล อันนี้ต้องยอมรับเลยครับว่าสุดยอดจริงๆ

ในแง่ของสำนวน ในแง่ของจิตใจ ในแง่ของแนวคิด

ถือว่าไม่ธรรมดาจริงๆ     
ผมอยากเสนอใน ประเด็นนี้ เลยครับ  ขอบคุณท่านมาก ที่ช่วยกระผมในการสื่อ มัคซุด เป้าหมายที่แท้จริง ครับ
หากผิดพลาดประการใด  ก็ขอมาอัฟ ต่อทุกท่านด้วย และ อยากให้ช่วย ตักเตือนในความผิดพลาดด้วย ครับ  ยาซากั้ลลอฮฺ   

[Al Fatoni]

อัสสลามุ อลัยกุม

             ส่วนตัวผมนั้น ผมชอบอ่านหนังสือคุณค่าของอมัลมาก จำได้ว่าตอนสมัยประถมฯ 6 ด้วยความที่อยากอ่านมากๆ จึงขอเอาหนังสือคุณค่าของอมัลของมัสญิดไปอ่านที่บ้านหนึ่งคืน และช่วงหลังละหมาดซุฮฺริของหลังวันเสาร์ ผมมักจะหาที่เงียบๆ อ่าน ก็เพลินและได้คิดตามไปครับ ทำให้มีความรู้สึกอยากทำอมัลมากขึ้น แต่ถึงกระนั้น ผมก็ไม่ค่อยจะเห็นด้วย ที่ชาวตับลีฆบางคนให้ความสำคัญกับหนังสือนี้มากจนเกินไป จนบางคนคิดว่าแต่หนังสือเล่มนี้ก็เพียงพอแล้ว ผมว่า หนังสือคุณค่าของอมัล เป็นเพียงแค่หนังสือปลุกศรัทธา เพื่อให้ที่เอาวาม หรือชาวบ้าน หรือคนที่ไม่ค่อยอยากทำอิบาดะฮ์ รู้สึกอยากทำอิบาดะฮ์มากขึ้น แต่รูปของอิบาดะฮ์ที่ถูกต้องนั้น หากจะยึดแต่เพียงปริมาณแต่ไร้คุณภาพ ผมว่าก็ไม่ดีนะครับ เพราะอมัลของคนที่มีความรู้ย่อมดีกว่าอมัลของคนที่ไม่มีความรู้หลายเท่านะครับ เราต้องลำดับความสำคัญให้ถูก เพราะบางคนที่ผมสัมผัสมา เวลามีบยาน จะไกล หรืออยู่ที่กันดารแค่ไหน ก็ไปได้ บางคนรู้สึกว่าจำเป็นต้องไป ไม่ไปไม่ได้ นั่นก็เป็นความรู้สึกของเขาที่ต้องการแสดงว่าเขาจริงจังกับศาสนา แต่ก็น่าเสียใจครับที่บางคน แม้โต๊ะครูที่มัสญิดของชุมชนตัวเองมีการบรรยายกิตาบเกี่ยวกับเรื่องอะกีดะฮ์ หรือเรื่องละหมาด แทนที่จะนั่งฟัง แต่กลับออกจากมัสญิดไปอยู่อีกมัสญิดหนึ่ง น่าเสียใจมากครับ ผมหมายถึงบางคนนะครับ ที่ลำดับความสำคัญไม่ออก แต่ผมเชื่อว่าชาวตับลีฆส่วนมาก และที่อื่นๆ จากที่ผมเคยเห็น คงไม่ได้เป็นอย่างที่ผมกล่าวข้างต้น อาจจะดีกว่านั้นด้วยซ้ำ หนึ่งในตัวอย่างที่ดีของชาวตับลีฆก็คือ อยากให้พี่น้องลองไปดูที่คลองหนึ่ง จ.ปทุมธานีครับ แถวแก้วนิมิตร ที่นี่ดะอฺวะฮ์เฟื้องฟูในความคิดของผม เพราะ 3 ปีที่แล้วที่ผมทำดะอฺวะฮฺที่นี่ ลองมาเทียบกับตอนนี้ มันเกิดความแตกต่างมากเลยครับ เพื่อนของเพื่อนผมอีกที ตอนที่ผมไปเยี่ยมเขากับเพื่อน ตอนนั้นยังเป็นคนเงียบๆ ไม่สุงสิงกับใคร คล้ายๆ กับไม่เข้าสังคม พ่อแม่ก้ไม่ค่อยเคร่งศาสนา แต่สามปีให้หลัง ล่าสุดที่ไปเยี่ยม มันเหมือนโกหกอะครับ เขาเปลี่ยนเป็นคนละคนเลย ตอนนี้เขาได้เป็นอมีรฺดะอฺวะฮ์ที่อายุน้อยที่สุดในแถบนั้น มาชาอัลลอฮฺ ผมยังรู้สึกละอายใจครับ ที่สามที่แล้วจนถึงตอนนี้ ผมเซ่ออยู่อย่างไรก็เซ่ออยู่ไม่เคยสาง ทุกครั้งที่คุยด้วย เขาจะสุภาพมาก คุยเรื่องอัลลอฮฺ เรื่องศาสนาและอื่นๆที่ดีงาม เป็นบรรยายที่น่าจดจำครับ - วัลลอฮุ อะอฺลัม

วัสสลามุ อลัยกุม

[AhlZran]

ยาซากั้ลลอฮ์   พี่น้องที่รักของ อ.ล   ท่าน Al Fatoni  ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นนะครับ 
เทียบกับตอนนี้ มันเกิดความแตกต่างมากเลยครับ เพื่อนของเพื่อนผมอีกที ตอนที่ผมไปเยี่ยมเขากับเพื่อน ตอนนั้นยังเป็นคนเงียบๆ ไม่สุงสิงกับใคร คล้ายๆ กับไม่เข้าสังคม พ่อแม่ก้ไม่ค่อยเคร่งศาสนา แต่สามปีให้หลัง ล่าสุดที่ไปเยี่ยม มันเหมือนโกหกอะครับ เขาเปลี่ยนเป็นคนละคนเลย ตอนนี้เขาได้เป็นอมีรฺดะอฺวะฮ์ที่อายุน้อยที่สุดในแถบนั้น มาชาอัลลอฮฺ ผมยังรู้สึกละอายใจครับ ที่สามที่แล้วจนถึงตอนนี้ ผมเซ่ออยู่อย่างไรก็เซ่ออยู่ไม่เคยสาง ทุกครั้งที่คุยด้วย เขาจะสุภาพมาก คุยเรื่องอัลลอฮฺ เรื่องศาสนาและอื่นๆที่ดีงาม เป็นบรรยายที่น่าจดจำครับ - วัลลอฮุ อะอฺลัม

ครับในกรณีของเพื่อนคุณ กระผมเห็นมาเยอะครับ  งานดะวะห์ เป็น งาน อิสละ ปรับปรุงตัวเอง ครับ  กระผมก็เป็นเช่นท่านครับ เมื่อตอนอยู่ ม.4-5    4-5ปีที่แล้ว  ผมได้สัมผัส และได้ ออกดะวะห์  ในตอนนั้น ไม่ว่าจะทำอะไรก็ รู้สึกว่ามีความต้องการที่จะ ปฎิยัติ อามั้ล มาก  แต่เมื่อ หยุดจาก การเชื่อมโยงกับงาน  ก็กลับไปเป็น เด็กวัยรุ่น ธรรมดา  เซ่อๆ  เรื่อยเปื่อย ละหมาดบ้าง ไม่ละหมาดบ้าง   จนคิดว่าไม่ไหวแล้วมันไม่ใช่แนวทางเลย ยิง่งตามดนยา ในตัวเราไม่ได้มีอะไรที่เป็นซุนนะฮฺเลย  แต่ อั้ลฮำดุลิ้ล ละ  ผมตัดสินใจ ออก 40 วัน หลังจากนั้น กลับมาบ้านปฎิบัติ ตาม ตัรเต้ป  ได้บ้างไม่ได้ บ้าง แต่ ฮำดุลิ้ล ละ  รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลง  จากการที่ละหมาดบ้างไม่ละหมาดบ้าง  ถือศีลอดบ้างไม่ถือ บ้าง  อั้ลฮำดุดิ้ลละ  หลังจากออก ดาวะหฺ และกลับมาก็รักษาอาม้าล วากอมี่ได้ทำให้ รักษาละหมาด และถือศีลอด ครบ    จากที่ไม่ค่อยได้อ่านอัลกรุอ่าน ก็ได้รักษา อามั้ลการอ่านกรุอ่านเกือบทุกวันครับ 
และพี่น้องของผมใน ญามาอะ หลายคนเคย ติดยาเสพ ติด และด้วยกับ ความเมตตาของพระองค์ อ.ล  ที่ให้การเปลี่ยน แปลง ทำให้สามารถเลิก และ ยับยั้งจากความชั่ว ได้    บางท่านอาจ กล่าวว่า การออกดะวหฺ เป็นงานของ บรรดานบี  และไม่มีหลักฐานว่า  ต้อง ออก 3 วัน 40  4เดือน  กระผมอยากบอกว่า การออก3วัน 40วัน 4เดือน นั้น เป็นเพียง ตัรเตป (ขั้นตอนในการออก)  หากเปรียบเปรย  ก็เหมือนการ อ่านกรุอ่าน มันต้องเริ่มเรียนจาก อลิฟ บา ตา ก่อน มันเป็นขั้นตอนไปสู่การอ่าน กรุอ่าน  ที่ถูกต้องครับ  และเหมือนเราเรียนหนังสือ  เราต้องเรียนจากขั้นอนุบาล  ป.1  ป.2  มีใครบ้างมั้ยที่อ่านออกเขียนได้โดยไม่ ข้ามขั้นตอน(บุคคลทั่วไปนะครับ ไม่รวมถึงบรรดานบีและผู่ที่พระองค์ อ.ล ทรงประสงค์)  และงานดะวะ นั้นทำให้เราได้เชื่อมโยงกับมัสยิด  หากท่านสังเกตุ การละหมาดที่บ้านกับที่มัสยิด ของเรานั้นแตก ต่างกันมาก  เช่นกระผมเอง  ละหมาดที่บ้าน(ฟัรดู)  ก็ได้แค่ละหมาดฟัรดู  ไม่ได้ละหมาดสุนาซ เเลย (ไม่แน่ใจในการพิมว่า สุนัต หรือสุนาซ)  แต่เมื่อเราได้ไปละหมาดที่มัสยิด (หรือที่ๆมีเสียง อะซานเช่นบาลาย) บางครั้งเราขี้เกียจละหมาด สุนาซ แต่เมื่อเราเห็นผู้ อื้นเราก็เกิดความต้องการที่จะละหมาด สุนาซด้วยเป็นเหตุ ให้เรา สามารถรักษา ละหมาดสุนาซไปในตัวเองเลย  กล่าวคือ การละหมาดเป็น ญามาอะ ที่มัสยิด การไปเชื่อมโยง ที่มัสยิด ทำให้เกิด สภาพแวดล้อมที่มีความต้อง การ ประกอบบ อิบาดัร ครับ
และ การดาวะห์  เป็นทางที่ทำให้เกิดสิ่งแวดล้อมเช่น นี้ครับ ทำให้เรานำตัวของเรา ไปสู่สภาพแวดล้อมที่ดี ที่มีแต่การประกอบการ ดี ได้ครับด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในตัวเรา  โดยที่เราไม่รู้ตัว (หากพูดตามหลักการ) แต่ในเรื่อง ยาเก็นนี่ละครับ ผู้ใดที่ต้องการ อิสละ ปรับปรุงตนเอง พระองคฺ อ.ล  ทรงเปลี่ยนแปลง       ท่านเคยได้ยิน      มั้ย   ครับ ที่ว่า  " หากเราเข้าหา อ.ล 1คืบ พระองค์ จะเข้าหาเอา 1 ศอก  และเมื่อเราคลานเข้าหาพระองค์ พระองค์จะทรงเดินมาหาเรา  และเมื่อเรา เดินเข้าหาพระองค์ พระองค์จะทรงวิ่งเข้ามาหาเรา"  อากับกริยาที่ เกี่ยวกับพระองค์ เป็นเพียงการเปรียบเปรย ครับ(กลัวว่าจะเข้าใจผิด ว่านี่มันเป็นการ กุฟูร เพราะพระองค์ ทรงต่างกับของใหม่(ไม่สอดคล้องกับซีฟัตของ พระองค์) 
ที่กระผมเล่ามานี่   ในบางสิ่งบางอย่างมีข้อผิดพลาดขอได้โปรดมาอัฟให้ด้วย นะครับ   และที่กระผมเล่ามานี่ กระผมก็มิใช่คนที่มีอีหม่านอาม้าล มิใช่คนที่มีความรู้  กระผมเป็นเพียง บ่าวผู้อ่อนแอ ผู้ที่ ยังไม่มีอีหม่านต่อ พระองค์เลย (ตามความคิดของผม) หากผม มีอีหม่าน กระผมคงไม่ได้ มาเสวนา หรือเล่น คอม อินเตอร์เน็ต  (คงอยู่ในการรำลึก ถึง อ.ล ด้วยการ ซิกิร ไม่ก็ อ่านกรุอ่าน  )  และกระผมก็ รู้ดีในความ ซอเล่ม ของตัวเองเฉกเช่นทุก ท่าน  บรรดาพี่น้องที่รัก บรรดาผู้มีอีหม่านต่อ อ.ล  กระผมเพียงหวังในความเมตตาของพระองค์ ผู้ทรงเมตตายิ่งผู้ทรงอภัยยิ่ง ผู้ทรงเมตตา กรุณาปราณี เสมอ  และผมเชื่อว่า พี่น้อง ทุกท่าน มีอีหม่าน ศรัทธา  มากกว่ากระผมเสียอีก   พี่น้องที่รัก ของ อ.ล  โปรดเข้าใจเถิดว่ากระผมมิได้ เจตนากล่าวว่าผู้ใด เพราะกระผมเชื่อว่า  ทุกท่าน มีเหนียตในการ ศึกษา หาความรู้เพียงเท่านั้น  อัสตักฟีรุ้ลลออฮฺฮะอินนั้ลลอฮฺ ฮะฆอฟูรุดรอฮีม 
 และกระผมก็เชื่อ อีกว่าทุกท่าน กำลังศึกษา เพื่อ อิสละ ปรับปรุงตนเอง  และทุกท่านก็ คงหวังในความเตตาของ พระองคฺ เฉกเช่นเดียวกัน  ว่าสักวันหนึ่ง ด้วยกับความเมตตาของพระองคฺพระองคฺ จะทรงเปลี่ยนแปลงตัวของเรา  ให้มีอีหม่าน ศรัทธา ที่แท้จริง อย่างแน่นอน

 ลาอีลาฮะอิ้ลลาอันตะซุบฮานากะ อินีกุน ตุ มีนัซ ซอลิมีน   

มหาบริสุทธ์แด่พระองค์ แท้ที่จริงบ่าวเป็นผู้หนึ่งในหมู่ผู้ ซอเล่ม (อธรรม)ทั้งหลาย

[۞QolbunSaleem۞]

อัสสลามุ อลัยกุม

             หนึ่งในตัวอย่างที่ดีของชาวตับลีฆก็คือ อยากให้พี่น้องลองไปดูที่คลองหนึ่ง จ.ปทุมธานีครับ แถวแก้วนิมิตร ที่นี่ดะอฺวะฮ์เฟื้องฟูในความคิดของผม เพราะ 3 ปีที่แล้วที่ผมทำดะอฺวะฮฺที่นี่ ลองมาเทียบกับตอนนี้ มันเกิดความแตกต่างมากเลยครับ เพื่อนของเพื่อนผมอีกที ตอนที่ผมไปเยี่ยมเขากับเพื่อน ตอนนั้นยังเป็นคนเงียบๆ ไม่สุงสิงกับใคร คล้ายๆ กับไม่เข้าสังคม พ่อแม่ก้ไม่ค่อยเคร่งศาสนา แต่สามปีให้หลัง ล่าสุดที่ไปเยี่ยม มันเหมือนโกหกอะครับ เขาเปลี่ยนเป็นคนละคนเลย ตอนนี้เขาได้เป็นอมีรฺดะอฺวะฮ์ที่อายุน้อยที่สุดในแถบนั้น มาชาอัลลอฮฺ ผมยังรู้สึกละอายใจครับ ที่สามที่แล้วจนถึงตอนนี้ ผมเซ่ออยู่อย่างไรก็เซ่ออยู่ไม่เคยสาง ทุกครั้งที่คุยด้วย เขาจะสุภาพมาก คุยเรื่องอัลลอฮฺ เรื่องศาสนาและอื่นๆที่ดีงาม เป็นบรรยายที่น่าจดจำครับ - วัลลอฮุ อะอฺลัม

วัสสลามุ อลัยกุม

อืม แต่ในความคิดของผม คำว่าเฟื่องฟูจริง น่าจะเป็นที่มัรกัซยะลามากกว่า มุสลีมะห์แต่งกายมิดชิด แบ่งแยกชายหญิงชัดเจน  ผมว่าที่คลองหนึ่งที่ท่านอ้าง ยังห่างไกลอีกเยอะเพราะมุสลีมะห์ที่ยังไม่คลุมหิญาบมีเพียบ หรือคลุมแล้วแต่ใส่แขนสั้นก็มีกันบานตะไท แล้วเห็นพวกดะวะห์ที่ยังสูบบุหรี่ก็มีเป็นโข บางวันก็เจ็บปวด เห็นสูบบุหรี่กันในมัสยิด(ชั้น1)ด้วยซ้ำ ที่ท่านได้อ้างนั้นอาจจะเป็นส่วนน้อยมั๊ง แต่ส่วนใหญ่ยังไม่ดีขึ้นเลย และที่สำคัญเรื่องความสะอาด ซึ่งชุมชนแห่งนี้ กี่ปีๆก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงเลย ผมยังอายชุมชนกาเฟรบางชุมชนที่เขาเอาใจใส่เรื่องความสะอาดภายในชุมชนของเขามากกว่ามุสลิมด้วยซ้ำ ทั้งๆที่ศาสนาเราก็สอนว่า ความสะอาดนั้นเป็นครึ่งหนึ่งของความศรัทธา ผมชื่นชมดะวะห์ที่เขาทุ่มเทแรงกายแรงใจแรงอีหม่าน ชักชวนพี่น้องที่ไม่ละหมาดได้เข้ามัสยิด ชักชวนมุสลีมะห์ที่ไม่คลุมหิญาบได้คลุมให้ถูกหลักการ ผมชื่นชมการทำงานเป็นญะมาอะห์ของเขา แต่ก็มีสิ่งที่น่าตำหนิบ้างสำหรับดะวะห์บางคน ซึ่งอุตส่าออกดะวะห์มาหลายปี แต่พฤติกรรมของตัวเองยังไม่เปลี่ยนแปลง ปากก็ไม่สิ้นซึ่งควันบุหรี่ วาจาก็ไม่สิ้นซึ่งการเกี้ยวพาราสีสาวๆ (บางคนหน่ะ) และอีกอย่างหนึ่งที่ยังคลางแคลงใจไม่หาย ว่าทำไมดะวะห์ต้องอ่านเล่มเขียวเล่มเดียวด้วย ? สังคมมุสลิมหรือโลกมุสลิมก็มีหนังสือดีๆก็เยอะ น่าจะเอามาบายานให้พี่น้องได้ฟังบ้าง ของท่านอิบนุก็อยยิมก็มีหนังสือดีๆมากมายน่าจะเอามาอ่านบ้าง หนังสือศอเฮียะบุคอรี ศอเฮียะมุสลิมน่าจะเอามาบายานให้พี่น้องฟังบ้าง หรือหนังสืออื่นๆของอุลามาอฺนามเลื่องลือก็มีมากมาย ทำไมต้องตีกรอบ ต้องจำกัดเขตจำกัดความคิด ว่าต้องอ่านเล่มเขียวเท่านั้นก็ไม่รู้ หรือผมงงอยู่คนเดียว?

[ILHAM]

^
^
^
พูดถึงเรื่องสูบบุหรี่แล้วมีเรื่องเล่าครับ
ที่แก้วนิมิตนั่นแหละ ตอนเพิ่งลงจากมัสยิด มีดะวัฮคนหนึ่งเดินมาหาผม ถามว่ามีไฟแช็กหรือเปล่า ผมมีอยู่ในกระเป๋า กำลังจะล้วงไอไปให้อยู่แล้ว แต่เห็นเขาเอาบุหรี่เตรียมออกมา เลยบอกว่าไม่มี ผมยอมโกหกว่าไม่มี ดีกว่าให้ไฟแช็กไปให้เขาดูดบุหรี่ จากนั้นผมก็เดินจะกลับไปปากซอยไกลโคตร มีวัยรุ่นเด็กๆเดินสวนมา เขาถามว่า เฮ้ พวกวัยรุ่นมีไฟแช็กกันบ้างมั้ย พวกนั้นตอบว่า ไม่มี มีแต่บุหรี่ ฟังแล้วจะบ้าตาย อะไรจะขนาดนั้นกันเด็กสมัยนี้ ที่ผมพกไฟแช็กไม่ได้เอาไว้จุดบุหรี่หรอก ก็แค่พกติดตัวไปไหนมาไหนเฉยๆ พกเฉพาะของจำเป็นตลอดเวลา อย่างเช่น ไฟแช็ก มีด ปากกา แฮนดี้ไดรว์ อะไรพวกนี้

[Al Fatoni]

แต่ในความคิดของผม คำว่าเฟื่องฟูจริง น่าจะเป็นที่มัรกัซยะลามากกว่า มุสลีมะห์แต่งกายมิดชิด แบ่งแยกชายหญิงชัดเจน  ผมว่าที่คลองหนึ่งที่ท่านอ้าง ยังห่างไกลอีกเยอะเพราะมุสลีมะห์ที่ยังไม่คลุมหิญาบมีเพียบ หรือคลุมแล้วแต่ใส่แขนสั้นก็มีกันบานตะไท แล้วเห็นพวกดะวะห์ที่ยังสูบบุหรี่ก็มีเป็นโข...

            ผมเห็นด้วยครับกับข้อความข้างต้น และผมก็ประจักษ์ในสิ่งนั้นด้วย เห็นอยู่ทุกวี่วัน แต่ที่ผมยังจะกล่าวว่า มันเฟื่องฟูนั้น เพราะผมสัมผัสกับวัยรุ่นอีกกลุ่มหนึ่งที่เขาเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้มาก แต่ทุกครั้งที่ออกเยี่ยมวัยรุ่นแถวนั้น ก็เป็นอย่างที่ว่านั่นแหละครับ ไม่รู้สิสำหรับผมแล้ว ผมขอเจาะจงที่ดีนุ้ลอิสลามนะครับ ที่ผมใช้แก้วนิมิตรในตอนแรกนั้น เพราะนึกชื่อที่ผมไปอยู่จริงๆ ไม่ออก แต่มันก็ละแวกใกล้ๆ กัน แถบดีนุ้ลฯ ก็จะมีอมีร์อับดุรฺเราะหฺมาน ซึ่งลูกเขาเป็นเพื่อนกะผม ไปอยู่บ้านอมีรฺเกือบเดือน ได้ข้อคิดหลายอย่างเกี่ยวกับศาสนา ถึงแม้ยังมีอีกหลายอย่างที่แถบนั้นต้องปรับปรุง แต่ก็ถือว่าดีกว่าชุมชนที่ผมอยู่ที่ปัตตานีโขเลยครับ มันคนละเรื่องเลย วัยรุ่นติดยากันเยอะมาก คนแก่ก็อยู่ส่วนคนแก่ เด็กก็ส่วนเด็ก วัยรุ่นก็ช่างหัวมัน มันยิ่งกว่าที่ดีนุ้ลฯ ด้วยซ้ำ เมื่อผมไม่เจอที่ดีนุ้ลฯ ก็เลยเกิดความประทับหลายอย่าง ที่วัยรุ่นกลับหันมาทำดะอฺวะฮ์ ทั้งๆ ที่อยู่ใกล้สิ่งอบายมุขนิดเดียว หมายถึงวัยรุ่นบางกลุ่มนะครับ มันให้ความรู้สึกว่า มันเห็นข้อแตกต่างอย่างเป็นรูปธรรมระหว่างสามปีที่แล้วกับตอนนี้ตามความคิดของผมนะ ใครที่มีความหลังเกี่ยวกับที่นั้นอะไรอย่างไร นั้นผมไม่ทราบ วัลลอฮุ อะอฺลัม - วัสสลามุ อลัยกุม