asan ข้อความเมื่อ: วันนี้ เวลา 00:54ข้อความโดย: al-azhary
ใส่การอ้างถึงคำพูด
แต่หากแนวทางของบังอะสันที่นับถืออยู่นั้น จะผิดหรือไม่ผิด เราจะตั้งกระทู้ให้นะครับ รอหน่อย บังอะสันจะได้สมหวัง แต่อย่าเอาปนกับประทู้นี้นะครับ แล้วจะรู้ว่าใครที่ขัดกับอัลกุรอานและซุนนะฮ์ และเราไม่เคยทำให้บังอะสันแลพรรคพวกต้องผิดหวังอยู่แล้วนี่ครับ
..............
เอ้า..ท้าอีกแล้ว เขาบอกให้เอาหลักฐานมายืนยันรับรองว่า อุลามาอฺมัซฮับชาฟิอีไม่ผิด มาให้ดู กลับเฉไปอื่น เฮ้อ..ไม่สมราคาคุย นี้เขาเข้ามาเรียนกับ อาจารย์แห่งอัลอัซฮัรนะครับ
al-azhary ผู้แต่งหนังสือกล่าวว่า
"จากที่ได้กล่าวมาแล้วนี้ว่า อุตริกรรมแนวความคิด(มัซฮับ) การสังกัดอยู่ในแนวความคิด(มัซฮับ)ความหลงผิดของหนทางและแนวทางปฏิบัติต่างๆ นั้นมันอยู่ในแนวทางของฟิรอูนและนโยบายของเขาชั้วช้าเหมือนกับที่มันเป็นสิ่งแพร่หลายที่ชัดแจ้งจากนโยบายรัฐบาลต่างๆที่มีลักษณะของพวกหัวหน้าซาตานของประเทศยุโรปอัลลอฮ์" ดู หนังสือมุสลิมต้องสังกัดมัซฮับหรือไม่? ฉบับแปลไทย หน้า 77 และฉบับภาษาอาหรับหน้า 110
ตอบ
เราขอกล่าวว่า ในอิสลามนั้น อนุญาตหรือไม่ที่ท่านจะทำให้อิมาม อบูหะนีฟะฮ์ อิมามชาฟิอีย์ อิมามมาลิกและอิมามอะหฺมัด เหมือนกับฟิรอูนและอยู่ในแนวทางของเขาที่สกปรก ซึ่งเป็นที่ทราบว่าอิมามทั้งสี่นั้นก็มีมัซฮับเป็นของตนเองในการวินิจฉัยฮุกุ่มและหลักการของศาสนา ทั้งที่อิมามทั้งสี่นั้น เป็นผู้ที่มีความยำเกรง มีความเคร่งครัด และอิบาดะฮ์เป็นเยี่ยม แต่ถ้าหากผู้แต่งหมายถึงบรรดาสานุศิษย์หรืออุลามาอ์ นักปราชญ์นิติศาสตร์อิสลามที่อยู่ในมัซฮับทั้ง 4 ละก็ เราขอถามว่า เป็นที่อนุญาตในอิสลามหรือไม่ ที่ผู้แต่งหนังสือกล่าวว่า ศิษย์ทั้งสองของท่านอบูหะนีฟะฮ์ คือท่านอบูยูซุฟ และมุหัมมัด บิน อัลหะซัน ท่านอัฏเฏาะหาวีย์ ท่านอิบนุอัลฮุมาม ท่านอัซซัยละอีย์ ท่านอัรร๊อมลีอัลหะนะฟีย์ ท่านอัลกาซานีย์ ท่านอัซซั๊รกาชีย์ และท่านอื่น ๆ จากนักปราชญ์มัซฮับหะนะฟีย์ หรือท่านอิบนุ อัลอะรอบีย์ อัลมาลิกีย์ ท่านอิบนุอับดุรบัรริ ท่านอัชชาฏิบีย์ ท่านอัลกุรฏุบีย์ และท่านอื่น ๆ จากนักปราชญ์มัซฮัลมาลิกีย์ หรือท่านอัลบุวัยฏีย์ ท่านอัลมุซะนีย์ ท่านอัลก๊อฟฟาล ท่านอัดดะรอกีย์ ท่านอัรรอฟิอีย์ ท่านอิมามอันนะวาวีย์ ท่านอัสศะยูฏีย์ ท่านอิบนุหะญัร และอื่นๆ จากมัซฮับชาฟิอีย์ หรือท่านอิบนุ อัลเญาซีย์ ท่านอิบนุกุดามะฮ์ ท่านอิบนุรอญับ และท่านอื่นๆ จากมัซฮับหัมบาลีย์ คือผู้ที่ผู้แต่งหนังสือบอกว่าพวกเขาอยู่ในแนวทางมัซฮับที่เสมือนกับแนวทางของฟิรอูนและตามแนวทางของเขาอันสกปรกโสมม ซึ่งการที่ผู้แต่งพูดอย่างนั้น มันเป็นสิ่งที่อนุญาตตามหลักการของอิสลามแล้วกระนั้นหรือ ? ทั้งที่พวกเขาเหล่านั้น ก็กล่าวว่า พระเจ้าของเราคืออัลเลาะฮ์ ร่อซูลของเราคือ ท่านนบีมุฮัมมัด(ซ.ล.) และอัลกุรอานคืออิมามของเรา ซึ่งมันจะไปเหมือนกับแนวทางของฟิรอูนที่กล่าวว่า ฉันคือพระเจ้าผู้สูงส่ง ? หรือกล่าวว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดแล้วนอกจากฉัน ได้อย่างไร? ดังนั้น จึงเป็นที่อนุญาตหรือ ที่จะไปกล่าวว่า พวกเขาเหล่านั้น ที่เป็นนักปราชญ์ นักทำอิบาดะฮ์ นักซิกรุลลอฮ์ ไปเหมือนกับฟิรอูนที่อ้างตนเป็นพระเจ้า ? อิสลามอนุญาตหรือที่ไปกล่าวถึงอุลามาอ์ผู้มีมัซฮับเหล่านั้น ที่ทุ่มเทเวลาในการับใช้อิสลามและบรรดามุสลิมีน ไปเหมือนกับฟิรอูนผู้ฝ่าฝืนและกบฏต่ออัลเลาะฮ์? แล้วต่อไปผู้แต่งหนังสือจะไปตอบกับอัลเลาะฮ์ว่าอย่างไร เมื่อเขาได้กล่าวแบบนี้?? แล้ววันกิยามะฮ์ผู้แต่งหนังสือจะตอบอัลเลาะฮ์ว่าอย่างไร ในเมื่ออุลามาอ์ผู้มีมัซฮับ ก็กล่าวคำว่า ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์ มุฮัมมัด ร่อซูลุลลอฮ์ พวกเขาทำการละหมาด ทำอิบาดะฮ์ สละเวลาในการหาความรู้และสั่งสอน ? หรือว่าท่านผู้แต่งหนังสือจะกล่าวหาว่าอุลามาอ์ผู้มีมัซฮับ ที่กล่าวสองเกาะลิเมาะฮ์ ทำละหมาด ทำฮัจญ์ ถือศีลอด ออกซะกาต ละหมาดสุนัตยามค่ำคืน ทำการสอนศาสนา และทำการซิกรุลลอฮ์อันมากมาย แล้วพวกเขาก็ตาย ในสภาพของผู้ที่ดื้อดึง กุฟุร ตามแนวทางของฟิรอูนอันสกปรกกระนั้นหรือ?
al-azhary นั่นไงครับบังอะสัน หนังสือที่บังอะสันเทิดทูนและผู้แต่งที่บังอะสันพยายามปกป้อง เราเริ่มเผยให้เห็นของหลักการของเขาแล้วนะครับ ที่ผ่านมาบังอะสันพยายามปกป้องผู้แต่งหนังสือว่า เขาเพียงแค่พยายามบอกว่าการสังกัดมัซฮับไม่วายิบ แต่ที่ใหนได้ ไม่เพียงเท่านั้นครับ ยังบอกว่ามัซฮับและการมีมัซฮับนั้น เป็นแนวทางของฟิรอูน อันชั่วร้ายและสกปรก??!!
เพราะฉะนั้น บังอะสันคงทราบแล้วนะครับว่า ทำไมเราต้องนำหนังสือดังกล่าวที่บังอะสันนับถือมาวิจารณ์??
al-azhary มัซฮับทั้ง 4 เป็นปัจจัยที่สร้างความเป็นเอกภาพหรือสร้างความแตกแยก
บางกลุ่มกล่าวว่า "มัซฮับทั้งสี่นั้น คือ สาเหตุของการแตกแยก เพราะได้แบ่งผู้คนทั้งหลายออกเป็นสี่พวก แล้วอ้างว่า ทุกๆ กลุ่มกล่าวว่า นี้คือตำราของพวกเขาและนี้คือตำราของพวกเรา นี้คืออิมามของพวกเขาและนี้คืออิมามของพวกเรา นี้คือมัซฮับของพวกเขาและนั่นคือมัซฮับของพวกเรา แล้วจะอนุญาตให้มีสี่แนวทางได้อย่างไร? ในเมื่อ นบีของพวกเราคือคนเดียวกัน อัลกรุอานของเรานั้นเล่มเดียวกัน และศาสนาของเราก็หนึ่งเดียวกัน และพวกเขายังกล่าวอีกว่า "มนุษย์ที่มีความขัดแย้งน้อยที่สุดคือนักปราชญ์หะดิษ"
จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า คำกล่าวอ้างเช่นนี้ ย่อมขัดกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น และยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันได้ยืนยันในหนทางที่กลับกันเลยทีเดียว เนื่องจากผู้มีใจเป็นธรรม จะทราบว่า ความขัดแย้งอันมากมายนั้น ไม่ใช่มาจากการตักลีด แต่การตัดลีกนั้นกลับทำให้เกิดความกลมเกลียวไม่ใช่ความแตกแยก เพราะท่านคงทราบถึงประเทศใหญ่ๆ อย่างประเทศอินเดีย ที่ดำเนินตามมัซฮับของอิมามอบูหะนีฟะฮ์(หะนะฟีย์) โดยไม่มีความขัดแย้งและเกิดความแตกแยกในหมู่พวกเขาเลย และท่านจะพบว่าประเทศมอร๊อคโค ญะซฺาอิร และตูนิส ได้ดำเนินตามมัซฮับอิมามมาลิกโดยที่ไม่มีความขัดแย้งและเกิดความแตกแยกในหมู่พวกเขาเลย แต่ความเป็นจริงการขัดแย้งได้เกิดขึ้น เพราะมีการวินิจฉัยมากขึ้น บรรดาความเห็นมีการขัดแย้งกัน เพราะหากทุกคนเป็นมุจญฮิด(นักวินิจฉัย)และปฏิบัติตามความเห็นของตนในการเข้าใจอัลกุรอานและหะดิษเอง แน่นอนว่า ท่านจะไม่เห็นแม้กระทั่งคนสองคนจะมีความกลมเกลียวกันเลย ด้วยเหตุนี้ ท่านจะพบว่า บรรดาบุคคลที่ต่อต้านมัซฮับทั้งสี่คือกลุ่มที่สร้างความแตกแยกมากที่สุดทุกๆ วัน ซึ่งพวกเขาจะอยู่ในความแตกแยกและแบ่งพรรคแบ่งพวก
แท้จริง ความขัดแย้งอันมากมายที่ท่านนบี(ซ.ล.) ได้กล่าวเอาไว้ว่า "ผู้มีชีวิตอยู่หลังจากฉันนั้น แน่นอน เขาจะได้เห็นความขัดแย้งอันมากมาย" ซึ่งหมายถึง มาจากสาเหตุที่ทุกคนอวดอ้างว่าความเห็นของตนเองเท่านั้นที่ดีและถูกต้อง
เพราะฉะนั้น จึงไม่บังควรที่จะแอบอ้างว่า การตักลีดตามบรรดาอิมามที่อยู่ในทางนำ เช่น อิมามอบูหะนีฟะฮ์ อิมามมาลิก อิมามชาฟิอีย์ และอิมามอะหฺมัด เป็นการสร้างความแตกแยกในศาสนาและทำให้มุสลิมแตกออกเป็นหลายกลุ่ม เพราะว่าผู้ที่ตามอิมามที่อยู่ในทางนำนั้น แน่นอนว่า เขาก็คือผู้ที่อยู่ในทางนำด้วย
และคำกล่าวที่ว่า การตามบรรดาอิมามแห่งทางนำนั้น คือการสร้างความแตกแยกในศาสนา ย่อมเป็นคำกล่าวที่มาตำหนิบรรดาปวงปราชญ์ในศาสนา ตำหนิบรรดาซอฮาบะฮ์ ตาบิอีน เนื่องจากว่าพวกเขาเหล่านั้น ก็มีการขัดแย้งกันในหลายทัศนะ ส่วนคนมุก๊อดลิดหรือคนเอาวามทั่วไป ก็ไม่ได้ทำสิ่งใดและไม่ได้สร้างทัศนะขึ้นมาใหม่ แต่พวกเขาตามบรรดาอิมามที่อยู่ในทางนำและได้ยึดเอาบรรดาทัศนะคำกล่าวของพวกเขาที่วินิจฉัยมาจากอัลกุรอานและซุนนะฮ์ ซึ่งคำกล่าวนี้ ย่อมมีความชัดเจนสำหรับผู้ที่มีใจเป็นธรรมและไร้ความทิฐิ
และบรรดาผู้ตักลีดตามบรรดาอิมามที่อยู่ในทางนำนั้น ก็ไม่ได้อวดอ้างว่า มัซฮับของพวกเขาถูกต้องแต่เพียงผู้เดียวและมัซฮับอื่นนั้นหลงผิด แต่พวกเขามีความเชื่อว่า ทุกๆ มัซฮับของอิมามมุจญฮิดนั้น อยู่บนความดีงามและสามารถเจริญรอยตามได้
ท่าน ชัยค์ สะอีด หะวา (ร่อฮิมะฮุลลอฮ์) ได้กล่าวไว้ในหนังสือ "เญาลาต ฟี อัลฟิกฮัยน์" หน้า 126 ว่า "สำหรับบรรดาบุคคลที่ต่อต้านผู้มีมัซฮับ ด้วยการแอบอ้างความเป็นเอกภาพในอิสลามนั้น เราขอกล่าวแก่พวกเขาว่า แท้จริง ในตัวของการมีมัซฮับ ไม่ได้สร้างความแตกแยก แต่การนำมาปฏิบัติแบบผิดๆ ของผู้สังกัดมัซฮับต่างหากที่สร้างความแตกแยก ซึ่งการแก้ไขในกรณีนี้ ไม่ใช่การยกเลิกการมีมัซฮับ แต่การแก้ไขนั้น ต้องด้วยจิตสำนึก มีการอบรมและสั่งสอนอย่างถูกต้อง และเราขอกล่าวว่า แท้จริง ความเป็นเอกภาพของอิสลามในด้านนิติศาสตร์นั้น สามารถเกิดขึ้นได้ในช่วงที่มีการปกครองระบบรัฐอิสลาม เพราะผู้นำหรือตัวแทนของผู้นำสามารถวางกฏหมายอิสลามที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ภายในเมืองหนึ่ง หรือเมืองต่างๆ และก็ทำการกำหนดมันแก่ประชาชาติ และการที่ประชาชาติอิสลามได้ยึดมัซฮับทั้ง 4 นั้น ย่อมเป็นรูปแบบที่สร้างความแตกแยกน้อยที่สุด ซึ่งหากว่าไม่มีมัซฮับทั้งสี่ แน่นอนว่าพวกเราคงมีเป็นล้านๆ มัซฮับเกิดขึ้น (โดยที่ความวุ่นวายต้องเกิดขึ้นในอิสลามเป็นอย่างแน่แท้) และด้วยจิตใจที่เป็นธรรม ไร้ทิฐิ และการนำเสนอความจริงดังเช่นที่มันได้เกิดขึ้นนั้น เราขอกล่าวว่า "ผู้ทีสังเกตุถึงบรรดาบุคคลที่โจมตีต่อบรรดามัซฮับของอิมามมุจญฮิดและต่อผู้ที่ได้ทำการยึดถือและทำการฟัตวาตามการวิเคราะห์ของนักปราชญ์มุจญฮิดเหล่านั้น พวกเขาจะไม่ยอมรับอย่างจริงจังกับตัวอย่างการวินิจฉัยของอิมามอบูหะนีฟะฮ์ อิมามชาฟิอีย์ อิมามมาลิก และอิมามอะหฺมัด (เพราะพวกเขาเหล่านั้นอ้างว่าอิมามทั้งสี่ไมได้ใช้ให้ตาม) แล้วมอบการวินิจฉัยให้กับคนเอาวามทั่วไป และหากว่ามีคนหนึ่งได้ขอให้ฟัตวาตามแนวทางของผู้ไม่มีมัซฮับหรือผู้ที่มีแนวทางเหมือนพวกเขา แน่นอนว่า พวกเขาย่อมไม่เห็นว่ามันเป็นเรื่องที่น่าตำหนิ แต่พวกเขาจะทำการตำหนิต่อผู้ที่ทำการฟัตวาตามอิมามอบูหะนีฟะฮ์ อิมามชาฟิอีย์ อิมามมาลิก และอิมามอะหฺมัด ซึ่งเฉกเช่นดังกล่าวนี้ มันไม่เป็นความผิดพลาดอันใหญ่หลวงดอกหรือ??!! "
ความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ได้ยืนยันแล้วว่า การสร้างความแตกแยก การแบ่งพรรคแบ่งพวกอย่างเป็นระบบตามกระแสของผู้ที่ไม่มีมัซฮับนั้น ย่อมมีมากกว่า รุนแรงกว่า และยังความอันตรายมากกว่าแนวทางของผู้ที่ตามอิมามทั้งสี่ และการมีความผิดพลาดบางประการในเชิงการปฏิบัติของผู้มีมัซฮับนั้น จะนำมาเป็นเอกลักษณ์หรือเหมาเป็นภาพรวมของการมีมัซฮับนั้นย่อมไม่ได้อย่างแน่นอนและเด็ดขาด
asan ข้อความของน้องบ่าว al-azhary
นั่นไงครับบังอะสัน หนังสือที่บังอะสันเทิดทูนและผู้แต่งที่บังอะสันพยายามปกป้อง เราเริ่มเผยให้เห็นของหลักการของเขาแล้วนะครับ ที่ผ่านมาบังอะสันพยายามปกป้องผู้แต่งหนังสือว่า เขาเพียงแค่พยายามบอกว่าการสังกัดมัซฮับไม่วายิบ แต่ที่ใหนได้ ไม่เพียงเท่านั้นครับ ยังบอกว่ามัซฮับและการมีมัซฮับนั้น เป็นแนวทางของฟิรอูน อันชั่วร้ายและสกปรก??!!

??.
บังอะสันขอกล่าวว่า
นี่คือ การใส่ร้ายแก่ท่านมะอฺศูมีย์ โดยตัดตอนบางส่วนของข้อความ ฉบับแปลภาษาไทย ? ฉบับแปลไทย หน้า 77 และฉบับภาษาอาหรับหน้า 110 (จริงๆหนังสือเล่มนี้มีแค่ 48 หน้าเท่านั้น ไม่ทราบว่าal-azharyไปได้มาจากใหน)
โดยกล่าวว่า
แต่งหนังสือกล่าวว่า
"จากที่ได้กล่าวมาแล้วนี้ว่า อุตริกรรมแนวความคิด(มัซฮับ) การสังกัดอยู่ในแนวความคิด(มัซฮับ)ความหลงผิดของหนทางและแนวทางปฏิบัติต่างๆ นั้นมันอยู่ในแนวทางของฟิรอูนและนโยบายของเขาชั้วช้าเหมือนกับที่มันเป็นสิ่งแพร่หลายที่ชัดแจ้งจากนโยบายรัฐบาลต่างๆที่มีลักษณะของพวกหัวหน้าซาตานของประเทศยุโรปอัลลอฮ์" ดู หนังสือมุสลิมต้องสังกัดมัซฮับหรือไม่? ฉบับแปลไทย หน้า 77 และฉบับภาษาอาหรับหน้า 110
..................
ทำไมไม่กล่าวถึงต้นเรื่องของข้อความนี้ ในหน้า 76 โดยผู้เรียบเรียงหนังสือได้กล่าวว่า
?แท้จริงในวันศุกร์ ที่10 ของเดือนรอมฏอน ปี 1360 (ฮ.ศ)ฉันได้อยู่ที่ฏออีฟ ที่มัสญิดอับดุ้ลลอฮ อิบนุอับบาส (ขออัลลอฮทรงพอใจต่อเขาทั้งสองด้วยเถิด) อ่านคัมภีร์ของพระผู้เป็นเจ้าแห่งสากลโลก เมื่อนั้นได้ปรากฏแก่ฉันว่า ฟิรเอาน์ (ขอการสาปแช่งได้มีแก่เขาด้วย) เขาเป็นผู้ทำให้ผู้คนทั้งหลาย เป็นกลุ่มต่างๆมากมาย ได้กระจายพวกเขา ไปอยู่ในแนวความคิดต่างๆ และหนทางต่าง
..........................
พอมาหน้าที่ 77 ที่ al-azhary ตัดมาอ้างเพื่อโจมตีอัลมะอศูมีย์คือ
จากที่ได้กล่าวมาแล้วนี้ว่า อุตริกรรมแนวความคิด(มัซฮับ) การสังกัดอยู่ในแนวความคิด(มัซฮับ)ความหลงผิดของหนทางและแนวทางปฏิบัติต่างๆ นั้นมันอยู่ในแนวทางของฟิรอูนและนโยบายของเขาชั้วช้าเหมือนกับที่มันเป็นสิ่งแพร่หลายที่ชัดแจ้งจากนโยบายรัฐบาลต่างๆที่มีลักษณะของพวกหัวหน้าซาตานของประเทศยุโรปอัลลอฮ์" ดู หนังสือมุสลิมต้องสังกัดมัซฮับหรือไม่? ฉบับแปลไทย หน้า 77 และฉบับภาษาอาหรับหน้า 110
.............
ข้อความข้างต้น ท่านหมายถึง การสังกัดมัซฮับแบบหลงผิด นั้น อยู่ในแนวทางของฟีรอูนและ พวกหัวหน้าซาตานของประเทศยุโรป โดยท่านได้อ้างหลักฐานดังนี้
إِنَّ فِرْعَوْنَ عَلَا فِي الْأَرْضِ وَجَعَلَ أَهْلَهَا شِيَعاً يَسْتَضْعِفُ طَائِفَةً مِّنْهُمْ
[28.4] แท้จริงฟิรเอาน์หยิ่งผยองในแผ่นดิน และทำให้ประชาชนนั้นแตกแยกเป็นกลุ่ม ๆ
وَلَا تَكُونُوا مِنَ الْمُشْرِكِينَ
และอย่าอยู่ในหมู่ผู้ตั้งภาคี
مِنَ الَّذِينَ فَرَّقُوا دِينَهُمْ وَكَانُوا شِيَعاً كُلُّ حِزْبٍ بِمَا لَدَيْهِمْ فَرِحُونَ
[30.32] (คือ) ในหมู่ผู้แบ่งแยกศาสนาของพวกเขาออกเป็นนิกายต่าง ๆ และแต่ละหมู่คณะก็พอใจต่อสิ่งที่พวกเขามีอยู่ - " ดู หนังสือมุสลิมต้องสังกัดมัซฮับหรือไม่? ฉบับแปลไทย หน้า 77

??.
ดังนั้นน้องบ่าว al-azhary ควร อ่านหนังสือเล่มนี้ด้วยใจ อิคลาศต่ออัลลอฮ และไม่อคติ ต่อผู้ที่เรียบเรียงหนังสือที่มีทัศนไม่ตรงกับตน ท่านมะฮศูมีย์ไม่ได้โจมตีอิหม่ามทั้งสี่ เพราะท่านเหล่านี้ไม่ได้ก่อตั้งมัซฮับแล้วปรากาศให้คนมาสังกัด ท่านได้ตำหนิพฤติกรรมของคนบางกลุ่มที่ยึดติดกับมัซฮับด้วยความคลั่งไคล้งมงาย ทำไมไม่นำข้อความหนังสือทั้งเล่มให้ผู้อ่านอ่านละครับ น้องบ่าวจะใช้เว็บบอร์ดมุสลิมไทยเพื่อทำลายความเชื่อถือของอุลามาอฺอย่างไม่เป็นธรรม ในที่สุด ความอคติที่มีในตัวของน้องบ่าว ก็จะทำลายตัวของน้องเอง ขอเตือนไว้ และน้องบ่าวเว็บมาสเตอร์กรุณาอย่าลบ เพราะบังอะสัน ต้องการสอนเด็ก ให้จักตัวเองให้มากกว่านี้ นี้หรือ ห้องเสวนาวิชาการในเชิงลึก
asan ท่านอิบนุกอ็ยยิม (ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)กล่าวว่า
إن العامي لا يتصور أن يصح له مذهب ، ولو تصور ذلك لم يلزمه ولا لغيره ، ولا يلزم أحد قط أن يتمذهب بمذهب رجل من الأمة بحيث يأخذ أقواله كلها ويدع أقوال غيره ،وهذه بدعةٌ حدثت في الأمة لم يقل بها أحد من أئمة الإسلام ، وهم أعلى رتبة وأجل قدراً وأعلم بالله ورسوله من أن يلزموا الناس بذلك ،وأبعد منه قول من قال يلزمه أن يتمذهب بمذهب عالم من العلماء وأبعد منه قول من قال يلزمه أن يتمذهب بأحد المذاهب الأربعة . أعلام الموقعين 4/ 262
แท้จริง คนทั่วไป(คนอาวาม)นั้น อย่าได้คิดไปว่า มัซฮับของเขาถูกต้อง และถ้าเขาคิดไปอย่างนั้น เขาก็ไม่ยึดติดกับมันและไม่ยึดติดอื่นจากมัน และคนหนึ่งคนใด จะไม่ยึดติด โดยการสังกัดมัซฮับ ของคนใดจากจากอุมมะฮเท่านั้น โดยที่ยึดเอาคำพูดของเขาทั้งหมด และทิ้งบรรดาคำพูดของผู้อื่น และนี้คือ ?บิดอะฮ? ที่เกิดขึ้นในประชาชาตินี้ ,ไม่มีคนใดจากบรรดาผู้นำ(อิหม่าม)แห่งอิสลาม กล่าวอย่างนั้น (หมายถึงสังกัดมัซฮับโดยเฉพาะ) และพวกเขา คือผู้ที่อยู่ในฐานะที่สูงส่งและมีความเป็นเลิศ ในบารมี และมีความรู้ ในอัลลอฮและรอซูลของพระองค์ ยิ่งกว่า การทีพวกเขายึดติดอยู่กับมนุษย์ ด้วยดังกล่าวนั้น และ คำพูดของผู้ที่กล่าวว่า จำเป็นต้องสังกัดมัซฮับอุลามาอฺ ห่างใกลจากเขา(อิหม่ามแห่งอิสลาม) ยิ่งนัก และคำพูดของผู้ที่กล่าวว่า ต้องสังกัดมัซฮับหนึ่งมัซฮับใดจากสี่มัซฮับ ก็ห่างใกลจากเขายิ่งนัก(เช่นกัน) - ดูหนังสือ อะอฺลามุ้ลมุวักกิอีน เล่ม 4 หน้า 262
......................
สรุปจากคำพูดของท่านอิบนุกอ็ยยิม คือ การยึดติดกับมัซฮับใดมัซฮับหนึ่งโดยเฉพาะนั้น เป็น บิดอะอ
asan ส่วนน้องคนอยากรู้ บังอะสันขอร้องเถอะ ถ้าไม่เป็นหลักวิชาการที่ตนเองค้นคว้ามา อย่าเอามาให้มันกลบวิชาการที่น้องบ่าวอัลอัซฮารีย์และบังอะสันคนหล่อของน้องบ่าวเลยน่ะ
konyakroo บังหะสันโดนใจ..กล่าวว่า
อัลหั้มดุลิ้ลละฮ ตอบถูกใจจัง..
ผมกล่าวว่า อย่าเอาแค่ให้ถูกใจอย่างเดียวเลยครับ แต่มันต้องถูกต้องด้วยนะครับ การถูกใจเอามาวัดความถูกต้องไม่ได้ครับ..อย่างเช่นการนำเสนอคำใส่ร้ายของท่านอัลมะซุมีย์นั้นบังหะสันไม่ถูกใจใช่ไหมครับเพราะเป็นทัศนะเดียวกับบังหะสันตักลีดอยู่ ..แต่ผมว่ามันถูกต้องที่น้องอัลอัชฮารีย์นำมาเปิดเผยธาตุแท้ของผู้ตักลีดแบบตาบอดกับทัศนะใหม่อันนี้.0.
.
บังกล่าวต่อว่า..
...ก็บอกแล้วไง ว่าตามผู้รู้หรือตามมัซฮับนั้น คือ การตามหลักฐาน ไม่ใช่ ตามโดยตัวบุคคลเป็นหลัก
นี้คือคำพูดของผู้ที่ไม่รู้เลย แก่จนปูนนี้แล้ว.. คนอาวามก็ต้องศึกษา ตามความสามารถของเขาที่จะเรียนรู้ได้ .
อัลลออ์ตะอาลาทรงชีวิตการเกิดแก้เจ็บตายของมนุษย์ การมรโชคลาภรีสกีความดีความจนความรวยโอกาสนั้นย่อมไม่เหมือนกัน คนอาวามคนที่หาเช้ากินค่ำ ไม่มีเงินทองพอแต่เขามีกะลีมะเหมือนกันนี่ บังอย่าเอาโทษหรือบังคับซิครับ..การศึกษานั้นมันจำเป็นกันทุกคนแต่ปัจจัยและโอกาสนั้นเป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งที่ต้องคิด..พิเคราะห์ไม่ใช่ว่าต้องเอาผิดกับเขา..ณ.อัลลออ์นั้นทรงอภัยยิ่ง แต่การตักลีดหรือมัสหับมุฟตีนั้นเป็นทางออกสำหรับคคนแบบนี้นะครับ..บังหะสันอย่าเอาซีฟัตของอัลลออ์มาลงโทษเอาผิดหรือบังคับคนอาวามเลยครับ..ไม่ใช่งานของบัง..ระวังตัวเองให้มากดเถอะครับที่พูดอะไรไปผิดพลาด เช่นกีดกันในการนำเสนอความจริงที่ถูกต้อง..แต่ไม่ถูกใจนั้นตามอารมณ์นั้นมันอันตรายยิ่ง..
.บังครับ
..ก็เพราะมุสลิมทุกคนต้องเรียน สิ่งที่เป็นข้อบังคับพื้นฐานในทางศาสนา เขาจะต้องรู้ว่า สิ่งที่ตนเองเชื่อและปฏิบัตินั้น เป็นคำสอนของพระเจ้าของเขา หรือ เป็นคำสอนของศาสนทูต แน่นอนอยู่แล้วแต่สิ่งใดเขาไม่รู้เขาก้ต้องค้นคว้า แต่เมื่อเขาไม่ความสามารถตรงนั้นได้เช่นปัญหาอุปสรรคที่อัลลออ์ให้ประสฟกับเขาไม่ว่าแขนขาดหูหนวกเป็นใบ้ยากจน เขาก็ต้องต่ามผู้ที่รู้มากกว่าเขา ที่เห็นว่าผู้รู้นั้นถูกต้องแล้วในการตาม.สิ่งใดๆ
.แต่ไม่อาจจะไม่ถูกใจทัศนะของบังใช่ปะ ไม่ว่าการแนะนำสิ่งใดที่ไม่อยู่ในแนงวทางบังในคือ..ผิดหมด..
บังพูดว่า..ที่เขาได้กล่าวชะฮาดะฮรับรองเอาไว้
การกล่าวชาฮาดะนั้นเป็นการสัญญาตต่อพระองค์ว่าเขายอมรับศาสนาอิสลาม...ไม่ใช่จะบังคับแบบตายตัวแบบที่พี่น้องบางคนยังขาดความเข้าใจในการศึกษาอย่างถูกต้อง..ดังนั้น การตามผู้ที่มีความรู้นั้นไม่ผิดแต่อย่างใด
บังกล่าวว่าเขาจะตามแบบคนไม่รู้อะไรเลยไม่ได้ คนไม่รู้ ก็เหมือนคนตาบอด ดังที่อัลลออ ซุบฮานะฮูวะตาอาลา ตรัสว่า
قُلْ هَلْ يَسْتَوِي الأَعْمَى وَالْبَصِيرُ أَفَلاَ تَتَفَكَّرُونَ
จงกล่าวเถิด คนตาบอดกับคนตาดีนั้นจะเท่าเทียมกันหรือ? พวกท่านไม่ใคร่ครวญดอกหรือ?
.............บังครับไม่มีใครหรอกครับที่โง่จนไม่รู้อะไรเลยเพียงแต่รู้มากหรือน้อยเท่านั้น..
อายะนี้เห็นไหมละครับ..ว่าพระองค์ให้เราถามสิ่งที่เราไม่รู้ การถามก๋คือการอยากรู้สิ่งนั้นแล้วนำมาปฏิบัติไม่ใช่ถามแล้วทิ้งหรือไม่ปฏิบัติ..นั้นและพระองค์ให้เราใคร่ครวญบ้างว่าอย่าได้ดูถูกคนที่เขาขาดโอกาสเช่นคนอาวาม นัก เพราะบางทีคนอาวามนั้นพระองค์ให้เขาเข้าสวรรค์ก่อนบังก็ได้555
....
konyakroo บังหะสันครับ
ผมขอร้องให้บังสนทนาอยู่ในกรอบเถิดครับ..ถ้าไม่สามารถทนสิ่งที่น้องอัลอัชฮารีย์เสนอได้ก็เป็นผู้ฟังที่ดีได้ ก็ขอนั่งเสียดีกว่าครับ เหมือนไออาเอฟนะครับแต่จะแฝงชื่ออื่นมาก็ไม่ว่ากัน
และพยายามนำเสนอให้อยู่ในกรอบครับและยกหลักฐานมาด้วยครับ
อายเด็กนักศึกษานะครับแก่ปูนนี้แล้ว 5555
konyakroo
قُلْ هَلْ يَسْتَوِي الأَعْمَى وَالْبَصِيرُ أَفَلاَ تَتَفَكَّرُونَ
จงกล่าวเถิด คนตาบอดกับคนตาดีนั้นจะเท่าเทียมกันหรือ? พวกท่านไม่ใคร่ครวญดอกหรือ?
บังครับ..จำคำผมไว้นะครับ
ว่าไม่มีใครหรอกครับที่โง่จนไม่รู้อะไรเลย เพียงแต่รู้มากหรือน้อยเท่านั้น....ดังนั้นพูดอะไรน่าจะใช้สมองหรือสติปัญญาบ้างนะครับ
ผมว่าจะให้น้องอัชฮารีย์นำเสนอให้หมดนะครับแต่บังกับพวกก็กวนน้ำให้ขุ่นเสียทุกที พอเถิดครับ ถ้าบังเข้ามากวน ผมก็จะกวนบังครับ....555
al-azhary บังอะสันครับ ล่าสุดที่บังอะสันพยายามปกป้องท่านอัลมะอฺซูมีย์ (ผู้ขอใช้เรียกแทนชื่อว่า "ผู้แต่งหนังสือ"นะครับ) และพยายามแก้แต่งนั้น คือการสนทนาที่ตรงประเด็นแล้วครับ และรู้สึกว่าบังอะสันไปหาตำราดังกล่าวจนมาจนได้ ก็ถือว่าเป็นการดีมาก เพื่อบังอะสันจะได้รู้อะไร ๆ ที่อยู่ในนั้นอย่างแท้จริง งั้นขอผมนำเสนอการวิจารณ์ ทีละประเด็น ๆ นะครับ อินชาอัลเลาะฮ์
al-azhary อ้างอิงจากบังอะสัน
นี่คือ การใส่ร้ายแก่ท่านมะอฺศูมีย์ โดยตัดตอนบางส่วนของข้อความ ฉบับแปลภาษาไทย ? ฉบับแปลไทย หน้า 77 และฉบับภาษาอาหรับหน้า 110 (จริงๆหนังสือเล่มนี้มีแค่ 48 หน้าเท่านั้น ไม่ทราบว่าal-azharyไปได้มาจากใหน)
ตอบ
ผมไม่ได้ใส่ร้ายท่านมะอฺศูมีย์เลยแม้แต่น้อยครับ เพราะสิ่งที่ผมอ้างอิงไปนั้น ย่อมบ่งชี้ได้อย่างชัดเจน หากแม้นว่ามีส่วนหน้าก่อนจากนั้น ที่บังอะสันนำมาเสนอ ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงความหมายในสิ่งที่ผมนำเสนอเลยแม้แต่น้อย และเป็นการอ้างอิงที่ถูกต้องตามหลักวิชา مناهج البحث العلمى คือการนำบางส่วนที่เป็นใจความสำคัญโดยไม่ทำให้บิดเบือนเนื้อหาโดยรวม ย่อมเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
ผมได้อ้างอิงฉบับภาษาอาหรับ หน้า 110 บังอะสันก็แปลกใจและสงสัยว่าผมเอามาจากใหน เพราะที่บังอะสันรู้นั้น คือฉบับภาษาอาหรับ 48 หน้า ซึ่งเป็นฉบับเก่า ทั้งที่ผมได้เกริ่นตั้งแต่ต้นแล้วว่าผมได้นำฉบับภาษาอาหรับ ตีพิมพ์ที่ ดารฺ อิบนุ อัฟฟาน ตีพิมพ์ครั้งแรก ฮ.ศ. 2002 มาเทียบ แล้วทำไมบังอะสันถึงไม่ยอมอ่านให้เข้าใจ หนังสือดังกล่าวนั้น มีชื่อเต็ม ๆ ว่า "มุสลิมต้องสังกัดตามมัซฮับหนึ่งเป็นการเฉพาะจากมัซฮับทั้งสี่ได้หรือไม่?" คือพูดง่าย ๆ ก็คือ หนังสือเล่มนี้ ต้องการจะเน้นวิจารณ์มัซฮับทั้ง 4 โดยตรง ซึ่งหากผู้แต่งหนังสือพูดถึงมัซฮับหรือเกี่ยวข้องกับมัซฮับ(แต่ผู้แปลใช้คำว่า "แนวทาง") นั่นย่อมหมายถึงมัซฮับทั้ง 4 เป็นตัวหลัก หนังสือฉบับภาษาอาหรับที่ผมนำมาเทียบนั้น มี อัลฮิลาลีย์ เป็นผู้ตรวจทานและตรวจสอบหะดิษที่มีอยู่ในหนังสือเล่มนั้น โดยเขาทำการเขียนบทนำก่อนจะถึงเนื้อหาจริง ๆ จากหน้า 1 - 44 การนำเสนอวิจารณ์หะดิษและตรวจสอบ ทำให้หนังสือเล่มกินเนื้อที่ถึง 130 หน้าอย่างที่ผมได้อ้างอิงให้เห็นกัน
หนังสือฉบับภาษาอาหรับนี้ ผมซื้อที่เทศกาลหนังสือ กัดฟันซื้อนะครับ เพราะเสียดายเงิน คือเอาไปซื้อหนังสือเล่มอื่นจะดีกว่า แต่ไม่นึกว่าจะได้นำมาเป็นคู่มือในการเทียบอ้างอิงในการนำเสนอวิจารณ์ในกระทู้นี้ อัลหัมดุลิลลาห์