แต่บรรดาวะฮาบีย์ ส่วนใหญ่จะไม่พอใจกับชื่อนี้ เนื่องจาก พวกเขอถือว่า เป็นชื่อที่ถูกเรียกโดยศัตรูของพวกเขา
วะฮาบีย์ชอบเรียกแนวทางอื่นอย่างเสียหายไม่เห็นมีใครมาเรียกร้องความชอบธรรม เนื่องจากพวกเขาไม่ให้ความสนใจ แต่เหตุใดพอเรียกว่า วะฮาบีย์ จึงเกิดความไม่พอใจ ทั้งที่เป็นการเรียกที่ไม่ได้เป็นการตำหนิหรือผิดหลักการอะไร
ท่านชัยค์ หะซัน ฟัรฮาน อัลมาลิกีย์ กล่าวต่อว่า
เกี่ยวกับการใช้ศัทพ์คำว่า วะฮาบียะฮ์ประการที่หนึ่ง คือต่อไปผู้อ่านจะพบระหว่างการค้นคว้าวิเคราะห์ว่า บางครั้งฉันจะใช้
คำว่า "วะฮาบียะฮ์" ซึ่งไม่ใช่เป็นเรื่องของการน่าตำหนิอย่างที่ฝ่ายคัดค้านได้เรียกขึ้นมา หรือว่าทำให้ "วะฮาบียะฮ์" เป็นมัซฮับใหม่ แต่ทว่ามันเป็นเรื่องการเรียกศัพท์ทางเทคนิคหรือฉายาที่บรรดามุสลิมิมีนส่วนมากทำการเรียกที่มีต่อ กระแส กระบวนการ แนวคิด การเรียกร้อง ที่มีประวัติศาสตร์ มีลักษณะพิเศษ มีตำรา และอุลามาอ์เฉพาะของพวกตน ประการที่สอง พวกวะฮาบีย์บางส่วนได้พึงพอใจกับฉายานี้ และพวกเขานำฉายาดังกล่าวมาเรียกแทนตัวพวกเขาเอง ดังนั้น
คำว่า "วะฮาบีย์" จึงไม่ใช่เป็นลักษณะของการตำหนิและการสรรเสริญ และไม่ใช่เป็นการตำหนิ จนกระทั่งหากยอมรับในหลักการวะฮาบีย์ จะกลายเป็นมัซฮับหนึ่งขึ้นมา เพราะฉะนั้น มัซฮับที่ยึดอยู่บนหลักฐานที่ถูกต้องนั้น นามชื่อของมัซฮับที่เกิดขึ้นใหม่จะไม่ทำให้มัซฮับเกิดความเสียหาย การเรียกของผู้คนก็เช่นเดียวกัน เนื่องจากว่า เงื่อนไขของการมีมัซฮับนั้น ไม่จำเป็นต้องอยู่ในยุคแรกของศตวรรษที่สาม เฉกเช่นเดียวกันกับ กระแสความคิดหรือมัซฮับที่ทฤษฏีหรือแนวปฏิบัติอยู่บนบรรดาหลักฐานที่อ่อน ก็ย่อมไม่มีประโยชน์อันใดจากการตั้งชื่อมัซฮับซ่ะสวยงาม หากแม้ว่ามัซฮับดังกล่าวจะอยู่ยุคศตวรรษแรกก็ตาม เพราะการพิจารณานั้น ด้วยกับความรู้ที่ถูกต้อง อีม่านที่บริสุทธิ์ และการปฏิบัติที่ดีงาม ไม่ใช่ด้วยการตั้งชื่อหรือมีความหวังลม ๆ แล้ง ๆ
ฉันรู้สึกแปลกใจที่มีบรรดาพวกมุก๊อลลิดต่างกล่าวกันว่า ถ้อยคำ "อัลวะฮาบียะฮ์" นั้น ผู้เป็นปฏิปักษ์จะนำมาใช้เรียก พวกเขามักนำมาพูดกับฉายานี้
ทั้งที่การเรียกชื่อไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่จะมาถกเถียงกันมีอุลามาอ์ที่เรียกร้องแนวทางดังกล่าว อนุญาตให้ใช้คำว่า "วะฮาบียะฮ์" พวกเขาต่างนำมาใช้ในตำราต่าง ๆ ของพวกเขา โดยไม่หวั่นเกรงต่อการกล่าวหาว่า สร้างมัซฮับขึ้นมา ยิ่งกว่านั้น พวกเขายังทำการประพันธ์ตำราต่าง ๆ เกี่ยวกับอะกีดะฮ์และการเรียกร้องของวะฮาบีย์ โดยมิได้มีความเสื่อมเสียแต่ประการใด
ส่วนหนึ่งจากบรรดาอุลามาอ์ที่เรียกร้องแนวทางวะฮาบีย์ ยังนำคำว่า "วะฮาบีย์" มาให้เรียก เช่น ชัยค์ สุไลมาน บิน ซะห์มาน , ชัยค์ มุฮัมมัด บิน อับดุลล่าฏีฟ ( ดู หนังสือ อัดดุร๊อร อัซซะนียะฮ์ เล่ม 8 หน้า 433) และบรรดาอุลามาอ์ที่ปกป้องวะฮาบีย์ เช่นชัยค์ หามิด อัลกิฟฟีย์ , ชัยค์อับดุลเลาะฮ์ อัลกอซีมีย์ , ชัยค์ สุลัยมาน อัดะดะคีล , ชัยค์ อะห์มัด บิน หุจญร์ อบู ฏอมีย์ , ชัยค์มัสอูด อัลนัดวีย์ , ชัยค์ อิบรอฮีม บิน อุบัยด์ เจ้าของหนังสือ อัตตัซกิเราะฮ์ , และท่านอื่น ๆ ต่างก็ใช้คำว่า "อัลวะฮาบียะฮ์" แต่กระนั้น ท่านชัยค์ ฮามิด อัลกิ๊ฟฟีย์ (ร่อฮิมะฮุลลอฮ์) ยังคงพยายามที่จะสร้างความสงสัยต่อเจตนาของทุก ๆ คนที่ใช้คำนี้ และเขาได้ยื่นข้อเสนอจากการเรียกว่า "วะฮาบียะฮ์" ไปเป็น "
อัดดะอ์วะฮ์ อับมุฮัมมะดียะฮ์" เพื่อพาดพิงไปยังชื่อของท่าน ชัยค์
มุฮัมมัด บิน อับดุลวะฮาบ แต่ไม่พาดพิงไปยังชื่อของบิดา คือ
อับดุลวะฮาบ (วะฮาบีย์) ดังนั้น อุลามาอ์ยุคหลังอย่างท่านชัยค์ ซอและห์ อัลเฟาซาน ได้ตักลีดตามท่านชัยค์ ฮามิดอัลกิ๊ฟฟีย์ ในการตำหนิต่อท่านชัยค์ อบู ซะฮ์เราะฮ์ และคนอื่น ๆ (ก็เพราะพวกเขาใช้คำว่าวะฮาบีย์)
การเรียกร้องของ อัลกิ๊ฟฟีย์และอัลเฟาซานให้เรียกวะฮาบีย์ว่า "อัดดะวะฮ์ อัลมุฮัมมะดียะฮ์" ไม่ใช่ "อัดดะวะฮ์ อัลวะฮาบียะฮ" นั้น เนื่องจาก ท่านชัยค์ มีชื่อว่า "
มุฮัมมัด" ซึ่งดังกล่าวนี้ถึงเป็นการนำเสนอที่น่าแปลก อันเนื่องจากมีเหตุผลเล็กน้อยดังนี้ คือ ส่วนมากจากบรรดามัซฮับที่โด่งดังนั้น จะไม่ตั้งชื่อ ด้วยกับนามชื่อเจ้าของแนวทาง แต่จะตั้งชื่อด้วยนามของบิดาหรือปู่ ดังนั้น มัซฮับ ฮัมบาลีย์ حنبلى เป็นต้น จะใช้พาดพิงไปยังคำว่า حنبل (ฮัมบัล) ซึ่งเป็นปู่ของท่านอิมามอะห์มัด (เนื่อจากท่านอิมามอะห์มัดมีชื่อว่า อะห์มัด บุตร มุฮัมมัด บุตร หัมบัล) แต่ท่านชัยค์อัลเฟาซานหรือชัยค์อัลกิ๊ฟฟีย์ และผู้ที่เจริญรอยตามทั้งสอง ต่างไม่คัดค้านการเรียกชื่อนี้(คือฮัมบาลีย์) และพวกเขาก็ไม่เรียกมัซฮับฮัมบาลีย์ว่า "
มัซฮับอะห์มะดีย์" (ที่มาจากชื่อของอิมาม
อะห์มัด เอง)
เฉกเช่นเดียวกันกับมัซฮับชาฟิอีย์ ซึ่งพาดพิงไปยังท่าน ชาฟิอ์ ซึ่งเป็นปู่ลำดับที่ 4 ของท่านอิมามชาฟิอีย์ ทั้งที่อิมามชาฟิอีย์มีชื่อว่า "
มุฮัมมัด บุตร อิดรีส บุตร อัลอับบาส บุตร อุษมาน บุตร ชาฟิอ์" แต่เหตุใดพวกเขาถึงไม่เรียกมัซฮับชาฟิอีย์ว่า "
มัซฮับมุฮัมมะดีย์" (เพราะอิมามชาฟิอีย์ชื่อว่า
มุฮัมมัด)
ยิ่งกว่านั้น ท่านชัยค์ซอลิห์ อัลเฟาซาน ยังเรียกผู้ที่ตาม มุฮัมมัด บิน สุรูร บิน นายิฟ ซัยนุลอาบิดีน ด้วยถ้อยคำว่า "อัซซุรูรียะฮ์" ทำไมถึงไม่เรียกว่า "
อัลมุฮัมมะดียะฮ์" เช่นเดียวกัน ! ทั้งที่เขาชื่อ "
มุฮัมมัด บิน สุรูร" และในปัจจุบันเราเองก็ได้ยินในกลุ่มสะละฟียะฮ์ ได้มีหลายฉายาที่พวกเขาใช้เรียกซึ่งกันและกัน เช่น อัลญามียีน , อัลมัดค่อลียีน , อัลบาซียีน (ผู้ที่ตามบินบาซฺ) , และอัลบานียีน(ผู้ตามอัลบานีย์) เป็นต้น ( สรุปจาก หน้าที่ 12 และหน้าที่ 144 - 146)
ดังนั้น การเรียกว่า "วะฮาบีย์" จึงมิใช่เป็นการตำหนิ เพราะอุลามาอ์วะฮาบีย์เองที่พอใจและเห็นชอบในการเรียกชื่อเช่นนี้ แต่บางคนปัจจุบันชอบยึดติดที่ชื่อ ยึดติดยี่ห้อ ขอให้เรียกชื่อกลุ่มตนเองให้ดีไว้ก่อน ถือว่าเป็นการเข้าใจที่ผิด เพราะสัจธรรมจะไม่พิจารณาที่ชื่อของแนวทางหรอกครับ แต่ทว่าจะเน้นพิจารณาที่เนื้อหา หลักอะกีดะฮ์ และหลักปฏิบัติครับ
والله سبحانه وتعالي أعلي وأعلم